ทริป " ปางอุ๋ง- แม่ฮ่องสอน " 2 วัน 3 คืน แค่เสาร์-อาทิตย์ กับงบนิดๆ 2,500฿

 

 

:: หนาวนี้จะไปไหน หน้าหนาวมีในประเทศไทยไหมมมมม !!!!!!! ตอบบบบบบบ ขึ้นไปทางภาคเหนือสิคะและเมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม ใครๆก็คงจะคิดถึงสถานที่ที่เป็นเมืองแห่งขุนเขา สายลม ไอหมอก ไอแดดจางๆ อากาศหนาวๆ แต่เรากลับคิดถึงสายน้ำ แสงแดด ไอหมอก ป่าสน และภูเขาถ้ามีทุกๆอย่างรวมอยู่ในที่เดียวกันก็คงจะดีสินะ ปิ๊งป่อง !! สวิสเซอร์แลนด์แดนสามหมอก ก้อ " ปางอุ๋ง  " ไง จะที่ไหนล่ะ !?

:: ที่นี่เป็นที่ๆเราเคยพูดกับใครคนหนึ่งไว้ว่า เดี๋ยวไว้เรามาที่นี่ด้วยกันนะ เค้าอยากมาถ่ายรูปที่นี่แล้วเป็นไงละ สึส!!!! แม่งประโยคอาถรรพ์ เลิกกันทุกรายค่ะ หึหึ

:: ไม่เป็นไรเราเป็นสตรีที่มีความสตรองมากพอ ตอนแรกที่คิดไว้ เฮ้ย !! ไหนๆก็ไหนๆล่ะขอลุยเดี่ยวเลยล่ะกัน  แต่ช้าก่อนมีชะนีเพื่อนนางหนึ่งเพิ่งกลับมาจากนิวซีแลนด์ พอ นางรู้ว่าเราจะไปคนเดียวเท่านั้นแหละ นางเบรคค่ะ !!!!!  
“ แกจะไปคนเดียวนี่นะ  บ้าป่าว ”
" ฉันไม่ได้บ้า ไม่เป็นไรชิวๆ  โสดๆ ...สวยๆ สบายย 5 5 5 ”

จบบทสนทนานั้นหลังจากที่เราไม่ได้เจอและคุยกันนาน เลยคิดว่านางกลับมาไทยครั้งนี้ นางก้อว่างถ้าอย่างงั้นก็ลากนางไปด้วยซะเลย กู๊ดดด !!! ไอเดีย  จะได้มีเพื่อนแก้เหงา แก้เศร้าและมีคนหารเพิ่มด้วย ฮ่าๆ จึงเกิดเป็นทริปกะทันหันแบคแพจ แบกกล้องของชะนีตัวเล็กๆ แสบๆกัน 2 คนอลเวงนั่นเอง   Let's go ....>>>>      

 

:: ก่อนอื่นเลยนะเราแพลนเรื่องการเดินทางไว้ว่าจะนั่งรถทัวร์ไปเพราะมันแค่ต่อเดียวและก็เซฟเงินในกระเป๋าด้วย จึงตัดสินใจที่จะจองตั๋วของสมบัติทัวร์ ต้องก่อนออกเดินทางล่วงหน้า ไม่งั้นเต็ม !!!
การเดินทางจากกทม.ขึ้นที่เราสถานีขนส่งหมอชิต หรือใครสะดวกวิภาวดีก็ไปขึ้นตรงนั้นก็ได้ สิ้นสุดปลายทางที่ขนส่งแม่ฮ่องสอน รถทัวร์มี 2 รอบคือ

 

รอบที่ 1 >> 17.00 - 08.00 
รอบที่ 2 >> 18.00- 09.00
และอีกรอบออกตอน 20.00 จากหมอชิตถึงที่แม่สะเรียง แต่แม่สะเรียงก้อห่างไกลจากขนส่งพอสมควรค่ะ
เราเลยเลือกรอบ 18.00 ค่ะ รถออกตรงเวลา ฉะนั้นต้องมาให้ทันนะคะ

ใครสงสัยเรื่องการเดินทางโทรถาม สมบัติทัวร์ได้เลยนะคะหาเบอร์ได้จาก Google ค่ะ     ตั๋วจะเป็นหน้าตาแบบนี้ มาปริ้นที่ขนส่งได้เลยนะราคาก็ตามนี้เลยค่ะ  

