ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
เดอะแก๊งปากหมาฯ พาหลง...ตะลุยหมอก หยอกตะวัน (ภาคแรก) อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
    • โพสต์-1
    Taya@ •  ธันวาคม 14 , 2559

    ครั้งแรกกับ...นาแห้ว

    เดอะแก๊งปากหมา หน้าสวย>>>ได้ยินชื่อเสียง อำเภอเล็กๆ ของจังหวัดเลยนี้มานาน...

    เห็นภาพแล้วกระตุ้นความอยาก...เที่ยว...ชม...ตะลอน...เมืองเล็กๆที่ชื่อนาแห้ว ที่ไม่ยักกะมีแห้ว ทำไม??? อยากรู้ต้อง...ไปเลย>>>

    เมืองที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่มี 7-11 ไม่มีห้าง ไม่มีความวุ่นวาย มีธนาคาร ธกส. และมีตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยเพียงเครื่องเดียว นี่แหละคือเสน่ห์ กลัว!!! เหลือเกินกับการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมเมือง

    ทริปนี้ เดอะแก๊งฯ วางแผน(แบบฉุกเฉินอีกแล้ว) ว่าอยากไปสโลว์ไลฟ์ (Slow life) สมาชิกในแก๊งฯ ไม่ว่างเพราะติดภารกิจ โดดงานไม่ได้ เราเริ่มต้นไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1 และ ทางหลวงหมายเลข 21 เส้นทางสระบุรี - หล่มสัก

    ตามเส้นทางสระบุรี ช่วงนี้ดอกทานตะวันเบ่งบานอวดโฉม ท้าแสงแดดล่อให้พวกเราเดอะแก๊งฯ ยั้งใจไม่ไหวต้องแวะไปสัมผัสตามระเบียบ ^^

    เราไปกันเรื่อยๆ มาเรียงๆ คลุกเคล้าการนินทาสมาชิกที่ไม่ได้ร่วมเดินทาง 555 จริงๆ แล้วคิดถึงอยากให้มาพร้อมหน้า แต่เข้าใจ๋ เข้าใจ ^^  เราเลือกที่จะไปตามเส้นทางอำเภอด่านซ้าย ทางหลวงหมายเลข 2113 ที่ต้องแวะหยอกเย้ากับผีตาโขนและแวะชมบรรยากาศจุดชมวิว "ดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี"

    โปรดอย่าถามว่าแล้วไปทางไหนต่อ เพราะเดอะแก๊งฯ ยึดนโยบาย "หลงเพื่อประสบการณ์ ไม่หลง ไม่ใช่เดอะแก๊ง ปากหมาฯ "

    มาตามเส้นทางเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาตามคำบอกของชาวบ้านตลอดเส้นทางที่ผ่าน พิสูจน์แล้ว!!! คนไทย...ใจดี... น่ารักที่สุดในโลก 5555  

    ออกจากกรุงเทพตั้งแต่ 6 โมงเช้า เกือบบ่ายโมงก็ถึงป้ายบอกทางไปอำเภอนาแห้ว เย้...เย้..>>> ท้องเริ่มส่งเสียงร้องลั่นแข่งกัน สัญญาณน้ำย่อยตะโกนบอกหิวแล้ว>>>>แวะเลย ร้าน "อะไรก็หมู" ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบนี้หรือป่าว ชื่อเท่ห์ไหมหละ?? 5555 ขอบอกส้มตำอร่อยที่สุดในสามโลก (พี่เขาว่างั้น) อร่อยทุกอย่างจริงๆ ที่สำคัญมีกล้วยทับ เอ๊ะ!!!หรือกล้วยทุบ ไม่แน่ใจเพราะพี่เจ้าของร้านเล่นเอาสากมาทุบเพื่อเพิ่มอรรถรส 555 ขอบอกอร่อยที่สุดอีกแล้ว  ร้านตั้งอยู่ตรงมุมถนนขวามือเลยป้ายอำเภอนาแห้ว (ขออภัยไม่แม่นระยะทาง เพราะเริ่มตาลาย) 5555 กินเสร็จต้องกลับรถเลี้ยวขวาไปเส้นทางตามป้ายไปอำเภอนาแห้วประมาณ 30 กิโลเมตร>>>

    ตามเส้นทางสองข้างทางสวยงาม ดื่มด่ำกับธรรมชาติและสูดอากาศเข้าปอดเต็มๆ ไม่นานก็ถึงที่พักของเรา ขอเข้าที่พักเอาแรงสักแป๊บบบบ @ภูอิงหมอก บรรยากาศสบายเหมือนอยู่บ้าน เจ้าของรีสอร์ทก็น่ารัก ใจดี สุดคุ้มกับราคาคืนละ 500 บาท โทรเลย 08 7190 8887

