เสาร์-อาทิตย์ธรรมดาไม่อยากอยู่หอ ไม่มีอะไรจะทำ ยิ่งช่วงนี้บรรยากาศก็เศร้าๆ เลยอยากหนีบรรยากาศความเศร้าใจไปใช้ชีวิตเงียบๆสักพัก เลยเลือกไปต่างจังหวัดใกล้ๆ ที่เลือกฉะเชิงเทราเพราะเห็นรีวิวในพันทิป ลองอ่านดูแล้วไปไม่ยากคนน่าจะไม่เยอะด้วย ที่สำคัญนั่งรถไฟไปได้ ดี ชอบ ได้นั่งคิดอะไรโง่ๆนาน ชอบนักหนาแหละ ทริปนี้ลุยเดี่ยวเพราะอยากเที่ยวต่างจังหวัดคนเดียวบ้าง มาเริ่มกันเลย
ก่อนอื่นเลือกการเดินทางก่อน ฉะเชิงเทรามีวิธีการเดินทางหลายรูปแบบ รถส่วนตัว รถตู้ รถไฟ เราเริ่มเดินทางจากสถานีหัวหมาก เวลาประมาณ 7.49 น ซึ่งจริงๆแล้วต้นขบวนมาจากสถานีหัวลำโพงออกประมาณ 6.55 น ลองเช็คดูได้จากเว็บ http://www.railway.co.th/checktime/checktime.asp
แนะนำให้มาก่อนเวลา เพราะรถไฟไทยเดี๋ยวนี้มักออกตรงเวลา เลทอย่างมากก็ไม่เกิน 5-10 นาที แต่เวลาถึงมักไม่ค่อยแน่นอน
ระหว่างรอรถไฟ 
เมื่อเดินออกมาจากหน้าสถานีเพียงนิดเดียวเลี้ยวซ้ายก็จะเจอกับ รถสองแถวคันสีเหลืองซึ่งมีคุณลุงบอกว่า ไปวัดหลวงพ่อโสธรมั๊ยหนู ยืนคิดอยู่สักพัก หันไปหันมารู้ตัวอีกทีอยู่บนรถสองแถวเฉย (รูปถ่ายตอนขากลับซึ่งฝนตก) 
เราอย่าเสียเวลากันนักเลย เข้าไปดูด้านในกัน
อันนี้จะเป็นห้องโถงแรกที่เราเข้าไปเจอเป็นอันดับแรก เป็นที่ๆให้สักการะพระพุทธรูปซึ่งอ่านประวัติมาว่า หลวงพ่อโสธร ลอยมากับแม่น้ำบางปะกงคาดว่าสร้างในสมัยกรุงธนบุรีตอนต้น ซึ่งองค์จริงจะเป็นทองคำแต่เนื่องจากกลัวจะมีโจรมาขโมย เจ้าอาวาสเลยให้คนนำปูนมาหล่อทับไว้อีกชั้นหนึ่ง
เดินออกมาจากห้องนั้นก็จะเป็นทางเดินซึ่งมีฆ้องและกลองวางโชว์ไว้อยู่ (แต่ถ่ายมาแค่กลอง เห็นสวยดี) 

เจอแก๊งค์แมวเหมียวด้วยนอนอยู่หน้าประตูทางออก
เสร็จจากสำรวจภายในอาคารก็เดินออกมาชมความงามรอบๆ อาคารกันต่อ

โดยรอบๆก็มีสวนให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ 

ถ่ายมุมอื่นบ้าง

บริเวณวัดจะมีพื้นที่สำหรับให้แก้บนด้วย เดินออกทางประตูด้านขวามือ ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นประชากรหนาแน่นมาก หลั่งไหลมาตามศรัทธา โดยของแก้บนส่วนใหญ่ที่นิยมนำมาก็คือ ไข่ต้ม 

บริเวณด้านในก็จะมีที่สำหรับให้ทำบุญ ปิดทองพระพุทธรูปและก็เสี่ยงเซียมซี (เซียมซีแม่นมาก แล้วแต่คน)