  พวกเรามาถึงขนส่งแม่ฮ่องสอนประมาณเกือบๆ 9 โมงเช้า โดยเรามาแบบโนแพลนค่ะ ที่แน่ๆขอแค่ได้ขึ้นปางอุ๋ง แต่พวกเรามีเวลาแค่ 1 วันกะอีกครึ่งวันพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ก็ต้องกลับแล้ว เอายังไงดี!!!! ตอนแรกเรากับเพื่อนกะว่าจะเช่ามอเตอร์ไซต์แล้วขับแว๊นท์เที่ยวในแม่ฮ่องสอนกันก่อนค่อยขึ้นปางอุ๋ง แต่พอเอาเข้าจริงก็คงไม่ไหวแน่ พวกเราเลยตกลงที่จะเช่ารถตุ๊กๆเที่ยวกันของคุณลุงคนหนึ่งที่เขาเสนอมาว่า จะพาไปเที่ยวหลายๆที่ในตัวเมืองก่อน แล้วค่อยไปส่งที่ปางอุ๋ง ตอนแรกเราก็ลังเล แต่ด้วยความที่ขับมอเตอร์ไซต์ก็ไม่ค่อยแข็ง ขึ้นเขา ลงห้วย หักเลี้ยวหลายพันโค้งคงไม่รอดแน่ และไหนจะสัมภาระกระเป๋าและแบกกล้องกันมาคนละ 2 ตัวอีก ขาตั้งกล้องอีก ตายๆแน่ ฮ่าๆๆ พวกเราเป็นพวกผู้หญิงบ้าพลัง+บ้าหอบฟางค่ะ จึงตัดสินใจที่จะเหมารถคุณลุงเที่ยวกัน คุณลุงใจดีแถมอย่าต่อรองราคาได้อีกด้วย งี้สิคะ... น่ารัก ดีลลลล ตามนั้น !!!!!  

 

:: นี่เป็นชื่อและเบอร์โทรของคนลุงที่ขับรถตุ๊กๆ พาเราทัวร์นะคะ แกชื่อลุงจันทร์ เผื่อๆเพื่อนๆคนไหนสนใจจะใช้บริการก็ตามนี้เลยค่ะ    

 

:: ทริปสตาร์ท  

 

ก่อนที่จะออกเดินทางขอเริ่มต้นด้วยอาหารเช้ากันสักมื้อ  คุณลุงเขาแนะนำข้าวมันไก่ร้านนี้ค่ะ

ราคา  40  บาทรสชาติดีทีเดียวเชียว แกเล่าให้ฟังว่ามีทั้งประชาชนคนธรรมดาและดาราที่มาถึงต้องมาเยือนร้านนี้นะ ฮ่าๆ พวกเราก็โอเคร ลุงจอดไหน  หนูก้อไปทานที่นั้นแหละค่ะ  

 

 

พวกเราเป็นคนกินง่าย  อยู่ง่าย  สบายค่ะ พอท้องอิ่มก้อลุยกันต่อ ได้เวลาเริ่มเดินทางค่ะ  

 

 

ที่แรกที่จะไป คือ 

:: 1. พญาห้วยเสือเฒ่า หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว

ที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีคนพื้นเมืองและคนท้องถิ่นเขามาขายสินค้าพื้นเมือง ผ้าไหม ผ้าทอ ชุดของทางชาวเหนือ เครืื่องประดับ และของที่ระลึกต่างๆสามารถหาซื้อได้ที่นี่เลยนะคะ   

 

  มีคนมาขอถ่ายรุปด้วย เราก็ขอแจมสิคะ จะรออะไรล่ะ !!  

