ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน [Day3] ทุ่งดอกบัวตอง-ภูชี้เพ้อ ภูชี้เพ้อ (Phu Chi Phoe) จ.แม่ฮ่องสอน
    • โพสต์-1
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    [Day3] ทุ่งดอกบัวตอง-ภูชี้เพ้อ

    7วันที่ไป ถนนเส้นนี้ ทางสวยที่สุด วิวสวยที่สุด...ตายจิง...เหมือนเคยพู ดไปแล้วเมื่อวาน งั้นวันนี้
    "ท้องฟ้าและก้อนเมฆสวยที่สุด" ก็แล้วกัน 

    เส้นทางวันนี้คือไปดู ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ และไปค้างคืนที่ภูชี้เพ้อ 

    จากบ้านห้วยห้อม เราไปแวะกินข้าวที่ตัวเมือง อำเภอแม่ลาน้อย แล้วก็ยิงยาวไปทางอำเภอขุนยวม ไปดูดอกไม้ แต่ระยะทางที่ต้องเดินทางนั้นค่อนข้างไกล ราวๆ 122 กิโลเมตร ที่สุดแสนจะคดเคี้ยว เป็นร้อยๆโค้ง โค้งแม่ฮ่องสอนขึ้นชื่ออยู่แล้ว โค้งเยอะขี่รถเร็วมากไม่ได้ เลยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

    แถม "ก้น" ก็ยังไม่หายปวดจากถนนลูกลังเมื่อวาน มันก็เลยเป็นการเจ็บซ้ำๆ ซากๆ ชาๆ ร้าวๆ พูดไปแล้วน้ำตาจะไหล อดทนๆ ดูวิวสวยๆไป ถ่ายรูปไป เดี๋ยวก็ถึง แล้วมันจะเจ็บและชินไปเอง

    ป่ะๆ ออกเดินทางกันได้ละ
    • โพสต์-2
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    เส้นทางช่วงที่ออกมาจากห้วย ห้อมนั้นสวยมาก เมื่อวานเรามาอีกทาง ขาออกก็ออกไปอีกทาง ไม่ซ้ำทางเดิม

    วิวที่ผ่านมาจากแม่โถ นั้นส่วนใหญ่เป็นภูเ ขาหัวโล้นที่ชาวบ้านถางป่ามาทำไร่ข้าวโพดบ้าง ปลูกกะหล่ำบ้าง แต่วิววันนี้ ภูเขาจะเป็นแบบป่า ต้นไม้แน่นๆ สีเขียวเข้ม ซ้อนกันหลายๆชั้นไกลสุดลูกตาสวยแบบมี layer วันนี้ฟ้าและเมฆสวยเป็นใจมาก

    เป็นวิวที่สุดแสนอลังการ แบบร้องออกมาว่า โหววววว อ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว

    ถ่ายรูปรัวมากๆ ไม่รู้ว่าจะได้มาอีกมั๊ย ชีวิตนี้ แต่ที่แน่ๆ อีทางลูกลังเมื่อวาน เราจะไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปอีกแน่ๆ อย่างดีก็กะบะ จะดีกว่า

    รูปนี้เป็นทางขึ้นเนิน เมฆตัดกับถนนและภูเขาจนเหมื อนเป็นการตัดต่อ เอาภาพมาซ้อนกันเลย สวยมาก

    ดูรูปวิวระหว่างทางไปเพลินๆ กันนะ นี่ขนาดเลือกมาแค่บางส่วน คือผ่านตรงไหนมันก็สวยไปหมด เลยอยากเอาภาพมาฝาก

    • โพสต์-3
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    ผ่านตัวเมือง อำเภอแม่ลาน้อย กินข้าวกลางวันเติมพลังกัน พอเข้าเส้นทางหลัก ถนนและวิวก็ธรรมดา ปกติทั่วไป

    ผ่านแม่ลาหลวง และ ไปจอดพักรถที่วัดแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างทาง (จำชื่อวัดไม่ได้จริงๆ)

    • โพสต์-4
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    เลี้ยวเข้าถนน ที่ไปดอยแม่อูคอ วิวถนนเริ่มสวยอีกครั้ง

    ยึ่งใกล้ถึงก็ยิ่งเห็นดอกบัวตองระหว่างทางเพิ่มมากขึ้น

    • โพสต์-5
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    ถึงแล้วววว จุดชมวิว ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ และโค้งนี้สวยที่สุดของวันนี้

    น่าเสียดายที่เรามาตอนดอกบัวตองเริ่มโรยแล้ว เลยไม่ได้เห็นทุ่งเป็นสีเหลืองอร่ามเลย

    แวะถ่ายรูปตามอัธยาศัย เจอแผงขายสตอบอรี่ ลองซื้อมาชิม เห็นลูกเล็กๆไม่สวยมาก แต่รสหวานเจี๊ยบ! (นั่นทำหน้าฟินนะ ไม่ใช่เปรี้ยว)

    ดูฟ้าดูเขาดูดอกไม้ชิลๆเท่า นี้พอ ต่อไปจะPart ของ ภูชี้เพ้อ ที่เราจะไปค้างคืนนี้ เป็นประสบการณ์ที่มันหนักหน่วงมากไม่แพ้เมื่อวานที่ ห้วยห้อม เลย

     

    • โพสต์-6
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    ภูชี้เพ้อ

    ภูชี้เพ้อ ตั้งอยู่ใน หน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อ.ขุนยวม ใกล้กับ ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ในระดับความสูง 1,818 เมตรจากระดับน้ำทะเล

