ภูทับเบิก เที่ยวครบ งบน้อย ร้อยความประทับใจ

ฤดูร้อนกำลังจะจากไป(หรออออ)มาเตรียมตัวไว้ต้อนรับหน้าฝนกันดีกว่าเลยค่าาาา  เตรียมตัวในที่นี้เราขอขยายความแค่ว่าเตรียมสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะต้องไปลุย ไปเก็บภาพความประทับใจสวยๆกันนะคะ 55555 นอกจากจะเตรียมตัว เตรียมสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือเตรียมเงินในกระเป๋าไว้ด้วยก็ดีนะคะ…….

สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่เรากับแฟนเราตั้งใจไว้ว่าจะไปกันแบบโง่ๆซึ่งเอาจริงๆเรา2คนก็โง่อยู่แล้ว55555 มันเกิดขึ้นจากเราไปเห็นรูปในกระทู้นึงซึ่งมันสวยมากๆเราเลยเกิดแรงบันดาลใจที่จะไปที่ตรงนั้น อย่างที่หลายๆคนว่า สิบปากว่าก็ไม่เท่า2ตาเห็น และ2ตาเห็นก็ไม่เท่าเราไปสัมผัสด้วยตัวเราเอง เรามีนิยามการเที่ยวของเราที่ว่าแค่นั่งดูรูปมันไม่สามารถทำให้เรามีความสุขเท่าได้ออกไปเห็นของจริงหรอกค่ะ แล้วนิยามของพวกคุณล่ะคะเป็นยังไง^^

ฤดูฝนที่เพื่อนๆหลายๆคนอาจคิดว่ามันเป็นอุปสรรคในการท่องเที่ยวซึ่งเราก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกันแต่พอเราลองอะไรใหม่ๆลองอะไรแบบที่เราไม่เคยลองเราถึงได้รู้ว่าเที่ยวหน้าฝนนี่แหละวิเศษที่สุดแล้ว^^ อย่างทริป ภู ทั บ เบิ ก ทริปนี้เราขอแจงก่อนนะคะว่าทริปนี้เราไปมาเมื่อหน้าฝนปีที่แล้วแต่มันเป็นทริปที่เราได้ลองอะไรใหม่ๆแล้วเราคิดว่าเป็นทริปที่เราสนุกและประทับใจที่สุด เราเลยอยากเอามันกลับมาเล่าให้เพื่อนๆได้อ่านกันเผื่อมันจะเป็นอีกหนึ่งรีวิวที่สามารถเป็นข้อมูลดีๆให้กับเพื่อนๆบางคนได้ พร้อมแล้วใช่มั้ย  งั้น..ไป ช ว น แ ฟ น เ ที่ ย ว กันดีกว่าค่ะ^^

.........................................................................................................................................................

ทริปนี้เราเดินทางกันตอนกลางคืนค่ะซึ่งเป็นครั้งแรกของเราที่เดินทางกันโดยไม่มีดวงอาทิตย์มารบกวนแม้แต่น้อย เราแพลนกันไว้ว่าจะเดินทางกลางคืนเพื่อที่จะได้ไปถึงเพชรบูรณ์กันตอนเช้ามืดพอดี ซึ่งมันก็เป็นไปตามแพลนของเราที่วางไว้เป๊ะๆเลยค่ะ^^ โชคดีของเรากับแฟนที่เลิกงานกันตอน6โมงเย็นพอดีเราเลยมีเวลาที่จะกลับไปเก็บสัมโนครัวต่างๆนาๆของเราให้พอสำหรับแบคแพค3วัน2คืนนี้แต่สภาพการจราจรในเมืองหลวงของเราน่าอนาจใจนัก ยิ่งนี่วันอาทิตย์ด้วยแล้วล่ะก็..ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ5555555

เรา2คนมาถึงหมอชิตในเวลาประมาณ4ทุ่มกว่าๆ(นี่ยอมโบกพี่แท็กมาเลยนะเนี่ยยย) ที่นี่ยังคึกคักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน อย่าช้าค่ะเรากับแฟนรีบตรงดิ่งไปที่เคาว์เตอร์จำหน่ายตั๋วกรุงเทพฯ-ภูเรือ(หรือ ใครจะขึ้นกรุงเทพฯ-หล่มสักก็ได้นะคะ)

