ลากกล้องฟิล์มไปเที่ยวงานธาตุ(พระธาตุช่อแฮ) จังหวัดแพร่
ทริปนี้เป็นทริบเหมือนจะขำแต่ไม่ขำ ด้วยงานที่รัดตัวจนปลีกวิเวกนานๆไม่ได้ สุดท้ายเลยตัดสินใจไปเที่ยวงานพระธาตุช่อแฮตามคำบัญชาของแม่แบบไปถึงเช้าเย็นกลับเลย ปีละครั้งที่จะได้ทำบุญให้แม่ที่เกิดปีขาล พระธาตุประจำปีเกิดคือพระธาตุช่อแฮ ปีนี้มาเองไม่ได้เลยมาเป็นตัวแทนทำบุญและเที่ยวเล็กๆ ลากกล้องฟิล์มตัวเล็กติดตัวมาพร้อมฟิล์มสามม้วน เอากล้องดิจิตัลมาด้วยเผื่อพลาด จองตั๋วไปกลับของสมบัติทัวร์ขึ้นรถที่วิภาวดี รถออก 21.05 น.ขึ้นรถไม่ถึงสิบนาทีหลับปุ๋ย เพ่งกลับมาถึงกทมเมื่อเช่้า เย็นเดินทางต่อ ระหว่างนั้นไม่รู้เรื่องอะไรแระ ตื่นมากินข้าวต้มที่จุดพักรถตอนตีสองครึ่งที่พิษณุโลก ขึ้นรถหลับต่อมาถึงขนส่งจังหวัดแพร่ตอนตีห้า อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ รอจนฟ้าสาง ให้น้องลูกของลุงมารับ
เช้าๆแบบนี้เริ่มต้นด้วยการใส่บาตรที่กาดมุ้งทอง กาดมั่วเช้าใกล้ๆพระธาตุช่อแฮ น้องบอกว่ามีงานแบบนี้พระท่านไม่ค่อยออกมารับบาตร เลยยืนรอพักนึง ได้ใส่บาตรสมใจ
เงียบสงบ ไม่มีคนเลย อาจเป็นพระมีงานใหญ่คนเลยไม่แวะมาที่นึ่ เราไหว้พระสวดมนต์เสร็จเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึก ระหว่างนั้นเห็นต้นมะม่วงหินมพานออกลูกอลังมาก ที่สุกมากแล้วก็หล่นเกลื่อนอยู่ใต้ต้น คงเพราะอยู่่ในวัดเลยไม่มีคนเก็บ เอ้อระเหยลอยลม จนใกล้เที่ยง วกรถกลับ ใกล้เวลานัดแล้ว ถึงบ้านน้องตื่นพอดี เตรียมตัวเดินทางต่อ จุดหมายปลายทางอยู่ที่บ้านแม่ลัว แหล่งปลูกเมี่ยงของขึ้นชื่อเมืองแพร่ และที่เขาเรียกกันอีกชื่อนึงคือสวิสเมืองแพร่ จากพระธาตุช่อแฮไปไม่ไกล แต่เพราะต้องปีนเขาไปเรื่อยๆเลยค่อนข้างใช้เวลา
ที่นี่อากาศเย็นสบาย ลุงบอกว่ากลางคืนไม่ต้องเปิดพัดลม แถมต้องนอนห่มผ้าสองชั้นอีก ชาวบ้านมีสวนเมี่ยงเป็นของตัวเอง เมี่ยงคือใบชาที่เอามานึ่งและหมัก เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม ใบชาที่มักแล้วมีประโยชน์หลายอย่าง ปีนึงเก็บได้สี่ครั้ง เวลาทำเสร็จจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับถึงที่ ชาที่นี่ปลูกแบบไม่ใส่สารอะไรเลย ปล่อยตามธรรมชาติ ขณะนั่งฟังเราก็าปรือเพราะอากาศดีมาก อยากปูเสื่อนอนซะตรงนั้น ไม่ได้การลากน้องไปต่อก่อนจะหลับ จากบ้านแม่ลัวกลับลงมาอีกนิดเป็นบ้านนาคูหา ที่นี่ปลูกเตา สาหร่ายน้ำจืดชนิดนึงที่มีประโยชน์มากเฃ่นเดียวกับสาหร่ายอื่นๆที่อัดเม็ดขายกันโครมๆ สายสุขภาพพลาดไม่ได้ น้ำใสๆเย็นๆทำให้สาหร่ายชนิดนี้เติบโตได้ได้ เรียกไว้ว่าน้ำต้องสะอาดจริง ถึงจะโตได้ ตอนเข้าไปดูมีแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ แต่คนขายไม่อยู่ คาดว่าน่าจะไปขายที่งานธาตุ เราเลยไม่ได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับ ออกจากบ้านนาคูหา ลงกลับมาทางเดิม แวะทำบุญระหว่างทาง ที่พุทธอุทยานดอยผาสวรรค์ ที่นี่มีพระธาตุอินแขวนจำลองและเจดีย์ชเวดากองจำลองทำบุญเสร็จตาปรือ หูตูบหางตก ไม่ไหวแล้วครัช น้องก็คงเห็นว่าเราไม่รอดแน่ เลยรีบชวนกลับ ก่อนที่จะต้องแบกเราขึ้นรถ
ระหว่างทางกลับหิวน้ำ เลยแวะหาชากิน กาแฟคงตาค้าง จัดเบาๆก่อนละกัน ร้านกาแฟอยู่ริมทางมีที่จอดรถด้านหน้า
กลับถึงบ้านน้องหลับเป็นตาย ตื่นมาตอนบ่ายสาม และเพิ่งนึกได้ว่าเอากล้องฟิล์มมา ยังไม่ได้ถ่ายสักรูป โยนกล้องอื่นๆไว้ในกระเป๋า คว้ากล้องฟิล์มคล้องคอ ไปกันโลด งานธาตุจะเริ่มมีของขายและคนมาเดินกันตอนเย็นๆ ช่วงที่เดินออกจากบ้านมาคนก็เริ่มหาที่จอดรถกันแล้ว รถเต็ม
ตลาดบ้านๆ ของกินพื้นเมือง ของป่า เสื้อหม้อฮ่อม ของขึ้นชื่อเมืองแพร่ หอมกระเทียมราคาไม่แพงมีขายเต็มไปหมด เดินดูไปถ่ายรูปไป ซื้อไป ตกใจที่ตังค์ในกระเป๋าเกือบหมด หิ้วของพะรุงพะรังไปเก็บที่รถ น้องชวนไปดูพระอาทิตย์ตกดิน และดูวิวมุมสูงของจังหวัดแพร่ เดี๋ยวค่ำๆค่อยมาเดินงานต่ออีกรอบ
มุ่งหน้าขึ้นพระธาตุดอยเล็ง ตะวันเริ่มคล้อยแล้ว น้องทำเวลากลัวเราจะไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดิน ขึ้นไปถึงด้านบน พระอาทิตย์เป็นสีแดงแล้ว