ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
1 วัน ที่บางกะเจ้า l > ได้ทั้งความสุข ได้ทั้งรอยยิ้ม < l บางกะเจ้าอ.พระประแดงจ.สมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
    • โพสต์-1
    เที่ยวจน •  กันยายน 26 , 2560

    เที่ยวบางกะเจ้า 1 วัน ได้ทั้งความสุข ได้ทั้งรอยยิ้ม

    มีคำพูดว่า 'เที่ยวคนเดียว ไปได้ไว แต่ถ้าอยากเที่ยวไกล ต้องไปหลายคน'

    วันนี้ไปได้ไม่ไว และไม่ไกล ไปได้แค่ #บางกะเจ้า พื้นที่สีเขียว ปอดเมืองกรุง

     

    >> บางกะเจ้า <<

     

    ได้ยินชื่อนี้มานานมากมาก ไหนจะเพจแชร์ เพื่อนก็แชร์ คนทำรีวิวก็เยอะ
    แต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้ปราจีนบุรีแค่นี้เอง
    พอมีเวลาว่าง ผมก็ตัดสินใจไปทันที วางแผนทำการบ้าน ศึกษาเส้นทางปั่นจักรยาน 

    เวลามาเที่ยวจริงจะได้ไม่ต้องปั่นแบบงมทางเอา จะได้มีเวลาเหลือไปเที่ยวที่อื่นต่อ
    อยากจะรู้นักว่ามันมีอะไรดีน คนถึงชอบไปกันจัง

    >>>>---------------------------------------------<<<<

     

    บางกะเจ้า” คือ พื้นที่ส่วนหนึ่งที่เป็นบริเวณโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีรูปร่าง คล้ายกระเพาะหมู ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง  6 ตำบลของ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้แก่ ต.บางกะเจ้า บางน้ำผึ้ง บางกอบัว บางกระสอบ บางยอ และ ทรงคะนอง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 12,000 ไร่ เมื่อวันที่  14 ก.ย. 2520 ได้มีมติคณะรัฐมนตรี กำหนดให้ “บางกะเจ้า” เป็นพื้นที่สีเขียว เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้างตึก หรืออาคารที่มีความสูงเกินกว่าที่กำหนด และเมื่อปี 2549 นิตยสาร Time  ได้ยกให้พื้นที่บางกระเจ้าเป็น The best Urban Oasis of Asia หรือที่เรียกว่า เป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียนั่นเอง แม้ระยะเวลาจะผ่านมาหลายสิบปี สถานที่แห่งนี้ยังถือว่าเป็น “ปอด” ฟอกอากาศให้กรุงเทพฯ และจ.สมุทรปราการ ได้อย่างดีเสมอมา

    ================

     

    สถานที่ที่ไปมีทั้งหมด 7 ที่ ใช้เวลาปั่นตั้งแต่ 08.00-16.00 น.
    1. สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์
    2. พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

    3. วัดบางน้ำผึ้ง

    4. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

    5. Beehive Coffee House
    6. ถนนสีเขียว หรือ ถนนมรกต
    7. Bangkok Tree House

     

    ++---------------------------------------------------------++

     

    สิ่งที่ต้องเตรียมเวลามาเที่ยว

    1. กล้องถ่ายรูป 
    2. แว่นกันแดด เพราะแสงแดดทำให้แยงตา
    3. น้ำเปล่า
    4. หมวก หรือ ร่ม หรือ เสื้อคลุมแขนยาว 
    5. สุดท้าย เตรียมพร้อมแล้วเริ่มต้นเดินทางไปพร้อมๆ กันเลย

     

    การเดินทางภายในคุ้งบางกะเจ้า

    โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ จะนิยมเช่าจักรยานปั่นลัดเลาะไปเรื่อยๆ ซึ่งร้านเช่าจักยานก็มีอยู่หลายร้านหลายจุดมาก เรียกว่าจะเดินไปทิศทางไหนก็หาร้านเช่าจักรยานกันได้ง่ายๆเลยค่ะ ราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ คันละ 50 บาท/วัน แต่ต้องปั่นกันด้วย ความระมัดระวังนะ เนื่องจากที่นี่เป็นเขตชุมชนที่มีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์สัญจรไปมาทั้งวัน 

     

     

    Let's Go...............!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    เช้าวันเสาร์ เราออกเดินทางจากปราจีนบุรี 06.00 น.

