ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 16 , 2558

    ความรู้สึก แ ค่ อ ย า ก จ ะ ไ ป. . .

    . . .ช่วงเวลาก่อนหน้าไม่ใกล้ไม่ไกล คุณๆบางคนอาจจะเคยพบรีวิวแม่กำปองมากมายมาย ผลุบๆโผล่ๆหน้าฟีดข่าวเหมือนเกมตีตัวตุ่น ที่พยายามเลื่อนหลบหรือไม่สนใจแค่ไหนมันก็ยังปรากฏมาให้เห็นอยู่ดี เคยคิดว่าไว้ว่าอยากจะออกเดินทางสักครั้งเพราะนานแล้วเหมือนกัน ร่างกายเริ่มเรียกร้องโอโซน แต่ก็อยากจะไปไกลๆให้สุดๆ เชียงรายไหม แม่สอด แม่สาย ที่ไหนก็ตาม? 

    แต่แล้ว. . . พี่สาวที่ไม่ได้คุยกันมาระยะนึงก็เอารูปมาแปะหน้า Facebook ว่าแกไปอยู่แม่กำปองนะมีที่พักด้วย เราก็แค่อยากเข้าไปดูรูปเพียงเท่านั้น แต่ทั้งหมดมันน่าอยู่กว่าที่คิดมาก เวลาช่างบังเอิญมีเพื่อนมาเห็นรูปหน้าฟีดเช่นกันเลย Inbox มาว่าชีวิตต้องการการพักผ่อน อยากเปลี่ยนที่ยืนให้ชีวิตหน่อย แบบชีพจรลงเท้ามากๆแล้ว ภายใน 2-3 วันนั้น เรื่องที่เราคุยนอกจากเนื้อหาเรื่องราวทั่วๆไป ก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากแม่กำปอง หรือมันอาจจะมีแต่แม่กำปองในทุกคำนึงเลยก็ได้


    ย อ ม รั บ ว่ า ค รั้ ง นี้ รู ป แ ล ะ ค ำ อ ธิ บ า ย เ ย อ ะ ม า ก แต่ อ ย า ก เ ก็ บ ไ ว้ 
    ย า ว ไ ป ไ ม่ อ่ า น เ ลื่ อ น ดู รู ป อ ย่ า ง เ ดี ย ว พ อ น ะ ค รั บ

    • แ ม ว มุ ม ก ลั บ   ขอบคุณมากๆครับ ^_______^ 24 กันยายน 2558 00:47:26
    • Luck  สวยงามตามท้องเรื่องอีกแล้ว 23 กันยายน 2558 17:16:29
    • โพสต์-2
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 16 , 2558

    คงดีที่ เ ริ่ ม ต้ น เ ดิ น ท า ง . . .

    . . .จากการเอาใจใส่และเยี่ยวยาเรื่องราวต่างๆ เรื่องของการเดินทางถูกยกมาในเรื่องราวเหล่านั้น จนเมื่อไหร่ไม่รู้มันกลายเป็นการวางแผนการเดินทาง และก็มีตารางข้อมูลในระดับหนึ่ง เรารีบโทรไปจองห้องพักของพี่สาวที่แม่กำปอง "พี่นก" ตารางก็ถูกจัดอย่างไวยิ่ง 2 วันก่อนออกเดินทางทุกอย่างก็พร้อมสรรพ เหลือแค่เดินทางมารับตั๋วรถไฟฟรี วันที่ออกเดินทางเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 

    ขอข้ามภาพหัวลำโพงไปเลย และเขียนอธิบายอย่างเดียวเนื่องจากทุกคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วในระดับหนึ่ง. . . 