โชคดีที่เรา2คนมาทันรถรอบ22:45น.พอดิบพอดี.เห้ออออถอนหายใจโล่งแรงๆเลยค่ะนึกว่าจะนกกันซะแล้ว ในรูปที่เราวงไว้แดงๆอันนั้นเพื่อนๆต้องดูให้ดีๆนะคะเพราะมันเป็นเวลาและชานชาลาที่เราจะต้องเดินไปขึ้นรถกัน ส่วนค่าเสียหายในการมาช้าครั้งนี้หมดไปคนล่ะ279บาทค่ะถือว่าถูกเลยทีเดียวรอบนี้ เรากับแฟนฝากชีวิตไว้กับเพชรประเสริฐทัวน์ ที่นั่งรอบนี้ก็ได้นั่งชั้นล่างซะ ด้วย ฟินเบยยยย อิ_อิ

รถออกเคลื่อนที่สักพักก็มีพี่สาวพนักงานต้อนรับคนสวยราวประนึ่งตัวเองเป็นแอร์โฮสเตรสจากสายการบินใดสายการบินหนึ่ง5555เดินเอาของว่างมาแจกจ่ายแก่ผู้โดยสารบนรถ (เอาจริงๆนี่ก็แอบคิดว่าตัวเองนั่งอยู่บนเครื่องบินอยู่หรือป่าว อารมณ์ได้มาก5555) ของว่างรอบนี้ก็จะเป็นแครกเกอร์กับน้ำเปล่าคนล่ะขวดเผื่อผู้โดยสารบางท่านอาจไม่ได้ทานอะไรมาเหมือนเรากับแฟนเพราะรถรอบนี้จะไม่จอดพักรถทุกสถานีค่ะ เรานั่งสังเกตุการณ์บนรถสักพักก็มีพี่พนักงานต้อนรับคนเดิมเดินมาแจกผ้าห่ม คนล่ะ1ผืน ขอชมนิดนึงเถอะค่ะว่าคนขับรถขับได้เก่งและดีมากกกกกขับนุ่มมากกกกอยากเจอแบบนี้ทุกทริปไปเลยค่ะเย้!!5555555นั่งเล่นเกมส์ได้สักพักใหญ่ๆไฟบนรถก็ค่อยๆดับลงให้ผู้โดยสารที่น่ารักอย่าง เราได้พักผ่อน จากนั้นสัก2-3นาทีทั้งรถก็เข้าโหมดส่วนตัว shat down ตัวเองกันโดยอัตโนมัติ..zzZ

การเดินทางขามา ใช้เวลาเดินทางจากหมอชิตมาถึงหล่มสักโดยประมาณ5-6ชม.นะคะเรา เราต้องลงบ.ข.ส หล่มสักเพื่อที่จะหาต่อรถขึ้นไปบนภูทับเบิกหรือใครจะลงหล่มเก่าแล้วเหมารถไปก็ได้ค่ะ  รถที่เรานั่งมา  มาถึงท่ารถหล่มสักตอนตี4นิดๆก้าวขาลงรถปุ๊บเรานี่เคว้งเลยค่ะ555555 คือเงียบมากกกแบบนี้เราจะขึ้นไปบนภูทับเบิกกันยังไง ? ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกกันเลยค่ะคิดว่าตัวเองต้องหลงแน่ๆสตงสติหลุดกระจายไปหมดแล้วค่ะ55555 แต่แฟนเราที่ยืนนิ่งมองเราที่กำลังเป็นบ้าอยู่ลากเราเดินไปร้านค้าแถวนั้น เจอคุณป้าคนนึงเราเลยเข้าไปสอบถามคุณป้าท่านนั้นได้ความว่ามันมี2วิธี คืออย่างแรกรอเหมารถไปตอนเช้าจะมีรถสองแถวขึ้นภูทับเบิกถ้าเหมาเขาเอา1,200ต่อรอบ อุ๊ย  งั้นอย่างที่สองเลยค่ะป้า55555 อย่างที่สองคือเดินข้ามฝั่งไปตรงตลาดผักตรงนั้นจะมีพวกม้งหรือชาวบ้านเขาจะเอากระหล่ำลงมาส่งข้างล่างแล้วเขาก็จะกลับขึ้นไปบนภูทับเบิกเรา2คนมองหน้ากันพักใหญ่ (เหมือนแบบมองตาก็รู้ใจไรงี้ป่าวไม่แน่ใจ555) เราตัดสินใจเดินข้ามฝั่งมายังตลาดผักฝั่งตรงข้ามเดินมาถึงจะเจอรถขนผักเยอะแยะไปหมด

