แบกเป้ ลุยเดี่ยว ออกเดินทางเที่ยวตามที่ใจต้องการ @บ้านสายหมอก เชียงดาว

 

                สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเรานะคะ ทริปนี้เราไปเมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2558 ปกติเราก็เป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว ทั้งเที่ยวคนเดียว เที่ยวกับเพื่อน เที่ยวกับพี่ หรือเที่ยวกับครอบครัว ไปหมดดด ขอแค่ได้ออกเดินทางเที่ยว 555555

                กระทู้นี้รูปไม่ค่อยเยอะนะคะ เน้นบรรยาย เราชอบบรรยาย 55555555

                ทริปนี้เริ่มต้นจาก ช่วงวันจันทร์-พุธ ที่ผ่านมา เรียนหนักมากกก งานก็เยอะมากกก รู้สึกเหนื่อย อารมณ์ตอนนั้นอยากออกไปเที่ยว อยากอยู่คนเดียว อยู่กับตัวเอง อยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์ๆ หายใจทิ้ง อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องคิดอะไร ก็เลยเสิร์ชหาสถานที่ที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ไปคนเดียวไม่อันตราย ไม่ไกล และค่าใช้จ่ายไม่เยอะ ก็เจอกับบ้านระเบียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่นี่ตอบโจทย์ทุกอย่าง (จขกท. อยู่ลำปาง เลยไม่ไกลค่ะ) 

                จากนั้นก็โทรจองที่พัก ซึ่งโทรติดยากมากกกกก เพราะที่นั่นไม่ค่อยมีสัญญาณ พอโทรติด ปรากฏว่า เต็มค่ะ!! ช่วง ศ-ส-อา เต็มยาวถึงเดือนมกราปีหน้าเลยยย โอ้แม่เจ้า! อะไรจะปานนั้นน

                แต่เราก็ยังไม่ละความพยายาม ยังหาที่พักแถวๆนั้น บังเอิญไปเจอกระทู้รีวิวนึง เค้าบอกไปพักที่บ้านสายหมอก อยู่ไม่ไกลจากบ้านระเบียงดาว บรรยากาศโอเค แล้วก็มีเบอร์ติดต่อทิ้งไว้  เราก็เลยลองโทรไป โทรไม่ติดค่ะ เป็นยี่สิบรอบก็ไม่ติด เริ่มหมดหวัง ก็เลยหาที่เที่ยวที่อื่นเผื่อไว้ สักพักก็มีเบอร์แปลกโทรมา บอกว่าบ้านสายหมอก ตอนนั้นดีใจมาก ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะมีห้องว่างรึปล่าว 5555555 ปรากฏว่าว่าง 1 ห้องพอดี แต่พี่เค้าบอกว่า ไม่มีอาหารให้ ต้องไปกินที่บ้านระเบียงดาว เดินไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงละ ซึ่งที่จริงบ้านสายหมอกจะเปิดเดือนตุลาคม แต่คนมาเยอะ บ้านระเบียงดาวก็เต็ม ก็เลยเปิด คิดแค่ค่าที่พัก คนละ 300 บาท เราก็ไม่รอช้า ตอบตกลงจอง 1 ห้องทันที

                เพื่อนหลายคนก็อยากจะไปด้วย แต่เราอยากไปคนเดียว อีกอย่างกลัวพาพวกเค้าไปลำบาก เพราะเราขาลุยอยู่ละ เลยบอกไปตามจริงว่า ที่นั่นไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่ค่อยมีสัญญาณ เล่นเน็ตไม่ได้นะ เพื่อนก็บอก งั้นไม่ไปละ นั่นไง! เห็นม๊ะ 55555 แต่เพื่อนที่ขาลุยด้วยกันก็เข้าใจว่าเราอยากไปคนเดียว ก็ไม่ได้ว่าอะไร หรือว่าในใจแอบงอนอยู่ก็ไม่รู้ 55555