    . . .วันที่ 31 เราเดินทางมารอรับตั๋ว ขบวน 109 สถานีกรุงเทพฯ ปลายทาง เชียงใหม่ รถเร็ว ออก 13.45 น. ถึง 04.05 น. มาถึงหัวลำโพงกันตั้งแต่ 9.30 น. รีบรับตั๋วโดยนำบัตรประชาชนมาแลก แล้วก็นั่งรอนั่งหลับกันไปพลางๆก่อน เพราะกว่าจะถึงเวลารถเข้าจริงๆก็ 12.30 น. นู่น 

    . . .บรรยากาศของรถไฟฟรี ชั้นที่3 ธรรมดาของบริการสาธารณะอันเป็นสวัสดิการที่รัฐควรจัดหาให้ประชาชน จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากเข้าถึงและใช้บริการนี้อย่างจับต้องได้ คนจำนวนไม่น้อยได้ใช้บริการรถไฟฟรี เป็นทางกลับบ้าน เป็นการเดินทาง ในเส้นทางทั้งระยะใกล้และไกล เราจะได้พบเห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่ดำเนินไปอย่างหนึ่ง 

    มีคนขึ้นมาบนขบวนอย่างต่อเนื่อง ในช่วงแรกทุกคนต่างนั่งที่ของตัวเอง นายตรวจตั๋วยังคงทำตามหน้าที่อย่างง่าย และให้คนที่มีตั๋วได้นั่งตามเลขที่ของตัวเอง ในแต่ละสถานีที่มีคนขึ้นมา การจัดการก็ยิ่งไปได้ยากยิ่งขึ้น และในช่วงกลางของเส้นทางรถไฟก็เต็มไปด้วยผู้คน และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เนื่องแน่นขนาดที่ว่าเมื่อไหร่ลุกออกไปจากที่ กลับมาก็อาจไม่มีที่นั่งได้ และนี่คือเหตุผลของการถือตั๋วนั่ง แม้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะนำมาอ้างสิทธิได้ทุกครั้งก็ตามที 

    . . .บรรยากาศในรถไฟชั้น 3  นั้นก็ถือว่าปลอดภัยในระดับหนึ่งถ้าเราไม่คิดอะไรมาก ในความเป็นจริงแล้วมันก็มีลำบากอยู่ไม่น้อยที่เราต้องพร้อมแบกรับ แน่นอนเบาะที่แข็ง ระยะทางที่ยาว กับการนั่งที่นาน เราก็ต้องทำความเข้าใจในระดับหนึ่งถึงสิ่งที่เราต้องพบเจอเพื่อจะเตรียมพร้อมร่างกาย จิตใจ ห้วงความคิด แมวก็ยังคิดว่ามันลำบากและยังคำนึงอยู่ว่าหากเรามีความพร้อมเราคงเลือกการเดินทางที่มีความสะดวกสบายกว่า แต่ประสบการณ์ที่เราพบเจอเองก็คงแตกต่างไปอีกรูปแบบ ปฏิสัมพันธ์ที่มีร่วมกันบนรถไฟเกิดขึ้นได้ง่ายในระดับหนึ่ง เพียงเราเข้าใจกันหรือเพราะเราประสบความลำบากอยู่ร่วมกันก็ไม่แน่ใจ แต่จนในที่สุดถึงปลายทาง แมวกับเพื่อนก็ยังทนได้ แต่เราก็ยอมรับว่าเหน็ดเหนื่อยกันไม่น้อยเลยทีเดียว แต่สำหรับเราเมื่อเวลาผ่านมามันคือความสนุกเป็นเรื่องเล่าในช่วงหนึ่งของชีวิตมีให้จดจำครั้งหนึ่ง

    . . .หลังการนั่งรถไฟมา 16 ชม. เรามาถึงเชียงใหม่ตอนตี 04.45 น. ของวันที่ 1 ก.ย. 58 พร้อมกับความสะโหลสะเหลของร่างกาย เนื่องจากนอนไม่เต็มอิ่มและผ่านการเคี่ยวกรำของระยะทางบนรางเหล็กมายาวนาน เราเยี่ยวยากันและกันด้วยถ้อยคำจากหนังสืออัตชีวประวัติของ "คานธี" เราพูดกันเสมอว่า "แต่คานธีก็เลือกใช้รถไฟชั้น3ของอินเดียเหมือนกันนะ" แม้ไม่อาจช่วยแบ่งเบาภาระร่างกายได้มากนัก

