สังขละบุรี รถไฟฟรี ไปคนเดียว แต่เที่ยวเป็นฝูง..

ทริปนี้ก็ลุยเดี่ยว แบคแพค แบกกล้อง ช่วงเวลาที่ผมเดินทางคือวันที่ 3-5 .04.15 
3 วัน 2 คืน โอเคครับมาเริ่มกันเลยดีกว่า เอาละครับสำหรับเช้านี้ที่เดินทางผมตื่น ตี 5 นังรถเมล์มา ที่สนามหลวง ลงท่าช้างข้ามเรือ มาฝั่ง รพ ศิริราช เพื่อมารถไฟฟรีที่สถานีธนบุรี - ไปลงสถานีน้ำตก จริงๆเดินก็ได้นะครับมารู้ทีหลัง ผมดั๊นนนน ไปถามพยาบาลสาวเจ้าถิ่นว่า 

" สถานีรถไฟธนบุรีไกลไหมครับ " 
เธอบอก " ไกลค่ะ "

ผมนี่พี่วินเลยยยย โดนไป 20 บาท ไม่ไกลนะครับเรื่องจริง แต่ก็ไม่เคยไป แต่ดีครับมีเวลาเก็บบรรยากาศแถวสถานีพอสมควร และได้ภาพที่ประทับใจมาด้วย ผมถึงสถานีรถไฟ 7 โมงกว่าๆ รถออก 07.50 แต่อย่างว่าครับเหมือนคนดวงจะดีช่วยไม่ได้ รถไฟช้าไป 1 ชม เนื่องจากคนที่ออกไปก่อนเสีย จึงต้องส่งหัวเปล่าไปลากกลับมาเพื่อเคลียร์ทาง
ที่ผมเลือกเดินทางด้วยรถไฟเพราะฟรี ชอบชมวิว สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้ครับ รถไฟ  และอยากเก็บภาพบางอย่างแบบที่ตั้งใจ

ผมนั่งรถไฟมาเรื่อยๆจนถึงสถานีกาญจนบุรีซึ่งรถไฟต้องต่อขบวน กาญจนบุรี -น้ำตก-กาญจนบุรี ซึ่งจะมีชาวต่างชาติขึ้นมาร่วมขบวนตลอดทาง เบาะนั่งนี่คลาสสิคแต่เอนหลังนี่ไม่ได้เลยย
และแล้วพนักงานสถานีบอกว่าจะไม่ไปถึงสถานีน้ำตก ให้ลงต่อรถที่สถานีวังโพธิ์ ก็ได้ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ้ำกระแซ และก็มาถึงสถานีน้ำตก วิวสวยครับข้างทาง

พอมาถึงท่ารถใข้เวลาแปปเดียวได้พักยก กับ 7-11 และการเดินทางไปยังสังขละนั้นมี 2 ออฟชั่น แรกคือรอรถบัสแดง จะมาทุกสามสิบนาที ถึงน่าจะช้าหน่อย แต่แล้วผมเจอเพื่อนร่วมทางหลายคนรวมตัวกันได้ 11 คน เข้ากระแสบอลไทยพอดี (ถามว่าเกี่ยวไหม ) เลยใช้ออฟชั่น 2 เหมารถกระบะตกคนละ 200 ยิงตรงมาสังขละเลย ลุงคนขับก็พาแวะปั้ม ถ่ายรูปตามสถานที่สวยๆ ตามที่เราอยากจะถ่ายครับ เส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นลง บวกวิวสวยๆ ก็เพลินตาไปอีกแบบ  และแล้วเราก็มาถึงสังขละบุรี ประมาณหกโมงเย็นได้ มาอย่างหล่อเกาหลีถึงสังขละอย่างจับกังทั้งควันฝุ่น ลมร้อนจากคอมแอร์ ผมนี้กรอบเลย 555+ ลุงแวะส่งสมาชิกตามสถานที่ที่ได้จองกันไว้ และนัดกันว่าพรุ่งนี้จะลงเรือด้วยกันเพื่อหารค่าเรือและค่าเดินทางหากไปยังจุดอื่นๆอีก แต่ผมกับน้องอีกสองคนยังไม่มีที่พักครับเลยขอให้ทางลุงพาไปส่งที่สะพาญมอญเลย

พอลุงส่งถึง เดินมา100 เมตรก็เห็นสะพานมอญเลย หายเหนื่อยครับ !!! ไม่ต้องหาละที่พัก ดิ่งไปถ่ายภาพก่อนเลย !!! ก็เก็บภาพได้สักแปป มีน้องคนนึงมาติดต่อถามผมเรื่องห้องพัก บอกเป็นแพ ทั้งแพมีห้องน้ำ จาน ชาม เตาแก๊สครบครับ แบบว่าเนรมิตให้เราทำกับข้าวกินกันได้เลย ลงมาดูก็เครครับ เลยตกลงเช่ากัน 3 คน 600 บาท จาก 700 แต่ก็บอกทางลุงเจ้าของแพไปว่าผมจะเช่าเรือจากลุงนี่แหละครับ ลุงก็โอเคร

และตามด้วยหมู่จุ่มพม่าไม่ละบาท กินพอให้รู้ไป 15 ไม้ ก็จะมีเครื่องใน เนื้อ และคล้ายๆหูหมูมันติดกระดูกอ่อน น้ำขิ้มเป็นซอสแดง และคล้ายๆน้ำพริกสด อย่างละถ้วย
ส่วนพวกอาหารอย่างอื่นผมคิดว่าราคาไม่น่าจะแพงเวอร์ พรุ่งนี้จะสำรวจในถนนคนเดินอีกทีครับ
จากนั้นพอเครท้องตึงกันละก็กลับห้องอาบน้ำ ภาพก้องอย่างที่เห็นครับ ผมให้น้องนอนในห้องกัน ผมนอนข้างนอกเขามีอุปกรณ์ให้พร้อม ผ้าปูเสื่อ และนี่ที่ทำงานผมคืนนี้ อากาศไม่ร้อนเลยครับเย็นๆเลย ไม่ต้องใช้พัดลม ณ ตอนนิ ยุงก็ยังไม่มีนะ ( สักพักเช้ามาถูกยุงหามเข้าป่าเฉยยย )