                วันก่อนออกเดินทาง เราไปพักหอเพื่อนที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ฝนตกหนักมากกกก เพื่อนก็ถาม ฝนตกแบบนี้ ยังจะไปอยู่เหรอ เนี่ยตกตั้งแต่เช้า ยังไม่หยุดเลย มันอันตรายนะ เราสายดื้ออ่ะ ยังยืนยันคำเดิม ไป!!!!  ในใจก็แอบหวั่นว่าถ้าฝนตกทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ จะลำบากมั้ยวะ ก็ได้แต่หวังเล็กๆว่าตื่นเช้ามาฝนจะไม่ตก

 

                 วันที่ 19 กันยายน 2558

                เราตื่นหกโมงเช้า ตื่นปุ๊บ รีบเปิดหน้าต่างดูปั๊บ ฝนไม่ตกค่ะ โคตรดีใจ เลยรีบอาบน้ำ แต่งตัว แล้วก็ให้เพื่อนไปส่งที่สถานีขนส่งช้างเผือก ไปถึง รถเมล์ส้ม เชียงใหม่-ท่าตอน เพิ่งออกไปพอดี แต่ยังมีจอดอยู่หลายคัน เลยรีบไปซื้อตั๋ว คนขายตั๋วบอก รถออกแปดโมง ณ ตอนนั้น เจ็ดโมงครึ่ง โอเค ครึ่งชั่วโมงรอได้ เลยซื้อตั๋วเชียงดาว 1 ที่ เค้าก็บอก 40 บาท 

 รถเมล์ส้ม เชียงใหม่-ท่าตอน รถออกทุกๆครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมงค่ะ

 

                 08.00 น. รถออก โห! โคตรตรงเวลาอ่ะ เราได้ที่นั่งติดหน้าต่าง วิวระหว่างทาง มีหมอกลงจางๆ สวยมากค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา แหะๆ 

                 เราบอกกระเป๋ารถเมล์ว่าลงที่โลตัสเชียงดาว เพราะจะใกล้กับท่ารถ เชียงดาว-เมืองคอง ที่ขึ้นไปบ้านระเบียงดาว พอรถเข้าสู่ อ.เชียงดาว เราก็จดจ้องมองหาโลตัส ไม่เห็นเลยยยย เห็นแต่ 7-11 

                 09.30 น. รถจอดที่ขนส่งเชียงดาว อ้าววววววว!! งั้นก็เลยโลตัสมาแล้วอะดิ ไมไม่จอดให้อ่ะ ลืมเหรอออ ก็ได้แต่เซ็งอยู่ในใจ ถถถถถ 

                 ลงรถไป ก็ถามคนแถวนั้น เค้าบอกต้องเหมารถขึ้นไป มันไม่มีรถขึ้น แต่มีแท็กซี่ เดี๋ยวโทรเรียกให้ ไปมั้ยคะ เราบอก ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วก็เดินย้อนกลับทางเดิม เพราะเคยมีคนรีวิวว่ามีรถที่เค้า รับ-ส่ง คนในหมู่บ้าน เค้าจะลงมาทำธุระข้างล่าง แต่ถ้าเหมาขึ้นไปจะแพง ยอมเดินค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ไม่ใกล้ไม่ไกล สักพักก็เจอสี่แยก ใกล้ 7-11 และโลตัส นั่นไงง! โลตัสสส อยู่นี่นี้เอง ถถถถถ

