ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
ทริปคนใจง่าย พาเดิน "งง" ในคำชะโนด ป่าคำชะโนด (Kham Chanot Forest) จ.อุดรธานี
    • โพสต์-1
    Taya@ •  กุมภาพันธ์ 27 , 2561

    แผนมีไว้วาง.. จริงจริง ^^

    นานแล้วที่น้องมังคุดรถคันเล็กๆคู่ใจ ไม่ได้ออกตระเวนเที่ยว ถูกจอดทิ้งไว้หรือไม่ก็ ตุเลง ตุเลง อยู่ในกรุงเทพฯ ปีนี้ตั้งเป้าจะเก็บแต้มจังหวัดทางภาคอีสาน พอไลน์ดังถาม “เจ้…..น้องอยากไปคำชะโนด ว่างป่าวววว” ตื่นเต้นๆ รีบบอกเลย “ว่างงงงงงงงง แต่ไม่มีตังค์นะ” 5555 รีบตอบตกลงไปโดยไม่รู้เลยว่า “คำชะโนด” นี้อยู่จังหวัดไหน หรือจะอยู่แถวถนนรามคำแหง เอ้!!! นั่นมันร้านอาหารป่าวน้า >>> ยอมรับโดยดีว่า “เชย” จึงต้องรีบหาข้อมูลเพราะเคยได้ยินชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่สำหรับนักเสี่ยงโชคด้านตัวเลข >> ไป เราไปกันแบบตังค์มีน้อยแบบนี้แหละ ^^

    ทริปนี้คิดกันออกในวันพฤหัสบดี ไปกันคืนวันศุกร์ เรียกได้ว่าคิดปุ๊ป ไปกันปั๊บ ไม่สนใจเงินในกระเป๋ากันเล้ย ทริปคนใจง่ายก็งี้แหละ 5555

    กว่าจะเคลียร์งาน ฝ่ารถติดในเย็นวันศุกร์ เวลาก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มกว่าที่ได้ออกนอกเขตกรุงเทพฯ ราตรีนี้อีกยาวไกล…. มองตาก็รู้ใจ ไม่มีการวางแผนว่าจะนอนที่ไหน เพราะง่วงที่ไหนก้อนอนมันตรงนั้นแหละแต่ต้องปลอดภัย เราเดินทางกัน 2 สาว เป็นคนง่ายๆ นอนได้หมดทุกที่ 5555 คิดวางแผนในระยะสั้นๆ ว่าต้องไปให้ถึงตัวเมืองโคราชก่อนเที่ยงคืนเพื่อหาปั้มนอนเพราะเราจะเป็นแม่นางซินเดอเรลล่า ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนห้ามเกินเที่ยงคืน 5555 แต่ที่คิดวางแผนไว้กับความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างนั้นสิ บรรดารถบรรทุกออกวิ่งเยอะมากมาย จนน้องมังคุดไม่สามารถเหาะไปได้ต้องค่อยๆ หลบหลีกพี่ๆ สิบล้อ ทำเวลาไม่ค่อยได้ จึงต้องมาจอดตรงปั้มใหญ่เลยอำเภอปากช่องประมาณ 30 กิโล พอถึงเป้าหมายหาช่องจอดรถหน้า 7-11 และใกล้ห้องน้ำที่สุด พอถึงจุดปักหมุดเสร็จต่างคนต่างขอพื้นที่ส่วนตัวหลับเอาแรงกันตามระเบียบ ^^

    ป่าคำชะโนด หรือ เมืองชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลวังทอง ตำบลบ้านม่วง และตำบลบ้านจันทร์ ในอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นป่าที่มีลักษณะเหมือนเกาะขึ้นอยู่กลางทุ่งนา เต็มไปด้วยต้นชะโนด ซึ่งเป็นพืชจำพวกปาล์ม ป่าคำชะโนดเป็นสถานที่ ที่ปรากฏในตำนานพื้นบ้าน เป็นสถานที่ ที่เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคและสิ่งลี้ลับต่าง ๆ 

