ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
สวนสุภัทราแลนด์ อาณาจักรของคนรักผลไม้ สวนสุภัทราแลนด์ (Suphattra Land) จ.ระยอง
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    เมื่อพูดถึงแหล่งเพาะปลูกผลไม้ที่สำคัญ แน่นอนว่าจะต้องคิดถึงภาคตะวันออกของไทยเป็นอันดับแรก ผู้คนมากมายต่างให้ความมั่นใจในเรื่องของคุณภาพ  ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม ผืนดินอันอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดีเลยอยากจะชวนทุกคนไปเที่ยวชม สวนสุภัทราแลนด์  จ.ระยอง ที่ที่คุณจะเพลิดเพลินไปกับผลไม้นานาชนิด และมิตรไมตรีจากไกด์ผู้นำเที่ยวสวนซึ่งเปี่ยมด้วยอารมณ์ขันอย่างล้นเหลือ


    • โพสต์-2
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    สวนสุภัทราแลนด์ ได้เปิดเป็นแหล่งสำหรับท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างเต็มตัว ให้บริการทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยรวมถึงชาวต่างชาติ ได้ศึกษาเรียนรู้การเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ และที่สำคัญยังสามารถเก็บผลไม้สดๆ รับประทานจากต้นได้เลยทีเดียว โดยมีพื้นที่อยู่ประมาณ 800 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ซึ่งการเที่ยวชมในแต่ละครั้งนั้น ทางสวนจะมีรถบริการรับส่งและนำเที่ยวตามจุดต่างๆ ทั้งหมด ซึ่งจะมีไกด์ ซึ่งควบตำแหน่งโชเฟอร์ คอยนำเที่ยวชมสวนในส่วนต่างๆ รวมถึงคอยให้ข้อมูลต่างๆ อย่างเข้าใจง่าย เพราะไกด์แต่ละคนมีความชำนาญ อีกทั้งยังสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย

    ซึ่งจุดท่องเที่ยวหลักของสวนสุภัทราแลนด์ มีอยู่ด้วยกันประมาณ 3-4 สถานี ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ที่เงาะได้ให้ผลผลิต ทางสวนก็จะเพิ่มเป็นอีกหนึ่งจุดแวะ ถือเป็นจุดแรกที่นักท่องสามารถลงมาเด็ดเงาะรับประทานได้จากต้นเลยทีเดียว และ จุดเดียวกันนี่เองยังสามารถพบเห็นเงาะพันธุ์พื้นเมืองของระยองที่มีผลสี เหลือง แปลกไปจากต้นอื่นๆ ซึ่งสวนแห่งนี้เหลืออยู่เพียงต้นเดียวเท่านั้น ใครที่อยากจะลองชิมก็ใช้ความพยายามกันซักหน่อย เพราะถ้าช่วงก่อนหน้าที่คุณไปมีนักท่องเที่ยวมาก ก็อาจจะเหลือเก็บน้อย แต่หากใครที่สามารถคว้ามาไว้ในมือได้แล้ว ก็อย่ารอช้าที่จะชิมเจ้าเงาะพื้นเมืองนี้ ซึ่งรสชาติจะออกหวาน กรอบ อร่อยไม่แพ้กับเงาะพันธุ์อื่น แต่บางลูกอาจจะมีรสชาติออกเปรี้ยวไปบ้าง และไม่เพียงแค่เงาะเท่านั้นที่สามารถเด็ดทานกันสดๆ แต่ยังรวมไปถึงมังคุด ลองกอง สละ ที่รับรองว่าจะต้องถูกใจคนชอบรสเปรี้ยวอย่างแน่นอน เพราะเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้ว เวลาเก็บจากต้นทานสดๆ แล้วรสชาติจะเปรี้ยวมากว่าปกติ

    ทว่าเมื่อเราได้รสสัมผัสเปรี้ยว ๆ ของสละที่เพิ่งเด็ดจากต้น ก็สร้างความกระชุ่มกระชวยให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี หรือถ้าหากใครที่ใจร้อนอยากจะทานแบบมีให้เลือกหลากหลายในที่เดียว ไม่ต้องเหนื่อยออกแรงมาก ก็เชิญได้เลย ณ จุดบริการบุฟเฟต์ผลไม้ในสถานีที่ 2

