การมาเที่ยวระนองครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก โบว์ว่าต้องมีอะไรบางอย่างให้โบว์หวนกลับมาอีกครั้ง

แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่สภาพอากาศของระนองยังคงเป็นเมืองฝน 8 แดด 4

ที่ในบางครั้งมีฝนโปรยปรายลงมาบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้การท่องเที่ยวของโบว์สะดุดเลยค่ะ

นับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของระนอง ที่มีฝนชุ่มฉ่ำ ส่งผลไปถึงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

 

แน่นอนค่ะว่าการมาระนองของโบว์ในครั้งนี้ต้องดีต่อใจและดีต่อสุขภาพมาก ๆ ค่ะ

เมื่อมาถึงระนอง โบว์เลือกนั่งรถสองแถวไปแบบชิลล์ ๆ ไม่เร่งรีบ

จะจอดแวะ แชะ ชมตรงไหนก็บอกพี่เค้าได้เลยที่สำคัญราคาเป็นมิตรอีกด้วย มาระนองต้องลองมานั่งค่ะ

จุดหมายของโบว์วันนี้คือที่  “โตนเพชร กรีนเนอรี การ์เด้น” ที่นี่มีทั้งบ้านพัก และเต็นท์

ให้เราได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ถึงแม้จะไม่มีแอร์ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ อากาศที่นี่เย็นสบาย

ตรงคอนเซ็ปต์เที่ยวแบบรักสุขภาพของโบว์ในทริปนี้ 

ดูน้ำในลำธารนั่นสิคะ ใสมาก  นั่งฟังเสียงน้ำไหลเอื่อย ก็เพลินดีนะคะ ถ้านั่งอยู่ตรงนี้นาน ๆ ต้องเผลอหลับแน่ ๆ     

นอกจากบรรยากาศสดชื่น ฉุ่มช่ำแล้ว “โตนเพชร กรีนเนอร์รี การ์เด้น” ยังมีกิจกรรมที่ได้ใกล้ชิดวิถีชีวิต

อันเรียบง่ายของชาวบ้านที่นี่ด้วยค่ะ อย่างกิจกรรมทำอาหารพื้นบ้าน และเรียนนวดแผนไทย

หรือจะเลือกการนวดเพื่อสุขภาพผ่อนคลายไปกับบรรยากาศอันร่มรื่นแบบโบว์ก็ได้อีกเช่นกันค่ะ

ชั่วโมงละ 250 เท่านั้น

 

หลังนวดผ่อนคลายไปแล้ว มีน้ำสมุนไพรดอกดาหลารสชาติ หอม หวาน และสดชื่นมาก

ใครจะคิดละคะว่าดอกดาหลา จะนำมาทำเป็นน้ำได้อร่อยและชื่นใจขนาดนี้

ช่วงบ่ายโบว์ได้นัดกับพี่เตย เจ้าของ โตนเพชร กรีนเนอรี การ์เด้น แห่งนี้ ..  

เพื่อไปเดินเล่นชมแปลงผักสวนครัว ผักนี้หน้าตาไม่คุ้นเลยค่ะ  สอบถามพี่เตยได้คำตอบมาว่ามันคือ

ต้นใบแปะตำปึงนั่นเอง เคยได้ยินชื่อและสรรพคุณที่ใช้รักษา เบาหวาน และความดันได้เป็นอย่างดี

รสชาติจะเป็นยังไง ต้องลองเด็ดเอาไปจิ้มน้ำพริกกินสักหน่อยดีกว่า

นี่ค่ะ ได้มาเยอะเลย…

ทางนู้นคุณยาย ก็กำลังเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำ “กะปิคั่วโบราณสูตรดั้งเดิม” ฉบับใต้แท้ ๆ

รออะไรละคะขอไปเป็นลูกมือคุณยายดีกว่า                                         

 

เริ่มจากการโขลกเครื่องแกงให้ละเอียด คุณยายบอกว่าลูกสาวบ้านไหนตำน้ำพริกเสียงครกดัง