    ในอำเภอนาแห้ว มีที่พักหลากหลายให้เลือกพัก @ภูอิงหมอกรีสอร์ท หาไม่ยาก ตั้งอยู่เยื้อง สภอ.นาแห้ว เดอะแก๊งฯเลือกที่จะโทรมาจองก่อน เพราะเกรงว่ามาถึงจะต้องแบกเต็นท์หาวัดหรือโรงเรียนนอนกลางตัวอำเภอ 555 

    มาถึงนาแห้วแล้ว ไม่ลืมเช็คอินตรงป้ายยินดีต้อนรับที่เชิญชวนแขกมาเยี่ยมเยือนจริงๆ 

    เก็บสัมภาระล้างหน้าล้างตาเสร็จ เดอะแก๊งฯ ออกตะลุยชมเมืองกันเลย แต่อย่างที่บอก เมืองนาแห้วก็คือนาแห้ว ช่างมีเสน่ห์ในตัวเองเหลือเกิน

    เท่ห์สุดๆ กับรถอีแต๊ก จนชาวเดอะแก๊งฯ อดใจเก็บความซนไม่ไหว ขอกระโดดขึ้นไปนั่งร่วมแจมบนฟางข้าวซะเลย คุณลุงก็ใจดี้ใจดี ไม่บ่นสักคำ^^

    เรามาถึงจุดชมวิวแสงภา ที่มองเห็นวัดศรีโพธิ์ชัย ภูเขาและท้องนาที่เหลือซังข้าวสีเหลืองทอง แถมมีน้องควายฝูงย่อมๆ เดอะแก๊งฯ ต้องถอยหนีแอบดูอยู่ห่างๆ เพราะใหญ่กว่าเรามาก งานนี้ ปากหมาก็สู้ไม่ไหว ขอตั้งหลักทักทายอยู่ไกลๆ ละกัน ^^

    ทักทายฝูงน้องควายเรียบร้อยแล้ว เดอะแก๊งฯ จึงขอเข้าวัดเพราะอุโบสถและวิหารจำลองที่ตั้งเด่นสง่าเหลืองทองอร่ามนั้น ยั่วตายั่วใจเหลือเกิน 

    ณ วัดศรีโพธิ์ชัย บ้านนาพึง มีความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นผสมผสานศิลปะสมัยอยุธยา ศิลปะล้านช้างและศิลปะจีน ภายในพระอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่ 

     

       
    • โพสต์-2
    Taya@ •  ธันวาคม 14 , 2559

    ตะลุย>>>หาหมอก

    มาถึงที่นาแห้วแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องตะลุยหมอกที่สามารถมองได้รอบ 360 องศาและมีชื่อเสียงจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เมืองต้อง(ห้าม)พลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คือ ภูผาหนอง

    ณ ภูผาหนอง อยู่ในตำบลบ้านนาโพธิ์ มีจุดชมวิวหลายจุด เราเริ่มออกจากที่พักเมื่อตะวันขึ้นริมขอบฟ้าเพื่อให้มีแสงสว่างเพราะต้องเดินเข้าไปชมบนเขา 

    ตลอดเส้นทางเจอสายหมอกแต่ไม่หนาตาทำให้สามารถขับรถได้สบาย

    จากลานจอดรถที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก สถานที่ได้รับการดูแลและตกแต่งอย่างสวยงามมีร้านขายอาหารของชาวบ้านรองรับปรุงอาหารเช้า เมื่อเดินทางมาถึงได้กลิ่นข้าวไข่เจียวเตะจมูกยั่วน้ำย่อยในกระเพาะอีกแล้ว แต่ขอไปตะลุยหมอกก่อนละกัน ^^

    เราเลือกเดินไปถึงผาหนองที่อยู่บนสุดก่อน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เส้นทางทั้งเรียบและชันเล็กๆ สลับกับ ทางเดินสบายๆ มีที่พักและจุดชมวิวตลอดเส้นทาง นักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวทั้งผู้สูงอายุ เด็กเล็กและหนุ่มสาวมุ่งหน้าชื่นชมความงดงามตามจุดต่างๆ เสียงหัวเราะ หยอกเย้าและเสียงหอบฟึดฟาดสลับกัน 