เราส่งแฟนเป็นทัพหน้าเข้าไปถามชาวบ้านที่เอากระหล่ำมาส่ง  รถคันแรกที่แฟนเราเดินเข้าไปถามด้วยใบหน้าเป็นมิตรได้ความว่าเขาต้องเอาของกลับบ้าน วันนี้เลยไม่ได้ขึ้นภูทับเบิกแต่พี่เขาก็ใจดีนะคะแนะนำรถคันนั้นนู้นนี่ ให้เราเยอะเลยแต่เอาจริงๆนะคะรถคันที่เรากับแฟนช่วยกันถามส่วนมากเป็นคน ไทยแล้วก็ไม่ค่อยมีน้ำใจสักเท่าไหร่ อันนี้เราไม่เหมารวมนะคะมันเป็นความคิดส่วนตัวของเราเอง ซึ่งตรงนี้เราเข้าใจนะคะอาจจะเพราะเรา2คนเป็นคนแปลกหน้าแปลกถิ่นใครจะกล้ารับขึ้นรถมาด้วย แต่ด้วยความที่เราเป็นคนไทยเหมือนกันพูดภาษาเดียวกันก็ควรจะจับใจความให้ดีแล้วอะไรที่ช่วยเหลือกันได้เราคิดว่าก็ควรช่วยนะคะ ไม่ใช่ก็จะเป็นเงินเป็นทองเสียหมด ลองคิดกลับกันเล่นๆนะคะถ้าเขามีน้ำใจให้เราสักนิดมีหรอที่เราจะไม่มีน้ำใจกลับไป  เรากับแฟนเลยเดินไปโบกรถชาวบ้านชาวม้งคู่สามีภรรยาคู่นึงเขาบอกว่าเขาไม่ได้ไปภูทับเบิกแต่เขากำลังจะกลับบ้านซึ่งทางกลับบ้านมันผ่านปากทางขึ้นภูทับเบิก แล้วยังไงค่อยไปหา โบกรถกระหล่ำพวกชาวม้งขึ้นไปข้างบนอีกที ห่อวววววววพี่2คนนี้ใจดีจัง TwwT เรา2คนเลยได้อาศัยรถของพี่เขานี่แหละค่ะแอบเสียดายไม่ได้แอบถ่ายรูปพี่เขามาด้วย ระหว่างทางพี่เขาก็พยายามชวนเราคุยนั่นนู่นนี่อธิบายสถานที่ท่องเที่ยวบนภูทับเบิกคร่าวๆให้ฟัง สักพักพี่เขาก็บอกว่าให้เราลงตรงแยกนี้มันจะมีรถกระหล่ำชาวบ้านขึ้นไปข้างบน แต่พี่เดี๋ยวเขาก็จะขึ้นไปเหมือนกันแต่อาจจะสายๆหน่อยถ้าผ่านมาแล้วเห็นเรา2คนยังอยู่ตรงนี้เขาจะแวะรับขึ้นไปด้วย ห่อววววทำไมพี่ถึงน่ารักได้ขนาดนี้ค่ะขอให้ความดีของพี่ส่งผลให้พี่เจอแต่สิ่งดีๆเข้ามานะคะ^^

เรา2คนลงตรงแยกปากทางขึ้นภูทับเบิกที่พี่เขาส่งเราตะกี้ เอาล่ะ!!มาถึงตรงนี้เพื่อนๆต้องสังเกตุดีๆนะคะหลุดออกจากตรงนี้คือหลงแน่นอน5555 ตรงนี้จะมี7-11อยู่ที่เดียวนะคะขอย้ำว่า ที่ เ ดี ย ว ใครที่คิดว่าจะไปหาซื้อของกินของใช้ข้างบนหยุดความคิดนั้นไว้ที่เซเว่นนี้เลยค่ะ5555 เราแนะนำให้ ซื้อทุกอย่างจาก7-11ข้างล่างนี้ทั้งของกินและของใช้ส่วนตัวตุนไปเยอะๆนะคะ ^^ หลังจากซื้อของเสร็จสรรพเรา2คนก็มายืนรอโบกรถเพื่อที่จะขึ้นไปข้างบนภูกันค่ะ

ส่งทัพหน้าไปก่อนค่ะ ทัพหลวงอย่างเราต้องยามฉุกเฉินเท่านั้น5555555 เป็นไงดูท่าโบกรถซะก่อน555555 และสำหรับคนที่จะโบกรถขึ้นไปแบบเรา2คนนะคะ ตั้งท่าให้ดีแล้วกางแขนออก จากนั้นก็ไปค่ะ! โบกโบกโบกสะบัดแขนโบกโบกโบก ซ้ายโบกโบกโบก ขวาโบกโบ๊กโบกกก555555555555 โบกไปโบกมาก็มาแจ็คพอตเข้ากับคันนี้ค่ะ