ถือเป็นเสน่ห์ปลายจวักค่ะ เพราะกว่าเครื่องแกงจะละเอียดต้องออกแรงพอสมควร

การทำอาหารหนึ่งอย่างนอกจากจะต้องมีฝีมือแล้ว ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนถึงจะออกมารสชาติอร่อย

เมื่อเครื่องแกงละเอียดได้ที่แล้ว คราวนี้ก็เตรียมตั้งกระทะและใส่กะทิพร้อมเครื่องแกงลงไป

หยดน้ำปลานิด ใส่น้ำตาลหน่อย คั่วจนหอม ชิมรสชาติดูตามชอบ โรยหน้าด้วยมะกรูดซอย

จัดใส่จานพร้อมเสริฟ หืม…กลิ่นนี่หอมแตะจมูกโบว์เลย ได้ข้าวสวยร้อน ๆ สักจานคงจะฟินน่าดู

เวลาผ่านไปไวมาก การมาที่ โตนเพชร กรีนเนอรี การ์เด้น ครั้งนี้ โบว์ได้ความรู้ใหม่กลับไปมากมาย

ได้เรียนรู้ได้ลงมือทำ เป็นการพักผ่อนที่ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง

ความน่าสนใจของ จ.ระนองยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่น่าตื่นตา นั่นคือการลงเรือโบราณ

ไปสวมชุดแบบ เพอรานากัน  กินอาหารเย็นสุดหรู และร่วมย้อนเวลากลับไปยังสมัยรัชกาลที่ 5 กันต่อค่ะ

ตอนนี้โบว์มารอเรืออยู่ที่ท่าเรือประภาคารอ่าวระนอง แค่วิวโดยรอบก็สวยแล้ว

นึกไม่ออกเลยว่าวิวโดยรอบของสองฝั่งจะสวยขนาดไหน 

เรือมาแล้วค่ะ ที่มองเห็นอยู่ไกลๆ นั่นคือ “เรือเดอะรอยัลอันดามัน” 

ความพิเศษของทริปนี้ คือการได้ล่องเรือไปตามสถานที่จริง ๆ ในอดีต ที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาส

เสมือนเราเข้าไปอยู่ในห้วงเวลาอดีตอันสวยงามของระนองอย่างแท้จริง

ก้าวแรกที่ย่างเข้าไปในเรือโบราณอายุกว่า 100 ปี ลำนี้ก็มีเจ้าหน้าที่แต่งชุดเพอรานากัน

ชุดของผู้หญิงจะเรียก “ย่าหยา” สำหรับผู้ชาย จะเรียก “บาบ๋า”

ที่เราใส่ชุดแบบเพอรานากันก็เพราะ เมื่อสมัยก่อนกลุ่มชาวจีนที่มีเชื้อสายมลายู

โดยเฉพาะพ่อค้าชาวจีนฮกเกี้ยนได้เดินทางเข้ามาค้าขายกันมากที่บริเวณนี้ค่ะ

ทางเรือเค้าก็จัดเตรียมชุดแบบย้อนยุคในสมัย ร.ศ.109 ไว้สร้างบรรยากาศให้แก่นักท่องเที่ยวได้สวมใส่

สนุกสนานกันทั้งเรือเลยค่ะ เอาหล่ะค่ะ เมื่อพร้อมกันแล้ว เราออกเดินทางตามรอยเสด็จประพาสรัชกาลที่ 5 

ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณอ่าวระนองกันค่ะ  

 

จุดแรกที่เรือพาไปคือสักการะ เจ้าแม่กวนอิม สิ่งศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลแห่งเดียวในไทย ณ เกาะสรีย์            

มีฝูงเหยี่ยวปากแดงบริเวณลิตเติ้ลเวนิส เกาะคณฑีย์ บินมาให้ชม ดูสิคะเยอะมากเลยค่ะ

พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า อาหารก็ค่อย ๆ ทยอยมาเสิร์ฟเป็นตำรับโบราณ