    แวะทักทายดอกไม้ป่าที่ขึ้นระหว่างทาง ทำให้ผ่อนคลายความเหนื่อยไปได้

    ขึ้นบันไดไปผาหนอง จะเจอพระพุทธรูปเด่นตระหง่านกลางลานกว้าง จุดนี้สามารถเลือกชม>>ตะลุยหมอกได้ 360 องศา เลือกพิกัด เหนือ-ใต้- ออก-ตก ได้ตามสะดวก 

    มีหินแกะสลักพระพุทธรูปที่ชาวบ้านยังสลักไม่เสร็จ

    ใกล้กันคือผาธงไทย เพราะเดิมสถานที่แห่งนี้มีร่องรอยของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยตามเส้นทางตะเข็บชายแดนไทย-ลาว ในช่วงปี พ.ศ. 2510 - 2520 ได้ถูกปราบปรามจากรัฐบาลอย่างหนักจนต้องตัดสินใจเข้าโครงการเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจนถึงปัจจุบัน ได้ฟังเรื่องเล่าจากชาวบ้าน หากข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยค่ะ

    ตื่นตา ตื่นใจกับหมอกหนาที่อยู่ตรงหน้า เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป และนั่งมองอยากกระโดดไปนอนบนสายหมอก จนโดนแซวตามสไตล์เดอะแก๊งปากหมาฯ "เอาเล้ย เดี๋ยวจะไปรอรับข้างล่างจะเตรียมจองวัด จะเอาศาลาไหน เลือกมา" น่าน รักกันจริ๊ง 5555

    เสียดาย>>> ฟ้าปิด เมฆมาก ทำให้แสงตะวันไม่สามารถทะลุก้อนเมฆหนานั้นได้ นั่งรอจนเมฆก้อนใหญ่ลอยผ่านไป แต่ไม่ทันแสงอ่อนของดวงตะวัน ดันมาเจออีกทีกลายเป็นแดดเปรี้ยงซะงั้น !!!

    เดอะแก๊งฯ นั่งฟินมองทะเลหมอกอยู่พักใหญ่ จนลืมไปว่าจะต้องไปต่อ ว่าแล้วต้องเดินหน้าต่อไปยังผาหมวก ย้อนกลับทางเดิม ดีนะช่วงนั้น นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยกลับ เหลือเฉพาะเดอะแก๊งฯ กับนักท่องเที่ยวอีกไม่กี่คน ถือว่าคุ้ม อิอิ

    เมื่อหมอกหายเห็นเพียงละอองหมอกก้อนน้อย ก็สวยงามไปอีกแบบ

                               
    • โพสต์-3
    Taya@ •  ธันวาคม 14 , 2559

    ไปต่อ>> @บ้านเหมืองแพร่>>@ภูหัวฮ่อม>>@อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย

    จากเดิมตั้งใจจะค้างที่นาแห้ว 1 คืน แต่หลงไหลเสน่ห์ของเมืองนี้ จึงขอต่ออีกคืนเพื่อท่องเที่ยวให้หมด เพราะรู้มาว่ามีไร่สตอเบอรี่ อยากบุกไปชม...ชิม...ถั่วแมคคาเดเมีย และผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของที่นี้คือ "ถั่วคั่วทราย" ขอบอกอร่อยจริ๊งจริง ถั่วเม็ดโต มันส์ทุกเม็ด และที่ถูกใจสุดๆ คือชิมฟรีตามอัธยาศัย เดอะแก๊งฯ ก็เกรงใจยืนชิมไม่ไปไหน แซวแม่ค้า พ่อค้า ช่วยขายของนักท่องเที่ยว จนโดนแซวกลับว่าอยู่ต่อเป็นสะใภ้ที่นี้เลยไหม?? ได้หรือค่ะ 55555

    เสียดาย!!! สตรอเบอรี่ยังโตไม่ทันที่เดอะแก๊งฯ จะได้ชิม เลยฝากไว้ก่อน...รอบหน้าจะบุกมาชิมให้ได้ หึหึ

    ใกล้ๆ ตลาดมิตรภาพไทย - ลาว มีเพียงแม่น้ำกั้นเขตแดน ช่วงนี้น้ำลดลงมากจนเด็กๆ เดินข้ามฝั่งมาซื้อขนมโดยไม่ต้องใช้เรือ เกือบได้เดินลงไปลุยน้ำข้ามฝั่งไปลาวแล้ว นึกขึ้นได้!!! เรายังจุดหมายอื่นรออยู่นี้ ไปต่อกัน>>>

    จุดมุ่งหมายต่อไปคือภูหัวฮ่อม เป็นจุดที่สามารถมองเห็นยอดภูสอยดาว และเขตแดนไทย-ลาว และเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ อากาศกำลังสบายประมาณ 22 - 24 องศา แต่ตอนเย็นก็เริ่มหนาวแล้วกับอุณหภูมิ 17 - 19 องศา