ไฮลักค์วีโก้พ่อทุกสถาบัน5555 เป็นรถของพี่คนที่บอกเราว่าต้องเอาของไปเก็บที่บ้านเมื่อเช้าที่เราเจอนี่เองค่ะ พี่เขาเห็นเราสองคนเลยเรียกให้เรา2คนขึ้นรถไปด้วยพี่เขาบอกว่าฝนมันจะ ตกพี่เขาไม่กลับบ้านแล้วพี่เขากำลังจะกลับบ้านที่ทับเบิกเดี๋ยวจะแวะไปส่งพวกเราข้างบน เอ่าา..เข้าทางเลยค่ะทีนี้ เรา2คนรีบกระโดดขึ้นหลังกระบะรถแต่ดันโดนพี่เขาไล่ ให้ไปนั่งข้างหน้าเพราะฝนเริ่มตกลงมาแล้วเรา2คนเลยต้องยอมมานั่งข้างหน้ากับพี่เขาค่ะ พี่เขาก็น่ารักดีนะคะถามว่ามาจากไหนมากี่วันทำไมมาหน้าฝนกัน ทุกคนลองนึกภาพตามนะคะม้งคนนึงพยายามพูดภาษาบ้านเราให้ชัดนี่มันน่ารักเนอะ5555 ตลอดเส้นทางขึ้นภูทับเบิกทรหดอดทนมากค่ะ ไม่รู้ทางโค้งนี่จะเยอะไปไหน เวียนหัวไปหมดแล้ว*-* แต่วิวข้างบนนี่สวยจนต้องยกนิ้วโป้งให้เลยนะคะ ยืนยันเลยค่ะว่ามัน the best มาก จากแยกขึ้นภูทับเบิกมาถึงข้างบนพี่เขาสามารถใช้เวลาไม่ถึง20นาที แถมขับรถเข้าโค้งด้วยมือข้างเดียวซะด้วย เป็นไงล่ะยอมแล้วหรือยัง5555 พี่เขาส่งเราลงตรงทางแยกที่จะขึ้นไปบนจุดชมวิวเพราะพี่เขาต้องแยกไปอีกที่เลยไม่ได้ไปส่งเรา2คนถึงที่พัก ซึ่งตามที่ดูจาก map ที่พักของเราน่าจะอยู่ใกล้ๆบริเวณแยกนี้ ส่วนเรื่องที่พักเราได้ติดต่อโทรจองล่วงหน้าก่อนแล้ว  เรา2คนเลยเดินตาม map ที่เราเปิดเดินมาไม่ถึง20ก้าวก็เจอป้ายที่พักของเราแล้วค่ะ

มาแบบสาวอินดี้ก็ต้องพักแบบอินดี้สิเนอะ555555 ตรงที่พักของเราอากาศดีๆบวกกับสายฝนเม็ดเล็กๆที่กำลังโปรยปรายลงมามันยิ่งทำให้เข้าถึงธรรมชาติกันไปใหญ่ ตรงนี้ถือว่าวิวดี จัดว่าดีมากเลยล่ะค่ะ มีจุดชมวิวในตัวที่นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมมาถ่ายรูปกัน แถมใกล้จุดชมวิวของภูทับเบิกอีกด้วย และทริปนี้เราพักกันที่ ทับเบิกอินดี้รีสอร์ท ตามเรามาค่ะเรา2คนจะพาไปเดินสำรวจดูบริเวณห้องพักกันดีกว่าค่ะ^^

ทับเบิกอินดี้รีสอร์ทจะมีบ้านพักทั้งหมด3แบบ มีทั้งแบบวิวติดทะเลหมอก  วิวติดจุดชมวิว และวิวไร่กระหล่ำปลีค่ะ ส่วนเราขอเลือกเป็น ห้องวิวทะเลหมอกแล้วกันค่ะ เพราะตั้งใจจะมากอบโกยเอาทะเลหมอกเข้าปอดให้ชุ่มฉ่ำกันไปเลย ราคาห้องพักก็จะแตกต่างออกไปนะคะ จะอยู่ที่คืนล่ะ700-1,200แล้วแต่เราจะเลือกแบบ ไม่มีมัดจำค่า กุญแจหรือค่าอะไรใดๆทั้งสิ้น สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะมีทั้ง wifi,TV,แอร์,เครื่องทำน้ำอุ่น และยังสามารถสั่งอาหารจากทางที่พักได้ด้วยนะคะ

