ภู ล ม โ ล นั้ น โ ก้ จ ริ ง จ ริ ง

สวัสดีค่า อิบ้าพาเที่ยวมาอีกล้าววว
หลังจากอกหัก ช้ำรักจากพี่เสือชมพู ณ ขุนช่างเคี่ยนไปแล้ว เราต้องเลยหอบใจช้ำๆกลับกรุงเทพ
แต่เราจะไม่ฟูมฟายค่ะ!!! เราจะหาเป้าหมายต่อไปทันที

ช่วงนี้มีแต่คนแชร์ภูลมโลจังวุ้ย! มันเป็นยังไงกันนักกันหนาห้ะ ฟีดมานี่เห็นตล้อดเลย
หูยยย ภูเขาสีชมพู.....งั้นๆแหล่ะ
หูยยย พญาเสือโคร่งแน่นต้นเชียว.....งั้นๆแหล่ะ
หูยยย กว้างมากกกมีมุมถ่ายรูปเพียบเลย.....งั้นๆแหล่ะ
หูยยย ไม่ไหวแล้วว้อยยย เก็บกระเป๋าเสื้อผ้า ไปกันเหอะพวกเมิงงงงงง
กลับมาจากเชียงใหม่ไม่กี่วัน ไปอีกแล้ว!!? เสื้อผ้าเก่ายังไม่ทันแห้งเลย

ทริปนี้เป็นทริปที่ฉุกละหุกมาก ข้อมูลไม่มี ที่พักไม่มี รู้แค่ว่าวีคนี้ชั้นต้องไปให้ได้
เฮ่นโหล๊ววเมิง อาทิตย์นี้ไปภูลมโลกัน ตั้งงบไว้ไม่เกินคนละ 2 พันพอ
ขับรถไปศุกร์กลางคืนหลังเลิกงาน กลับอาทิตย์ จันทร์ทำงานต่อได้เลยไม่ต้องลา นับ 1-3 ตอบค่ะ!!!

หลังจากหาสมาชิกครบ 4 คน จะเรียกง่ายๆว่ามัดมือชกก้ได้ แฮร่ มีเวลาหาข้อมูลไม่กี่วัน
เท่าที่อ่านมา บนนั้นมีที่พักโฮมสเตย์เพียบเลย เอ้าโทรๆๆ สรุปเต็มหมด เออไม่เป็นไร หาเอาข้างหน้าละกัน
ต่อมาเรื่องรถ เค้าจะมีกระบะของเจ้าหน้าที่พาขึ้นไป รถจะจอดตรงกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านร่องกล้า
ด้านหน้าหมู่บ้านตรงหลักกิโลใหญ่คันละประมาณ 800-1,000 บาท นั่งได้ประมาณ 10 คน
เราต้อง join กับกรุ้ปอื่น แต่!!! เค้าจะพาเที่ยวแค่ 2-3 ชั่วโมง

โอเลย...โอ้โหววว อิบร้า ภูเขาทั้งลูก ให้เวลาถ่ายรูปไม่กี่นาที ถูกแล้วค่ะ จุดละไม่กี่นาที
เพราะกว่าจะเข้าไปถึง ใช้เวลากระเด็นกระดอนบนรถนานพอสมควรเลย ชะโงกทัวร์รึ!!!!!?
พี่ขอบาย พี่ไม่ชอบ พี่ชอบแบบตามใจฉันอ้ะ ชิวๆอ้ะ เข้าใจป้ะ
แต่เค้าก้บอกอีกว่า รถเล็กไม่ควรขึ้นไป แนะนำโฟร์วีล กระบะ เพื่อความปลอดภัย โอเคหารถเช่า พี่จะเหมาทั้งวัน
หาในเพจชมรมคนรักเขาค้อ – ภูทับเบิกโล้ดค่ะ และแล้วก้ได้มา ตกลงราคา นัดแนะเวลา สถานที่กันเรียบร้อย
โก โก โกกกกกค่า