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556
    • โพสต์-4
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    ในจุดที่ 2 นี้ถือเป็นจุดที่ถูกใจใครหลายคน เพราะมีบริการบุฟเฟต์ผลไม้นานาชนิด รสชาติหวานอร่อยถูกปาก โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยปลอกเปลือกผลไม้ อำนวยความอร่อยให้ถึงมือคุณเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหมอนทอง เนื้อสีเหลืองนวลชวนรับประทาน ที่มาพร้อมกลิ่นอันเย้ายวน หรือถ้าใครที่ไม่พิสมัยกับเจ้าผลไม้เปลือกแหลมนั้น ก็ยังมีผลไม้อย่างอื่นให้เลือก ทั้ง มังคุด มะม่วง แก้วมังกร ขนุน และอีกมากมาย

    นักท่องเที่ยวสามารถทานกันได้จนกว่าจะหนำใจ จนเมื่ออิ่มอกอิ่มท้องกันแล้ว ก็อย่ารอขึ้นช้าขึ้นรถรางไปยังจุดที่ 3 ต่อไปเลยดีกว่า ซึ่งระหว่างทางนั้นก็ยังมีจุดที่น่าสนใจ ชวนให้แวะจอดเป็นพักๆ ทั้งสวนยางพารา หรือแม้กระทั่ง โรงเรือนผักไฮโดรโพนิกส์

    ซึ่งในส่วนของสวนยางพาราที่แวะกันอยู่นี่ เชื่อได้เลยว่าคนเมืองอย่างเราๆ มักจะคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันต่างๆ มากว่าที่จะรู้ว่ากว่าที่จะออกมาเป็นสิ่งของให้เราได้ใช้นั้นต้องทำอย่างไร ซึ่งเมื่อคุณมาที่นี่ก็จะได้รับการสาธิตว่าขั้นตอนกว่าที่จะได้น้ำยางขาวข้น ที่กว่าจะหยดออกมาแต่ละหยดนั้นต้องทำอย่างไร และก็เป็นหน้าที่ของไกด์พาทัวร์สวนนี่เอง โดยนักท่องเที่ยวก็สามารถจะทดลองลงมือกรีดยางได้ด้วยได้เช่นกัน หรือที่ศัพท์ชาวบ้านเรียกกันว่า ตัดยาง เหมือนกับเกษตรกรทางภาคใต้  ทว่านักท่องเที่ยวก็ต้องระมัดระวัง เรื่องอุปกรณ์ที่ใช้กรีดยางนั้นมีความคมมาก และควรจะให้ไกด์นำชมสวนคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผู้ไม่มีประสบการณ์มาก่อนอาจจะทำให้หน้ายาง เกิดความเสียหายได้ และยังไม่หมดแค่นี้ อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั้นก็คือแปลงปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งก็คือการปลูกผักในโรงเรือนแบบไม่ใช้ใช้ดิน และยังปลอดสารพิษอีกด้วย ซึ่งจุดนี้ผักแต่ละต้นจะปลูกในรางเป็นแถวยาว โดยให้น้ำหล่อเลี้ยงลำต้นผ่านทางร่องด้านล่างของราง ซึ่งจะมีคนคอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทำให้ผักแต่ละต้นดูมีชีวิตชีวา สีสวยสดใส ชวนให้คิดถึงสลัดผักชามใหญ่ขึ้นมาในทันที ซึ่งไม่ต้องกังวลไป เพราะที่นี่ก็ยังมีให้บริการสลัดผักที่ปลูกแบบไฮโดรโพนิกส์ ไว้สำหรับผู้รักสุขภาพได้ทานกัน

    • โพสต์-5
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    จุดที่ 3 นี้ สังเกตได้ว่า นักท่องเที่ยวเยอะไม่แพ้จุดอื่นๆ เลย เมื่อทุกคนจับจองที่นั่งในโรงอาหารเป็นที่เรียบร้อย ต่างก็ดูมีความสุขกับความหวานอร่อยของผักสลัด ที่ทานพร้อมกับส้มตำรสชาติกลมกล่อม ถูกปากทั้งเด็กและผู้ใหญ่อยู่ไม่น้อย จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นกับของอร่อยที่ดีต่อสุขภาพเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปยังจุดที่ 4 กันต่อเลย ทว่าระหว่างทางที่ไปนั้น จะได้พบกับไร่องุ่น ซึ่งมีให้ชมได้อย่างใกล้ชิด ทั้งองุ่นเขียว และองุ่นดำ แต่ไม่ควรใช้มือสัมผัสผลของมันหรือเด็ดรับประทานจากต้นทันที เพราะจะทำให้พวกมันช้ำ และอาจจะเน่าทั้งพวงได้ในที่สุด อีกทั้งนักท่องเที่ยวควรระมัดระวังยางเหนียวๆ ที่ทาไว้เพื่อดักมด และแมลงบริเวณเสาปูนที่เป็นฐานให้เถาองุ่นได้เลื้อย เพราะอาจจะเลอะเสื้อผ้าจนซักไม่ออกได้ และไม่ใกล้ไม่ไกลจากไร่องุ่นนี้ ก็มาถึงจุดสุดท้ายที่จะได้เที่ยวชมก่อนที่จะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน ซึ่งก็คือ สถานีเลี้ยงผึ้ง