    มาถึงเราก็รีบตรงมาที่ "ก า ด ห ล ว ง" จากข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมและไถ่ถามมาส่วนหนึ่ง เราต้องมารอขึ้นรถเหลือง ดอยสะเก็ด-ป่าป้อง น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยมีปลายทางอยู่ที่ตลาดสหกรณ์แม่ออน 2 ไม่แน่ใจว่าสุดปลายทางรถเหลืองไหม แต่เมื่อมาถึงก่อนเวลาก็ย่อมต้องคอยเป็นธรรมดา เวลารถเที่ยวแรกออกคือ 09.00 น. แต่เรามารอตั้งแต่ 05.40 น. กว่าๆ 

    กว่ารถจะเข้าเที่ยบท่าก็ 07.30 น. เป็นต้นไป เราสอบถามจากคิวรถแล้ว เขาว่าหากจะไปก่อนต้องเหมาไป แต่เราตัดสินใจรอคิวรถตามเวลา เลยนั่งเล่นริมน้ำรอไปก่อนสักพักหนึ่งพอรถมาก็ขึ้นมานั่งรอบนรถ แต่พอ 07.50 น. คุณลุงคนขับออกรถ? เราจึงนั่งงงกันไปเพราะยังไม่ถึงเวลา ขับมาเรื่อยจนถึงตลาดแห่งหนึ่งก็จอดแวะรับคุณป้า เราที่ไม่รู้ทางเชื่อว่าเป็นการขับบนเส้นทางปกติ จนมาถึงบ้านหลังหนึ่ง คุณป้าที่นั่งหลังมาด้วยกันคงเห็นสีหน้าสงสัยที่เราแสดงออก เลยเฉลยให้ว่า คุณลุงมาส่งป้ากลับบ้าน อ่อ. . . เราเลยได้นั่งรถรอบพิเศษ หลังส่งคุณป้าแล้วก็เลยมาส่งเราจนถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย โดยจ่ายค่ารถอัตราปกติ ก็ชื่นใจในความมีน้ำใจของคุณลุงกันไปตามภาษา 

    • Lmm  เคยนั่งรถไฟไปกาญเหมือนกัน 6ชม. ผมยังว่าเหนื่อยเลย แต่เป็นประสบการณ์ดีนะคับ :D 09 ตุลาคม 2558 09:57:06
    • แ ม ว มุ ม ก ลั บ   ไม่ง่ายครับ แต่เมื่อเวลาผ่านมามันก็เป็นเรื่องเล่าให้พูดถึงที่สนุกดีเหมือนกัน. . . อยากเสนอในมุมที่ธรรมชาติที่สุด พอมานึกย้อนหลังก็รู้สึกดีแต่ในเวลานั้นจริงๆของบอกว่า แย่ มากๆครับ ไม่เหมือนฝันไว้แต่เราเองก็พร้อมยอมรับ ทุกคนที่ตัดสินใจขึ้นยอมรับและเลือกแล้วว่าจะใช้บริการรถไฟฟรี หรือ ชั้น3 ^^ 08 ตุลาคม 2558 19:53:40
    • Lmm  นั่งรถไฟ 16 ชม. นิโหดมากนะคับเนี่ย ^ ^b 08 ตุลาคม 2558 09:55:09
    • โพสต์-3
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 16 , 2558

    ที่ ห ม า ย เรื่องเล่าถึงเรื่องราว. . .

    . . .เมื่อถึงท่ารถ ตามความตั้งใจเดิมของเราอยากจะขออาศัยโบกรถขึ้นมาเรื่อยๆจนกว่าจะถึง เนื่องจากการขึ้นมาแม่กำปองนั้นไม่มีรถประจำทาง และหากอยากจะขึ้นมานั้นทำได้ 4 วิธีหลักๆ นั่นคือ 1.มีรถส่วนตัวหรือเช่ารถส่วนตัวมา 2.เหมารถขึ้นมา 3.ติดต่อทางหมู่บ้านลงไปรับมีค่าใช้จ่าย 4.โบกรถขออาศัยระหว่างทาง แต่เมื่อมาถึงท่ารถตอน 08.30 น.  กว่าๆซึ่งนับว่ายังเช้าอยู่มาก และด้วยสภาพร่างกายพร้อมกับนาฬิกาชีวิตหลังตื่นนอนที่เริ่มทำงาน เหตุผลต่างๆมากมายรุมเร้า แผนของเรายืดหยุ่นเสมอเราจึงตัดสินใจกันเวลานั้น ขอเหมารถเหลืองขึ้นมาให้ถึงแม่กำปองเร็วที่สุด เหมารถคันนั้นมาด้วยอัตรา 500 บาท: 2คน ไม่มีเวลาคิดอะไรกันมากมาย ทางเลือกมีน้อย แต่คิดว่าถูกกว่าการเหมารถแดงมาจากในตัวเมืองแน่นอน 

    . . .หลังมาถึงแม่กำปองเดินขึ้นมาตามเส้นทางไปน้ำตกแม่กำปองไม่ไกล เราก็มาถึง "โฮมสเตย์บ้านสายชล" ที่พักอันแสนอบอุ่นของเราที่นี่เป็นเวลา 3 คืนด้วยกัน อันที่จริงแม้กำปองเดินเที่ยวแบบเร่งรีบฉับไว ประมาณหนึ่งวันก็น่าจะทั่ว แต่เราอยากจะพยายามประนีประนอมกับเวลาให้มากที่สุด พอเหลือเวลาให้ได้ละเลียดบรรยากาศของแม่กำปองให้พึ่งพอใจ โดยไม่ได้กำหนดจุดหมายไหนต่อ. . . โดยยกเวลาทั้งอาทิตย์ให้แม่กำปอง มาถึงหลังทักทายและได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากพี่สาวคนนี้ "พี่นก" แนะนำให้ได้รู้จักกับ "#พี่อ้วน" พี่ชายที่มาพักก่อนเราหนึ่งคืนและจะออกวันนี้ ทำให้เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวด้วยกัน แต่ประสบการณ์ของพี่อ้วนทำให้เรายินดีรับฟังมากกว่า พี่อ้วนเป็นพี่ชายวัยกลางคนปลายๆ มาเที่ยวคนเดียวพร้อมรถกระบะมีหลังคาหนึ่งคัน ขับมาแม่กำปองโดยขึ้นเส้นทางจากแจ้ซ้อนลำปาง


    . . .จากการพูดคุย ในรถของพี่อ้วนมีเต้นท์จำนวนหลายหลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบที่รถจะมาสามารถไปถึง และเข้าพักได้ทุกที่ทุกบรรยากาศ เรียกว่าเมื่อใดอยากไปเที่ยวขับรถออกมาก็พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ แกเล่าให้ฟังว่า 77 จังหวัดนี้แกไปเที่ยวมาหมดแล้ว ด้วยรถคัน ปกติก็เดินทาง 2 อาทิตย์ครั้งนึง มีบ้านอยู่ กทม. แต่ไม่ค่อยได้อยู่จริงจังออกเดินทางเป็นหลักมากกว่า แกหวังประสบการณ์จากชีวิตและถือเป็นการพักผ่อนหลังวัยทำงานไปในตัว หลังพูดคุยกันพี่นกชักชวนให้เรากับพี่อ้วนขึ้นไปเดินเล่นทำความรู้จักกัน พี่อ้วนที่มาอยู่ก่อนเราจึงนำทางไปร้านชมนกชมไม้ ที่อยู่เหนือขึ้นไปในระยะทาง แต่อันนี้ไม่มีภาพนะครับ ^__________ ^ นั่งคุยฟังเรื่องราวประสบการณ์จากพี่อ้วนอยู่พักใหญ่ๆจึงชวนกันเดินลงมาที่พัก เนื่องจากพี่อ้วนได้เวลาเดินทางต่อไป 