เลิกงาน กลับบ้านอาบน้ำ พร้อมเดินทาง พวกเราออกจากกรุงเทพประมาณ 3 ทุ่ม
แวะนั่งกิน steak ชิวๆก่อนเข้าอยุธยา แล้วก้มุ่งหน้าสู่ตีนเขาค้อ เรานัดรถกระบะไว้ที่ตีนเขาค้อตอนตี 5 ค่ะ
เราจะเอารถจอดไว้ที่บ้านคุณพี่เค้า แล้วจะนั่งกระบะไปกัน ถือว่าประหยัดน้ำมันได้ดีทีเดียว 55555
แต่! คำนวนเวลาผิดพลาด พวกเรามาถึงตีนเขาค้อกันตั้งแต่ตี 3 กว่าค่ะ อุส่ามาแบบชิวๆ แวะตลอดทางละนะ
นั่งหาอะไรกินเลยละกัน มื้อเช้าตอนตี 4 คือดีย์!!! ซื้อขนมกรุบกริบกันนิดหน่อย

ถึงเวลานัดหมาย โดดขึ้นกระบะโล้ด รถออกปุ๊บแทบอยากตะโกน พี่ชายชั้นหนาววววววว
คิดดู กระบะมีหลังคา แต่สองข้างนี่โปร่งมาก ซิ่งท่ามกลางอุณหภูมิ 12 องศา
โอ้ยตัยแหล่ววววว ดีนะพี่เค้าเตรียมผ้าห่มไว้ให้ พันกันเป็นแหนมป้าย่นตั้งแต่หัวจรดเท้าเชียว

จุดหมายแรก เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูแผงม้า จุดชมวิวสูงที่สุดของภูหินร่องกล้า

ถึงที่หมายเวลา 6 โมง ยังมืดอยู่เลย ปกติถ้าไม่มีฝน เค้าจะให้ขับรถเข้าไปได้เลย
แต่ก่อนที่พวกเราจะมา ฝนเทกระหน่ำเป็นอาทิตย์เลยค่ะ ดินจะลื่นๆ เค้าเลยไม่ให้เอารถเข้าไป
ใช้เวลาเดินไปที่จุดชมวิวประมาณ 10 นาทีก้ถึงค่ะ เช้านี้ลมแรงมาก หมอกลงหนามาก

เหมือนหมอกพุ่งเข้าตัวตลอดเวลา แดดออกสลับมืดครื้ม แสงเปลี่ยนทุกๆ 1 นาที เพลียใจ 55555

และแล้วเราก้ได้เจอกัน คุณภูแผงม้า คราวก่อนมาแล้วพี่หลง หาไม่เจอ

ตอนเดินเข้ามามีใบเมเปิ้ลร่วงตามทางเต็มเลย เก็บมาถ่ายรูปซะหน่อย
พระอาทิตย์เค้าเรียกซัน แต่ถ้าอยากเป็นคนสำคัญให้เรียกเรา แฮร่!!!

ถ่ายรูปจนอิ่มหนำ กลับไปขึ้นรถกันดีกว่า ตอนเดินออกมาตื่นเต้นกับวิวสองข้างทางมากกกก
ต้นไม้ใหญ่ๆ เขียวๆ หมอกหนาๆ คือดีย์

นั่นไง ต้นเมเปิ้ล เจอแล้วววว ถึงจะไม่เยอะมาก แต่ก้ทำให้อินี่ตาโตตื่นเต้นเป็นคนบ้าได้ 555555

พอจะกลับล่ะแดดมาเชียว แหม่!!!

ออกจากภูแผงม้าประมาณ 8 โมง จุดต่อไปภูลมโลค่า สว่างแล้ว ถ่ายรูปได้
นี่ไงสภาพรถที่พาพวกเราซิ่งมา โปร่ง โล่ง สบาย มั้ยหล่ะคู้นนน

ประมาณ 9 โมงกว่า เราก้มาถึงบ้านร่องกล้า ก่อนจะเข้าภูลมโลค่ะ รถติดหนักมากกก
ค่อยๆกระดื๊บๆไป ติดตรงทางขึ้นลมโลค่ะ เพราะทางเข้าจะแคบ ต้องสลับกันทีละเลน
พอขึ้นมาได้ก้โอเคละค่ะ ที่แวะจุดแรก ทุ่งดอกกระดาษ
แต่มันเป็นคนละจุดที่เราอยากไปแน่ๆ เพราะมันไม่มีก้อนหินก้อนใหญ่ๆ

ดอกไม้สวยจัง แฮร่

เจ้าดอกกระดาษสวยงาม และคงทน ส่วนตูไม่สวย แต่โคตรรรทน ถึก และบึกบึน 555555

ชอบต้นไม้ต้นนี้จัง

กระเด็นกระดอนกันมาในรถพอสมควร ในที่สุดก้ถึงซะที ภูลมโลแปลง 1
กรี้ดดดด สวยยย สวยมากกก กว้างสุดลูกหูลูกตา

