กระบุรี...กาแฟรสละมุนกลางขุนเขา

วันที่ 1

         ทริปนี้เราใช้เวลา 2 วันเต็ม ว่ากันด้วยเรื่องของกาแฟโดยเฉพาะค่ะ ซึ่งโบว์ก็เป็นอีกคนที่ชอบลิ้มรสกาแฟ ไปที่ไหนก็ต้องแวะชิม…… ชิม...... แล้วก็ชิม

         ชิมกาแฟบนดอยทางเหนือมาแล้วก็หลายครั้ง คราวนี้เลยตั้งใจเดินทางลงใต้มาที่อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง เพื่อมาเรียนรู้ขั้นตอนการทำกาแฟ จากกูรูท่านนี้….. “พี่ก้อง” เกษตรกรอินดี้แห่ง “ก้องวัลเลย์” ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟทำมือ และโบว์ตั้งใจว่าจะขอลองลงมือทำเองทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการด้วยค่ะ

         โบว์นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่ จ.ชุมพร จากนั้นก็เช่ารถจากสนามบินขับต่อมาที่ก้องวัลเลย์ระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร ช่วงนี้ใครขับรถมาก็ต้องระวังกันนิดนึงนะคะ เพราะโค้งเยอะและถนนไม่ค่อยดี กรมทางหลวงกำลังปรับปรุงถนนช่วงก่อนถึง อ.กระบุรีอยู่ค่ะ 

         “ก้องวัลเลย์” อยู่ริมถนนสายเล็กๆ บรรยากาศเงียบสงบ เรียบง่าย (62/1 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี          จ.ระนอง  โทร.087 268 1285) พอเปิดประตูรถก็ได้กลิ่นกาแฟคั่วหอมกรุ่น ลอยอ้อยอิ่งแทรกอยู่ในอณูอากาศ  กำลังชื่นชมบรรยากาศเพลินๆ “พี่ก้อง” ผู้ชายผอมบางร่างเล็ก แต่งตัวมีสไตล์เดินเข้ามาทักทาย คุยกับพี่ก้องอยู่พักใหญ่ก่อนหอบกระเป๋าเข้าห้องพักแบบโฮมสเตย์ สร้างง่ายๆ แต่แสนสบาย

         “ก้องวัลเลย์” ที่นี่ห้องพักมี 2 แบบ คือ ห้องพักติดแอร์ และห้องพักติดพัดลม บรรยากาศชิลสบายๆ  น่าพักทั้งคู่ค่ะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3512 3456 

         จากนั้น พี่ก้องก็พาขึ้นรถสองแถวไม้ ซึ่งวินเทจมากๆ นั่งไป มีลุ้นไป สตาร์ทติดบ้างไม่ติดบ้าง สนุกก็ตรงนี้หล่ะค่ะ ตะลอนไปนเยือนอาณาจักรกาแฟของชนเผ่าอิ่วเมี่ยนที่บ้านในกรัง ห่างจากบ้านพี่ก้องไปประมาณ 40 กิโลเมตร

          ชาวอิ่วเมี่ยน หรือชาวเขาเผ่าเย้า ย้ายจากจังหวัดพะเยาและกำแพงเพชร มาตั้งถิ่นฐานทำไร่กาแฟและสวนผลไม้ที่บ้านในกรัง อ.กระบุรี จ.ระนอง มานานกว่า 30 ปีแล้ว และน่าจะเป็นชาวอิ่วเมี่ยนกลุ่มแรกและกลุ่มเดียวที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ด้วย  หากใครปิดตาแล้วพามาปล่อยไว้ที่นี่ คงต้องนึกว่าอยู่ทางเหนือแน่ๆ ก็ดูชุดที่ชาวอิ่วเมี่ยนแต่ละคนใส่สิค่ะ สวยๆ ทั้งนั้นเลย   

          “อาเก๊า” คุณลุงผู้นำชุมชนบ้านในกรัง ใจดี เป็นชาวอิ่วเมี่ยน (เหมือนคนจีนเลย) เป็นศิษย์รุ่นแรกที่พี่ก้องสอนปลูกกาแฟ ปัจจุบันการปลูกกาแฟกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้จุนเจือครอบครัวได้ดีมาก รอบๆ หมู่บ้านในทุกๆ ตารางเมตรของพื้นที่ มีแต่ต้นกาแฟพันธุ์โรบัสต้าปลูกอยู่เต็มไปหมด บนต้นมีลูกสีเขียวสีแดงออกสลับกันไป ตามลานโล่งหน้าบ้านของแต่ละครอบครัวก็มีเมล็ดกาแฟตากแดดอยู่เพียบเช่นกัน 