    . . .หลังจากเดินทางลงมาเราจึงมีเวลาสำรวจบ้านสายชลของพี่นกอย่างจริงจัง เวลาแห่งความเพลิดเพลินในบรรยากาศก็มาถึง 

    • แ ม ว มุ ม ก ลั บ   มีครับ ทางด้านล่างข้อมูลทิ้งท้าย ^^ 08 ตุลาคม 2558 19:54:00
    • บะหมี่  น่าอยู่จัง มีงูเขียวป่าว 07 ตุลาคม 2558 20:53:08
    • Ai  พอจะมีเบอร์ติดต่อทางโฮมสเตย์บ้านสายชล ไหมครับผม 02 ตุลาคม 2558 12:08:38
    • โพสต์-4
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 16, 2558
    • Luck  โอ๊ยยยย รีวิวซะอยากไปตอนนี้เลยอะ 23 กันยายน 2558 17:17:53
    • โพสต์-5
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 17 , 2558

    บ้ า น ส า ย ช ล - แ ม่ ก ำ ป อ ง ความเป็นไป. . .

    . . .ในคืนแรกที่พักนั้น ไม่มีเพื่อนมาเพิ่ม เรา 3คนรวมพี่นก เลยจัดปิ้งย่างกันตามภาษาและนั่งคุยกันจนดึกดื่น พี่นกเล่าว่านอกจากอาหารต้อนรับเช้าเย็น หากว่าผู้มาพักอยากปิ้ง ย่าง สังสรรค์กันอย่างไร พี่นกก็พร้อมเตรียมอุปกรณ์ให้ในระดับหนึ่ง โดยมีชุดเตาถ่านไว้ หากว่าค่ำคืนอยากที่จะดื่นด่ำด้วยกันก็สามารถซื้อหากันมาได้เลย ที่บ้านมีพื้นที่พร้อมรองรับ 

    ผ่ า น มาในเช้าวันขึ้น เราตื่นมาเตรียมตัวกันแต่เช้าพี่นกก็จัดการปรับแต่งบ้านที่น่ารักของแกเรื่อยไป เราก็ได้ช่วยบางอย่างเท่าที่จะสามารถทำได้ ชุลมุนวุ่นวายกันไปทั้งวัน เนื่องจากวันนี้เรายังไม่มีปลายทางของการเดินเที่ยว แต่ช่วงบ่ายพี่นกบอกให้ฟังว่าจะมีเพื่อนมาเข้าพักอีกหลายคน  เราจึงตั้งหน้าตั้งตารอการมาถึงของเพื่อนใหม่อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากเริ่มรู้สึกดี อยากจะรู้ว่าวันนี้จะมีคนแบบไหนมาให้รู้จัก เขาจะมีอะไรมาเล่าให้เราฟังบ้าง หรือเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้คุยกับเราเลยก็ได้ แต่ก็ยังอยากเจอ. . . 

    แล้วในที่สุดช่วงเย็นของวันนั้นพี่ชายคนแรกก็มาถึง "พี่สไปซ์" เดินทางมาคนเดียว เช่ารถมอเตอร์ไซค์จาก แอร์พอร์ตเชียงใหม่ ขับเที่ยวไปที่ต่างๆมาแล้วหลายวัน และวันนี้ออกจากเชียงดาว "บ้านระเบียงดาว" มาแม่กำปอง ซึ่งเชียงดาวก็เป็นที่ผมยังไม่เคยไปเหมือนกัน วันนี้ก็ได้เรื่องเล่าสนุกๆอีกเช่นเคย 