 

  :: 2. แวะถ่ายรูปดอกบัวตองที่เหลืออยู่อันน้อยนิด  

   

       ดอกบัวตองเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของดอกไม้ของจ.แม่ฮ่องสอน ถ้าพูดถึงนะก็ต้องคิดถึงสีเหลืองของดอกนี้เลย เค้าาบอกว่าถ้าไม่ได้ถ่ายรูปนี่เหมือนมาไม่ถึงเมืองนี้ เค้านี่ใครฟระะะะ !!! แอบคิดในใจ แต่ไหนๆก็มาล่ะ ลุงแกก็แวะจอดให้  พี่ก็ขอเซลพี่หน่อยเหอะ

 

   ดอกนี่เหลืองอร่ามงดงามมากจริงๆ อยากเจอทุ่งดอกบัวตองบานที่เยอะๆ  แต่คุณลุงเขาบอกว่าต้องมาตอนเดือน พ.ย. นะตอนนั้นเยอะๆจริงๆ ตอนนี้ไม่มีแล้ว มีเป็นหย่อมๆแค่นี้แหละหนู คุณลุงได้กล่าวไว้
  ไม่เป็นไรค่ะ TT-TT ปีหน้าค่อยมากันใหม่  

 

เจอพวกดอกไม้อย่างดอกคอสมอส แกก็แวะจอดให้พวกเราแชะภาพนะ แกดูชิลๆ และเข้าใจชะนีแบบพวกเราอ่ะ ไปกันต่อดีฟ่าเดี๋ยวจะไม่ถึงที่หมาย สถานีต่อไป  คือ

 

::  3. พระธาตุดอยกองมู

 

 

สิ่งสักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน  คู่เมืองของจ.แม่ฮ่องสอนค่ะ

 

 

ไหนๆก็มาถึงแล้ว  แวะมาไหว้พระสักการะกันสักหน่อยเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ   ที่นี่เขาจะมีให้ไหว้พระประจำวันเกิดด้วยนะคะ โดยจะต้องสวดเวียนก่อน  3  รอบแล้วค่อยนำดอกไม้ไปไหว้ตรงพระประจำวันเกิด ดอกไม้ก้อมีหน้าตาสวยงามแบบนี้เลยค่ะ  

 

 

ยังๆที่นี่  ยังสามารถมองเห็นมุมโดยรอบของทั้งเมือง  เขาบอกว่าเป็นจุดชมวิวชั้นดีเลย

 

 

ยังๆไม่หมดทางด้านหลัง เค้ามีร้านกาแฟบนนี้ด้วยนะเอออ

 

 

ได้ดื่มกาแฟและชมวิวบนเขา ชีวิตดีไปอีกกกกก อยากอยู่แบบนี้นานๆจัง 5555555 เดี๋ยวๆวันจันทร์ต้องกลับไปทำงานนะ อย่าเพิ่งมโนไปไกล !!!!!!

 

 

มีมุม ชิคๆ คูลๆ ให้พวกเราได้ถ่ายรูปกันด้วยนะค๊าาา

 

 

เดินๆไป เจอน้องแมวด้วย อร๊าย !!!! แพ้ความขี้อ้อนและน่ารักของแมว ทูนหัวของบ่าวนอนให้ถ่ายรูปแต่โดยดี ถ่ายจริงๆเป็นสิบช็อตเลย

แต่เอาเถอะลงช็อตเดียวพอเนอะ  เดี๋ยวจะเบื่อกันก่อน ไปค่ะไป...สถานีต่อไป >>>>>  

 

:: 4. สะพานไม้ซูตองเป้  

 

เป็นสะพานไม้(โครงสร้าง เสา-คาน) ส่วนพื้นปูด้วยไม้ไผ่ที่ทำในลักษณะพื้นสับฟาก พื้นขัดแตะ(เหมือนฝาบ้าน) และพื้นไม้ไผ่สาน มีความกว้างประมาณ 2 เมตร แต่ยาวถึง 500 เมตร ซึ่ง เขาว่ากันว่า เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวสุดในไทย  

 

 

คือจะบอกว่าแม่ฮ่องสอนตอนกลางวันร้อนมากค่ะ  ตับแล่บบบ!!!! ที่เห็นใส่เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาวนี่  คือ กันแดดนะคะ แฮะๆ

 

 

ทริปนี้เราจะไม่เน้นอธิบาย เน้นดูวิวล่ะกันนะ

 

 

ทางด้านบนก็จะมีที่ให้ไหว้พระกันด้วยนะคะ เดินๆไปอาจจะเหนื่อยหรือร้อนแต่พอได้ขึ้นมาเห็นวิวแล้วก้อหายเหนื่อยเลย

 

 

 

:: 5. บ่อโคลน

 

 

