ล่องแพพะโต๊ะ จ.ชุมพร : ปล่อยใจไปกับ.. สายน้ำ[600 บาท=ล่องแพ+อาหารชาวแพ 7 อย่าง]

ถ้าไป ชุมพร แล้วไม่ได้เที่ยว “ทะเล” ..เราจะไปไหนกันดี?

ผมได้มีโอกาสได้กลับไปเยือน จังหวัดชุมพร อีกครั้ง แต่..ครั้งนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวทะเลตามที่ตั้งใจไว้ เพราะ.. อยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวที่อื่นๆ ของจังหวัดชุมพรกันบ้าง และ เนื่องจากยังไม่รู้ว่า.. จะไปเที่ยวที่ไหนกันดี? ตั๋วรถไฟก็ได้จองไปแล้วด้วย ตัวช่วยในครั้งนี้ก็คงหนีไม่พ้น Google ให้ช่วยค้นหา.. จนสะดุดกับคำว่า “ล่องแพพะโต๊ะ” ขึ้นมา..

การหาข้อมูลไปเที่ยวในทริปนี้.. ก็เลยดูเหมือนจะฉุกละหุกไปซะหน่อย และ ก็ขอสารภาพว่า.. เพิ่งจะได้รู้ว่า “อำเภอพะโต๊ะ” อยู่ส่วนไหนของจังหวัดชุมพร ก็ในตอนนี้เอง ซึ่ง.. อำเภอพะโต๊ะ ก็ขึ้นชื่อเรื่อง การล่องแพ ฟังแล้วดูน่าสนุก.. ก็เอาสิ! ทริปนี้ไป.. ล่องแพพะโต๊ะกัน!

ติดตามการเดินทางทริปอื่นๆ ของผมได้ที่..
FB : https://www.facebook.com/chailaibackpacker/

รายละเอียดการล่องแพพะโต๊ะ จ.ชุมพร

• มาลิน บริการล่องแพ

ทริปนี้.. ได้ติดต่อจอง มาลิน บริการล่องแพ ไว้ครับ.. ซึ่งรายละเอียดในการล่องแพคร่าวๆ ก็คือ.. เป็นการล่องแพชิลๆ ไปตามลำน้ำพะโต๊ะ.. ซึ่งเป็นการล่องแพท่ามกลางธรรมชาติ เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ระหว่างทางก็เล่นน้ำ โดดน้ำ ได้ตามอัธยาศัย จะเริ่มล่องแพ ตั้งแต่ช่วงเช้า 9.00 น. ไปสิ้นสุดปลายทางในเวลาประมาณ 12.00 น. (ใช้เวลาล่องประมาณ 2-3 ชั่วโมง) สามารถล่องแพได้ตลอดทั้งปี

ค่าบริการล่องแพ(รวมอาหาร) /คน : ผู้ใหญ่ 600 บาท, เด็ก 300 บาท(รับขั้นต่ำ 4 คนขึ้นไป)

หากต้องการพักค้างคืนก็มีแบบ Package โฮมสเตย์ไว้บริการ : ที่พัก + อาหาร 3 มื้อ + ล่องแพ (ห้องพัดลม ท่านละ ผู้ใหญ่ 1200 บาท, เด็ก 600 บาท และ ห้องแอร์ ท่านละ ผู้ใหญ่ 1300 บาท, เด็ก 700 บาท)

• เล่นน้ำ โดดน้ำ เย็นสบายใจ!

ใช่ว่า.. มาล่องแพ จะได้แค่นั่งเฉยๆ ชมวิวกันอย่างเดียว สายน้ำพะโต๊ะ แห่งนี้.. ก็สามารถลงเล่นน้ำให้เย็นสบายได้.. โดยมีหลายจุดที่น้ำตื้น สามารถลงไปเดินเล่น หรือ นั่งเล่นกลางลำน้ำได้อย่างสบาย และ บางจุดก็โดดน้ำเล่นกันได้อย่างมันส์กันเลยล่ะ..

• ลิ้มรสอาหารชาวแพแบบเติมไม่อั้น!

หลังจากสิ้นสุดการล่องแพแล้ว ก็จะได้ลิ้มรส กับ “อาหารชาวแพ” 7 อย่าง (+ ข้าวกระบอกไม้ไผ่, ผลไม้ตามฤดูกาล และ น้ำสมุนไพรอัญชัน) อาหารสไตล์พื้นบ้าน ปรุงขึ้นมาจากวัตถุดิบท้องถิ่น ไม่อิ่มก็สามารถเติมได้.. ซึ่งก็อร่อยทุกเมนูจริงๆ นะครับเนี่ย!