    ชื่นชมบรรยากาศอยู่พักใหญ่ต้องไปต่อ @อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย รอบนี้ เดอะแก๊งฯไม่พลาด หยิบพาสปอร์ตอุทยานแห่งชาติมาแวะแสตมป์ตราสัญลักษณ์เพื่อเก็บแต้ม

    ใกล้กันมีแปลงดอกกุหลาบหลากพันธ์ุให้ได้ชื่นชม เดอะแก๊งฯ เพลิดเพลินกันไป ขอแอบเป็นผู้ญิ๋งผู้หญิงหวานกะดอกไม้บ้าง 555 น่าจะไม่รอด TOT

    เดินทางออกจาก "นาแห้ว" ยังประทับใจพี่จิต แม่ค้าอาหารตามสั่ง ใจดี ฝีมืออร่อย พูดเก่ง แต่อย่าขัดใจ 5555

    เดอะแก๊งฯ ได้ฝากท้องกับพี่เขา สั่งได้ทุกอย่างแต่จะทำให้ไหม??? ค่อยว่ากัน 5555 รักนะจึงหยอกเล่น อิอิ ^^ 

    เมนูเด็ดที่ต้องสั่ง คือ ผัดพริกแกงและไข่ระเบิด ขอบอก อาหร่อยสุดสุด ## ร้านอยู่หน้าแยกที่ว่าการอำเภอนาแห้ว หากมาถึงป้ายยินดีต้อนรับของอำเภอ นั้นหละถึงร้านพี่จิตแล้ว

    • โพสต์-4
    Taya@ •  ธันวาคม 14 , 2559

    แวะมาเติมเต็มที่>>>แพลุงตี้...

    เริ่มออกเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปของเดอะแก๊งฯ คือ "แพลุงตี้" ระหว่างเขตแดน จ.อุตรดิตถ์ และ จ.น่าน

    เดอะแก๊งออกเดินทางลัดเลาะตามแนวเขาเลียบมาทางอำเภอน้ำปาด เส้นทางค่อนข้างสวยงาม แต่มีทางโค้งและชันตามไหล่เขา น้องๆ เส้นทางปาย - แม่ฮ่องสอน จึงทำให้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปวิวสองข้างทางเพราะมัวแต่เลี้ยงเกียร์ จับพวงมาลัย โยกไปตามโค้งจนรู้สึกเหมือนกำลังเล่นฮูล่าฮูป 5555

    เดอะแก๊งฯแวะทานข้าวเที่ยงและซื้อของกินที่ตลาดนัดค่อนข้างใหญ่  เมืองน้ำปาดเป็นเมืองเล็กๆ อีกเมืองแต่มีความสมบูรณ์สำหรับเครื่องอุปโภคบริโภค สนุกสนานกับการเดินชิมไปช๊อปไป จนตลาดเริ่มวาย เดอะแก๊งฯจึงได้ฤกษ์ไปต่อ

    ลัดเลาะตามเส้นทางไปทางเขื่อนสิริกิติ์ เส้นทางยังคงไปตามไหล่เขาแต่เส้นทางโค้งน้อยกว่า ตลอดทางมีแหล่งท่องเที่ยวแต่คงเถลไถลไม่ได้ เพราะจะเริ่มมืด 

    ไม่นานถึงหมู่บ้านประมงปากนาย ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ริมแม่น้ำน่าน อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน 

    เดอะแก๊งฯ เลือกที่จะพักบนแพลุงตี้ ที่เป็นร้านอาหารสำหรับรองรับผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการแวะทานอาหารระหว่างรอแพข้ามฟาก ด้วยรสชาติฝีมือการทำกับข้าวของป้าลิ้ม และความมีอัธยาศัยที่ดีของลุงตี้ ทำให้นักท่องเที่ยวติดใจ เพราะลุงตี้จะบริการและดูแลเสมือนทุกคนเป็นลูกหลาน ชอบสโลแกน "อยากชิลล์ แค่โทรมา แล้วลุงจะพาไป" >>>

    เดอะแก๊งฯ มาทั้งที ลุงตี้บอกสั่งได้เลยอยากกินอะไร เสมือนเราเป็นญาติๆ ลูกหลานกัน น่าน!!! ลุงตี้หลงเสน่ห์ฝีปากสาวๆ เดอะแก๊งฯ ซะแล้ว 5555 จัดไป 