         พี่ก้องและอาเก๊าชวนโบว์ไปเรียนรู้ขั้นตอนการทำกาแฟสด ครบทั้งวงจรค่ะ ตั้งแต่การเก็บเมล็ดกาแฟ การตากเมล็ดกาแฟ ตลอดจนการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยมือค่ะ

         เริ่มขั้นต้นที่ 1 การเก็บเมล็ดกาแฟ  น้องๆ ชาวอิ่วเมี่ยนเขาแนะนำว่า ให้เลือกเก็บเม็ดกาแฟเม็ดสุก ที่มีสีแดงเชอร์รี่

         ขั้นตอนที่ 2 ขยี้เมล็ดกาแฟ ให้เราเอาเม็ดกาแฟแดงๆ สดๆ นั่นแหละค่ะ มาขยี้ๆ เพื่อเอาเปลือกชั้นที่หนึ่งออก ทำให้เนื้อสีแดงหลุดออกไป .. ขยี้ แล้วก็ขยี้

          ขั้นตอนที่3 ล้างและตากเมล็ดกาแฟ ขยี้เสร็จได้จำนวนพอประมาณแล้ว เราก็ต้องล้างเมล็ดกาแฟให้สะอาด ผึ่งลม และตากแดดให้แห้ง น้องๆบอกว่า ใช้เวลา 7-10 วันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงนั้นๆ ด้วยค่ะ 

          ขั้นตอนที่ 4 คั่วเมล็ดกาแฟ พอตากเมล็ดกาแฟแห้งดีแล้ว ก็ถึงขั้นตอนของการคั่ว พี่ก้องบอกว่า อยากให้กาแฟแก้วนั้นๆ มีรสชาติอย่างไร ก็อยู่ที่สัมผัสในการคั่ว ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่ 3 สิ่งที่ต้องสัมพันธ์กัน คือ เมล็ดกาแฟทุกเมล็ดต้องสัมผัสกระทะ ความแรงของไฟ และระยะเวลาในการคั่วค่ะ

           การคั่วแต่ละแบบก็จะให้รสชาติกาแฟที่ต่างๆกัน ใครชอบรสหวานหรือรสเปรี้ยวก็สามารถดีไซน์ได้ในขั้นตอนนี้หล่ะค่ะ

           ระหว่างคั่วไปสักพัก ก็จะได้ยินเสียงดนตรีเพราะๆ (นั่นก็คือ เสียงเมล็ดกาแฟโดนความร้อนและควบแน่นเต็มที่ ก็จะแตกดัง “เป๊ะ” เบาๆ) ….ระหว่างนี้ เปลือกกาแฟชั้นที่ 2 ก็จะล่อนออกมา เหมือนเปลือกข้างในถั่วลิสง ที่เป็นเยื่อบางๆ เลย

         ขั้นตอนที่ 5 การบดเมล็ดกาแฟ  พี่ก้องสอนให้ใช้เครื่องบดแบบมือหมุน บดไม่ต้องละเอียดหรือหยาบจนเกินไป ขอบอกว่า กาแฟที่คั่วแล้วบดใหม่ๆ แบบนี้จะหอมมากกกกกเลยค่ะ          ขั้นตอนที่ 6 การชงกาแฟ  รสชาติกาแฟ... ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการชงกาแฟที่แตกต่างกัน รวมถึงรสชาติของน้ำ และอุณหภูมิของน้ำที่ชงกาแฟ

         โบว์ เคยแอบฝันว่าอยากเป็น บาริสต้า (Barista) ดีใจจังที่ครั้งนี้ได้มาเรียนรู้เรื่องกาแฟจากกูรูด้านกาแฟโดยตรง ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย บางเรื่องไม่เคยรู้ ก็ได้รู้จากที่นี่ ถือว่าคุ้มค่าแก่การได้มาเยือนจริงๆ ค่ะเอาหล่ะ เรียนมาเยอะแล้ว พรุ่งนี้จะลงมือทำกาแฟด้วยตัวเองจริงๆ สักที

คืนนี้ รีบนอนดีกว่า...