                 พอดีกับเจอป้าคนหนึ่ง เลยเข้าไปถามว่า รถไปบ้านระเบียงดาวอยู่ตรงไหนคะ ป้าทำหน้างง แล้วถามกลับว่า บ้านระเบียงดาวคือที่ไหน อ้าววว เห๊ยยย! ไม่ใช่คนเชียงดาวเหรอ แต่ถือตะกร้าเหมือนไปตลาดมา น่าจะเป็นคนแถวนี้นะ เลยถามต่อ งั้นรถไปเมืองคองอยู่ตรงไหนคะ ป้าก็อ๋อออ ทันที แล้วก็เดินนำเราไป ไปถึง ไม่มีรถอยู่สักคัน ป้าเลยบอกว่า สงสัยรถคงจะขึ้นไปข้างบนหมดแล้ว คงต้องรอพรุ่งนี้เช้าอะหนู เพราะเค้าจะลงมาตอนเช้าๆ ไปวินมอไซค์มั้ย ลองโทรถามดู เราก็ขอบคุณป้า แล้วเดินไปที่มีเบอร์โทรติดอยู่ข้างกำแพง ตัดสินใจโทรไปถามว่า ไปบ้านระเบียงดาวคิดเท่าไหร่คะ เค้าถามกลับมา อยู่ที่ไหนเหรอครับ ไม่เคยไป อ้าวว เห๊ยยย! ทำไมไม่มีคนรู้จักเลยอ่า เลยบอกไปว่าทางไปเมืองคองค่ะ เค้าถามต่อ เลยบ้านนาเลาไปมั้ย เอ้า นาเลาคือที่ไหน เราจะรู้มั้ยเนี่ยยย ก็เลยบอกไปว่าไม่รู้ค่ะ เค้าก็พูดต่อ ถ้าส่งถึงทางเข้านาเลา คิด 400 บาท คิดในใจ มันคือที่ไหน แล้ว 400 เลยเหรอ มอไซค์นะ เสี่ยงด้วย ไม่ไปดีกว่า เลยบอกเค้าไปว่า งั้นไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะคือแบบบ 400 เหมารถยนต์ 500-600 บาท ราคาต่างกันนิดเดียว ปลอดภัยกว่าอีกกกกก ถถถถถ

                  แต่เรายังไม่ละความพยายาม คิดว่าต้องขึ้นไปให้ได้ มันต้องมีรถสิ เลยเดินเข้าไปนั่งข้างในโรงจอดรถของ เชียงดาว - เมืองคอง ตรงฝาผนังมีเบอร์โทรคนขับรถติดอยู่ด้วยยยย เหยยยยย! ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี เลยไม่รอช้า รีบโทรไปเบอร์แรก ลุงคนแรกบอกติดประชุมอยู่เมืองคอง วันนี้ไม่ได้ไปขับรถ แต่เดี๋ยวจะโทรติดต่อคนที่ขับรถให้ เราก็ขอบคุณลุง แต่ก็ยังไม่สนิทใจ โทรไปอีกเบอร์ ลุงคนที่สองบอกว่าเพิ่งออกมาได้สักพัก ตอนนี้ใกล้ถึงแล้ว แต่มีรถอีกคันอยู่นะ ไม่รู้ว่าออกมารึยัง ที่ท่ารถมีมั้ย เราก็บอกว่าไม่มีรถซักคันเลยย ลุงก็บอก สงสัยจะออกมาแล้วมั้งง ณ ตอนนั้น ใจเราแทบสลาย เริ่มหมดหวัง ที่จะขึ้นไป ลุงคงเห็นเราเงียบ เลยพูดมาว่า เดี๋ยวตอนบ่ายน่าจะมีลงไปอีกคัน รออยู่ตรงนั้นนะหนู เราก็ ค่ะ ขอบคุณค่ะ แล้วก็วางสาย

                 เรานั่งรออยู่ในโรงจอดรถอย่างหมดหวัง สักพักก็มีรถยนต์คันหนึ่งบีบแตร แล้วตะโกนถามว่า ไปบ้านระเบียงดาวรึปล่าวครับ เราก็ ค่ะๆๆ ลุงบอกลุงออกไปละแต่ลุงอีกคนโทรบอกว่ามีคนรออยู่ที่ท่ารถ เลยวกกลับมารับ เพราะเป็นรถรอบสุดท้ายแล้ว เราก็ไหว้ขอบคุณลุงละรีบขึ้นรถ 
ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่จริงๆ 

...เบอร์ลุงขับรถ 081-0294622 , 081-0267013...