#ปัจจุบันที่พักบนภูทับเบิกเกือบจะทุกที่ได้ถูกรื้อถอนออกไปหมดแล้วหากใครจะไปเราแนะนำให้นำเต้นท์และเครื่องนอนติดเป้มาด้วยนะคะ^^

เอาล่ะถึงเวลาปล่อยของกันแล้ว55555 Highlight ของทริปอยู่ตรงนี้ค่ะ

 

 

เสื้อแดงๆนั่นทัพหลวงของเราเองค่ะ5555555 และต้องขออภัยหากรูปบางรูปออกมาไม่ค่อยสวยฝีมือการถ่ายภาพเมื่อก่อนไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ค่ะ555 เอาจริงๆเราเกิดมา26-27ปีนี้ไม่เคยเห็นภาพอะไรที่สวยเท่าภาพตรงหน้าของเราตอนนี้เลยค่ะ เมฆก้อนน้อยๆ ลมเย็นๆ อากาศดีๆ กับคนรอบข้างดีๆ มันทำให้ทริปนี้ออกมาดีที่สุดที่เราได้เริ่มเดินทางสายเที่ยวมา เคยฝันไว้จอนเด็กๆว่าอยากอยู่สูงเท่าก้อนเมฆ และจับก้อนเมฆได้ มาวันนี้ถึงเราจะจับมันไม่ได้แต่เราก็ยืนอยู่ใกล้ๆมันแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นทะเลหมอดได้ใกล้ขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่ามากกับการที่เราตัดสินใจที่จะแบคแพคมา นั่นล่ะหยุดโม้แล้วไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ555555555555555555

อย่างที่เราได้บอกไปว่าของกินข้าวบนภูทับเบิกค่อนข้างหายาก เรา2คนเลยโบกรถคราวนี้ทัพหน้าของเราไม่ไหวแล้วค่ะเลยส่งทัพหลวงอย่างเราไปโบกแทน ครั้งเดียวได้ขึ้นรถเลยยยเป็นไงล่ะ55555 และร้านที่เราเลือกวันนี้เป็นร้านแรกและร้านเดียวที่เปิดอยู่ในตอนนี้555555

เจ้ากระเพราปลาหมึกจานนี้อเป็นของเราเองงงงเราลองสั่งข้าวกระเพาปลาหมึกมาชิมดูรสชาติกลางๆนะคะพอทานได้ไม่ได้อร่อยและไม่ได้แย่จนเกินไป

ส่วนของทัพหน้าของเรานางสั่งเป็นข้าวผัดกุ้งมาชิมซึ่งเมนูนี้อร่อยมากกกกเลยค่ะตัดภาพมาที่กระเพราปลาหมึกเมื่อครู่55555 อ่ะๆไหนๆก็มาถึงภูทับเบิกแล้วจะไม่กินกระหล่ำปลีทอดน้ำปลาได้ไง เราเลยจัดกระหล่ำปลีทอดน้ำปลามาอีก1จานเพราะป้าเจ้าของร้านเขาพรีเซ้นมาว่าเป็น signature ของที่นี่เชียวนาาาา~

Signature ของที่นี่ค่ะ กระหล่ำปลีทอดน้ำปลา.. รสชาติใช้ได้ไม่ถึงกับดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่ซะกินไม่ได้ติดไปทางอร่อยเลยทีเดียวค่ะ อาหาร3อย่างบวกกับค่าน้ำของเรา2คนมื้อนี้หมดไป250บาทถ้วนค่ะ ก็ยังถือว่าเป็นราคามาตรฐานของสถานที่ท่องเที่ยวเนอะแถมอยู่บนเขาด้วยราคาก็ต้องสูงเป็นธรรมดาค่ะ

และนอกจากอาหารแล้วร้านนี้เขาก็มีของฝากจุ๊กจิ๊กน่ารักๆไว้จำหน่ายนักท่องเที่ยวอย่างเราๆด้วยนะคะ

ของฝากข้างบนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวก ผ้าคลุมไหล่  ผ้าพันคอ  เสื้อภูทับเบิก หมวกการ์ตูน พวงกุญแจ ชุดม้ง ชุดชาวเขาเยอะแยะเลยค่ะส่วนใหญ่ราคาก็อยู่ที่150-300บาทเราก็สอยผ้าคลุมไหล่มาผืนนึงเอาไว้คลุมแก้หนาว เพราะอากาศที่นี่หนาวมากๆค่ะ ทานข้าวซื้อของเสร็จเรา2คนก็พากันกลิ้งลงไปที่พักยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยหมดไปแล้วหนึ่งวันบนภูทับเบิก วันนี้พอก่อนดีกว่าพรุ่งนี้ค่อยตื่นแต่เช้ามืดมาดูทะเลหมอกกันนนน^^

...............................................................................................................................................