    ณ จุดนี้จะมีการสอนวิธีทดสอบน้ำผึ้งว่า ของแท้หรือปลอมนั้นเป็นอย่างไร อีกทั้งยังจะสามารถได้เห็นผึ้งตัวเป็นๆ ยกขึ้นมาจากรังได้อย่างใกล้ชิด แต่ต้องระวัง อย่าเอามือไปแตะต้องพวกมันเป็นอันขาด เพราะเกิดพวกมันตกใจขึ้นมาเดี๋ยวจะถูกต่อยเจ็บตัว จะหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้นะครับ ว่าแต่มาถึงตรงนี้ทั้งทีจะไม่ได้ชิมน้ำผึ้งเลยก็เหมือนขาดอะไรไป ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ประจำจุดนี้ก็ได้น้ำเอาน้ำผึ้งผสมมะนาวแช่เย็นๆ มาให้ได้ดับกระหายกันถ้วนหน้า สดชื่นขึ้นมากทีเดียว และรู้หรือไม่ว่า น้ำผึ้งนั้นยังถือเป็นยาช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นอีกด้วย

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556
    • โพสต์-8
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    จากที่ได้เห็นมาทั้งหมดในสวนสุภัทราแลนด์นั้น เราเลยไม่รู้สึกแปลกใจซักนิดว่า เพราะเหตุใดสวนแห่งนี้จึงได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดีเด่น ถึง 2 สมัย จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศ เมื่อปี 2551 และ 2553 เพราะความสามารถในการปรับตัวจากที่เป็นเพียงสวนผลไม้ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และให้ผู้มาเยือนได้มีส่วนร่วม

    ดังนั้นคราวต่อไป ถ้าคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวเมืองระยอง คงจะต้องเพิ่มที่นี่ไว้เป็นหนึ่งในจุดหมายของท่องเที่ยว เพราะเชื่อเถอะว่า เวลาที่ได้ปลิดผลไม้จากขั้วลงมาชิมกันสดๆ มันช่างมีความสุข และอร่อยมากกว่าซื้อมากินเองที่บ้านเป็นไหนๆ

    • โพสต์-9
    theTripPacker •  กันยายน 23, 2556

    ความคิดเห็นของผู้เขียน

    • จุดเด่น:
    • นอกจากเรื่องความหลากหลายของผลไม้ ผักไฮโดรโพนิกส์ และการเลี้ยงผึ้งแล้ว ไกด์นำชมสวนก็สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี ด้วยการปล่อยมุขซึ่งก็ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาเพื่อขึ้นมากเลยทีเดียว
    • จุดด้อย:
    • จุดให้บริการส้มตำและผักสลัดนั้นมีแมลงวันค่อนข้างมาก อาจสร้างความรำคาญหรือทำให้อรรถรสในการกินเสียไป
    • ข้อสรุป:
    • ไม่น่าเบื่อเหมือนอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกเลยสำหรับสวนสุภัทราแลนด์ เพราะเมื่อได้เข้ามาเที่ยวชมแล้ว จะได้รับประทานผลไม้สดๆ ที่ปลิดจากขั้วกันได้เดี๋ยวนั้น รวมถึงกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย และสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสีสันระหว่างเส้นทางเที่ยวชม ก็คือมุขตลกที่ไกด์นำเที่ยวคอยปล่อยให้ได้หัวเราะอยู่เนื่องๆ สร้างความสุขให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี
    คะแนน
    • โพสต์-10
    theTripPacker •  กันยายน 23 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : 70 ม.10 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง 21120

    GPS : N12 47 58.80, E101 13 48.00

    เบอร์ติดต่อ : 038-892-048-9 แฟกซ์ : 038-892-255

    E-mail : Supattraland07@yahoo.com

    Website : www.Suphattraland.com

    เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 08.00 น. – 17.00 น.       

    ค่าธรรมเนียม : คนไทย 250 บาท ชาวต่างชาติ 400 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี

    ไฮไลท์ : การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

    กิจกรรม : เที่ยวชมสัมผัสการการเกษตรแบบผสมผสาน และชิมผลไม้สดๆ

    • Sukanya  เด็กราคาเท่าใหร่หราค่า 21 พฤษภาคม 2559 11:29:30
  1. โหลดเพิ่ม