    Cr.วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    ตี 3 ของอีกวัน หลับๆ สบายแต่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะนึกขึ้นได้ว่าต้องเดินทางอีกเกือบ 5 ชั่วโมง เราพึ่งอากู๋ Google Map อย่างจริงจัง ไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพประมาณ 650 กิโลเมตร เลือกเส้นทางผ่านจังหวัดนครราชสีมา-ขอนแก่น-อุดรธานี เข้าถนนหมายเลข 2023 ไปยังตำบลบ้านม่วง ก่อนเข้าสู่ถนนหมายเลข 2350 เวลาเช้ามาก สนุกสนานกันในรถ แหกปากร้องเพลง ถ่ายคลิปและถ่ายทอดสดใน IG เส้นทางสวยงาม ขับรถง่ายถนนโล่งและพื้นถนนยังอยู่ในสภาพดี ภูมิใจเพราะเป็นทริปแรกที่ไม่มีหลงทางและไม่ทะเลาะกะอากู๋ กูเกิล 5555

    คิดกันต่อ แล้วคืนนี้เราจะนอนไหนกันดีเพราะยังไม่ได้จองโรงแรมหรือที่พักเลย แต่เท่าที่ดูข้อมูลมา ในเขตอำเภอเมืองอุดรธานีมีที่พักและราคาเป็นกันเองจนถึงขั้นเรียกได้ว่า "ถูก" มีอยู่เยอะ เลยไม่ค่อยเครียดเท่าไร แต่นึกขึ้นได้ เห้ยยย!!! เรามีญาติอยู่ขอนแก่นนี้หน่า จะช้าไปใยรีบโทรบอกนัดแนะกับเจ้าของบ้านกันก่อนเดี๋ยวจะกลายเป็นมาเซอร์ไพรส์แล้วโดนเซอร์ไพรส์กลับซะเองอีก สบายใจหายห่วงไปเรื่องที่พัก 5555

    เส้นทางมาง่ายแม้ค่อนข้างไกลแต่สะดวกมีป้ายบอกตลอดทาง ที่สำคัญมีเพื่อนร่วมทางที่เดาได้ว่าต้องไปป่าคำชะโนดด้วยกันแน่ๆ เลยขับตามๆ เขามา มีคันหนึ่งขับมาถึงเลี้ยวเข้าบ้าน ไอ้เราก็ เห้ยยยย !!! จะเลี้ยวเข้าบ้านตามเขาด้วย 5555 ผลัดกันขับตามและขับนำ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอีกจึงอาศัยอากู๋และป้ายข้างทางตลอด แต่ให้อภัยได้เพราะสองข้างทางถึงแม้จะดูแห้งแล้ง แต่ก็มีความสวยงามไปอีกแบบ อิอิ ^^

    การเถลไถลไปกับข้างทางถือเป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ไปถึงจุดหมาย ที่ป่าคำชะโนด การบริหารจัดการดีใช้ได้ ร้านค้า สถานที่จอดรถทั้งจอดฟรีและเก็บเงินก็ถือได้ว่าเหมาะสม ส่วนการบริการให้สามผ่าน เมื่อมาถึงก็เพลิดเพลินกับร้านค้าขายของฝากของที่ระลึกกัน เลยต้องรีบทักว่ารีบเข้าไปไหว้ก่อนแล้วค่อยออกมาดีกว่า ทางเข้ามีจุดถอดและฝากรองเท้าเพราะทุกคนที่เข้าไปบริเวณด้านในจะต้องถอดรองเท้าทั้งหมด ระหว่างทางจะพบเห็นผู้ขายล๊อตเตอรีร้องเรียกให้มารับโชค ไอ้เราก็ยืน งง !! ไม่รู้จะไปทางไหนดี เพราะคนโน้นก็เรียก คนนี้ก็ร้องทัก แต่เราได้แต่ยืนมองๆ พี่คนขายถามว่าเห็นเลขอะไรหละ เลยบอกไปว่าเห็นเยอะแยะเลยตั้งแต่เดินเข้ามา ทั้ง 99, 189, 250, 359, 400 คนขายมองหน้าก่อนจะทำหน้างอน ๆ ก็เห็นจริงๆ ง่ะ ราคาตามป้ายขายของฝากจากร้านต่างๆ เค้าไม่ได้กวนตรีนน้า 55555 รีบไปดีกว่าก่อนที่จะโดนรุม 555 อากาศร้อน แดดแรงเริ่มทำให้แสบตา ดีนะที่ผู้คนยังไม่หนาแน่น เราเลยเดินเล่น ไหว้พระ ปล่อยปลาตามสเต็บสายบุญ

    ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผู้คนมาจากไหนกันเริ่มแน่นตั้งแต่ทางเข้าที่เป็นพญานาค 7 เศียรขนาบคู่ ซึ่งเป็นจุดเช็คอินและถ่ายรูปของผู้มาเยือนจำนวนมาก

    ระหว่างทางที่เดินเข้าไป ผู้คนถือพานบายศรีเป็นรูปพญานาคที่สวยงามเพื่อกราบไหว้และบนบาน สังเกตผู้คนที่เดินเข้าไปต่างเอามือลูบลำตัวรูปปั้นพญานาคไปด้วย แต่เรากำลังแปลกใจกับภาพตรงหน้าที่มีความชุ่มฉ่ำและร่มเย็นของต้นไม้ต่างจากด้านนอกที่ดูร้อนและแห้งแล้ง พอมาถึงผู้คนยิ่งหนาตา บวกกับความร่มรื่นของต้นชะโนดที่สูงลิ่ว ชะงักเล็กน้อย มองไปรอบๆ ผู้คนส่งเสียงเฮเป็นช่วงๆ และรุมกันมุงดู บ้างส่งเสียงเรียกญาติหรือเพื่อนที่มาด้วยให้มาช่วยดู ไอ้เราก็พลอยสงสัยว่ามุงดูอะไรกัน ก็เข้าไปถามจนรู้ว่าเขาเห็นงูบ้าง กระรอกบ้าง ตีเป็นตัวเลขกันไป อารมณ์ตรงนั้นพลอยตื่นเต้นไปกะเขาด้วยเรียกได้ว่าสถานการณ์พาไป แต่เราดันไม่เห็นอะไรเลยนี้สิ 5555 ก็ว่ากันไป
    • โพสต์-2
    Taya@ •  กุมภาพันธ์ 27 , 2561

    เริ่มตื่นเต้นแล้วสิ ^^

    มาที่นี้แบบไม่มีข้อมูลอะไรมากมายในหัว เลยตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า ผู้คนแห่กันมาจนแน่นขนัด เราเดินปลีกออกไปถ่ายรูปในแต่ละมุม ชอบบรรยากาศที่ถึงแม้ผู้คนจะมากมายแต่ดูสงบร่มเย็น ชอบตรงป้ายที่ปักแจ้งผู้คนให้ทราบถึงข้อห้ามต่างๆ แต่ กฎมีไว้แหกและไม่เชื่อขอทำตามใจนี้แหละคือไทยแท้ 5555

    ป่าคำชะโนดมีประวัติที่น่าสนใจจะเกี่ยวข้องกับพญานาคที่เป็นความเชื่อและสิ่งลี้ลับ รวมถึงเรื่องราวที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักของผู้คนในเรื่อง "ผีจ้างหนัง' จากคำบอกเล่าต่อๆ กันมาถึงสถานที่อาถรรพ์ และตามความเชื่อจากทางรายการต่างๆ รวมถึงดาราที่มาพิสูจน์และประโคมข่าวในเรื่องราวแห่งความลี้ลับของสถานที่แห่งนี้ แต่ในความเป็นจริงความเชื่อกับความงมงายเป็นเพียงเส้นบางๆ ที่อาจจะแยกไม่ออกตามแต่ใจใครคิด แต่ยอมรับความฉลาดอันแยบยลในการต้องการอนุรักษ์พันธ์ุไม้ชะโนดและความร่มเย็นของพันธุ์ไม้ต่างๆ เหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ทึ่งในความรู้สึก

