ตามหาหัวใจอุ้มผาง
3 June 2017 - 4 June 2017
- อยากเดินป่าแต่ไม่มีเพื่อนเดิน
ทริปนี้เกิดจากความอยากของผมเองแต่ไม่มีเพื่อนเที่ยวด้วย ผมเลยชวนๆ เพื่อน รุ่นพี่ที่มหาลัย มาเดินป่าด้วยในการเดินป่าครั้งนี้แต่ละคนถือเป็นครั้งแรกทุกคนยกเว้นผม อ่อบัดดี้ผมครั้งที่สองมันเคยไปเดินภูสอยดาวกับผมเมื่อปลายปีก่อนรอบนึง ที่เลือก ปิตุ๊โกรเพราะว่ามันเดินได้ตลอดทั้งปีละยังดูท้าทายเลยเลือกที่นี้แถมมาตอนนํ้าไม่มีด้วยฮ่าๆถือว่าเอาประสบณ์การณ์ละกันฮ่าในการเที่ยวครั้งนี้เลยจะลวกๆไม่มีกล้องถ่ายเอามือถือถ่ายรูปกันฮ่าและอุปกรณ์เดินป่าไม่ค่อยพร้อม จุดเริ่มต้นเรานัดกันที่ อยุธยาซิตี้พาร์คขับรถส่วนตัวไปกันเพราะสามารถคุมเวลาได้ดีกว่ารถโดยสาร ล้อหมุน 21.30 น.ของวันที่ 2 มีนาคม

ในการเดินทางมาปิตุ๊โกรนั้นต้องมาที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง การเดินทางในครั้งนี้ต้องผ่านแม่สอดก่อนเข้าอุ้มผางที่มีทางโค้งอันดับสองของประเทศไทยลองจากปาย ถึง 1,219 โค้ง การเดินทางครั้งนี้เรามารถส่วนตัว ยาริส 1 คันกับผู้โดยสาร 5 คน (พลาดมากเอายาริสมาอุ้มผางฮ่าๆ)

เราขับรถมาอุ้มผางใช้เวลา 7 ชั่วโมงขับเรื่อยพักบ่อยเดียวเครื่องยนต์ไม่ไหวฮ่าโชเฟอร์เราด้วยเดียวต้องไปเดินป่าอีก

เรามาถึง ที่ว่าการกาแฟในอุ้มผางเวลา 6.00 น.ได้ ไม่มีร้านเปิดเลยเราล้างหน้าแปรงฟันที่นี้พักรถนั่งกดเกม Rov กันตรงนี้มีสัญญาณพอเล่นอินเตอร์เน็ตได้

จะอ้วกเลยฮ่า

แยกแม่กลองในตัวอุ้มผางเราซื้อของที่นี้กันกินข้าวปลาที่นี้ก่อนขับรถไปต่อที่บ้านกุยเลอตอ

ถึงหมุ่บ้านกุยเลอตอ 10.30 น.ได้ใช้เวลาทั้งหมด 13 ชั่วโมงมาถึงตรงนี้ เราคุยกับผู้ใหญ่บ้านทำเรื่องขอเดินขึ้นติดต่อลูกหาบ ลูกหาบที่นี้คิดวันละ 500 ครับ


พร้อมแล้วเราเอารถไปจอดในบ้านผู้ใหญบ้านกุยเลอตอ

ช่วงนี้นํ้าไม่ค่อยมีต้องเป้นเดือนกรกฏาคมนั้าจะเยอะแต่ทำไงได้มาแล้วลุยสิครับ โกๆ

เป้าหมายวันนี้ของเราคือริมนํ้าใหญ่ Camp1 นั้นเอง "รูปจะเน้นเซลฟี่กันเพราะไม่ได้ตั้งใจมาถ่ายบรรยากาศเท่าไรฮ่า"

เดินไปได้ซักพักมีฝนปรอยๆลงมาก็เพลินไปอีกแบบ


เดินมาได้ 3 ชั่วโมงเรามาถึงจุดกางเต๊นท์แรกแจกข่ายของในตอนนี้ทั้งป่ามีแค่เรา 5 คน และลุงลูกหาบ ตอนนี้เราเริ่มกางเต๊นท์กันขุดลางนํ้ากัน

จุดกางเต๊นท์ที่นี้จะมีทั้งหมด 4 จุด
ปล.เครดิตรูปแผนที่จากที่ไหนผมจำไม่ได้แล้วถ้าเจอคอมเม้นท์บอกได้นะครับ