 

วันที่สอง 
เป็นวันที่เราตื่นเช้ากันมาก ตั้งแต่ตี 5 ครับ หมอกลงหนาและหนาวมากที่แพ ถึงกับมีน้ำค้างหยดมาลงที่แขนผม (ผมนอนข้างนอก ) ไม่มียุงนะ ไม่รีรอครับจับกล้องมาถ่ายกันเลย แล้วก็อาบน้ำเตรียมตัวกัน เพื่อจะไปถ่ายรูปวิถีช่วงเช้า 

เรานั่งพูดคุย จิบกาแฟกัน สมาชิถึงกับติดใจจะขอเช่าบ้าง เลยไปถามลุงแพดันเต็มแล้วเพราะเป็นวันเสาร์ ช่วงวันหยุดแพจะเต็มครับ ผมนี่ แช่ผ้าไว้ด้วย !!! 
เลยเก็บของไปหาแพอีกฝั่ง พวกเราช่วยกันเดินหาที่พัก ก่อนออกไปขึ้นเรือที่จองได้ เวลา 10.00 แพอีกฝั่ง ราคาถึง 1500 บาท ก็เลยตกลงทางเพื่อนๆ ขอไปนอนกับเพื่อนอีกกลุ่มที่พี รีสอร์ท 

 

 

จากนั้นก็แยกย้ายกันถ่ายรูปก่อนเรานัดเจอกันที่สะพานมอญอีกครั้งในตอนประมาณ 16.00 น.ผมและติงเลือกไปยังเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม(หลวงพ่ออุตตมะ)  ครับ มาดูรูปกันเลยดีกว่า :]

พอเย็นมากแล้วก็กัลบห้องเพื่อเตรียมตัวไปถนนคนเดิน...ก่อนไปเราได้มานั่งคุยกันที่หน้ารีสอร์ทปรากฏว่าพวกเรานั่งรถไฟขบวนเดียวกัน 
ตู้เดียวกัน 55+++ บังเอิญไหมละนี่ เดินไปเดินมา มองกันบ้างว่า เฮ้ย สถานีนั่นก็แล้วนี่ก็แล้ว กรูว่าลงที่เดียวกันแน่ๆ  ฮากันกระจายยยย ..

เอก อี๊ เอ๊ก เอ่กกกก ... !!! เช้าวันสุดท้าย.... 
เช้านี้เราตื่นกันตีห้าตามเดิม น้องบุ๊ค และเบลกลับรถทั่วเที่ยวเช้า 7.30 น ส่วนพวกเราที่เหลือตกลงกันกลับเวลา 9.30 น เลยรีบมาที่สะพานแยกย้ายกันถ่ายรูปตามอัธยาศัย ผมนี่ดิ่งตรงไปที่ฝั่งมอญ เพื่อหาวิถีที่นั่นแบบจริงๆ ผู้คนจะเยอะมาก ชาวมอญมาขายดอกไม้ นักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูป ตามภาพเลยครับ 
ฝั่งนี้จะเป็นสิ่งที่วิถีกว่าแถวสะพานซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวซะมาก และได้เดินย้อนลงมาไปตามซอยริมน้ำ และเดินไปบริเวณที่มีงานบวช เป็นงานบวชแบบมอญ และผมสงสัยว่าเขาเปิดเพลงดังกันทั้งคืน ได้ยินจากอีกฝั่งเลย ก็ลองเข้าไปเห็นป้าร้องรำทำเพลงกัน และทางเจ้าภาพก็เตรียมครัวกันยกใหญ่ ผมก็เก็บภาพสักพัก ก็ถูกชวนกินข้าว  กับข้าวก็จะเป็นแกง ต้ม ผัด ปลาแห้ง หลากหลายดีครับและก็ได้ถูกชวนให้ไปถ่ายรูปบนนบ้านงานบวช ก็ได้เห็นบรรยากาศด้านบน คุ้มจริงครับ 
ลงมาเดินถ่ายรูปอีกแปป 
ใกล้เวลาที่รถจะออกแล้วพวกเรากลับมาเก็บของ และกลับไปรอท่ารถ แปลกนะครับ สิ่งที่เราคิดว่าเวลาเหลือตั้งเยอะ แต่พอถึงเวลามันจะไวมากจนทำอะไรไม่ถูก พวกเราคืนห้องมอไซต์ และไปขึ้นรถ บขส ป.2 วิ่งจากสังขละ-หมอชิต 2 เที่ยว 09.40 น ราคา 245 บาท สะดวกดีครับ

ผมว่าสังขละบุรีนั้นไปได้ง่าย และน่าจดจำ อยากให้ทุกๆคนได้ไปครับ
แบบละเอัยดตามมาได้ที่นี่นะครับhttp://pantip.com/topic/34134895

และค่าใช้จ่ายตก 1280 บาท ผมแจกแจงไว้ตามลิงค์แล้วนะครับ :]  

แวะมาเยี่ยมกันได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/theeranit.w
Facebook page :https://www.facebook.com/Theeranit.Photography
instagram : Theeranit.w

ฝากทิ้งท้าย :]