วันที่2

          เสียงไก่ขันปลุกโบว์ริสต้า (Bowrista = Bow+Barista) รีบลุกจากเตียงนอน  ออกไปตามหาส่วนผสมสำหรับการปรุงกาแฟในแบบฉบับของ Bowrista ดีกว่า

         เดินไป เดินมา เจอต้นไม้ต้นหนึ่ง ติดป้ายบอกไว้ว่า “อบเชย” อ่อ!! มันคือต้นอบเชยที่พี่ก้องใช้ทำไม้พายไว้คั่วกาแฟนี่เอง เห็นแบบนี้ไอเดียบรรเจิดขึ้นมาทันที ถ้าเราลองเอาไม้อบเชยไปคั่วปนกับกับเมล็ดกาแฟดูเลยดีกว่า น่าจะเข้มข้นมากกว่าใช้เป็นไม้พายคั่วเฉยๆ ดูซิว่าจะออกมารสชาติแบบไหน การเป็น Bowrista ครั้งนี้ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แต่ถือว่าโชคดีที่มีกูรูคอยแนะนำอยู่ตลอดค่ะ

          สูตรเด็ดของ Bowrista คือ เมล็ดกาแฟโรบัสต้าชั้นดีของพี่ก้อง คั่วปนกับไม้อบเชยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ในกระทะทองเหลือง ชงด้วยกับน้ำแร่เมืองระนอง ต้มจนเดือดพลั่กๆ ฮ่าๆๆๆๆ พี่ก้องก็พี่ก้องเหอะ คอยดูฝีมือโบว์

          วันนี้ ขอโชว์ออฟเต็มที่ คั่ว คั่ว คั่ว เม็ดกาแฟกับอบเชย แล้ว บด บด บด ตามที่อาจารย์ก้องสอน  ตอนที่รอกาแฟเดือด เป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุดเลย ว่าจะอร่อยหรือจะต้องเททิ้งล่ะเนี่ย จะดื่มเองก็จะเข้าข้างตัวเองไป ต้องให้เซียนกาแฟอย่างพี่ก้องมาช่วยตัดสิน ...... 

       ลุ้นค่ะ!! และแล้วเวลาแห่งการรอคอยคำตอบก็มาถึง พี่ก้องชมค่า......ชมว่า “รสชาติดีใช้ได้ มีกลิ่นหอมของอบเชยผสมอยู่ด้วย แปลกไม่เหมือนใคร” ได้ยินคำตอบแบบนี้ ชื่นใจจริงๆ ค่ะ (แต่โบว์ชิมเองก็อยากจะบอกว่า อร่อยจริงๆ นะคะ)  

         สุดท้าย....พี่ก้องมาเฉลยปรัชญาในการดื่มกาแฟว่าจะอร่อยหรือไม่อย่างไรนั้น “มันไม่ได้อยู่ที่รสชาติของกาแฟเพียงอย่างเดียวครับ มันต้องดูที่บรรยากาศรอบกายระหว่างนั่งจิบกาแฟ ต้องดูคนที่เรานั่งสนทนาตรงหน้าด้วย เพราะบทสนทนากับเพื่อนร่วมสภากาแฟก็เป็นส่วนประกอบอีกอย่างที่สำคัญ ที่ทำให้การดื่มกาแฟมีรสชาติละมุน อบอวลไปด้วยความสุข”

         มาถึงตรงนี้ คิดๆ ไป ก็จริงของพี่ก้องเค้านะคะ เพราะคุยกับพี่ก้องสนุกมากกกก กาแฟชงสดๆ ก็หอมละมุ่น อีกอย่างเราอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่ดีมาก ท่ามกลางขุนเขา ท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น ฟังเสียงน้ำในลำธารเล็กๆ ไหลผ่านแก่งหิน ผ่อนคลายจิตใจ  โบว์รู้แล้วค่ะ ว่าความสุขจากกาแฟ มีมากกว่ารสชาติของมัน กระบุรี...ความสุขที่มากกว่ากาแฟรสละมุน....ท่ามกลางขุนเขา

 

 ชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค ตอน กระบุรี...กาแฟรสละมุนกลางขุนเขา

ได้ที่นี่ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=p8-dY_PkLxY

 

ติดตามชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค 

ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 – 09.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส