ตามนายสีนิล..ฟินเวอร์..เมื่อเจอหมอก ^-^
มาแล้ว มาแล้ว ทริปย่อยๆ ของแก๊งปากหมาฯ ในปีนี้ สำหรับทริปใหญ่อีก 2 ทริป ต้องรอปลายปีนะแจ๊ะ อิอิ
ขอแนะนำกันอีกครั้งกับแก๊งปากหมาฯ เผื่อใครยังไม่รู้จักแก๊งนี้ที่ออกจะน่าร้ากกกกก..ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแค่ปากหมาน (ปากหวาน+ปากหมา) พร้อมจิกกัดผู้ที่ลองเข้ามาทำความรู้จักก็เท่านั้น ชื่อเต็มๆ คือ ปากหมา..หน้าสวย.. เพราะสมาชิกเป็นหญิงสาว สวย(มั้ง) โสด(บางคน) และทึก 5555

ความจริงทริปนี้มีที่มาและที่ไปเพราะพวกเราเป็นแฟนคลับของนายสีนิล มอเตอร์ไซด์คันเก่งกับเจ้านายที่เป็นเจ้าของรีวิวเดินทางไกลกับนายสีนิล ได้อ่านรีวิวล่าสุด “เดินทางไกลกับนายสีนิล ภาค seasons change: ตามหมอก หยอกฝน ณ หมู่บ้านบนเขาเทวดา เขาว่ากันว่า 399 โค้ง” จิตใจกระโจนพุ่งไปหาข้อมูลทันที บ้านอีต่องนี้อยู่พิกัดไหนของเมืองไทย แล้วน้ำตกจ๊อกกระดิ่นหละตั้งอยู่ส่วนไหน ไปไปไป ไปกัน >>>> ว่าแล้วก็ใช้เครื่องมือสื่อสารยุคดิจิตอลส่งข้อความรวมกลุ่มด่วน!!! พร้อมเสนอโอกาสวิธีแก้ไขและดามหัวใจของสมาชิกที่โดนหักอก บรรยากาศของธรรมชาติสวยๆ สบายๆ อาจช่วยได้มาก ยิ่งช่วงนี้เดอะแก๊งฯ ต้องตั้งรับมรสุมที่รุมก่อตัวมาทำร้ายหัวใจกัน เราจึงต้องเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แต่เดอะแก๊งฯ ไม่ได้เป็นผู้หญิงหวานที่จะคอยพูดปลอบประโลมเพื่อนให้หายเจ็บ ตรงข้ามกลับชอบหักดิบ ยิ่งเจ็บยิ่งต้องเที่ยว 5555 จะมามัวนอนร้องไห้จนใบหน้าเหี่ยวย่นอยู่ไปใย
รอบนี้เสียดายเดอะแก๊งฯ สมาชิกไม่ครบ ขาดขาไปอีกหนึ่ง สาวใหญ่ขาลุยลางานไม่ได้เลยขอเกาะติดสถานการณ์เหมือนร่วมไปกับทริปด้วย มีการบอกมาตามสายว่าถ้าหยุดพักกินข้าวส่งรูปมานะ เด๋วพี่จะไปร่วมแจมด้วย>>> เอากะพี่แกสิ 55555
