ช่วงวันหยุดติดต่อกัน คิดงานเลยไม่ได้ไปไหนไกล เลยเลือกไปที่ใกล้ๆ หลังจากที่อาทิตย์ก่อนตะเวณอยู่ใกล้ๆกรุงเทพฯมาแล้วหนึ่งวัน วันนี้เลยเลือกเดินทางไปสุพรรณ ไปไหว้พระเน้นๆ เลี่ยงรถที่จะกลับจากต่างจังหวัด เดินทางออกจากกรุงเทพฯขับรถไปทางเส้นนครปฐมกำแพงแสนเข้าสุพรรณ ถนนโล่งแต่สิบล้อค่อนข้างแยะ ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทาง ถึงรถที่ขับไปจะเล็กนิดเดียวก็ตามที ออกจากกรุงเทพฯประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ แวะตามทางไปถึงสุพรรณประมาณ เก้าโมงครึ่ง เริ่มต้นกันที่วัดป่าเลไลย์ ขอพรหลวงพ่อใหญ่ก่อนจะไปยังวัดอื่นๆ 
มาถึงวัดตั้งแต่เช้าเลยไม่ต้องเบียดผู้คน ฟ้าใสอากาศดี ไม่ร้อนมาก บริเวณยังมีการก่อสร้างประปราย
ขอพรหลวงพ่อ ทำบุญก่อนออกเดินทาง ออกจากวัดเลี้ยวขวาไปตามทาง จะมีป้ายบอกวัดมงคลที่สามารถเข้าไปทำบุญไหว้พระได้ 9 วัดติดๆกัน ตอนขับรถผ่านเจอรถใหญ่บังเลยมองไม่เห็นป้าย หลงทางเล็กๆ ถามชาวบ้านข้างทาง หาที่ยูเทิร์นรถกลับเข้ามาใหม่ เจอป้ายบอกทางชัดเจน เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามป้าย ไม่นานนักก็เจอวัด 

ป้ายบอกทางเข้าวัด

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดที่มีเจย์ดีโบราณอยู่ข้างๆ ตอนไปกำลังบูรณะ 

ขอพรทำบุญเก็บรูปรอบๆก่อนไปต่อ ไม่แน่ใจว่าเพราะไปถึงเช้าหรือว่าวันอยุดยาวคนเลยไปเที่ยวที่อื่น ทั้งรถทั้งคนโล่งมากจนไม่คิดไม่ใช่วันหยุด เลยทำบุญกันสบายๆไม่รีบเร่ง วัดแค ซุ้มขุนแผน วัดนี้มีต้นสาละที่องค์โสมปลูกเอาไว้ด้วย กำลังเจริญงอกงามทีเดียว หลังจากขอพรทำบุญเสร็จก็ออกไปสำรวจรอบๆ มีตลาดชาวบ้านเล็กๆ ชาวบ้านน้ำของมาขาย ที่ถูกใจเราที่สุดก็คือผักผลไม้ ผักสดๆเก็บกับมาขายถุงละ 10 บาทเยอะมาก ได้แตงไทยลูกใหญ่เกือบสองโล กับสายบัวแตงกวามาอย่างละถุง ตรงซุ้มขุนแผนมีต้นมะขามใหญ่มาก อ่านประวัติอายุราวๆ 1000 ปี 
ออกจากวัดแคไปต่อกันที่วัดสารภี วัดนี้เลี้ยวเข้าไปแบบงงๆ ไม่ได้อ่านป้ายเจอวัดเลี้ยวเข้าไปเลย เหมือนเดิมไม่มีคน ตอนขอพรพระทำบุญก็มีแค่พวกเรากับคนของวัด เลยทำบุญกันสบายๆ ใครจะสวดมนต์ ใครจะนั่งสมาธิก็หามุมกันตามสะดวก
พระพุทธมุนีศรีมงคล มีอายุกว่า 100 ปี
เพราะสวดมนต์ทำบุญอยู่ในอุโบสถ ไม่ได้ออกมาสำรวจด้านนอก ตอนขับรถออกมาถึงได้เห็นรูปปั้น ช้างเอราวัณขนาดใหญ่ในวิหารหน้าอุโบสถ เขาว่ากันว่าถ้าได้ลอดท้องช้างจะทำมาค้าขายร่ำรวย แต่เราพลาดไปแล้ว

วัดพระลอย มาถึงวัดนี้ตอนเที่ยงพอดี ขอพรทำบุญระหว่างนั้นก็เดินสำรวจรอบๆ และเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองลืมเอาแบตกล้องใส่กระเป๋าไป เป็นผลให้กล้องไม่สามารถถ่ายรูปได้ เลยต้องอาศัยมือถือที่มีถ่ายรูปตามมีตามเกิดกันไป แถวๆบริเวณวัดมีร้านอาหารราคากลางๆอยู่ เลยแวะไปหม่ำมื้อเที่ยง ถึงแดดจะเปรี้ยงแต่ลมพัดเย็นดี ไม่รู้สึกว่าร้อนเลย...เติมพลังพักเอาแรงเสร็จก็มุ่งหน้าไปวัดต่อไป

วัดหน่อพุทธางกูร ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปสานด้วยไม้ไผ่ ทาด้วยสีทองเหลืองอร่ามสวยมาก  พระสิงห์สามสานชนะมารสานด้วยไม้ไผ่ทั้งองค์ วัดอยู่ติดถนนห่างจากวัดพระลอยนิดเดียว นอกจากนี้ยังมีลายจิตรกรรมฝาผนังที่น่าสนใจ อยู่ภายในอุโบสถ 

วัดพระนอนเป็นวัดถัดมา เป็นพระนอนลักษณะคล้ายกับพระนอนที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย เป็นปางถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมัยอู่ทอง บริเวณวัดมีต้นใหม้ ใหญ่มากบ่งบอกถึงความเก่าแก่ของวัดได้เป็นอย่างดี  วัดสุดท้ายที่แวะคือวัดวิหารแดง ที่มีพระประธานอายุประมาณ 700 ปี สร้างในสมัยอู่ทองตอนปลาย 
ด้านนอกมีพระพุทธรูปเก่าแก่ไม่แพ้กันให้นมัสการ ใช้เวลาไหว้พระประมาณบ่ายสองก็ออกจากวัด แวะซื้อผักผลไม้ริมทางจากชาวบ้านก่อนจะตีกลับเข้ากรุงเทพฯ ใช้เวลาไม่นานสำหรับทริปนี้ ช่วงกลับเข้ากรุงเทพฯแวะซื้อส้มโอจากเมืองนครปฐมเป็นของฝาก ถนนยังโล่งจนกระทั่งถึงเขตกรุงเทพฯ รถติดนิดหน่อยช่วงหนองแขมก่อนจะโล่งตลอดจนถึงบ้าน อิ่มบุญ และได้ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ช่วงวันหยุด

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