ถัดจากไหว้พระ ปิดทองพระพุทธรูป เวลายังเหลือยู่เลยเดินเล่นๆไปทางด้านหลังวัด บังเอิญไปเจอศาลเจ้า เลยแวะเข้าไปสักการะสักหน่อย


ด้านในศาลเจ้า

ศาลเจ้าจะแบ่งเป็น 2 ชั้น ธูปเทียนและตู้ทำบุญจะอยู่ด้านล่าง โดยจุดเริ่มต้น จุดที่1 อยู่ด้านบน สิ่งที่ใช้สักการะจะประกอบด้วยเทียน 2 เล่ม ธูป 85 ดอก ซึ่งจะแบ่งไหว้ด้านบน 50 ดอกและด้านล่างอีก 35 ดอก ข้อแนะนำคือจุด 50 ดอกก่อนแล้วค่อยจุด 35 ดอกทีหลัง เดี๋ยวตอนไหว้ด้านล่างจะเหลือธูปสั้นๆ บอกไว้ก่อนเพราะพลาดมาแล้ว ส่วนถ้าธูปเทียนเหลือก็ไม่แปลกลองเดินๆดูอาจมีที่สักการะด้านนอกอีก



หลังจากไหว้พระเสร็จ ด้านข้างศาลเจ้าติดกับแม่น้ำบางปะกง แวะไปเดินเล่นรับลมซักหน่อย 

ช่วงท้ายตลาดมีให้นั่งเรือไปวัดสมานรัตนาราม พระพิฆเนศปางเสวยสุข ถ้ามีเวลาเหลืออยากให้ลองไปดู แต่เราไม่ได้ไปเพราะกลัวกลับไม่ทันรถไฟรอบ14.00 น เดินสำรวจตลาดพอสมควรได้เวลาตัดสินใจเลือกร้านฝากท้องสำหรับเที่ยงนี้แล้ว ตลอดทางก็มีหลายๆร้านให้เลือกกิน แต่ไปหยุดเอาตรงร้านผัดไทห่อไข่ ซึ่งเจ้าของร้านเชิญชวนให้เข้าโดยให้ สรรพคุณว่า ร้านผัดไทที่อร่อยของตลาดร้อยปีก็ร้านนี้แหละครับ ตอนแรกก็ยิ้มๆเดินผ่านไปก่อน พอเอาเข้าจริงก็ตายรังไปกินอยู่ดี อร่อยมั๊ยไม่รู้แต่หมดเกลี้ยง มากับความหิว
ซื้อขนมชิมเพลินๆระหว่างทาง
ขนมปากหม้อ
ขนมกง มันคือธัญพืชงาดำชุบแป้งทอด อร่อยดีค่ะหวานๆ ลองไปชิมดูเห็นชื่อแปลกและเห็นขายอยู่เจ้าเดียว

เสร็จจากทำบุญใกล้เวลากลับละบวกกับฝนเหมือนจะตก ฟ้ามืดครึ้ม ไม่ได้เอาร่มมาด้วยต้องรีบทำเวลา ขึ้นสองแถวเหมือนเดิม 8 บาท หน้าวัดนั้นแหละไปลงสถานีรถไฟ

สรุปค่าใช้จ่าย
ค่ารถไฟฟรี
ค่ารถสองแถว 4 รอบ 32บาท
ค่าอาหาร 150 บาท
ของฝาก 100 บาท
เงินทำบุญ ตามศรัทธา
รวมทั้งหมด 282 บาท ค่าใช้จ่ายยืดหยุ่นตามการกินการใช้ของแต่ละคน
ว่างๆวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หากยังคิดไม่ออกว่าจะไปไหน ก็ลองพิจารณาฉะเชิงเทรามาเป็นตัวเลือกดู ไม่แน่เธออาจจะเจออะไรที่ไม่อยู่ในรีวิวที่เคยมีมาก็ได้
Enjoy your weekend :))
