ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
น้ำตกโกรกอีดก เที่ยวป่าใกล้กรุง ไม่ต้องค้างก็ไปได้ น้ำตกโกรกอิดก (Krok E-Dok Waterfall) จ.สระบุรี
    • โพสต์-1
    Sprike •  กันยายน 23 , 2559

         ทริปนี้เกิดจากความอยากเดินป่า ขึ้นเขาของผมเอง หาข้อมูลมาหลายที่ มีแต่ที่ไกลๆ ต้องมีเวลาไปค้างคืน จนมาเจอที่นี่ น้ำตกโกรกอีดก จ.สระบุรี เฮ้ย มันใกล้กรุงเทพแค่นี้เอง จึงเริ่มหาข้อมูล และวิธีเดินทาง ที่นี่ถ้าเป็นสาย Blackpacker โบกรถ น่าจะยากหน่อย เพราะเข้าไปจากตัวถนนใหญ่หลายสิบโล บวกกับมีรถวิ่งเข้าออกน้อย ในการไปครั้งนี้ผมได้เพื่อนมาร่วมชะดากรรมอีก 2 คน ไปแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ว่ามันจะเดินยากลำบากแค่ไหน

        การเดินทางผมเริ่มจาก กทม. วิ่งไปทาง สระบุรี ตั้ง GPS ไปที่ "หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.18 (เจ็ดคต) ควรเดินทางไปแต่ไปถึงที่ทำการอุทยานไม่ควรเกิน 10 โมง เป็นอย่างช้า พอไปถึงที่ทำการติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอคนนำทาง (ค่าคนนำทาง 1 คน 500 บาท)  และเป็นการลงทะเบียนให้รู้ว่ามีใครขึ้นไปบ้าง หลังจากนั้น เราจะต้องขับรถออกไปอีก 10 กว่าโล ถึงจะไปถึงจุดเริ่มเดินขึ้นน้ำตก แนะนำว่า 

    • โพสต์-2
    Sprike •  กันยายน 23 , 2559

    พอเดินทางมาถึงจุดเดินเท้าขึ้นน้ำตก ก็จะเจอกับทางน้ำห้วยแรกให้เราต้องเดินข้ามเปียกกันแต่ต้นทางเลยทีเด๋ว ตอนแรกๆ ก็เหงียมไม่กล้าเปียกกัน 555  พอหลังจากผ่านห้วยแรกมาได้ ก็เริ่มเดินบุกฝ่าป่าดง กันแบบจิงๆ จังๆ มีต้องเดินข้ามลำธาร อยู่เป็นช่วงๆ ทางเดินบางช่วงเป็นดินแต่ฉุ่มแฉะไปด้วยน้ำ บางช่วงก็เป็นหินที่นึกว่าจะเดินสบายขึ้น ป่าวเลยครับ มันลื่น และต้องให้ความระมัดระวังมากๆ

     
    • โพสต์-3
    Sprike •  กันยายน 23 , 2559

         ที่น้ำตกโกรกอีดก จะมีจุดให้กางเตนท์ด้านบนด้วยนะครับ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้ก่อน เพราะต้องติดต่อหาลูกหาบด้วย  และหลังจากที่พวกเราเดินกันมาซักพักใหญ่ ก็มาถึงนำตกชั้นแรก อ๋อ ลืมบอกไปครับว่าที่ น้ำตกโกรกอีดก มีอยู่ 7 ชั้น แต่ล่ะกันจะมีชื่อนะครับ แต่ด้วยความเหนื่อย ลืมถามชื่นไว้ ^^ 

         ในน้ำตกชั้นแรกนี้ มีความสูงไม่มาก แต่ด้วยความเป็นหน้าฝนน้ำเลยเยอะมาก  และการที่จะเดินทางไปต่อข้างหน้า จำเป็นจะต้องลุยข้านน้ำตกตรงจุดนี้ไปให้ได้ น้ำแรง+ลื่น พอควร ต้องระวังมากๆ คับ 

         เดินต่อไปไม่นานก็จะเจอน้ำตกชั้นต่างๆ อยู่ตลอดทาง บอกตรงๆ ครับ ว่ามันเป็น สวรรค์ของคนชอบถ่ายรูปจิงๆ 

    • โพสต์-4
    Sprike •  กันยายน 23 , 2559

    หลังจากที่เดินผ่านชั้นแรกมา ทางเดินจะเริ่มลำบากขึ้นเรื่อยๆ ครับ แต่ยิ่งสูงก็จะยิ่งพบกับความงามขึ้นเรื่อยๆ

    • โพสต์-5
    Sprike •  กันยายน 23 , 2559

    ในการเดินขึ้นทางบางช่วงชัน และลื่นมาก ถึงกับต้องโหนเชือกดึงตัวขึ้นกันเลยทีเดียว 

    • โพสต์-6
    Sprike •  กันยายน 23 , 2559

    และแล้วหลังจากผ่านความยากลำบากในการเดินมาหลายชั่วโมง ก็ขึ้นมาถึงข้างบนสุดซักที นี่เองที่เขาเรียกว่า สวรรค์ชั้น 7 ความเหนื่อยที่มีมาทั้งหมด มันหายไปหมดสิ้นจริงๆครับ แต่ ๆ ๆ จะบอกว่าข้างบน ผึ้งป่า เยอะมากๆ ครับ เข้ามาตอมเกาะตามตัวเพื่อมากินเหนื่อย หรือ เกลือจากตัวเรานั้นแหล่ะครับ โดนต่อยกันไปคนล่ะตัว 2 ตัว (ที่โดนต่อยนี่เพราะเผลอไปกดทับ มันโดยไม่ตั้งใจครับ)  ยื่นถ่ายรูปกันได้ไม่นาน ก็ต้องลงแช่น้ำ เพื่อล้างคราบเหงื่อยไคลกับน้ำตก เหมือนจะช่วยได้แต่ก็ไม่เยอะมากครับ 555

    • โพสต์-7
    Sprike •  กันยายน 23 , 2559

    หลังจากเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันมาซักพักใหญ่ ประมาณ 15.00 น. พวกเราก็เริ่มเตรียมตัวออกเดินทางกลับลงไป เราขึ้นมายังไง ก็ลงไปแบบนั้นเลยครับ แม้จะขาลงจะเร็วกว่า แต่ก็อันตรายกว่านะครับ เพราะแรงโน้มถ่วงบวกความลื่นของเส้นทาง ระหว่างทางกลับ จะไม่เหนื่อยเท่าตอนขึ้น เริ่มมีแรง มองสิ่งรอบๆ ตัว ตามจุดต่างๆ ก็มีความสวยงามแฝงไปทั่วตลอดเส้นทางจริงๆ ครับ 

    สรุปทริปสั้นๆ + รวมค่าใช้จ่าย อีกครั้งครับ

    1. ถ้าจะไปเดิน ควรไปถึงจุดเดินเท้าก่อน 10 โมง

    2. เตรียมรองเท้าผ้าใบดี + เตรียมร่างกายซักนิด

    3. อาหารกลางวัน 1 ชุด น้ำคนล่ะ 1 ขวด เตรียมอาหารให้ คนนำทางด้วย

    ค่าใช้จ่ายในทริปนี้

    1. ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 500 บาท

    2. ข้าวห่อกลางวันกินข้างบน (ฟรี)

    3. ค่าอาหารเย็น 600 บาท

    4. น้ำมันประมาณ 350 บาท (ฟรี)

    รวม 1100 หาร 3 คนล่ะ 366 บาท