                 บนรถมีผู้โดยสารอยู่ 5 คน เป็นคู่ ทอม-ดี้ 1 คู่ คู่ ชาย-หญิง 1 คู่ และพี่ผู้หญิงอีกคน น่าจะมาคนเดียว นี่นึกว่าจะเจอแต่ที่มาเป็นคู่ซะอีก 55555

                 ทางขึ้นไปค่อนข้างแคบและชันนิดๆ เป็นถนนคอนกรีต ถ้าเอามอเติร์ไซค์ไปต้องระวัง เพราะฝนตก ถนนลื่น แต่ถ้าฝนไม่ตก น่าจะไปได้ค่ะ

                 ประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงแล้วววว บ้านระเบียงดาว ค่ารถขึ้นมา คนละ 50 บาท ก็ถือว่าโอเค เราเดินไปบ้านระเบียงดาวก่อน เพราะไม่รู้ว่าบ้านสายหมอกอยู่ตรงไหน 55555

ทางลงไปบ้านระเบียงดาว

วิวตรงระเบียง ยังมีหมอกจางๆ อยู่

 

                 เพื่อนร่วมเดินทางทั้ง 5 คน พักที่บ้านระเบียงดาวหมดเลยยย แสดงว่าต้องจองล่วงหน้านานพอสมควร ส่วนเรา พักบ้านสายหมอก ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน 555555 เลยไปถามพี่เจ้าของที่พัก พี่เค้าบอกให้เดินขึ้นไปทางเดิม เจอถนน ให้เดินไปเรื่อยๆ ตามถนนคอนกรีต แป๊บเดียวก็เจอ ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเล่น 

                ถึงแล้ววววววววว บ้านสายหมอก เดินประมาณ 5 นาที อย่างที่พี่เค้าบอกจริงๆ

จุดที่นั่งชมวิว วิวสวยมากกกก สวยไม่แพ้บ้านระเบียงดาวเลยย

ช่วงสายๆ ยังมีหมอกเยอะ สายหมอกสมชื่อจริงๆ

                   สักพักพี่เจ้าของก็เดินมาคุยด้วย เค้าก็ถาม มาเที่ยวเหรอครับ ถ่ายรูปได้เลยย ตามสบายนะครับ เราก็บอก มาพักด้วยค่ะ ที่จองไว้อะค่ะ พี่เค้าก็ถามชื่อ แล้วก็บอกให้รอแป๊บนึง ระหว่างรอพี่เค้าก็ชวนคุย พี่เค้าบอก เมื่อวานตรงนี้มองไม่เห็นอะไรเลย มืดหมด ฝนตกทั้งวัน วันนี้โชคดีที่มีแดด มีหมอก และฝนไม่ตก แล้วพี่เค้าก็ขอตัวไปดูห้องให้เรา 

มีเด็กน้อยมาเล่นด้วย สงสัยจะเป็นลูกพี่เจ้าของ น่ารักกกกกก แต่พูดภาษาไรไม่รู้ ฟังไม่ออก

 

                 ได้เข้าที่พักละ ที่พักโอเคมากเลยค่ะ เป็นลักษณะบ้านไม้ไผ่ผ่าซีก มีระเบียงหน้าบ้านไว้นั่งกินข้าว นอนดูดาว ในบ้านไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำสะอาดดีค่ะ ที่นอนค่อนข้างกว้าง สามารถนอนได้ 3-4 คนเลย รวมๆแล้ว โอเคมากเลยค่ะ

                  พี่เค้าบอก ที่นี่ไม่มีไฟฟ้านะครับ ใช้เป็นโซล่าเซลล์ ถ้าจะชาร์จแบต ฝากพี่เค้าไปชาร์จได้ พี่เค้าจะเอาไปชาร์จที่บ้านแม่พี่เค้าให้ แต่ตอนเย็นๆ ไฟจะไม่ค่อยมีละ เราก็ขอบคุณพี่เค้า แต่ก็ไม่ได้ฝากชาร์จ เพราะแบตมือถือยังมี แบตกล้องก็ยังเต็ม แบตสำรองอีก เราชาร์จมาเต็มทุกอย่าง เตรียมพร้อมๆ 555555

 

พกหนังสือมาอ่านด้วย แน่นอนว่าไม่ใช่หนังสือเรียน หนังสือเรียนทิ้งไว้ที่หอค่ะ ลาขาดชั่วคราว 555555

 

                จากนั้นเราก็พักผ่อน หลับค่ะ 5555555 กะว่าจะตื่นสักสี่โมง แล้วไปเดินเล่น เลยตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ไม่ตื่นค่ะ 55555 ตื่นอีกที่ห้าโมง ถถถถถ ตื่นแล้วก็สะพายกล้องออกไปเดินเล่น เดินไปบ้านระเบียงดาว เพราะต้องไปทานข้าวเย็นที่นั่น 