    ที่นอนอันแสนสบาย เพราะลุงตี้และป้าลิ้มตระเตรียมที่หลับที่นอน หมอน ผ้าห่มไว้ให้ หลับไปพร้อมกับเสียงคลื่นน้ำกระทบแพ กล่อมให้นอนหลับฝันดี เอ๊ะ!!! หรืออาจเพลียเพราะการเดินทางบวกกับความอร่อยของกับข้าวฝีมือป้าลิ้มที่แต่ละคนกินจนลืมอิ่มกันแน่ 5555 สำหรับค่าบริการที่พักต้องโทรไปถามได้เลย 087 198 1820

    จุดเด่นของที่นี้คือมีแพข้ามฟาก ขับเคลื่อนโดยเรือหางยาว ค่าบริการ รถยนต์คันละ 250 บาทต่อขา สำหรับรถมอเตอร์ไซด์ คันละ 100 บาทต่อขา ส่วนผู้โดยสารคนละ 50 บาท มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง

    ประทับใจน้องๆ นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยรู้ว่าเส้นทางนี้มีเรือข้ามฟากสามารถไป จ.น่านได้ จึงเกิดอาการ งง งง เพราะมาตาม GPS แล้วพอเห็นเขื่อนจึงตกใจว่า GPS จะให้ขับลงน้ำหรือไง 5555 ถือเป็นประสบการณ์อีก 1 บทของชีวิตนะน้องนะ ^^ ตื่นเต้นขณะที่ขับเรือลงแพ จนเดอะแก๊งฯ บอกจะถ่ายรูปให้เป็นที่ระทึก 5555 สุดท้ายจึงได้มิตรภาพระหว่างการเดินทางกลับมา

    รู้สึกผ่อนคลายเพราะบรรยากาศเงียบ สงบ ไม่วุ่นวายแม้ช่วงกลางวันจะมีนักท่องเที่ยวมารอขึ้นแพกันไม่ขาดสาย สาวๆ เดอะแก๊งฯ ช่วยลุงตี้และป้าลิ้มรับรองลูกค้า แบบเงอะๆ งะๆ 

    มื้อเช้าอีกวัน ป้าลิ้มจัดเต็มให้เดอะแก๊งฯ อร่อยทุกจานจริงๆ ยิ่งทอดมันปลากรายที่ป้าลิ้มจัดแจงทำจากเนื้อปลากรายแท้ๆ ไม่ผสมแป้ง ปลาเนื้ออ่อนที่มีรสชาติหวาน นุ่ม ปลากดที่เนื้อแน่น ปลาซิวและปลาไร้ก้างที่อร่อยไม่แพ้กัน 

    ป้าลิ้มผู้ใจดี แถมอารมณ์ดี และเป็นที่รักของลุงตี้ น่ารักมาก ตอนที่สาวๆ เดอะแก๊งฯ ร่วมมือกับลุงตี้แกล้งถามให้ป้าลิ้มสารภาพเรื่องความรัก มีความเขินจนหน้าแดง เอ๊ะ!!!! หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กันแน่ 5555

    ลุงตี้ ผู้ที่สารภาพว่าเป็นคนรักเดียวใจเดียว มีอารมณ์ขันและคารมดีชอบแหย่ให้ป้าลิ้มหัวเราะ มิตรภาพเกิดขึ้นระหว่างโต๊ะอาหาร พูดคุยกันเหมือนญาติพี่น้องแวะมาเยี่ยมเยียน ได้ฟังประวัติของผู้ชายคนหนึ่งที่ผ่านวีรกรรมอันโชกโชน และสนุกสนานยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก เสียงหัวเราะดังขึ้นตลอดเวลาคล้ายๆ ใครแอบใส่กัญชาไว้ในอาหาร สุดท้าย ลุงตี้หยอดหากอยากฟังภาค 2 ตอนจบต้องกลับมาอีกครั้ง แนะ!!! มีกลยุทธ์การตลาดด้วยนะเนี้ยะ ไม่ธรรมดา 5555

    ถึงเวลากลับ ทั้งๆ ที่ใจไม่อยากกลับเลย ได้ผ่อนคลายและประทับใจกับบรรยากาศสวยๆ มิตรภาพดีๆ ไม่ว่าจะเป็นจากเจ้าของบ้านลุงตี้ - ป้าลิ้ม หรือจากนักท่องเที่ยวด้วยกัน โชคดีจริงๆ ที่เกิดเป็นคนไทย เที่ยวที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าเที่ยวเมืองไทยจริงๆ 

    ภารกิจตะลุยหมอก หยอกตะวันยังไม่จบ มีต่อภาค 2 โปรดติดตาม ^^