คือชิว คืออากาศดี ขอปูเสื่อนั่งพัก ปิคนิคซักแพ้พนะท่านผู้ชม

เดินไปถ่ายรูปนิดเดียว หันกลับมา อ่าว ทำไมเพื่อนตูหมดสภาพกันล้าว น้อคกันหม้ดดด

พวกนางขอเวลานอน 30 นาที ส่วนอินี่แม้จะไม่ได้นอนครบ 27 ชม.แล้ว แบตก้ยังเต็มอยู่
เดินเล่น ถ่ายรูปดีกว่า ฮู้วว

วันนี้ฟ้าไม่แจ่มทั้งวัน แดดออกสลับฟ้าขาว เมฆเยอะอยู่ แต่ก้ยังดีนะที่ฝนไม่ตก
เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาฝนตกหนักทุกวันเลย ถ้าวันนี้ฝนตก ทุกอย่างจะจบ เราจะขึ้นมาบนนี้ไม่ได้

30 นาทีผ่านไป ฟื้นมาแล้ว 1 ราย 55555

จุดจะมีพวกต้นเฟิร์น ต้นหญ้าสูงๆขึ้นเยอะมากก

และที่สำคัญ ขี้วัว!!! หญ้าสูงเกือบเท่าหัวเข่า ขี้วัวเพียบ ใครมาแล้วไม่เหยียบนี่ โคตรจะเชย
ละคิดสภาพตอนพวกหล่อนนอนกันสิ กลิ่นมาดามหอมชื่นใจจจจ ธรรมชาติกันสุดๆ นอนกลางดิน กินกลางขี้ 55555
นี่แหล่ะ ปุ๋ยธรรมชาติ ดอกไม้ ต้นไม้ถึงได้สวย ดอกโตขนาดนี้ไง

เราใช้เวลาอยู่ในแปลง 1 ประมาณ 4 ชม.กว่า บอกแล้วว่ามันกว้างมากกกก ได้เวลาย้ายไปแปลง 2 กัน
เราออกจากแปลง 1 ประมาณ บ่ายสองโมงครึ่ง จากแปลง 1 มาแปลง 2 นั่งรถประมาณ 10 นาที

อู้วววหูวววว แปลง 1 ว่าสวยแล้ว ขึ้นมาแปลง 2 สวยกว่าอีก ดูเป็นระเบียบ ไม่รก ดอกใหญ่ ต้นไม่สูงมาก
รู้งี้มาปูเสื่อนอนบนนี้ก้ดี นอนดมขี้วัวอยู่ได้ตั้งนาน

ด้วยความที่ดอกใหญ่ ต้นไม่สูงมาก จุดนี้จะเป็นจุดที่มีลิง! เยอะเลยค่ะ
ปีนต้น โน้มกิ่ง เด็ดดอก กระโดดแล้วดึงกิ่งลงมา ดอกร่วงเต็ม กิ่งหักเพียบเลย เห็นแล้วอยากจะเข้าไปวีนใส่
แต่ทำได้แค่เดินไปยืนข้างหน้าพวกนาง แล้วกดชัตเตอร์รัวๆ บางคนที่รู้ตัวก้จะปล่อยกิ่ง เดินหนี ละไม่ถ่าย
ส่วนบางคนที่ไม่รู้ตัว ก้ยืน act ท่าให้ ประหนึ่งนางจ้างชั้นมาเป็นตากล้องส่วนตัว ช้างฟาด!!!
นี่เป็นผลงานบางส่วนของพวกคนมักง่าย ไร้สำนึกที่สามัญชนควรจะมี เด็ดลงมา เอาทัดหู ถ่ายเสร็จละก้ทิ้ง

ฝากนะคะ ขอร้องเลย เที่ยวกันแบบไม่ทำลายธรรมชาติจะได้มั้ยคะ ถ้าทำไม่ได้ก้นอนอยู่บ้านเหอะค่ะ
ถ้ามันอยากถ่ายจริงๆ แนะนำ พกบันไดมาจากบ้านเหอะค่ะ หรือไม่ก้ไหว้แม่ย่านางปีนหลังคารถกันไปเลย

ทนเห็นพวกไร้สามัญสำนึกไม่ไหว พวกเราเลยชวนกันเดินเข้าไปลึกๆจากจุดนี้
ขึ้นเป็นแนวเลยค่ะ คนไม่เยอะมากด้วย เพราะไม่มีใครบ้าเดินเข้ามากัน 55555