                ไปถึงบ้านระเบียงดาว คนไม่ค่อยเยอะ คงจะอยู่ในบ้านกัน ส่วนใหญ่ก็จะกินข้าวอยู่หน้าระเบียงบ้านตัวเอง อาหารเย็นของที่นี่เค้าจะจัดเป็นขันโตก เค้าจะเริ่มตั้งขันโตกตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนถึงสองทุ่ม เรานั่งอยู่คนเดียว โต๊ะใหญ่ด้วยนะ 55555555 พี่เจ้าของบ้านระเบียงดาวก็เข้ามาทัก มาคนเดียวเหรอครับ ตั้งขันโตกเลยมั้ยครับ เราก็ตอบ อ่ออ ยังค่ะ อีกสักพักก่อนค่ะ สักพัก เค้าเริ่มยกขันโตกมาให้โต๊ะข้างๆ อาหารน่ากินมาก เห็นละหิว 5555 ก็เลยบอกพี่เค้าให้ตั้งขันโตกเลย เราก็ย้ายไปนั่งโต๊ะเล็ก เพราะโต๊ะเล็กว่างแล้ว จะนั่งโต๊ะใหญ่กินข้าวคนเดียวก็เขิน 555555 สักพักอาหารก็ทยอยมาทีละอย่าง เค้าเอาขันโตกออก เพราะโต๊ะที่เรานั่งสูง อาหารก็มีผัดผัก แกงจืดเต้าหู้หมูสับ น้ำพริกข่า (เผ็ดมากกกกก) แล้วก็ไข่เจียว ไข่เจียวมาทีหลัง เลยไม่ได้ถ่าย เพราะหิวแล้ว 55555 

                 นั่งกินได้สักพัก ฝนตกค่ะ เลยต้องย้ายเข้าไปในนั่งในร่ม ข้างในมีผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ เราก็ไปขอนั่งด้วย แล้วก็มีคู่ ชาย-หญิง มาขอนั่งด้วยอีกคู่ เค้านั่งกันเป็นคู่ๆ ส่วนเรา นั่งกินคนเดียว คนเดินผ่านไปมาก็มอง แต่หาแคร์ไม่ ไม่ได้รู้จักนินาาา แคร์ทำไม 555555

 

                 กินข้าวเสร็จก็เดินกลับที่พัก ระหว่างกลับ วิวสวยมากกก

                เข้าที่พักก็มืดพอดีค่ะ ในที่พักมีเทียน 2 เล่ม กับไฟแช็คอันหนึ่ง โรแมนติคมากกก อาบน้ำใต้แสงเทียน 555555

                อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ก็ออกไปนั่งเล่นนอกระเบียง โอ้โห! ดาวเต็มท้องฟ้าเลยยยย สวยมากกกก เลยอยากลองถ่ายรูปดาวดูบ้าง โชคดีที่ยังพอมีสัญญาณ เลยเสิร์ชหาวิธีตั้งค่ากล้องถ่ายดาว ก็ตั้งค่าตามเค้าเลยยย 555555

                ถ่ายดาวครั้งแรกออกมาเป็นงี้ ดีใจมากกกก ที่ถ่ายติดดาว 55555

                สักพักเริ่มหนาว เลยกลับเข้าห้อง ตอนนั้นสองทุ่ม จะนอนเลย ก็ไม่ใช่ป่าวว้าาา ไม่เคยนอนเร็วแบบนี้มาก่อน ปกตินอนอย่างเร็วก็ตีหนึ่ง อย่างช้าก็ตีสาม ก็เลยหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ท่ามกลางแสงเทียน เสียงจิ้งหรีด เสียงอึ่งอ่าง ธรรมชาติสุดๆ ประมาณสี่ทุ่มเราก็นอน นอนก่อนเที่ยงคืนในรอบปี 555555

 

