น้อมรำลึกถึงพ่อหลวง
เส้นทางการท่องเที่ยวครั้งนี้รู้สึกภาคภูมิใจและอาลัยไปในขณะเดียวกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีแต่ความเศร้าโศกทั้งประเทศที่ต้องสูญเสียองค์พระมหากษัตริย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิต ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่เก้าแห่งราชวงศ์จักรี ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ทราบข่าวการสวรรคตของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ปิดจบทริปต่างๆ ที่วางแผนไว้ต้องระงับและชะลอไว้ขอร่วมแสดงความอาลัยสมเด็จพ่อหลวงของชาวไทย
เลือกที่จะรวมตัวกับบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่กับสิ่งละอันพันละน้อยที่จะพอช่วยเหลือกันได้เพื่อทำกิจกรรมที่ท้องสนามหลวง แต่ด้วยสายเลือดของคนชอบเที่ยว จึงมีโอกาสเข้าไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ที่ถือเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนแห่งแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2402 เพื่อจัดแสดงข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะ โบราณคดี และชาติพันธุ์วิทยา ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังบวรสถานมงคลอยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และโรงละครแห่งชาติตรงข้ามสนามหลวง
หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเป็นจิตอาสา อิ่มใจและอิ่มท้องกับอาหารและเครื่องดื่มที่มีแจกอย่างดาษดื่น ขออิ่มตากับสถานที่ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ไว้สักนิด ต้องขออภัยหากข้อมูลที่ถ่ายทอดคลาดเคลื่อนกับความถูกต้องเพราะไม่ถนัดด้านประวัติศาสตร์
หากเป็นไปตามสถานการณ์ปกติจะมีค่าบัตรผ่านประตูเพื่อเข้าชมสำหรับคนไทย 30 บาท และคนต่างชาติ 200 บาท แต่ในช่วงที่ไม่ปกตินี้ไม่มีค่าเข้าชมสำหรับคนไทยแต่ต่างชาติไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ถามไถ่ ^^ พิพิธภัณฑ์ฯ จะเปิดในช่วงเวลาปกติ วันพุธ - วันอาทิตย์ แต่ช่วงเวลานี้อาจต้องโทรไปถามวันเวลาทำการ ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02 224 1396
ในวันที่อากาศไม่ค่อยมีแดด เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับซุ้มสำหรับจัดแสดงภาพถ่ายของเหตุการณ์ในช่วงตลอด 2 สัปดาห์หลังประชาชนชาวไทยทราบข่าวร้ายที่สุดและมีพระบรมฉายาลักษณ์เพื่อให้ผู้คนได้กราบสักการะถวายความอาลัยของกระทรวงวัฒนธรรม
ถัดเข้ามาข้างในด้านขวามือ คือ โรงราชรถ ใช้เป็นที่เก็บรักษาและจัดแสดงราชรถสำคัญของแผ่นดินรวมถึงเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศในการพระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ อาทิ พระโกศ พระแท่นสุวรรณเบญจดล พระแท่นแว่นฟ้า ฉัตร เครื่องประโคมต่างๆ เครื่องประกอบในริ้วขบวนพยุหยาตรา อัญเชิญพระบรมศพและพระศพสู่พระเมรุ อาทิ เวชยันตราชรถ ราชรถน้อย เรือพระที่นั่ง
พระโกศที่ทรงพระบรมศพและพระศพในลักษณะศพนั่ง มี 2 ชั้น ในสมัยอยุธยาเรียกพระโกศชั้นนอกว่า “พระลอง” และชั้นในเรียกว่า “พระโกศ” สมัยรัตนโกสินทร์เรียกกลับกัน ชั้นนอกเรียก “พระโกศ” ชั้นในเรียก “พระลอง” หรือ “พระลองใน”
พระโกศจันทน์จำลองทรงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7
พระโกศจันทน์จำลองทรงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สัตว์หิมพานต์ที่นำมาประดับพระเมรุเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของเขาพระสุเมรุอันเป็นแกนแห่งจักรวาลและเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตามความเชื่อด้านคติจักรวาลของไทย เพื่อเป็นทวารบาลพิทักษ์รักษาพระสุเมรุ เช่น นางกินรี ลักษณะครึ่งคนครึ่งนก
พระที่นั่งราเชนทรายาน
วัตถุโบราณในศิลปะสมัยทวาราวดี