ส่งเข้ามายังห้อง ชุมโพ่ ที่ใช้เรียกห้องอาหารชาวเลในอดีต

เริ่มต้นด้วย “ข้าวมันลอกอย่อ” “ลอหมี่ปู” และเมนูอาหารทะเล กุ้ง ปู หมึก 

หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้วมาถึงกิจกรรม ลอยพรกพร้าว ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เพราะเป็นประเพณีโบราณของชาวเลระนอง และเพื่อเป็นการขอบคุณพระแม่คงคาที่ให้สายน้ำอันเป็นดั่งชีวิตขอชาวเล

ในคืนพระจันทร์เต็มดวงสีสวย ได้เห็นแสงเทียนลอยกลางทะเลที่ลอยต่อกันไปเป็นแถว

โบว์รู้สึกมีความสุขและอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก ทำให้โบว์ตกหลุมรักระนองแบบหมดใจ

เราออกเดินทางตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น.ตอนนี้เรือได้พาโบว์กลับมายังท่าเรืออย่างปลอดภัย

เตรียมพร้อมความสนุกที่จะเกิดขึ้นอีกในวันพรุ่งนี้ค่ะ

ติดต่อสอบถาม : เรือเดอะรอยัลอันดามันระนอง

โทร. 080 956 6647

...

เช้าวันนี้โบว์อยู่ในตัวเมือง จ.ระนองค่ะ ตื่นแต่เช้าเพื่อมาสัมผัสวิถีการใช้ชีวิตแบบคนเมือง

ผู้คนที่นี่ตื่นเช้ามาก และก็น่ารักมาก ๆ เช่นกัน โบว์เดินเล่นที่ “ตลาดสดบ้านหงาว” มาสักพัก

จนมาเจอร้าน “โรตีนิสรา” ร้านโรตีชื่อดังของจังหวัดระนอง

คนเยอะมากค่ะ ขนาดโบว์มาเช้ายังต้องรอต่อคิวสักพัก ใครไม่อยากพลาดของอร่อยรีบตื่นเช้าสักนิดนะคะ

เมนูก็มีให้เลือกหลายอย่าง เลือกไม่ถูกว่าจะสั่งอันไหนโบว์เลยสั่งมาหลายอย่างเลยค่ะ

มาแล้วค่ะ…น่ากินทั้งนั้นเลย

เมื่ออิ่มท้องแล้วก็พร้อมไปต่อ จุดหมายถัดไปของโบว์คือการได้ไปแช่น้ำร้อน ทำสปา

แต่เป็นการแช่น้ำร้อนท่ามกลางธรรมชาติที่บ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน

เพราะที่นี่เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมีถึง 3 บ่อด้วยกัน คือบ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก

ซึ่งแต่ละบ่อมีอุณหภูมิแตกต่างกันออกไป แต่ทุกบ่อล้วนประกอบด้วยแร่ธาตุ ที่สำคัญ

และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย

จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์ สามารถดื่มได้จากแหล่งกำเนิด

โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรอง และที่สำคัญไม่มีค่าใช้จ่ายสามารถจูงลูกหรือคนรู้ใจมานั่งแช่น้ำร้อน

เพื่อสุขภาพที่นี่ได้เลยค่ะ

ก่อนกลับกรุงเทพสายหวานแบบโบว์ต้องหาอะไรหวาน ๆ กินสักหน่อย

โบว์จึงเลือกแวะมาที่ร้าน “Galla café”  ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าระนองจะมีคาเฟ่สุดเก๋แบบนี้ด้วย

บรรยากาศในร้านตกแต่งสไตล์มินิมอลจะถ่ายรูปมุมไหนก็เพลิน เครื่องดื่มก็อร่อย ส่วนเค้กไม่ต้องพูดถึง

โบว์ลืมเรื่องอ้วนไปเลยค่ะ


การมาระนองในครั้งนี้ทำให้โบว์ได้เติมความสุขให้กับตัวเองครบทุกด้าน ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

และธรรมชาติก็ให้อะไรกับโบว์หลาย ๆ อย่าง โบว์จึงหลงรัก เมืองแร่นอง ไปอีกนานแสนนาน…

 

ชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค ตอน  เยือนเมืองสงบ สุขครบรสที่ระนอง จ.ระนอง

ได้ที่นี่ค่ะ https://youtu.be/0Y9sjCybvkY

 

ติดตามชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค

ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 15.30 – 16.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส