จากความเดิมในทริป "กาญจนบุรี มาแบบผิดแผน" รอบนี้ก็มาแก้มือแล้วหลังจากที่รอบที่แล้วเล็งว่าจะมา แต่ก็มาไม่ถึง ไปไม่ครบ ครั้งนี้ก็กำหนดจุดหมายแรกเป็นที่แรกก่อนเลย "สะพานมอญ"
ต้องบอกก่อนว่า แผนการเดินทางครั้งนี้คือ กรุงเทพ - สะพานมอญ (ค้างคืนด้วยเต็นท์) - ห้วยซองกาเรีย - ด่านเจดีย์สามองค์ - วัดเสาร้อยต้น - ป้อมปี่ (ค้างคืนด้วยเต็นท์) - เส้นทางรถไฟสายมรณะ (สถานีถ้ำกระแซ)
10 มีนาคม 2559 ออกจากบ้าน 9:00 น. ถึงสะพานมอญ 15:00 น. วิ่งมั่วไปรอบนึง และแวะไปดูทำเลป้อมปี่มาคร่าว ๆ ทำให้มาถึงช้ากว่าที่คิด แต่ก็ไม่ได้สายอะไรมากมาย ถึงจุดชมวิว ซึ่งสามารถกางเต็นท์ได้ฟรี มีที่จอดรถแยกออกมาต่างหาก ห้องส้วมมี แต่ห้องน้ำไม่เห็น ผมมาวันนี้คนมากางเต็นท์ยังไม่เห็น ไม่แน่ใจว่าเย็นกว่านี้จะมีมาไหม อย่างไรก็ดี ที่นี่มีที่กางเต็นท์หลายจุด เป็นศาลาเสียด้วย ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำค้าง และฝนมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้ามาวันหยุดอาจจะเลือกตำแหน่งกางเต็นท์มากไม่ได้ เพราะคนน่าจะมากันเยอะ ผมขอติดไว้ก่อน พรุ่งนี้จะถ่ายรูปสถานที่ให้ดู
















คนมอญที่นี่หลาย ๆ คนอัธยาศัยดี อืม ... จะว่าไปผมก็ไม่แน่ใจว่าคนที่เดินผ่านแล้วทักผมนั้นจะเป็นคนมอญหรือเปล่า เพราะที่นี่มีตลาด ขายเสื้อผ้ามอญ บางร้าน บางบ้าน บางที่พักก็มีบริการให้เช่าชุดมุญไว้ใส่เล่น ใส่ตักบาตรด้วย ... คิดแบบนี้แล้วก็คิดว่า สงสัยที่ทัก ๆ ผมจะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า เพราะสำเนียงไม่เพี้ยน
ถึงแม้จะเช้ามากอยู่ ฟ้ายังไม่สว่าง แต่สะพานก็เริ่มมีชีวิตชีวา ผู้คนมีเดินผ่านบ้างนาน ๆ ที แต่ทุกนาทีที่ผ่านไป คนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสาเหตุหลักนั้นน่าจะเป็นเพราะว่า หลายคนมารอตักบาตร หรือมาดูชาวมอญตักบาตร ซึ่งพระท่านจะอยู่ฝั่งตลาดมอญ ไม่เดินข้ามสะพานซึ่งเป็นฝั่งที่มีโรงแรม รีสอร์ทเยอะ ทำให้ผู้คนที่จะตักบาตรต้องรีบข้ามสะพานกันมา
คนมอญที่ตื่นเร็วบางคนทำธุระเตรียมพร้อมแล้วก็มายืนคุยกันที่กลางสะพาน บ้างก็รีบเดินไปเปิดร้านขายอาหารสำหรับใส่บาตร สะพานฝั่งตลาดมอญนั้นเริ่มคึกครึ้นตั้งแต่ก่อนตี 5 ครึ่งเสียด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นเสียจอแจเล็ก ๆ ของเหล่าแม่ค้าปนเสียงบทสวดมนต์จากเครื่องเสียง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเขาเปิดทุกวันหรือไม่ (น่าจะเปิดทุกวัน) เพราะช่วงที่ผมมาเป็นเทศกาลงานบุญประจำปี สวนมนต์ข้ามวันข้ามคืน 9 วัน จากวันที่ 4 มีนาถึง 13 มีนาของทุกปี เพราะเป็นวันเกิดของพระรูปสำคัญของที่นี่ (ท่านเสียไปแล้ว ท่านมีส่วนในการผลักดันการสร้างสะพาน) หลังจากงานบุญ 9 วัน ก็จะต่อด้วยงานรื่นเริง 5 วันติด เด็ก ๆ ที่นี่จะชอบ และมีกิจกรรมการละเล่นที่เด็ก ๆ จะเข้าร่วมด้วย
ฟ้าเริ่มอมฟ้า อมม่วง พระอาทิตย์ใกล้ขึ้น ละได้เวลาพระเดินมาที่ซอยประจำเพื่อบิณฑบาตรแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวทยอยเดินมาเป็นกลุ่มเรื่อย ๆ และเราจะได้ยินเสียงคนมอญพูดบอกเป็นระยะ ๆ ว่าให้รีบเดิน เพราะพระท่านกำลังมา