Day 2
Good morning ภูทับเบิกก

ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอากาศฟินสุดๆไปเลยยย เมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืนเลยค่ะแถมลมก็แรงมาก วันนี้เรา2คนแพลนกันว่าเราจะออกไปเดินถ่ายรูปเล่นกันแถวๆที่พักของเราเพราะข้างๆห้องที่เราพักจะมีจุดชมวิวอยู่แต่ตอนนี้หมอกลงเยอะมากเยอะจนแทบจะมองไม่เห็นทางก็ว่าได้ค่ะ เดี๋ยวหลังจากถ่ายรูปเสร็จเรา2คนก็จะเช็คเอ้าท์ออกเลยเพราะเราแพลนว่าจะเดินเที่ยวเดินถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆจะได้ไม่เสียเวลาขึ้นมาเก็บของอีก

ข้างหลังเรา2คนนั่นคือหมอกลงแบบรุนแรงมากค่ะลงจนมองแทบไม่เห็นทางด้านล่างเลย

เราชอบรูปนี้มากกกกกกกกกกกเราเลยเอาลงค่ะไม่มีเหตุผลอื่นที่ดีกว่านี้(เราขอโทษ)5555555555555555555

ดูหมอกรูปนี้สิ อย่างกับกำลังปล่อยไดร์ทไอซ์ออกมาแหนะ เนอะ^^

ดูทะเลหมอกตรงหน้าเรานั่นสิ เห็นแล้วอยากขโมยห่อใส่ถุงกลับบ้านจังเลยค่ะ5555555

เรา2คนเริ่มออกเดินมาโบกรถอีกครั้งแต่วันนี้รถไม่ค่อยจะมีมาสักเท่าไหร่ค่ะ อาจเป็นเพราะ หมอกลงหนาหรืออาจจะเช้าอยู่ก็ได้เรา2คนเลยตกลงกันเอาเป็นว่าตอนนี้ถ้ารถ ฝั่งไหนมาก่อนเราก็ไปกันก่อนถ้าเขาขึ้นข้างบนเราก็ติดรถเขาไปหาอะไรลองท้องก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่อีกที แต่ถ้ามีรถลงข้างล่างเราก็ลงไปตลาดผักเลย ตกลงกันเสร็จสรรพก็จัดการโบกรถกันเลย วันนี้เราโชคดีกันมากๆค่ะเพราะรถที่เราโบกเป็นรถนักท่องเที่ยวเหมือนกัน เราบอกเขาว่าขอติดรถไปลงข้างหน้าได้มั้ยคะซึ่งเขาก็ยินดีแถมเรียกพวกเราให้ไปนั่งข้างหน้าอีกด้วย แต่แบบ..เราก็เกรงใจอ่ะนั่งข้างหลังดีกว่าชมวิวไปในตัวด้วย^^  รถวิ่งมาถึงทางแยกขึ้นจุดชมวิวสูงสุดหรือจุดวัดอุณหภูมิบนภูทับเบิกตอนแรกเราตั้งใจจะลงกันตรงนี้แต่2คนที่รับเรามาด้วยบอกว่าจะขึ้นไปถ่ายรูป ข้างบนจะไปด้วยกันมั้ยเพราะยังไงก็ต้องลงมาอีกครั้งอยู่ดี  อ่อยยยยยยยไหนๆก็นั่งบนรถเขาแล้วเขาพาไปไหนก็ไปกันเถอะค่ะ5555555 ตอนนี้ใช้คำว่าเรา2คนไม่ได้แล้วนะคะต้องเป็นเรา4คน^^ เรา4คนมากันที่จุดวัดอุณหภูมิของภูทับเบิกค่ะจุดนี้จะเป็นจุดชม วิวที่สูงที่สุดของบนนี้ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ร้านค้าอาจจะเยอะอยู่นะคะ แต่เราพากันมาวันธรรมดาร้านค้าเลยปิดเกือบหมดเลย OK ในเมื่อเขาพามาถึงจุดสูงสุดแล้วเราขึ้นไปถ่ายรูปกันดีกว่าค่ะ

ให้ภาพบรรยายและเล่าเรื่องแทนดีกว่าค่ะเพราะถ้าให้เราอธิบายเราคงอธิบายออกมาเป็นตัวอักษรได้ไม่หมด^^

หมอกจางจางและควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ อยากจะถามดู ว่าเธอเป็นอย่างหมอกหรือควัน หมอกจะงดงาม และทำให้เยือกเย็น แสนจะเย็นสบาย เมื่อยามเช้า (หมอกหรือควัน ETC)

ทัพหน้าค่ะ55555555555555555555 บอกให้ไปยืนหล่อๆแต่นางไม่สามารถทำให้เราได้ค่ะรูปก็เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละค่ะ

ส่วน2คนนี้ก็คือคนที่รับเรา2คนติดรถขึ้นมาด้วยนั่นเองงงงงงงผู้หญิงน่ารักมากๆเลยค่ะ><

มาเที่ยวรอบนี้เรารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆเลยค่ะ อากาศดีๆ ทะเลหมอกล้อมรอบ กับมิตรภาพดีๆ มันทำให้ทุกอย่างดูดีไปซะหมดทุกอย่าง ได้สูดอากาศเย็นๆเข้าเต็มปอดแล้วมันชื่นนนใจจริงๆเนอะ ว่ามั้ย ตอนแรกเราว่าจะเดินขึ้นไปดูที่วัดอุณหภูมิแต่ก็ต้องถอดใจค่ะเพราะทางขึ้นเป็นดินเหนียวแดงอาจจะเนื่องด้วยฝนตกติดต่อกันหลายวัน เลยทำให้ทางขึ้นไปค่อนข้างลื่นเราทั้ง4คนเลยถอดใจไม่ขอขึ้นไปดีกว่าค่ะ แต่ก็มีพวก เด็กๆพวกนักท่องเที่ยวบางคนขึ้นไปถ่ายรูปกันนะคะ

อย่างเช่นน้องๆ3คนนี้ค่ะเราเจอน้องสาว3คนนี้บ่อยมากกกกกคือแทบจะทุกที่บนภูทับเบิกนี่เลยค่ะ555555 นี่มันวิถีหญิงแกร่งหรือป่าวคะเนี่ย>0<

เราใช้เวลากันนานพอสมควรกับถ่ายรูปนั่นนู่นนี่กัน พี่คนขับเขาก็มาเอ่ยปากชวนเรา2คนไปนั่นทีนู่นที คุยกันไปได้สักพักเลยรู้มาว่าเขากำลังจะกลับกทม.เหมือนกันแต่เขายังไม่ได้ เช็คเอ้าท์ออกจากที่พักต้องกลับไปเก็บของก่อนบวกกับแฟนเขาที่เอ่ยปากชวนพวกเราทั้ง2คนให้นั่งรถไปเที่ยวเป็นเพื่อนเขาแถมยังบอกให้เรา2คนให้ไปนั่งข้างหน้าอีกด้วย เราก็ไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไงคือเขาดีเขาน่ารักมากๆเลยค่ะ เราก็เลยโอเคงั้นไปไหนไปกัน5555555

รถของเราวิ่งลงมาสู่เส้นทางเข้าอุทยานภูหินร่องกล้าตรงนี้จะเป็นเขตอุทยานนะ คะเราจะต้องเสียค่าผ่านทางคนล่ะเท่าไหร่เราก็ไม่ทราบแต่ทั้งหมด4คนมัน190 บาทค่ะ เรา4คนขับรถเข้ามาสักพักใหญ่ๆเริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มลึกเข้าไปทุกทีเลย ตัดสินใจวนรถกลับดีกว่าเนอะ555555เพราะเข้ามาเราทั้งเปิดgpsทั้งมาตามป้ายบอก ทางก็ยังไม่เห็นมีอะไรสักอย่าง วนรถกลับดีที่สุดสำหรับตอนนี้แล้วค่ะ พี่คนขับก็ชวนพวกเราคุยแก้เครียด ถามว่าเรามากันกี่วันแล้วไปเที่ยวไหนมาบ้างคุยกันไปคุยกันมารู้สึกตัวอีกที รถก็มาจอดหน้าบ้านพักของพี่เขาทั้ง2คนแล้วที่พักของเขาใกล้ๆที่พักเรานี่เอง ค่ะเขาบอกว่าออกมาปุ๊บก็เจอเรา2คนโบกรถอยู่ข้างหน้าเลย5555555555 ที่พักของพี่เขาติดไร่กระหล่ำเลยค่ะโชคดีของเรา2คนอีกแล้วนึกว่ามารอบนี้จะไม่ ได้ถ่ายรูปกับไร่กระหล่ำซะแล้ววว มาค่ะเราจะพาไปดูไร่กระหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดไปดูกันว่าหน้าเรากับประหล่ำอันไหนมันจะใหญ่กว่ากัน >0<