มีทั้งชมพู มีทั้งเหลือง มีทั้งส้ม โอ่ยยย นี่มันญี่ปุ่นชัดๆเลยท่านผู้โช้มมม

ไหนๆ ขอเช็คภาพหน่อย ปากชั้นแดงพอมั้ยเทอออ

ก่อนกลับ นั่งเก็บภาพพวกเทอให้เต็มตาซักหน่อย

ออกจากแปลง 2 ประมาณ 4 โมงครึ่ง ตอนแรกว่าจะไปแปลง 3 ต่อ แต่เค้าบอกว่ายังดอกยังไม่เยอะมาก
อีกอย่างเย็นละด้วย กว่าเราจะกลับไปถึงเขาค้ออีก พวกเราเลยตกลงกันว่าจะกลับ

สัญญา ว่าปีหน้าเราจะมาหาเทอใหม่...ภูลมโล

ระหว่างกลับลงมา 2 ข้างทางก้จะเขียวแบบนี้ อากาศเย็นๆ ชอบจัง

เราตั้งใจว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่ภูแผงม้า แต่ด้วยเวลา และระยะทาง ไม่ทันชัวร์ค่ะ
เราเลยแวะกันตรงภูทับเบิก ตรงไหนสวยก้แวะโล้ด

 

 

 

 

จากภูลมโล กลับมาเขาค้อใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า เรามาถึงเขาค้อกันเกือบ 1 ทุ่ม
จ่ายเงิน บอกลาพี่กระบะเรียบร้อย ถึงเวลาหาของกินละค่ะ

มื้อล่าสุดของวันนี้ คือโจ๊กคัพตอนตี 4 หลังจากนั้นก้มีแค่น้ำเปล่า 2 ขวด
โอ้ยยย นี่กุจะทน ถึกอะไรเบอร์นั้นคะลูกกก ณ จุดนี้ต้องบุฟเฟ่ต์เท่านั้นถึงจะเอาอยู่
สวรรค์ทรงโปรด จากบ้านพี่เค้ามาไม่ไกลมาก มีร้านหมูกระทะบุฟเฟ่ต์เปิดอยู่ หัวละ 139 บาท
โคตรถูกกกก ส่วนเรื่องคุณภาพ และความอร่อยตูไม่สนละจุดนี้ มีอาหารให้เลือกเพียบ
กุ้ง หมึก หอย หมู ไก่ เบคอน ยำ ข้าวผัด ของทอด ผลไม้ ขนมหวาน ไอติม โอ้ย!!!ลุยค่ะ

เบ็ดเสร็จ รวมน้ำ มื้อนี้ 4 คน หมดไป 666 บาทถ้วน ถูกมากก
กินกันขนาดนี้ วันนี้เจ้าของร้านคงขาดทุนแน่ หนูขอโทษ หนูหิวกันจีจีนะคะ 555555

คืนนี้ไม่ต้องไปหาที่พักที่ไหน เพราะพี่คนขับเค้าใจดี หาให้ จองให้เสร็จสรรพ
เค้าบอกเป็นของเพื่อนพี่เอง มีแต่ห้องพัดลมนะ ห้องแอร์เต็ม
โอเคเลยพี่ หนาวขนาดนี้แอร์ไม่ต้อง พวกหนูนอนไหนก้ได้ ไม่เรื่องมากค่ะ
คืนนี้เรานอนกันที่ Route 12 เห้ย! นั่นมันร้านกาแฟนะ เออนั่นแหล่ะ ที่เดียวกัน มันมี Hostel ข้างในด้วย
คืนละ 600 บาท ถือว่าถูกมากกก เตียงนุ่ม มีน้ำอุ่นอาบ พัดลมไม่เปิดด้วย เพราะมันหนาววววว

 

อาบน้ำเสร็จ ล้มตัวลงนอน เหมือนชักปลั๊กเลย หัวถึงหมอนปุ๊บ หลับเป็นตาย
ก้แหงล่ะแม่คุณ ไม่นอนมาจะครบ 2 วันละหนิอิหนู เดินลุยป่ากันเป็นวัน ไม่น้อคก้ให้มันรู้ไป

ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 7 โมงเช้า จะตื่นมาถ่ายรูป เพราะถ้าสายนี่ คนเพียบแน่
สิ่งที่ยากที่สุดของทริปนี้ คือ การงัดตัวเองออกจากที่นอน ท่ามกลางอากาศเย็นๆตอนเช้านี่แหล่ะ
เอ้าถ้าอยากได้รูปก้ต้องลุกว้อยยย แปรงฟัน ล้างหน้าพอ เดี๋ยวค่อยกลับมาอาบน้ำ
ออกไปถ่ายรูปร้านกาแฟชื่อดังซะหน่อย มาหลายรอบละ ไม่เคยแวะซะที มันมีอัลไลดีเห็นคนเพียบตลอด

เดินไปเดินมา ไปเห็นน้องม้าในป่าใหญ่

แรกก้กลัว ไม่กล้าเดินเข้าไป กลัวเค้าจะตกใจ ดูซักพัก น้องมีแค่ 3 ขาเอง เลยเดินเข้าไปหาใกล้ๆ

ดีนะที่งัดตัวเองออกมาจากที่นอนได้ เช้านี้อากาศดี๊ดี

Saturdays are for adventure, Sundays are for cuddling the nature ♡

 

 

 

 

 

สาบานว่านี่เป็น Hulk ที่น่ากลัวที่สุดในสามโลก

 

อาบน้ำ เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมก่อน 11 โมง ไปหาข้าวกินดีกว่า
ไม่รู้จะไปร้านไหน วนไปวนมา เข้ามาในโรงแรมเขาค้อทะเลภูเฉยเลย
มื้อเช้า ง่ายๆ กระเพราหมูสับ จุดเด่นของที่นี้เลย คือ อาหารทุกจาน จะเป็นอาหารคลีน เพื่อสุขภาพ
ผักที่ใช้ทำจะปลูกเอง ไม่ใช้สารเคมีค่ะ ส่วนแกงจืด กับมะละกอ เป็นของแถมสำหรับมื้อนี้

นั่งกินไป ก้มีเพื่อนมาป้วนเปี้ยน พอไม่สนใจเข้า นางก้ทำแบบนี้
อย่ามองตาพี่แบบนั้นนะ เดี๋ยวพี่อุ้มขึ้นรถพากลับบ้านซะเลยนี่

กินเสร็จก้มีไกด์อาสาพาเดินชมดอกไม้ในโรงแรม ก้เจ้าตูบตัวโตนี่แหล่ะค่า แหม่ พาเดินซะทั่วเลย
นางมีการหยุดรอเราถ่ายรูปด้วยนะ เอาซิ้ ฉลาดกว่าตูอิ้กกก แฮร่

 

 

 

 

 

บางทีเรื่องราวระหว่างทาง อาจสวยงามกว่าจุดหมายก้ได้

 

วันนี้เราตกลงกันว่าเราจะชิว เราจะหาร้านกาแฟนั่งให้ลมตีหน้าเฉยๆ
จุดหมายเลยไปตกอยู่ที่ร้านกาแฟประจำของเรา PINO LATTE เขาค้อ

สั่งกาแฟไป 4 แก้ว ขนมอีก 3 อย่าง หมดไป 800 กว่าบาท ถือว่าแพงสุดในทริปนี้ 55555

ชอบรูปนี้จัง เห็นเงาชั้นมั้ย วีฮู้ววว

นั่งกินเค้ก เม้ามอยกันจนเกือบ 5 โมงเย็น เมิง อยากกินกุ้งเผาอยุธยาอ้ะ กลับกันเหอะ!!!
ก่อนกลับขออีกแก้วนะ Elder Flower Italian Soda หอม เปรี้ยวอมหวาน ชื่นใจจ

อุส่าขับอ้อมกลับมาทางอยุธยา มาถึงตลาดกลางตอน 4 ทุ่ม ให้ตายเส่ะ! ร้านปิดหมดเลอ
อยากจะลงไปดิ้นซะเจงๆ อดกิน กลับมากินข้าวต้มแถวบ้านตอน 5 ทุ่มก้ได้ ชิส์!

หมดหนาวละ เดี๋ยวจะพาลงใต้ม่าง แล้วเจอกันใหม่ทู้หน้า ถ้ายังไม่เบื่อหน้ากันนะค้าบ

สำหรับใครที่จะไปภูลมโล ช่วงนี้ยังบานอยู่นะคะ (22 กุมภาพันธ์ 2559) เป็นชุดสุดท้ายของปีนี้แล้ว
ใครพลาดต้องรอปีหน้าเลย สามารถไปดูได้ตรงโรงเรียนบ้านทับเบิก ภูขี้เถ้า คาดว่าน่าจะบานถึงสิ้นเดือนนี้ค่า