พระท่านจะเดินมาซอยนี้แล้วอ้อมไปอีกซอยแล้วก็น่าจะกลับวัดเลย เดิมทีแล้วพระท่านจะไม่ได้รับบาตรที่ซอยนี้ แต่ผมได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ พระท่านจะรับบาตรที่ซอยหลักที่ตรงไปสะพานได้โดยตรง แต่แม่ค้าที่นั้นแย่งลูกค้ากันจนทะเลาะกันบ่อย ๆ พระท่านจึงเดินเลี่ยงมาที่ซอยข้าง ๆ ซึ่งก็อยู่ห่างกันไม่กี่สิบก้าวเท่านั้น

ร้านในตลาดส่วนอื่นก็เริ่มมีร้านเปิดมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วงเวลานี้ก็มีนักท่องเที่ยวเดินรับลมยามเช้าหลังใส่บาตรเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตัวตลาดมอญจุดนี้จะอยู่ตรงสะพาน และบริเวณใต้สะพาน ขายเสื้อผ้า ของประดับ ของฝาก บริเวณนี้จะไม่มีโรงแรมใหญ่ ๆ แต่จะเป็นบ้านชาวบ้านดัดแปลงทำเป็นโฮมสเตรย์ หรืออย่างเก่งก็เป็นตึกแถวเล็ก ๆ เปิดให้เช่าห้อง จะต่างจากอีกฝากของสะพานที่จะเป็นที่พักเชิงธุรกิจขนาดใหญ่กว่า ถ้าต้องการสัมผัสวิถีชาวบ้านก็ควรมาพักฝั่งนี้จะดีกว่าครับ


สีสันของสะพานมอญก็คือคนมอญ นอกจากไกด์เด็ก เราจะพบเห็นคนมอญใส่ชุดมอญเดินกันทั่วไป และก็จะมีเด็กบางคนเอาข้าวของเทินไว้บนหัวเหมือนเดินโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพคู่ด้วย อย่างน้องคนนี้ผมเห็นเดินบ่อย ทั้งเช้าทั้งเย็น นักท่องเที่ยวมาขอถ่ายภาพด้วยเยอะมาก ไม่เห็นน้องเขาคิดเงิน
รวมแก๊งกับกลุ่มบ้าง แต่ในกลุ่มไม่มีใครเด่นกว่าคนนี้อีกแล้ว และเป็นเด็กที่ฉลาด รู้ดีว่านักท่องเที่ยวต้องการอะไร นักท่องเที่ยวที่พาลูก ๆ มา เด็กบางคนไม่กล้าที่จะยืนถ่ายคู่ หรือพ่อแม่ไม่ได้พูดอะไร เด็กมอญคนนี้จะเดินไปหาเด็ก ๆ ลูกของนักท่องเที่ยวเอง แล้วยืนจับคู่ให้นักท่องเที่ยวถ่ายผู้เป็นพ่อ ถ่ายน้องคนนี้กับลูกนักท่องเที่ยวเองเลย
นอกจากจะมีดาราจำเป็นอย่างน้องคนนี้แล้ว ก็มีดาราตัวจริงเด็กชาวมอญที่เอาของเทินบนหัวจริง ๆ เพื่อขายของ หรือเพื่อเอาของไปส่งด้วย
เหนื่อยแล้ว นั่งพักก่อน (ทั้งเจ้าตูบ และน้องมอญ)
ชีวิตที่สะพานแห่งนี้ ยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ บางวันมีนักดนตรีมาเปิดหมวกดีดกีต้าร์ร้องเพลง บ้างก็มากระโดดน้ำโชว์ บ้างก็เตรียมเรือไว้รอรับลูกค้า นักท่องเที่ยวบางคนก็มาทิ้งตัวชิว ๆ สมกับเป็นสะพานไม้แห่งความชิวจริง ๆ