เดอะแก๊งฯ ยังหวั่นใจว่ารอบนี้จะหลงไปทิศไหนของเมืองกาญฯ นะจ๊ะบุรี เลยตั้งเข็มทิศปักหลักไปตามรีวิวของนายสีนิล (ขออนุญาตตรงนี้เลยนะค่ะ อิอิ) จุดเริ่มต้นคือปากเกร็ดนนทบุรี - บางบัวทอง ทางหลวงหมายเลข 340 และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 346 นครปฐม - บางเลน – กำแพงแสน เลี้ยวซ้าย ไป อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ต่อด้วยเส้นทางไทรโยค – ทองผาภูมิ วิ่งผ่านตัวอำเภอ เลียบอ่างเก็บน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ประมาณ 40 กิโลเมตร
โชคเข้าข้างเดอะแก๊งฯ มากมาย ทริปนี้ได้เจอกะไอดอล “นายสีนิล” ตัวเป็นๆ ระหว่างเส้นทางที่เดอะแก๊งฯ กำลังกังวลว่าจะไปถูกไหม สายตาไปปะทะกะมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งที่ขับฉวัดเฉวียนอยู่บนถนน กริ๊ดดดดดด สิค่ะ แค่เห็นก้นงอนงอน ของนายสีนิลก็จำได้ รีบขับตามถ่ายรูปเสมือนแก๊งเมียหลวงเจอรถของสามีแอบควงกิ๊กไปเที่ยว 5555
ขอบอกพอพี่แกเลี้ยวซ้าย เราเลี้ยวซ้าย พี่แกเลี้ยวขวาเราจี้ตามหลัง พี่แกขับกินลมชมวิว สบัดขาสบัดหน้าสลัดความเมื่อย เดอะแก๊งฯ ในรถเผลอทำตาม สบัดหน้า ชูมือขึ้นแล้วหมุน หมุน 5555 จนเจ้านายสีนิลคงสะกิดใจว่าทำไม๊ ทำไม ไอ้รถคันเล็กๆ คันนี้มันตามติดไม่ห่าง 
ถึงจุดพักเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของคน รีบวิ่งลงไปขอถ่ายรูปด้วย พูดคุยสอบถามและแนะนำตัวเองสักพัก เจ้านายสีนิลก็ใจง่าย เฮ๊ย!!! ใจดีมากกกกกก บอกจะพาไปส่ง ด้วยความที่กลัวหลงออกพม่า เลยตกปากรับคำ แต่ความจริงพี่เขากำลังไปที่นั้นอยู่แล้ว ถือเป็นเกียรติมากที่นายสีนิลจะเป็นผู้นำทางให้เดอะแก๊งฯ มันปลื้มตื้นตันใจเป็นที่สุด อยากกระโดดไปนั่งซ้อนท้ายนายสีนิล แต่กลัว "น้องมังคุด" รถคู่ใจเดอะแก๊งฯ น้อยใจเกิดอาการเกเรระหว่างทาง จะซวยเอ้า ^^ ก่อนนำภาพนี้ลง ขออนุญาตไม่เผยแพร่ป้ายทะเบียนของนายสีนิลนะค่ะ กลัวแฟนคลับจะเอาไปตีเลขซื้อหวยกัน 555
กองทัพต้องพักรบ เดอะแก๊งฯ เองก็ต้องพักรัก 555 ท้องหิวเลยส่งสัญญาณให้นายสีนิลพาไปร้านอร่อยๆ ไม่นานนายสีนิลก็เลี้ยวเข้าข้างทาง ตอนนี้อะไรก็ได้ หิวมากมายตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรกันเลย

อืม+++ อร่อยมากไม่เสียชื่อนายสีนิลพาชิม ^_^ แม้จะเป็นร้านบ้านๆ แต่รสชาติยังกะภัตตาคาร ฟาดกันไปหลายยก ซดน้ำซุปไปหลายชาม ร้านนี้เลยก๋วยเต๊๋ยวเป็ดรสเลิศ มีโลโก้เป็ดอยู่หน้าร้าน พิกัดตั้งอยู่เส้นทางไป อ.ทองผาภูมิ เลยแยกร้านอาหารบ้านกาแฟไปหน่อยนึง แต่ไอ้ร้านบ้านกาแฟนี้อยู่ตรงไหน จำพิกัดไม่ได้แล้ว 5555


เจ้านายสีนิลบอกอยากไปนอนแช่น้ำพุร้อน เราชาวเดอะแก๊งฯ อุตส่าห์ตามหลังมาติดๆ นายสีนิลพาไปไหน ไปด้วยอยู่แล้ว ไม่กลัวเจ้านายสีนิลพาไปหลอกขายแรงงานชายแดนหร๊อกนะ เพราะพวกเราเยอะกว่า 5555 
ขับมาไม่นานประมาณเกือบ 30 กิโลก็ถึงจุดหมายที่จะแวะ "พุน้ำร้อนหินดาด" ก่อนเข้าต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นค่าบำรุงสถานที่ ไม่แพงคะ คนละ 20 บาทเอง
ขับตามติดนายสีนิลต่อ..มีการส่งสัญญาณการขับขี่หรือการขอทางและขอแซง จนบางทีเดาไม่ออกว่ายกมือนี้คือคันหัวหรือจะส่งสัญญาณเพื่อบ่งบอกอะไร พอดีเรามันไม่ใช่มืออาชีพด้วยสิ 555 สนุกเลยคร้างานนี้เหยียบกันมันส์ ดีนะที่เส้นทางไม่ค่อยมีรถใหญ่ "น้องมังคุด" เป็นรถเซฟตี้อยู่แล้วแม้จะขับไม่ต่ำกว่า 120 ก็ตาม สังเกตมีหลวงปู่ทวด นิมนต์ท่านมาด้วยตลอดเส้นทางถึงจะขับเร็วแต่ปลอดภัยหายห่วง ไม่เชื่อ...ก็..แล้ว...แต่..นะ ^_^
ระหว่างขับไปตามเส้นทาง วิวสองข้างทางก็ทำให้ฟินแล้ว>>*_*
เจ้านายสีนิลคงเข้าใจความต้องการของสาวๆ เดอะแก๊งฯ จึงปล่อยให้แวะตลอดทาง และไปรอตรงทางแยก เพราะเดอะแก๊งฯ แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าเมื่อเจอทางแยกทีไรใจมันหวิว เลี้ยวผิดหลงทางอยู่เรื่อยๆ 555 พี่เขาเตือนว่าทางไปที่ปิล๊อกจะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา บางช่วงผิวถนนชำรุดเป็นช่วงลงเขาและมีโค้งหักศอกหลายจุดต้องระมัดระวัง

0
เจอฝนแปดแดดไม่ค่อยออกตลอดเส้นทาง บางช่วงก็เล่นเอาง่วงนอนไปตามๆ กัน แต่พอง่วงปุ๊บมีกิจกรรมเมาท์มอยทันที และที่สนุกสุุดคือการเมาท์บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกันคือ การเมาท์เจ้านายของนายสีนิล 5555 แม้จะเพิ่งรู้จักกันก็ไม่พ้นเส้นทางปากหมา พอฝนตกทีไรนึกสงสารเจ้านายสีนิลที่ต้องคอยหลบและใส่ชุดกันฝน คิดแล้วอยากสลับให้สาวห้าวเมืองเหนือไปขี่แทน 555 
วันนี้ขอเข้าที่พักก่อนนะ โชคดีที่โทรมาจองก่อนเพราะนักท่องเที่ยวเยอะ ทุกที่เต็ม ทีแรกยังคิดเลยว่าสงสัยทริปนี้ เดอะแก๊งฯ คงต้องหาวัดนอน เพราะเต้นท์และอุปกรณ์อย่างอื่นไม่ได้เตรียมมาเลย
มาถึงที่พัก โห้..แม่เจ้า!!! ห้องมันใหญ่ไปไหม?? สำหรับเราเป็นเพราะเหตุจำเป็นที่ต้องจองห้องสุดท้าย เป็นบ้านหลังใหญ่ ที่สามารถพักได้ 10 คน แต่เรามากันแค่ 4 คน ป้าเจ้าของบ้านลดราคาให้ จากสามพันเป็นสองพัน ต้องขอบคุณเจ้านายสีนิลที่บอกเบอร์น้องเจมส์เจ้าของห้องพักให้เตรียมหาที่พักให้ แต่ด้วยห้องพักของน้องเจมส์เต็ม น้องเลยเป็นธุระจัดหาที่พักให้ ถูกใจสุดๆ เพราะเตียงและพื้นที่ในห้องกว้างขวาง ทุกคนลงมติกันว่า "ใครนอนกรนเสียงดัง โน้นเลย ไปนอนเตียงริมสุดของห้อง" ใจร้ายก็ยอมหละ งานนี้ 5555
หลังจากแยกย้ายกะนายสีนิลและเจ้านายแล้ว สาวๆ เดอะแก๊งฯ เดินไปชมหมู่บ้านรับไอหมอกนิดหน่อยก็ต้องรีบหาอาหารมื้อเย็นทันที เราเริ่มต้นที่ร้าน "ครัวสุดแดน" เพราะเป็นเจ้าของเดียวกะที่พัก