    ตามติดกันต่อกับความเชื่อที่สวยงามและความเป็นระเบียบของผู้คนในการทยอยกันเข้าไปกราบไหว้ "เจ้าปู่ศรีสุทโธ" และ "เจ้าย่าศรีปทุมมา" ที่ผู้คนเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมากด้วยความเชื่อที่ว่าองค์นาคาธิบดีศรีสุทโธเป็นมหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แผลงเศียรได้ 9 เศียรส่วนองค์นางพญาศรีปทุมมานาคิณีผู้เป็นชายาแผลงเศียรได้ 5 เศียร ทั้งสององค์โปรดปรานการฟังธรรมจากพระอริยสงฆ์มาก และเนรมิตวรกายเป็นเศียรเดียว หรือเป็นมนุษย์ก็ได้ 

    Cr. ตำนานป่าคำชะโนด

    ไม่สามารถฝ่ากลุ่มคนเข้าไปถึง และเข้าได้ใกล้ เจ้าปู่ - เจ้าย่า ได้มากสุดเพียงไกลๆ เท่านี้ จึงขอเดินสำรวจบริเวณรอบๆ ทางขวามือของศาลเจ้าปู่-เจ้าย่า คือบริเวณต้นมะเดื่อใหญ่ ผู้คนนิยมไปขอโชคลาภ
    เดินย้อนกลับไปที่ศาลเจ้าปู่-เจ้าย่าด้านซ้ายมือคือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างเดินย้อนกลับมา เจ้าหน้าที่รีบชี้มือและเรียกให้เข้าไปดูพร้อมกับผู้คนอีก 2-3 คน เลยถามว่าดูอะไรหรา เจ้าหน้าที่บอก "บริวารของเจ้าปู่-เจ้าย่า มาปรากฎให้เห็น" เราก็ หือ ?????  จนมาเห็นงูตัวขนาดย่อมๆ เลื้อยอยู่ใกล้ ๆ สงสัยเป็นเพราะคุ้นชินกับคนจำนวนมาก เจ้างูน้อยจึงหยุดเพื่อให้ผู้คนถ่ายรูปอย่างเชื่องๆ ไม่ดุร้ายออกจะสวยงามด้วยซ้ำ เสียดายที่กล้องไม่สามารถซูมเข้าไปได้อีก และก็หนีไม่พ้นเสียงผู้คนตีเป็นตัวเลขกัน 5555 เดินย้อนกลับทางศาลเจ้าปู่-เจ้าย่า เพื่อจะไปบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่มาสะดุดตรงระฆังใบใหญ่ 2 ใบ ที่ผู้คนยืนรอคิวกันเพื่ออธิษฐานและลูบเพื่อให้เกิดเสียง แต่ งง งง เล็กน้อย ตรงที่ เขาลูบกันด้านนี้หรา ?????

    ประมาณ 100 เมตรก็ถึงบริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นบ่อซีเมนต์กว้างพอประมาณ ผู้คนนิยมนำขวดน้ำเต้ามากรอกน้ำเพื่อนำไปชำระร่างกายและบางคนไว้ดื่มกิน แอบได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งยืนบอกวิธีการกรอกน้ำว่าให้อธิษฐานก่อน แล้วค่อยเอาน้ำราดหน้า ราดหัวหรือดื่มกิน แต่เราเกรงใจขอเอามาล้างมือล้างตัวนิดหน่อย ลูบๆให้เนื้อตัวพอเย็นๆ ก็พอ อิอิ

    ถึงเวลากลับแล้วสิ ก่อนกลับไม่ลืมที่จะแวะดูแผงล๊อตเตอรี่ ยังคงได้ยินคำถามเดิมๆ ที่ว่า "เห็นเลขอะไรหนู" มา มาเอาโชคไป" ก็ยังคงตอบเหมือนเดิมว่าเห็นเลขเยอะเลย คราวนีี้มาเป็นสิบตัว ไม่รู้จะตัดตัวไหนดี 5555  
    • โพสต์-3
    Taya@ •  กุมภาพันธ์ 27 , 2561