สำหรับข้อมูลโฮมสเตย์ กับที่พักกางเต็นท์ฟรีที่จุดชมวิว ผมถ่ายรูปมาแล้ว แต่ขอไว้พรุ่งนี้ทำให้อีกทีนะครับ พรุ่งนี้กลับแล้วคงทำได้สะดวกกว่าใช้เน็ตมือถือมาก ต้องขอโทษคนที่ติดตาม (มีหรือเปล่าหว่า) ที่ผลัดวันออกไปครับ แล้วผมจะมาอัดเดตไว้ในรีวิวนี้คืนวันพรุ่งนี้ หรือช้าสุดไม่เกินมะรืนนี้ครับ (พรุ่งนี้ผมกลับกรุงเทพ แต่ก่อนกลับผมต้องแวะไปสถานีไฟ ถ่ายรูปที่นั้น และอาจจะที่วัดอีกวัดด้วยครับ







หน้าทางเข้าจะเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นจุดชมวิว เลี้ยวเข้ามาจะเจอลานจอดรถกลางแจ้งขนาดใหญ่ ซึ่งในวันหยุด หรือช่วงเทศกาลอาจจะเต็มไปด้วยผู้คน ส่วนวันธรรมดาก็อย่างที่เห็นในภาพ คือไม่มีคนเลย ทำให้ผมไม่กล้าที่จะกางเต็นท์ทิ้งไว้แล้วไปเดินตระเวณถ่ายรูป เนื่องจากกลัวของหาย เพราะจะมีเด็กวัยรุ่นมาเดินเที่ยวเล่นบ้าง ถ้าเป็นวันหยุดนักท่องเที่ยวเยอะ ใครจะมาพังเต็นท์ขโมยของก็ต้องดูคนหน่อย แต่ถ้าวันธรรมดาแบบนี้ ไม่มีคนเลย
เดินเข้ามาจากลานจอดรถก็จะเจอศาลากางเข้ามากางเต็นท์ได้เลย และก็จะพบห้องน้ำอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งด้านล่างก็มีห้องน้ำอีก แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ห้องน้ำตรงด้านบนนี้เท่านั้น โดยห้องส้วมมีจำนวนหลายห้องอยู่ แต่ห้องอาบน้ำมีห้องเดียว


เดินพ้นศาลากลุ่มแรกไปก็จะเป็นทางเดิน ซึ่งทางการกำลังซ่อมแซม ทาสีใหม่ เลยอาจจะเห็นข้าวของช่างทาสีวางเกะกะตามพื้น แต่คงเสร็จภายในสัปดาห์นี้แหละครับ




ที่จุดชมวิว จะมีต้นไม้ดอกไม้หลายประเภท และมองทะลุไปเห็นสะพานมอญด้วย มองผ่านภาพอาจจะดูสวยดี แต่จริง ๆ แล้วก็เห็นสะพานมอญไกลไปนิด เราเดินไปดูใกล้ ๆ จะดีกว่า
ภาพบนนี้ผมยืนอยู่บนสะพานมอญ ถ่ายสวนกลับไปที่จุดชมวิวในยามพระอาทิตย์ตกดิน