    พี่ไปซ์มาถึงไม่นานเก็บของไปเล็กน้อย ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักชั่วครู่ ระหว่างนั้นเองพี่นุชและเพื่อนอีก 2คนก็เดินทางมาถึง สำหรับวันนี้เราจึงพร้อมหน้ากันเร็ว หลังทุกคนเช็คอินเข้าห้องแล้ว พี่ไปซ์เดินลงมาช่วงฝนซา เช่นเคยในฐานที่เรามาถึงก่อนหนึ่งวัน พี่นกว่าให้พาพี่เขาไปเดินเล่น (ว่าจะอยู่ช่วยงานในครัวพี่แก) เราจึงได้โอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้น และกลายเป็นเดอะแก๊งค์ไปในบัดดล. . . พร้อมๆกับการทัวร์แม่กำปองที่เราผู้ซึ่งมาถึงก่อนก็ยังไม่รู้อะไรเช่นกัน!?

    อ า ร ม ณ์ ห ลั ง ฝ น ต ก ฟ้าที่ดำมืดไปทุกขณะกับเส้นทางที่สูงชันนิดหน่อย กับความลื่นเล็กน้อยที่ลงตัว อ่อ! ลืมผสมหมาลงไปอีกหน่อยนึง ทำให้เราจมไปกับความรู้สึก และรู้สึกได้ นี่แหละเรามาถึงแม่กำปองแล้ว รู้สึกเหมือนคนที่นี่ แม้เขาจะเข้านอนกันไวก็ตามที หมาก็มีเห่าบ้างตามประสาความไม่รู้จักกัน ก็เราหน้าแปลก เอ้ย! แปลกหน้า 

    ด้วยความสงบเงียบของแม่กำปอง บวกกับอากาศที่ชุ่มชื่น ความไกลไม่ใช่ปัญหา แต่จะว่าก็ไม่ไกลเท่าไหร่การเดินซะอีกจะทำให้เราเก็บรายละเอียดของความรู้สึกไม่ให้ตกหล่นหายไประหว่างเส้นทาง บางทีเราก็อยากหวงและเห็นแก่ตัวเก็บความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ แม่แต่ในรีวิวนี้แมวก็มีบางความประทับใจที่ไม่ได้เล่าลงมาเหมือนกัน 


    . . .มาถึงวัดคันธาพฤกษา กับบรรยากาศในช่วงเย็นๆ จริงๆแอบรักหมู่บ้านนี้ในช่วงเย็นวันฝนตกมากเลย เวลาเราเดินชมหมู่บ้าน ท่ามกลางความมืดครึ้มรอบตัว เราจะเห็นควันไฟขึ้นจากหลังคาบ้านแต่หลัง นั่นเขากำลังทำอาหาร กำลังทานข้าวเย็นกัน อาจจะกำลังนั่งล้อมวง พูดคุยเรื่องต่างๆของห้วงวันที่ผ่านมา มันทำให้เรารู้สึกดีที่ได้คิดไปว่าอย่างน้อยก็คงมีความสุขในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนสนทนานี้อยู่หลายครอบครัว  

    . . .เพื่อนชอบบ้านหลังนี้มากเป็นพิเศษ เราเองก็รู้สึกดีกับมุมนี้อยู่ เนื่องจากพึ่งเก็บอารมณ์จากการดูหนังที่มีบรรยากาศของญี่ปุ่นเอาไว้หลายเรื่องมาใช้เป็นต้นทุนจินตนาการในช่วงนี้ ก็น่ารักดีไปอีกแบบ

    เดินเล้นกันเพลินไปถึงร้านลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง นู่น เวลาเตือนเราด้วยความฝ้าฟางของดวงตา จึงชวนกันเดินกลับที่พัก 

    ตัดภาพไปที่ความพร้อมเพรียงบนโต๊ะอาหาร ขอข้ามรูปเมนูไปเลย แล้วบรรยายแทน. . .