    เรื่องเที่ยวยังไม่หมด

    มาออกทริปทั้งที ไม่เคยมีที่จะไปแค่ที่เดียว เมื่อมาเยือนถึงอุดรธานี จากที่ดูข้อมูลไว้มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นสิบ แต่ขอไปตามเส้นทางที่ไม่ไกลกันมากและเป็นเส้นทางกลับที่พัก เลยเลือกที่จะไป "บ้านเชียง" เพราะดูจากแผนที่ไม่ไกลจากคำชะโนด ประมาณ 50 กว่ากิโล ลุยกันต่อเเลย คราวนี้มีสับสนเส้นทางนิดหน่อย จึงใช้วิธีสอบถามชาวบ้านน่าจะดีที่สุด เรามากันแบบ งง งง เพราะพอเห็นป้่ายบ้านเชียงปุ๊บ เลี้ยวปั๊บ แต่มันกลายเป็นแค่ประตูเข้าหมู่บ้าน

    รู้สึกประทับใจตรงที่พอขับรถเข้าเขตหมู่บ้านจะเป็นบรรยากาศที่ดูเป็นบ้าน บ้าน ธรรมชาติมากๆ สะอาดตา มีการจัดวางต้นไม้ดอกไม้ และแล้วก็มาถึงบางอ้อ อ๋ออออออ เขากำลังมีงาน "ฉลองมรดกโลกบ้านเชียง ปี 61" นี้เอง 

    สถานที่แรกเราปักหมุดกันคือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง มาช่วงนี้ถือเป็นจังหวะดีๆ กับการตะลอนทริปที่ประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด คือ การเข้าชมฟรี อิอิ อะไรมันจะดีต่อใจขนาดนั้น ถูกใจคนขี้งกกันเลยทีเดียว 5555

    ชอบบรรยากาศตั้งแต่เดินเข้าไป ลุง รปภ.ทักทายอย่างดี หรืออาจเห็นพวกเราหน้าตา งง งง เลยเข้ามาคุยและแนะนำเพราะอาจกลัวว่า 2 สาวจะหลงทาง 5555 เสียดายถ่ายรูปไว้เยอะแต่พอมาย้อนดูมือดันไปลบรูปซะหมด เสียดายจริงๆ ยังไม่ได้บันทึกเก็บไว้เลย เหลือแค่ไม่กี่ภาพที่มีติดในกล้องมือถือ TOT

    เราตามหาจุดที่เป็นหลุมขุดจริง ซึ่งพอสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ได้รู้ว่า หลุมขุดนั้นตั้งอยู่ที่วัดโพธิ์ศรีใน ระยะทางไม่ห่่างจากพิพิธภัณฑ์ ประมาณ 900 เมตร นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก ทำให้มีเวลาในการถ่ายรูป ยิ่งพอรู้ประวัติการค้นพบยิ่งรู้สึกขนลุก เพราะนี้คือมรดกโลกชิ้นแรกๆ ของไทย และเป็นการจัดแสดงในรูปแบบของพิพิธภัณฑสถานกลางแจ้งแห่งแรกของประเทศไทยด้วย

    ได้เวลาต้องกลับแล้วสินะ ทริปสั้นๆ แต่ระยะทางไกล ถือว่าคุ้มค่าเพราะได้เยี่ยมญาติ ได้มาไหว้ย่าโมที่โคราชในวันกลับ

    ได้ท่องเที่ยวในสถานที่ที่ยังไม่เคยมา กับค่าใช้จ่ายรวมแล้วไม่ถึง 3,000 บาท กับเส้นทางไป-กลับ 1,300 กว่ากิโลเมตร  น้องมังคุดน่ารักมากไม่งอแงระหว่างทางและไม่กินน้ำมัน ยังงี้ได้ไปเที่ยวกันต่ออีกหลายทริปเลยทีเดียว ^^