    มาถึงท่าเรือวัดบางนานอก 08.00 น. เพื่อเอารถยนตร์มาจอดที่วัดบางนานอก

    พอเราเอารถยนตร์จอดเสร็จ ก็รีบเดินมาขึ้นเรือทันที *ไม่ได้ถ่ายรูปท่าเรือมาให้ดู

    พอดีเรือกำลังจะออก

     

    พอถึงท่าเรือ ก็เดินออกมาอีกนิดนึง เลี้ยวขวาวนไป

    จะเจอร้านจักรยานมากมายให้เลือกเช่าตามใจชอบ 

    เราเลือกร้าน แดง & แหม่ม เห็นเขาโปรโมทกันจัง

     

    ถ้าใครไม่อยากปั่นจักรยานไกลๆ ก็สามารถนั่งวินตรงท่าเรือ 

    ไปลงตลาดบางน้ำผึ้งก็ได้ แถวนั้นมีร้านจักรยานให้เช่าเหมือนกัน 

     

    ยานพาหนะที่เราจะใช้ในการเที่ยว

    ร้านนี้เราเช่ามาคันละ 50 บาททั้งวัน ห้ามนำรถคืนเกิน 18.00 น. 
    พร้อมแผนที่ และ ออกค่าเรือขากลับให้ด้วย

     

    ได้จักรยานพร้อมแผนที่ ก็ดูแผนที่ก่อนเลยจะได้ไม่หลงทาง

    แนะนำเลย ถ้าอยากปั่นจักรยานแบบไม่หลงทาง ศึกษาเส้นทางจาก google map มาก่อน จะช่วยได้เยอะเลย

     

    พอออกมาจากวัดบางน้ำผึ้งนอก เราก็เลี้ยวขวา เพื่อที่จะไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ก่อน แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายไป จะเป็นเส้นทางไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

    ปั่นไปตามทางเรื่อย ที่นี่จะมีการตีเส้นสีขาว สำหรับช่องจักรยาน และสำหรับรถใหญ่

     

    หันไปมองหน้ากัน แล้วถาม เฮ้ยปั่นมาถูกปล่าวว่ะ

     

    ปั่นไปสักพักจะเจอป้ายสีเขียวแผ่นใหญ่บอกทาง

    ยืนแวะดูสักหน่อย มั่นใจแล้วว่ามาถูก ก็ปั่นไปกันต่อ

     

    ปั่นจักรยานรู้สึกว่าเริ่มหิวข้าว เลยแวะกินข้าวมันไก่ข้างทาง กับ ข้าวมันไก่ทอด

    จานละ 30 บาท ทั้งหมด 60 บาท

     

    กินข้าวเสร็จเดินทางต่อ ไปเรื่อยๆ ชิลล์ รับโอโซนกันสักหน่อย

     

    ปั่นมาไม่ไกลมาก จะเห็นทางเข้าสวนอยู่ทางขวามือเลย หน้าทางเข้ามีร้านเช่าจักรยานหลายร้าน

    มีร้านขายอาหาร แล้วก็มีรถยนตร์นักท่องเที่ยวมาจอดไว้ที่สวน แล้วนำจักรยานมาปั่นกันเอง

     

    ซุ้มประตูใหญ่

     

    เจอทางขึ้นวัดใจกันหน่อย ไหวไม่ไหว ถามใจดูเลย

     

    สวนศรีนครเขื่อนขันธ์

    เป็นจุดที่นักปั่น หรือคนทั่วไป หรือนักท่องเที่ยว เข้ามาตามหาธรรมชาติ และความร่มรื่น มีเส้นทางปั่นศึกษาธรมชาติ อากาศในสวนเย็นมาก เพราะมีแต่ต้นไม้สูง

     

    สะพานเขื่อนขันธ์มรรคา

     

    ช่วงเช้ามาฝนตกนิดหน่อย อากาศช่วงเช้าไม่ค่อยร้อน

    พอกลางวันร้อนตับแล่บมาก

     

    มาเที่ยวช่วงหน้าฝน ต้นไม้เขียวได้ใจจริงๆ

     

    เรามาที่นี่มี จุดประสงค์หลักคือ มาถ่ายรูปมุม TOP ที่ๆ หลายคนนิยมกัน 'หอส่องนก'

     

    มาถึงบางกะเจ้า..................ถ้าไม่ได้โชว์ท่าไม้ตาย

    แปลว่าคุณยังมาไม่ถึงที่นี่ ^_^ ^_^ ^_^

    อยากจะถ่ายให้เยอะๆ กว่านี้ แต่พื้นก็เปียกน้ำซะด้วย เสื้อผ้าก็เลอะ เอาพอหอมปากหอมคอ

     

    บรรยากาศแบบลูกทุ่งช่วง Green Season สวยอยู่นะ

    #บางกะเจ้าเที่ยวได้ทุกฤดู #หลงรักธรรมชาติเข้าแล้ว

     

    ปั่นจนเหนื่อย จนหอบ ถึงเวลาไปที่ต่อไป แวะซื้อน้ำดื่มหน้าทางเข้า เพื่อดับกระหาย

     

    ออกจากสวน แล้วเลี้ยวขวา เพื่อไป พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

    ปั่นตรงไปเรื่อยๆ จะเจอสี่แยก จะมีป้ายบอกทางให้ไปทางขวา

    เจอหน้าประตูทางเข้าแล้ว

     

    พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

    เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เป็นสถานที่ที่ให้เราได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับปลากัดของไทย

    อยากได้ข้อมูลเรื่องปลากัด ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ที่สุด และยังเป็นจุดพักผ่อนของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบางกะเจ้าด้วย

    บริเวณรอบๆ ค่อนข้างจะร่มรื่นย์ นั่งพักผ่อนได้เลย

     

    ถึงหนูจะชื่อ 'ปลากัด' แต่พวกหนูไม่ 'กัด' นะ 

     

    หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ยังมีร้านกาแฟให้นั่งชิลล์ ผ่อนคลาย

     

     

    เที่ยวจนอิ่มหนำสำราญ

    เดินทางไป หาของกิน

     

    หลังจากดูปลากัดเสร็จ เราก็ปั่นจักรยานมาเรื่อยๆ แล้วก็เจอวัด เห็นมีนักท่องเที่ยวเยอะ

    เราก็เลยแวะเข้าไปไหว้ สักการะกันสักนิสนุง วัดบางน้ำผึ้ง จะอยู่ติดกับตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

     

    ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

    เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะหนาแน่นเป็นพิเศษ เพราะส่วนใหญ่จะมาเดินเที่ยว หาของกิน 

    มีของขายเพียบ ตั้งแต่อาหารคาวหวาน ผักสด ของฝาก ต้นไม้ เสื้อผ้า ของที่ระลึก ของที่นี่ราคาถูกมาก ถือว่าไม่แพง

     

    เมนูอาหารที่เรากินกันไปวันนี้ ถึงกับพุงแตก ท้องโต กันเลย

    เราซื้ออย่างละนิดละหน่อย เพื่อที่จะได้กินอาหารที่มันหลากหลาย

     

    หลังจากที่เดินซื้อของกินในตลาดน้ำมาสักพัก ก็ตัดสินใจหาร้านกาแฟสักร้าน 

    เพื่อที่หาที่นั่งพักผ่อน คลายร้อน พร้อมกับกินอาหารที่ซื้อมาด้วย

    ก็เลยตั้งใจจะไปร้านกาแฟ Beehive Coffee House

     

    การเดินทาง ให้ปั่นจักรยานออกมาจากตลาดน้ำ แล้วเลี้ยวซ้าย ปั่นตรงมาเรื่อยๆ ไม่ไกลมากนัก ก็จะเจอ

    ร้านกาแฟ อยู่ทางซ้ายมือ

     

     

    ร้านกาแฟจะตกแต่งสไตล์อยู่กับธรรมชาติ ต้นไม้จะเยอะสักหน่อย เย็นบายดี

     

    เราสั่ง ชาเขียวปั่น กับ Espresso ปั่น แก้วละ 45 บาท ราคาไม่แพงนะ

    สชาติอร่อยดี #ไม่ได้อวย

    นั่งกินอาหาร ดื่มกาแฟ ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง พอหายเหนื่อย ก็ไปที่อื่นต่อ

     

     

     

     

    • โพสต์-2
    เที่ยวจน •  กันยายน 26 , 2560

    ..................................................................

     

    ถนนสีเขียว หรือ ถนนมรกต

     

     

    ออกจากถนนสีเขียวก็ปั่นไปมั่วๆ ไปเจอท่าเรือแถวบ้านคน เป็นจุดชมวิว

    แวะถ่ายรูปเล่น นั่งเล่นกันพักนึง

    ที่สุดท้ายที่เราต้องมา เป็นที่พักและร้านอาหารเปิดให้เข้าไปถ่ายรูปได้เลย

     

    Bangkok Tree House 

    เป็นร้านที่มีที่พักและร้านอาหารริมน้ำ บรรยากาศดีมากๆ และตกแต่งได้สวยมาก เป็นร้าน ที่อยู่ในเส้นทางปั่นจักรยานใน บางกระเจ้า ด้วย ซึ่งติดๆ กับร้านพบรัก ณ บางน้ำผึ้ง  โครงสร้างของร้าน และที่พักเป็นเหล็กผสมไม้ ในส่วนของตัวร้านเอง จะมี 2 ชั้น พร้อมดาดฟ้า แต่ช่วงกลางวันร้อนมากๆ แม้แต่ในห้องแอร์ด้านล่างยังเอาไม่อยู่ ที่ร้านต้องเอา

    พัดลม มาช่วยไล่ความร้อนทุกโต๊ะเลย ไม่ต้องพูดถึงดาดฟ้าเลยว่าจะร้อนขนาดไหนที่ร้านนี้ถึงเราจะไม่ได้มาพักหรือสั่งอาหารกิน เขาก็อนุญาติให้เข้ามาถ่ายรูปได้

     

    ค่าใช้จ่ายทริปนี้ก็แล้วแต่คน

    ถ้ากำเงินมาคนละ 300-400 บาท ยังไงก็พอ

     

    ขอให้เที่ยวสนุก ได้รับความสุขกลับบ้านนะครับ

     

    Bye.........................Bye............................