ห้องนํ้าที่นี้ได้บรรยากาศหนังลุงฉลองหน่อยๆฮ่า

อาหารมื้อแรกในป่าวันนี้ ผัดซี้อิ้วหมูยอ โดยพลัดกันเป็นเชฟผัดกัน3กระทะรสชาติต่างกันทั้ง3กระทะฮ่า



หลังจากมาถึงเราได้เล่นนํ้าช้างแคมป์ที่ 1 อาบนํ้าแหรงฟันตรงลำธารกันลพกับมาที่แคมป์ก่อกองไฟนั่งจิบอะไรซู่ซ่าร่างกายหน่อย 22.00 แยกย้ายกันผักผ่อน

บิ๊กเอ๊กโชเฟอร์เราอากาศมันหนาวกอดกันเป็นสายเหลืองเลย ฮ่า

เวลา 05.00 น. เราทำการเดินไปจุดชมวิวดอยมะม่วงสามหมื่นก่อนหวังให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น



ทางเดินเป็นป่าดิบชื้นในตอนที่เดินเกือบถึงยอดก้อนเมฆกระทบตัวเราจนเปียกกันเลยในช่วงนี้เดินไม่ดีอาจลื่นตกเขาได้ดินร่วนมากทางก็แคบ

เวลา 8.00 น.ถึงยอดดอยมะม่วงสามหมื่นแล้ว

จากตรงนี้เห็นนํ้าตกปิตุ๊โกรด้วย




เราได้ทำการถ่ายรูปเล่นที่จุดชมวิวของดอยมะม่วงสามหมื่น ที่ระดับนํ้าทะเล 1,300 เมตร




เราคุยกันจะไม่เดินต่อไปที่กองหินชูธงที่ระดับนํ้าทะเล 1,600 เมตร เพราะกลัวกลับกรุงเทพไม่ทันทำงาน




9.00 เริ่มเดินลงจากดอยมะม่วงสามหมื่นมีพักกันบ้างหน้าตาบ่งบอกความเหนื่อยฮ่า

ถึงแล้ว!!หัวใจอุ้มผางภาระกิจทริปนี้ เรามาถึงตอน เวลา 10.30



นํ้าน้อยกว่าที่คิดไว้เพราะไม่ใช่เดือนเที่ยวมันเหมือนที่คิดไว้ตอนแรก


เราถ่ายรูปเล่นกันซักพักก่อนเดินลงไปที่ camp 1 ของเรา

12.00 น. ถึงที่พักแยกย้ายกันล้างตัวทำกับข้าวกินกัน

อาหารมื้อนี้สปาเก็ตตี้แบบป่าๆ

หลังจากที่ได้กินข้าวเราเก็บของเดินลงจาก camp เวลา 13.30 น. ถ่ายรุปทีมเราไปหนุ่งรุปก่อนกลับ

เจอบ่อหัวใจก่อนกลับด้วย <3


ของฝากจากคุณลุงมะนุงแก้วเป๊กไผ่ เราถึงจุดเริ่มต้นก่อนทางเข้าป่า 15.00 น.

ตอนขาลงเจอชาวบ้านกระเหรี่ยงกุยเลอตอขับอีแต๋นมา ฝากบอกเค้าให้ผู้ใหญ่บ้านมารับที่ปากทางป่าทีเพราะขี้เกียจเดินแล้ววฮ่า ค่าใช้จ่ายแล้วแต่จะให้เราให้ไป 200

เราถึงหมุ้บ้านกุยเลอตอ 16.00น. อาบนั้าล้างตัวที่ลำธารที่นั้นก่อนจะลาผู้ใหญ่บ้านกับลุงมะนุง ก่อนกลับกรุงเทพล้อหมุนจากนี้ 17.00 น. ถึง 6.00 น.ของวันที่ 5 มิถุนายน (เกือบไปทำงานไม่ทันกันฮ่า)
ทริปนี้ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่เพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกถ้าไปให้ไปกับคนที่มีประสบการณ์เดินป่าก็จะดีกว่าหรือเหมาะกับคนกินง่ายอยู่ง่ายครับเพราะป่านี้ออกจะดิบๆหน่อยสัญญาณโทรศัพท์ไม่มีตลอดการเดินทางที่เข้าป่า ในการเดินทางแนะนำให้มีเวลาและนั่งรถโดยสารเอาเพราะจากทริปี้ขับรถกันเองไปกลับ 26 ชม. และเดินป่าอีกโชเฟอร์เราแถบไม่ไหวฮ่า แต่การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่ามากกับสิ่งที่ได้ตลอดการเดินทาง 3 วัน 3 คืน เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ ^^