    . . .เมนูบนโต๊ะนั้น พี่นกจะเป็นคนจัดการ วัตถุดิบก็หาได้จากพื้นบ้าน พี่นกจะมีวันที่เข้าไปตลาดก็ลงไปจากแม่กำปองเข้าตัวอำเภอหรือระหว่างนั้น และซื้อหาผักต่างๆจากชนบทที่มีอยู่นั่นเอง เมนูก็จะเป็นอาหารทางเหนือเป็นส่วนมาก แต่หากแพ้หรือไม่ทานอะไรให้บอกพี่นกล่วงหน้าตั้งแต่โทรจองหรือเข้าพักแล้ว พี่นกจะสามารถจัดการให้ได้เป็นพิเศษเนื่องจากพี่นกต้องทำต้องหมดนี่และดูแลเราด้วยตัวเอง ด้วยว่าการเอาใจใส่ดูแลพวกเราเหมือนพี่น้อง อย่างวันนี้เมนูก็เป็นจอผักกาด รสชาติคล้ายแกงส้มของทางภาคกลางแต่จะเปรี้ยวนำกว่าและที่สำคัญไม่ต้องตำพริกแกงส้ม แก้เลี่ยนไปเป็นอย่างดี นอกนั้นก็เป็นพวกไส้อั่วหรือต่างๆนาๆ เมนูแต่ละวันมักจะไม่เหมือนกัน หลักๆก็แล้วแต่วัตถุดิบที่มีพร้อมไว้นั่นเอง

     

    • โพสต์-6
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 17, 2558
    • โพสต์-7
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 17 , 2558

    เ ช้ า วิถีชีวิตและ มิ ต ร า . . .

    . . .เช้าของวันที่ 3 เราก็ตื่นมาไม่เช้ามาก แต่ก็ไม่ถึงกับสายลงมาเตรียมตัวเตรียมพร้อมสำหรับวันที่ ซึ่งดูพี่ๆเขาจะพร้อมกว่าเรามากทีเดียว ยิ่งพี่ไปซ์เหมือนเตรียมออกตัวไปทัวร์หมู่บ้านมาก เหมือนแมวและเพื่อนเก็บทุกอย่างไว้รอพี่ไปซ์มาอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าในแต่ละวันไม่พยายามทำอะไร เราหาข้อมูลมาหลายเรื่องรวมถึง "กิ่วฝิ่น" อันอยู่เหนือน้ำตกแม่กำปองขึ้นไปอีกประมาณ 4 กม. และจากการทบทวนความหนักแน่นของตัวเองกับสภาพรถเกียร์ออโต้ที่มี แมวคิดว่าบางช่วงให้ขับรถขึ้นปางอุ๋งยังจะดูสบายใจกว่า ประกอบกับคำบอกเล่าจากปากพี่อ้วนว่า โหด และ ภาพของโค้งแรกช่วงเลยบ้านสายชลขึ้นไปถึงร้าน "ชมนก ชมไม้" เราจึงยกเลิกความฝันถึงม่อนกิ่วฝิ่นไป แล้ววันนี้ไปเดินเล่นกับพี่ๆอีก 2 คน ดูจะเป็นการง่ายซะกว่า 