กระหล่ำปลีหัวใหญ่มากๆเลยค่ะนี่ถ้าขโมยกลับบ้านได้จะหอบขึ้นรถสักสิบยี่สิบหัว5555555ชาวบ้านที่นี่เขานิยมปลูกกระหล่ำปลูกผักขายกันนะคะเท่าที่สังเกตุมามีแต่ไร่กระหล่ำปลีตลอดสองข้างทางเลย ถ้ามาหน้าฝนเราก็จะเจอกับไร่กระกล่ำปลี แต่ถ้าใครมาหน้าหนาวก็จะเจอกับไร่สตอเบอร์รี่แทนค่ะツ

ในระหว่างที่เราลงไปถ่ายรูปเล่นกันพี่2คนเขาก็เก็บของงุ่นเลยค่ะ55555

เอาล่ะได้เวลาเราต้องบ๊ายบายยยยภูทับเบิกกันแล้วตอนแรกพี่คนขับจะเอาเรา2คนกลับกทม.ไปด้วยกันแต่เราเกรงใจเขาเพราะแค่นี้ก็พาเราไปเที่ยวกันหลายที่แล้ว  เลยขอลงที่ขนส่งหล่มสักดีกว่าซึ่งพี่เขาก็ยินดีไปส่งเรา2คนนะคะ เราอยากให้เพื่อนๆที่กำลังจะมาเที่ยวเจอคนแบบที่เรา2คนเจอพี่2คนนี้จังเลยค่ะ เขาใจดีมากๆเลย อุตส่ามาส่งเราถึงท่ารถเลยอ่า ยังไงก็ต้องขอใช้พื้นที่ตรงนี้ขอบคุณพี่ๆทั้ง2คนด้วยนะคะไม่ว่าพี่จะผ่านมาเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม ขอให้พี่น่ารักแบบนี้ตลอดไปนะคะ^^

.................................................................................................................................................

ทริปนี้เรา2คนต้องขอบคุณ พี่ใจดีทั้ง2คนด้วยนะคะถ้าไม่ได้พี่2คนทริปเราต้องไม่สนุกแน่ๆแล้วก็ขอบคุณรถ ทุกคันที่เราโบกแล้วจอดรับเรา2คนขึ้นมาด้วยขอบคุณทุกๆคนที่ใจดีหยิบยื่น มิตรภาพดีๆมาให้ ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกมากๆไม่แพ้ทริปอื่นๆที่ผ่านๆมาเลยค่ะ  ถ้ามีโอกาสเราก็อยากจะมาอีกสักหลายๆครั้ง อยากลองมาหน้าหนาวดูบ้าง ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่กำลังจะมา หรือ อยากมาแนะนำให้หาข้อมูลดีๆและเตรียมของกิน ของใช้มาให้ครบเพราะข้างบนนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างที่ยังเข้าไม่ ถึงส่วนการเดินทางถ้าใครมีรถยนต์ส่วนตัวทางที่นี่ค่อนข้างอันตรายควรศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนหรือส่วนคนที่ไม่มีรถอยากเที่ยวแบคแพคแบบเรา2คน ก็ไม่ต้อง กลัวที่จะโบกรถนะคะคนที่นี่มีน้ำใจค่ะ
-ค่าใช้จ่ายทริป2วัน1คืนภูทับเบิก
-ค่ารถ 279/คน ไป-กลับ 588บาท
-ค่าที่พัก700/2คน
-ค่าอาหารตกทั้งหมด600บาท
-ค่าของฝาก300บาท
โดยรวมก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณนี้ค่ะใครที่กำลังอ่านรีวิวนี้ของเราแล้วอยากมา อย่ามัวแต่คิดอย่ามัวแต่รอนะคะเพราะคิดแล้วต้องลงมือทำค่ะถึงจะเห็นผล 10รีวิวก็ไม่เจ๋งเท่าเรามาได้เห็นด้วยตาของเราเองนะคะ เจอกันใหม่ทริปหน้า Bye Bye ค่ะ ツ