สำหรับใครที่ยากจะมาทำสปา มาสก์หน้า  แช่เท้าที่นี่มีครบครันเลยนะ

อุดหนุนของพื้นเมืองของเค้าและดีก้อมีนะเออ

 

 

 

:: 6. อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา

 

 

ใกล้ๆมีน้ำตกด้วยแต่เราไม่ได้แวะไปกันค่ะ  เวลาน้อยไม่ทันแล้วจริงๆ เลยได้แต่แวะมาให้อาหารปลาที่นี่แปบนึง

 

 

มีปลาเยอะแยะเลย อากาศที่นี่ก้อดีเย็นสบายเหมาะแก่การมาพักผ่อนมากๆเลยนะ

 

รีบไปกันต่อดีกว่าค่ะ  สถานต่อไป >>>>>  

 

 

:: 7.หมู่บ้านรักไทย   

 

ที่สุดท้ายแล้วก่อนได้ขึ้นปางอุ๋ง ที่เขาร่ำลือกันว่าสวยหนักหนาต้องมาให้ได้แต่กว่าจะขึ้นมาถึงที่นี่ได้จากถ้ำปลาใช้ระยะทางประมาณ ชม. กว่าๆจะถึง
แต่พอมาถึงแล้ววิวสวยงามตามที่ได้ร่ำลือ วิวอลังการล้านแปดมาก ลมเย็น อากาศดี สบายยยยเลย

 

 

มัวรอช้าอยู่ไย ลงไปชมวิวกันดีกว่าาาา

 

 

พวกเราใช้เวลากับการเซลฟี่ที่นี่นานมาก อากาศดีและสวยมากค่ะ สัญญาเลยว่าครั้งหน้าจะหาโอกาส


มาพักที่ลีไวน์รักไทยแห่งนี้ให้ได้เลย  ครั้งนี้เวลาน้อยเรากับเพื่อนต้องรีบขึ้นปางอุ๋งแล้วจึงต้องรีบถ่ายรีบกลับ

 

 

แปะโป้งไว้แล้ว ปีหน้าต้องมา บ๊ายยยย...บาย แล้วเจอกันใหม่นะ      

 

 

:: และที่สุดท้าย " ปางอุ๋ง " ที่เราใฝ่ฝันและตั้งใจไว้ว่าจะมาให้ได้กี่ร้อย...กี่พันโค้ง ก้อไม่หวั่น !!

โค้งแล้ว โค้งเล่าดีนะที่ไม่เมารถ มัวแต่เพลินกับวิวของ 2 ข้างทาง ฮ่าๆ

 

ปาดแล้ว ปาดอีก.... โค้งแล้วโค้งอีก  ในที่สุด เย้ !!!!! มาถึงจนได้  

 

 

พอมาถึงเรารีบติดต่อคุณกิ๊กที่จองเต็นท์ไว้เลย ที่นี่ก็จะมีเต็นท์หลายขนาดแต่เรามากันแค่ 2 คน พวกเราจองเต็นท์เล็กนะคืนละ 250฿/หลัง  จะมีมีหมอน ที่นอน  ผ้าห่มให้ครบค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง

 

 

พวกเราได้เต็นท์ริมน้ำ ใกล้ๆสะพานที่ยื่นออกไป วิวดีเชียวล่ะ พอเดินไปที่เต็นท์เอาของไปเก็บเท่านั้นแหละ 

อิแม่เอ๊ยยยย !!!! น้องหงส์ขาว มาเป็นคู่กำลังกินอาหารและน้ำอยู่ เรานี่....กรี๊ดดด !!!!!! มากค่ะ

 

 

รีบหยิบกล้องออกมาสิคะ รออะไร !!

คือ แสงหมดจะค่า ฟ้าครึ้มจะๆ หน่อยๆนะ รีบๆถ่ายก่อนน้องหงส์จะโบกมือลาว่ายน้ำสวยๆหนีไปก่อน

 

 

แต่ได้เห็นน้องหงส์แค่นี้ก้อคุ้มล๊าววว ยังๆไม่พอ เจอหงส์ดำด้วยยยย

 

 

มาแบบสวยๆไม่แพ้กันเลยยยย มัวแต่ถ่ายรูปโน่น นี่ นั่นพวกเราต้องรีบเก็บของและไปอาบน้ำก่อนฟ้าจะมืด  เพราะถ้าดึกๆน้ำคงเย็นมาก ไม่มีน้ำอุ่นต้องเดินไปอาบน้ำทางโน้นๆๆๆ ไกลเชียวล่ะ