    มุม เ ป ล น อ น เ ล่ น ที่แมวทิ้งกายส่วนใหญ่ไว้ที่นี่ และดื่มด่ำกับลำธารด้านข้าง เสียงนกเสียงไม้บ้างบางที ด้านล่างเป็นห้องอาบน้ำอีก 2ห้อง ซึ่งที่ชั้นแรกมีห้องเดียว  . . .เราเดินเล่นกันไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจระยะทาง ตั้งแต่แม่กำปองใน จนลงไปสุดแม่กำปองกลางนู่นเลยทีเดียว ในระหว่างทางเรายินเสียงเรียกจากราวป่าด้านข้าง หันไปพบกับคุณลุงท่านหนึ่งกำลังเก็บลูกไม้ป่า แกชวนคุยเล็กน้อยพร้อมกับสอบถามว่าลองไม้จะเอาลงมาให้ลอง เราไม่รอช้าที่จะตอบรับเลยสักวินาทีเดียว คุณลุงก็เดินลงมาไว้มากจากทางลงด้านข้าง เอามาให้เราดูว่าแกกำลังเก็บอยู่ มันกินได้ต้องเอาไปต้ม แมวคิดว่ามีลักษณะคล้ายถั่วหรือลูกไม้ทั่วไปนั่นเอง แกว่ามันมีรสขมเล็กน้อย ต้มแล้วอาจจะหายไป พร้อมๆกันนั้นแกยืนต้นกล้าให้ดู แกว่าจะเอาไปปลูกไว้ใกล้บ้านพอโตจะได้เก็บไม่ไกล เรานี่โครตจะดีใจกันนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เราได้เก็บจำ  นี่ พ ว ก เ ร า ไ ง จ ะ ใ ค ร ล่ ะ . . . 
    เนื่องจากพี่อีกคนแยกไประหว่างทางเนื่องจากเพื่อนๆเขาโทรตามกลับไป เพราะเราพาเดินกันมาไกลมากเหลือเกิน . . .หลังจากเดินกันไปจนสุดแม่กำปองกลาง เราก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินกลับ เพราะได้เวลาอาหารเช้านานมากแล้ว เดินกันแรงจะหมดแล้ว หิวแล้ว. . . ไ ก ล จั ง! นั่นแค่คิดไว้ในใจ ไม่มีใครบนได้เพราะตอนเดินนี่ก็พากันมาทั้งนั้น มีแต่คนเอาด้วยไม่มีใครค้านเพราะงั้น รั บ ส ภ า พ กันไป ฮาาาาาาาาา 
    • โพสต์-8
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 17, 2558
    • โพสต์-9
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 17 , 2558

    แ ล น ม า ร์ ค นะเห้ย. . .

    . . .แล้วก็มาถึงจุดแลนด์มาร์คกันสักที ช่วงที่เดินกลับกันมาแสนไกล(ในความคิด) ความเหนื่อยล้าความหิว นำพาให้เราต้องรีบตรงกลับมา แต่จะกลับไปบ้านเลย (บ้านสายชลเหลือแค่บ้าน อยู่เหมือนกันบ้านเลย) มันก็ยังไง เอาแหละยังไงก็ต้องมา จริงๆว่าจะมาตั้งหลายวันแล้ว ก็ยังไม่ได้มาแวะเลยแล้วกัน "บ้านฮิมห้วย หรือ ลุงปุ๊ด-ป้าเป้ง" นั่นเอง ยอมรับว่าเคยเห็นตามรูปรีวิวมามากมาย แต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่ก็นี่เป็นครั้งแรกที่มาพบด้วยตัวเอง เราพาความรู้สึกตั้งต้นมาไม่เหมือนกัน เราย่อมมีความแตกต่างของ First Impression คนละแบบกันไป มีความเกี่ยวโยงในความรู้สึกเป็นของตัวเอง

    ช อ บ ชอบมากน่ารักดี อย่างจะนั่งแช่นานๆ ลำธารเล็กๆด้านหลังกับเสน่ภายในร้านก็ช่างดึงดูด ที่สำคัญเค้กและเครื่องดื่มถูกปากมาก ตรึงใจที่สุด 

    . . .ได้ลองสั่ง มัจฉะ กรีนที มาในครั้งแรก แต่ไม่ได้สั่งเค้กมาวันนี้นะ เพราะเดี๋ยวต้องกลับขึ้นไปทานข้าวเช้ากันที่บ้านด้วย พี่นกจัดเตรียมหาไว้ให้เรียบร้อย คิดว่าเดี๋ยวช่วงบ่ายๆจะกลับมานั่งเล่นอีก ใครจะคิดว่าตะต่อนยอนกันล่วงเลยไปเกือบเย็นเลยทีเดียว 

    เราอยู่เพียงไม่นาน พักพอมีแรงแล้วก็รีบเดินขึ้นบ้าน เพราะวันนี้พี่ไปซ์ต้องเดินทางออกเลยคิดว่าจะเดินไปน้ำตกแม่กำปองเล่นกันก่อน. . .

     

    • โพสต์-10
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  กันยายน 17, 2558
  1. โหลดเพิ่ม