                  วันที่ 20 กันยายน 2558

                 เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีสี่ครึ่ง แต่ตื่นตีห้า 55555 ออกไปดูนอกบ้าน หมอกเต็ม มองไม่เห็นอะไรเลยยยย ก็กลับไปนอน ตื่นมาอีกทีหกโมง เพราะได้ยินเสียงบ้านหลังข้างๆ คุยกัน พอออกไปดู โอ้วววว ท้องฟ้าสีส้ม ชมพู สวยมากกกก มีหมอกลง คือฟินมากอ่าาา

                 ถ่ายรูปเสร็จ หมอกเริ่มจาง แดดเริ่มมา ก็เลยไปอาบน้ำ แต่งตัว เก็บของ แล้วไปเช็คเอ้าท์ ระหว่างรอพี่เจ้าของมา ก็ถ่ายรูปเล่น 

จุดชมวิวบ้านสายหมอก

                 พอพี่เจ้าของมา พี่เค้าก็ถามว่าจะลงไปเชียงดาวเลยหรือว่ารอสายๆ ก่อน เราก็บอกว่า ลงไปเลยก็ได้ค่ะ พี่เค้าอาสาไปส่ง ให้เราซ้อนมอไซค์ไปบ้านระเบียงดาว เพราะคนที่บ้านระเบียงดาวจะลงไปซื้อของข้างล่างพอดี พี่เค้าบอก ครั้งหน้ามาพักอีกนะครับ ครั้งหน้าจะพร้อมมากกว่านี้ พี่เค้าบอกอีกว่า ช่วงวันหยุดยาวที่นี่เต็มหมดแล้ว แต่ ส-อา ก็ยังพอมีอยู่บ้าง ยังจองได้

.....เบอร์โทรติดต่อบ้านสายหมอก 093-1819507 , 090-7608819 .....

 

                พี่ที่บ้านระเบียงดาวบอกว่าจะลงข้างล่างประมาณแปดโมง ให้นั่งรอก่อน ตอนนั้นเจ็ดโมงครึ่ง เราก็เลยนั่งจิบกาแฟรอ ที่จริงมีแบบเป็นชุดข้าวต้มด้วย แต่เราไม่ชอบกินข้าวต้ม เลยสั่งแต่กาแฟ

                 กาแฟของที่นี่มีอยู่อย่างเดียวคือ Rabiangdao Signature coffee ราคาชุดละ 50 บาท สามารถชงกินได้หลายแก้ว แต่เรากินแค่แก้วเดียว กาแฟกลิ่นหอมมากกก เติมน้ำตาลนิด คอฟฟี่เมตหน่อย อร่อยยย กลมกล่อม

วิวตอนสายๆที่บ้านระเบียงดาว

 

               แปดโมง ก็พากันขึ้นรถ นั่งท้ายรถกระบะลงไปเชียงดาว เจอกลุ่มเดิม ที่นั่งรถขึ้นมาด้วยกัน ระหว่างนั่งรถกลับ ก็พูดคุยกัน เค้ามาจากกรุงเทพหมดเลยย ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักชื่อ แต่ก็ถือว่าได้มิตรภาพที่ดีระหว่างเดินทาง

                ประมาณแปดโมงครึ่ง ก็มาถึงขนส่งเชียงดาว มีรถเมล์ ท่าตอน - เชียงใหม่ กำลังจะออกพอดี ก็ขอบคุณพี่บ้านระเบียงดาวที่มาส่ง แล้วก็รีบขึ้นรถกลับเชียงใหม่

 

บ๊ายยยยย บายยยย บ้านสายหมอก บ้านระเบียงดาว ไว้จะกลับมาอีกแน่นอน

               

              สรุปค่าใช้จ่าย

     - ค่ารถไปเชียงดาว                         40 บาท
     - ค่ารถขึ้นบ้านระเบียงดาว                50 บาท
     - ค่าอาหารเย็นที่บ้านระเบียงดาว      100 บาท
     - ค่าที่พัก                                   300 บาท
     - ค่ากาแฟ                                   50 บาท
     - ค่ารถลงไปเชียงดาว                      0 บาท
     - ค่ารถกลับเชียงใหม่                      40 บาท
                       รวม      580      บาท

 

 

สามารถติดตามรับชม และร่วมเป็นกำลังใจได้ในอีกหนึ่งช่องทาง ตามลิงก์นี้เลยค่ะ

http://pantip.com/topic/34211950