    จากทุ่งดอกบัวตอง เราสามารถมองเห็นยอดภูได้เลย มันอยู่ไม่ไกลกันนัก ส่วนทางขึ้นภูนั้น.....หลัง จากแยกจากเส้นทางหลัก ก็เป็นถนนลูกรัง แคบๆ ดินสีแดงๆ ชื้นๆ ลื่นๆ หลุมๆ เราอาศัยขี่ไปตามรอยจากล้อรถใหญ่ที่ดินดูจะแน่นๆ สักหน่อย ในการค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เป็นการขี่รถแบบความระมัดระวังถึงขีดสุด 

    สมมุติว่าให้ระดับความยาก ในการขี่รถมอเตอร์ไซค์ 
    ทางไปห้วยห้อมที่ว่าโหดแล้ว นั่นให้ 8.5/10 คะแนน เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นทางราบ ภูชี้เพ้อ นี่ให้ไปเลย 10/10 คะแนน โหดมาก ชัน และ แคบ และ ลื่น และ ป่าต้นไม้สูงและหนาแน่น มองแทบไม่เห็นท้องฟ้า

    นั่งเกร็งทุกลมหายใจเข้าออก ลุ้นเพื่อนที่ขับรถ กลัวรถล้ม กลัวตกเขา กลัวหลงทาง กลัวค่ำก่อน กลัวทุกอ่าง เพราะตอนไปพระอาทิตย์กำลังจะตก ถ้าค่ำอยู่กลางเขา นี่แย่แน่ๆ คิดไปต่างๆนานา ต้องระมัดระวังทุกๆเซ็นติเมตรที่รถเคลื่อนที่ไป

     

    • โพสต์-7
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    เรามาถึงยอดเขา ตอน พระอาทิตย์ตกพอดี

    ทางเข้าอุทยานหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด และบ้านพักอุทยานที่จะมาพักคืนนี้ ที่จริงมีจุดให้กางเต้นท์นอนด้วยเหมือนกันแต่ แต่เราจองแบบเป็นบ้าน

    วิวหน้าบ้านพักวันนี้ มีต้นไม้ขึ้นบังวิว เราต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว บนยอดดอย ขึ้นไปอีกไกลเหมือนกัน

     

    • โพสต์-8
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    กิจกรรมหนึ่งที่ต้องทำทุกวันคือ การตื่นเช้ามืดไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เราดั้นด้นจากกรุงเทพมาหลายร้อยกิโล นั่งซ้อนมอร์เตอร์ไซค์มาอีกไกลมากๆ เมื่อยล้ามากขนาดไหนแล้ว กับแค่การปลุกตัวเองตื่นเช้า แล้วไปนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็คงไม่ยากเท่ากับที่ผ่านๆมาหรอก ปีนขึ้นเขาไปค่ะ เหนื่อยก็หยุดพัก เป็นลมก็ดมยากันไป ยังไงก็ต้องลากตัวเองขึ้นไปให้ได้

    ตื่นมาตั้งแต่มืด ถือไฟฉายขึ้นเขาไปสูงมากเพื่อไปจุดชมวิว ความจริงมีบางคนที่ขึ้นเขามาตอนก่อนสว่าง เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นอย่างเดียว แต่เราขึ้นมาค้างคืนบนอุท ยาน ตอนแรกคิดว่าจะไม่ต้องเดินไกลมาก เปิดประตูบ้านเจอหมอกเลย แต่...ผิด ต้องเดินขึ้นเขาไปเหมือนกันทุกคน

    เป็นการเดินขึ้นเขาที่ ทุกก้าวมีความเจ็บปวด เพราะยังปวดขาไม่หายเลย ปวดซ้ำเข้าไปอีก คือบับ เหนื่อยเหมือนจะตาย หายใจไม่ทัน เหงื่อซึมตามรูขุมขน อากาศหนาวแต่เหงื่อออก แต่ก็ไปจนถึงยอดจนได้ คุ้มค่ามาก!!!! วิวสวยมาก แต่จนปัญญาจะถ่ายมาให้สวยแบบตาเห็นจิงๆ สกิลยังไม่ถึง ยังต้องฝึกอีกเยอะๆ

    มันคือวิวมุมคล้ายๆเดิมแหละ เพียงแต่เวลาที่ต่างกัน แสงที่ต่างกัน ความสวยก็ต่างกัน

    พระอาทิตย์ก็ดวงเดิมที่เราเห็นกันทุกวันและรังเกียจนางบ้างตอนฤดูร้อน แต่วันนี้นางสวยมากขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างไปจากทุกวัน

    มีคนรอชมอยู่เยอะเลย

    • โพสต์-9
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    ขึ้นมาแล้ว เหนื่อยแทบขาดใจ เพื่อมาดูสิ่งนี้แหละ

    • โพสต์-10
    SandyHappy •  กรกฎาคม 04 , 2559

    เป็นช่วงเวลาเงินเวลาทอง และแสงสวยที่สุดของวัน ขอแทรกด้วยรูปตัวเองเยอะหน่อย เพราะว่า วันทั้งวันถ่ายแต่วิว และนั่งอยู่บนหลังรถ ไม่มีเวลาเก๊กสวยๆกับเค้าเท่าไหร่

    • Rewat  สุดยอดมากเลยครับ นับถือความอดทน เพื่อให้ได้เห็นวิวธรรมชาติที่สวยงาม 09 ตุลาคม 2560 13:14:02
  1. โหลดเพิ่ม