สั่งมาเพียบ เพราะโดนข่มขู่จากน้องเจมส์ว่าที่นี้ครัวจะปิดประมาณ 2 ทุ่ม แต่พอเอาเข้าจริงเรานั่งเมาท์กันเกือบ 5 ทุ่มเจ้าของร้านก็ไม่ยักมาไล่ 555 อร่อยทุกอย่างจริง ๆ แถมราคาไม่แพง ยิ่งเมนูผัดเผ็ดเยี่ยมยอด เพิ่งรู้ว่าร้านนี้สะใภ้เป็นคนปักษ์ใต้ ถึงว่ารสชาติดุเด็ดเผ็ดมัน ฮิฮิ แต่เสียดายเมนูหลายอย่างที่อยากลองหมด เพราะได้ยินมาว่าอาหารทะเลที่นี้สดมาก ยิ่งปูดำรสชาติดี เพราะเอามาจากฝั่งพม่า งานนี้สาวๆ เลยอด ToT

คืนนี้น้องเจมส์และเจ้านายสีนิลเป็นแขกที่มาร่วมโต๊ะอาหารด้วย พูดคุยเสียงดังแข่งกับสายฝนที่ตกๆ หยุดๆ บางครั้งเห็นสายหมอกล่องลอยอยู่เบื้องหน้า อรรถรสของอาหารมื้อนี้คือบทสนทนาและแทรกเสียงหัวเราะที่หยอกเย้าระหว่างคนท้องถิ่นกะผู้มาเยือน มิตรภาพยังคงหอมกรุ่น เชื่อว่าหากใครได้ลองแล้วจะติดใจไม่ต้องมีผลประโยชน์ใดๆ แต่ก็ซื้อใจผู้ที่สัมผัสได้เสมอ
หลังจากเมาท์มอยส์บวกกับดื่มแอลกอฮอล์ลดความหนาวเย็น ยิ่งพูดคุยยิ่งรู้จักกันมากขึ้น น้องเจมส์โดนฤทธิ์ปากของสาวๆ เดอะแก๊งฯ จนมึน 555 ถึงกับเข็ดหลุดปากออกมาว่า "กับคณะอื่นนี้ผมยินดีให้กลับมาเยือนอีกครั้ง แต่สำหรับพวกพี่ โผ้มขอเถอะคับ !!!ไม่ต้องมาแล้วก็ได้ ส่งไลน์มาถามก็พอ" มีการยกมือไหว้ท่วมหัว กลัวไม่เชื่อ 55555 ใครอยากรู้ว่าน้องเจมส์เจออะไรคงต้องไลน์ไปสอบถามหรือไปเจอตัวเป็นๆ เอาเองแล้วหละ >>>>โว๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ สบายใจหละได้ปล่อยหมาไปหลายตัว ^^


Hill House คือที่พักของน้องเจมส์ เสียดายที่เดอะแก๊งฯ ไม่ได้พักแต่ก็ได้มาเยี่ยมชม ขอบอกบรรยากาศดีมาก ตรงระเบียงสามารถมองเห็นทางขึ้นเขาช้างเผือก แต่วันนี้พี่หมอกมาเยี่ยมหนาแน่นเหลือเกิน ไม่เป็นไร โอกาสหน้ายังมี ^^ 

อ้าว!!! สีนิล พักค้างที่นี้หรอกหรา 5555 ณ บ้านสะพานหมอก เจ้าของคือกอล์ฟเพื่อนสนิทของเจมส์ มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าตกแต่งห้องน้ำได้สวยงามมาก อยากเข้าไปชมแต่เสียดายลูกค้าเต็มเลยไม่มีโอกาสได้เข้าไปเบิ่งด้วยสายตาตัวเองเลย 




















เส้นทางเย็นสบาย ยิ่งสูงยิ่งตื่นเต้นกับฉากสายหมอกเบื้องหน้า