 

 

ไม่ได้เก็บภาพห้องน้ำมาฝาก ชมภาพวิวไปพลางๆล่ะกันเนอะ

 

 

 

 

:: สำหรับมื้ออาหารที่นี่ที่ใครถามถึง พวกเราก้อแค่กินข้าวเหนียวหมูปิ้งกับโจ๊กกระป๋อง จัดไปเบาๆ

ไม่ขอจัดหนักหมูกะทะตามกระแสนะ เพื่อนเรากินไม่ไหวเลยขอบายค่ะ แอลกอฮอล์ก้อไม่ยุ่ง    ทริปนี้มาแบบใสๆ 55555555555++  !!  

 

 

รู้แต่ว่าภารกิจคืนนี้ขอออกตามล่า หาดาวกันนะ....

ไหนดาวววววว ขอดาวหน่อย พลีสสสสสสสส!!!!!

 

 

เจอแล้ว ขอเก็บไว้ให้เธอได้ไหม เธอนิเธอไหน ?? ไม่มี...เพ้อเจ้ออออออออออ   ครั้งแรกเลยนะที่อยากถ่ายดาว  ก็ได้ดาวววววว...   อยากถ่ายหงส์ขาวก้อได้ถ่าย  ในชีวิตถ้าอยากทำอะไรก็ต้องรีบทำ อยากไปไหนก็ต้องได้ไป !!


แต่กว่าจะได้ภาพนี้มา นั่งตากน้ำค้างมืดๆอยู่คนเดียวนานเกินครึ่งชม.เลยสาบานนนน  เหอะ !!



กว่าจะปรับค่าตั้งกล้องให้ได้ดาวบนฟ้าแบบนี้ ใครบอกว่าง่าย มันไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ไม่อยากเกิน   ความสามารถและความพยายามของสตรีที่สตรองและสวยงามคนหนึ่ง  5555555 (อันหลังขอมโน)  

 

 

ตามนี้เลยค่ะ....เผื่อใครอยากรู้นะว่าเซตค่ายังไง เพราะเราเองก็งมโข่งตามนี้เหมือนกัน

พอถ่ายได้ดาวแล้วก้อนอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงเตรียมเที่ยวกันต่อ  

 

 

  นอนไม่หลับเลย ...อากาศหนาวมาก เราว่าคง10 องศาหรือไม่ก็ต่ำกว่านั้นแน่ๆ หนาวขนหัวลุก   เสื้อสองตัว หมวก ผ้าพันคอก้อเอาไม่อยู่นะจุดนี้  สงสัยครั้งหน้าคงต้อง หา...มาด้วยแล้ว    แค่ชะนีสองคนนอนสั่นกันระทม มิค่อยไหวเลย ฮ่าๆๆ       :: แต่เป็นสตรีต้องหัดสตรองค่ะ อย่าอิดออดอ่อนแอตามสโลแกนที่ให้ไว้ข้างต้น ฮึ่บๆเช้าแล้ว   ออกไปลุย เก็บภาพบรรยากาศของปางอุ๋งสวรรค์บนดินอันน้อยๆของเรากันเถอะ !!

 

 

 

แต่งตัว เก็บของกันเสร็จแล้ว ก้อเตรียมไปล่องแพกันต่อ !! เฮ้  ราคาก็ 150 บาท/2 ท่านตามป้ายเลยนะ

 

 

" โ ค ต ร ชิ ว . . . คื อ วิ ว โค ต ร ดี "



เห็นตรงนั้น ที่มองไปไกลสุดลุกหูลูกตา บางครั้งภาพตรงหน้าก้อสวยงามมากๆเกินกว่าที่กล้องจะจับรูปไว้ได้หมด



ใช้ความทรงจำและหัวใจเก็บภาพแทนนะ ถึงเราจะชอบถ่ายรูปมากแค่ไหน แต่บางทีกล้องมันก้อเก็บความทรงจำได้ไม่หมดและดีเท่ากับหัวใจเราเอง

 

 

แอบเสียดายที่ยามเช้าของเราไม่มีสายหมอกและแสงแดดอุ่นๆบนผิวน้ำ มีแต้ฟ้าครึ้มๆ อึนๆ

พระอาทิตย์ก็ขึ้นตอนสายมากๆ ซึ่งเป็นตอนที่พวกเราจะต้องกลับแล้วนั่นเอง

 

 

เขาว่ากันว่า เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ !!

 

 

จนกว่าเราจะมาพบกันใหม่ เย้ !!!!! ....

มักจะมาพบกันอีก เฮ้ (เปลี่ยนเนื้อร้องซะงั้น)  

 

 

ขากลับเราต้องนั่งรถสองแถวสีเหลืองคนละ 90฿ คันนี้แหละค่ะ


กลับไปที่ขนส่งแม่ฮ่องสอนตอนที่เราขึ้นรถทัวร์ไง    เวลารถเหลืองนี้จะมาสองรอบ คือ ตอน 05.30 และ 11.00 โมง

ได้เวลาโบกมือลา ปางอุ๋งแล้ว....แต่เราไม่ลา ขอสัญญาว่าปีหน้าจะกลับมาแก้ตัวใหม่

หมอกจ๋า แดดจ๋า...แสงสวยๆจ๋า ขอเราเจอกันอีกนะปีหน้าฟ้าใหม่  

 

 

การเดินทางของฉันและเธอ คือ การเรียนรู้ 

การเรียนรู้ของเราสองคน  คือ ทริปนี้ไง...ปางอุ๋ง - แม่ฮ่องสอนไม่ไปเอง ก็ไม่รู้  

 

 

เรามีความเชื่อเสมอว่าทุกๆครั้งที่ออกเดินทางมันทำให้เราเรียนรู้และพบกับประสบการณ์ใหม่ๆที่หาไม่ได้จากในหนังสือ

หรือดูรีวิวแน่นอน คุณต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจะหลงรักการเดินทางแบบเรา   กล้องที่ใช้  คือ Canon750d และกล้อง Fuji-XA2ค่ะ 

สรุปค่าใช้จ่ายตอนไปปางอุ๋ง-แม่ฮ่องสอน
- ค่ารถทัวร์ไปกลับ 1,382/ คน(สมบัติทัวร์)
- ค่าเต็นท์ 250฿/ 2 คน 1 คืน
  เช่ารถตุ๊กๆเที่ยวแม่ฮ่องสอน 1,200฿/2 คน  ใครสนใจเรื่องตุ๊กๆหลังไมค์มาได้เลยค่า
- ค่าชารต์แบตมือถือคนละ 20฿/ ครั้ง (ตอนอยู่ปางอุ๋ง)
- ค่าชารต์แบตกล้อง 40฿/ ครั้ง (ตอนอยู่ปางอุ๋ง)
- ค่าของใช้ 30฿/ คน
- ค่าอาหารกลางวัน 50฿/ คน
- ค่าอาหารเย็น (โจ๊กป๋องใส่ไข่ + โอวัลติล ) 40฿
- ค่าอาหารเช้า (หมูปิ้ง 55฿)
- ค่าล่องแพ 150฿/ 2 คน
- ค่ารถสองแถวกลับจากปางอุ๋งไปแม่ฮ่องสอน 90฿/ คน
- ค่าแอลกอฮอลล์ฺ 0
ค่าใช้จ่ายรวม ~~ 2,507฿ ทำได้จริงๆ เพราะโนดริ้งค์และกินอาหารกันไม่ค่อยเยอะค่ะ

จบแล้วนะคะสำหรับการรีวิวครั้งนี้ หวังว่าทุกๆคนที่หลงเข้ามาคงได้อะไรจากการเดินทางของพวกเราไม่มากก็น้อย ขอให้ทุกๆท่านที่ตามรอยเราเดิางทางโดยปลอดภัยและเที่ยวให้สนุกนะ ชีวิตเราใช้ซะ !!   ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า ค่าาาาาาา ^________^  ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม

 

สุดท้ายถ้าชอบการถ่ายรูปของเรา ก้อฝากติดตามเพจด้วยนะคะเดี๋ยวจะอัพภาพฟิล์มที่ถ่ายปางอุ๋งไว้ในเพจค่า :)

https://www.facebook.com/P-o-L-y-P-l-o-Y-1450239361956358/