การเดินทาง ไป อำเภอพะโต๊ะ 

อำเภอพะโต๊ะ เป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดชุมพร ห่างจากตัวเมืองชุมพรไปราว 106 กิโลเมตร(อยู่ติดจังหวัดระนอง)

• การเดินทางด้วยรถส่วนตัว  

จาก กรุงเทพฯ ขับรถมุ่งหน้าสู่ จังหวัดชุมพร เมื่อถึงตัวเมืองชุมพร ให้ขับเลยตัวจังหวัดไปยัง อำเภอพะโต๊ะ รวมระยะทางจากตัวเมืองราว 106 กิโลเมตร  จาก ตัวอำเภอพะโต๊ะ ขับไปประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเตรียมชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร (หน้าปากซอยมีป้าย “มาลิน บริการล่องแพ” )

• การเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ

นอกจากรถส่วนตัวแล้ว สามารถเดินทางมา อำเภอพะโต๊ะ ด้วยรถทัวร์ หรือ รถไฟมาลงที่ อำเภอหลังสวน จากนั้นต่อรถสองแถวที่ ตลาดอวยชัย สาย หลังสวน-พะโต๊ะ (รวมประมาณ 50 กิโลเมตร) ซึ่งสามารถบอกคนขับรถสองแถวให้แวะเข้าไปส่งที่ มาลิน บริการล่องแพ ได้

DAY #0  

22.50 น. เริ่มต้นออกเดินทาง จาก กรุงเทพฯ สู่ ชุมพร

ผมออกเดินทางจาก สถานีรถไฟกรุงเทพฯ พร้อมกับ มิตรสหายผู้ร่วมเดินทางอีก 3 คน รวมมีสมาชิกออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เป็นทั้งหมด 4 คน และ มีอีก 1 คน ที่รออยู่ที่ จังหวัดชุมพร เป็นคนชุมพร และถือเป็น เจ้าบ้าน ในทริปนี้.. และแน่นอนว่า.. การเดินทางภายในจังหวัดชุมพร จึงค่อนข้างจะสะดวกสบาย เพราะ มีรถส่วนตัวของเจ้าบ้านในการเดินทางนั่นเอง.. 55+

แนะนำว่า.. ถ้าอยากเดินทางให้ถึง จังหวัดชุมพร ในช่วงเวลาเช้าพอดี ก็ต้องเป็น ขบวน 39/41 ออกจาก สถานีรถไฟกรุงเทพฯ เวลา 22.50 น. จะถึง สถานีรถไฟชุมพร เวลา 05.50 น. และ ถึง สถานีรถไฟหลังสวน เวลา 06.48 น. รถไฟขบวนนี้ เป็นรถไฟขบวนด่วนพิเศษ แบบนั่งปรับอากาศ มีของว่าง น้ำดื่ม และผ้าห่มไว้คอยบริการ.. 

DAY #1 

06.00 น. สวัสดีชุมพร!

รถไฟขบวนนี้ค่อนข้างจะตรงเวลา เดินทางมาถึง สถานีรถไฟชุมพร ในเวลาที่กำหนด ในช่วงเวลานี้.. จึงนั่งเล่นรอ เจ้าบ้าน ที่จะขับรถมารับ และมุ่งหน้าไปที่ อำเภอพะโต๊ะ ต่อไป..

เมื่อเจ้าบ้านขับรถมารับที่ สถานีรถไฟชุมพร สมาชิกผู้ร่วมเดินทางก็รวมตัวกันครบทั้งหมด 5 คน พอดี.. พร้อมออกเดินทางไปกันต่อที่ อำเภอพะโต๊ะ ซึ่งน่าจะใช้เวลาในการขับรถไปอีกประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งระหว่างทางก็สามารถแวะซื้อ ขนม และ เครื่องดื่มต่างๆ ตุนเป็นเสบียงไว้ด้วยก็ได้ครับ..

09.00 น. มาลิน บริการล่องแพ

ขับรถจาก ตัวเมืองชุมพร ผ่านตัว อำเภอพะโต๊ะ มาประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเห็นป้าย “มาลิน บริการล่องแพ” ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็ถึงจุดหมาย.. ของการเดินทางในครั้งนี้ พวกเราได้รับการต้อนรับจาก คุณเล็ก เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านั้นผมได้จองล่องแพเอาไว้ล่วงหน้า และ ได้พูดคุยสอบถามข้อมูลทั่วไปกับคุณเล็กมาแล้วบ้าง..  

ครั้งนี้.. ผมได้จองทริปล่องแพแบบวันเดียว เนื่องจากมีเวลาน้อย และต้องกลับเข้าตัวเมืองชุมพรในเย็นวันนั้นเลย ซึ่งถ้าหากใครไม่รีบ ที่นี่.. ก็มีโฮมสเตย์ ไว้บริการด้วย สำหรับผู้ที่อยากมาล่องแพ พร้อมพักผ่อนนอนค้างสักคืน..   และ ถ้าหากสนใจที่จะล่องแพก็ควรจะติดต่อมาล่วงหน้าอย่างน้อยสัก 3 วัน นะครับ เพราะ คุณเล็ก จะได้เตรียมวัตถุดิบ ในการทำอาหารให้พร้อม และ ทั่วถึง ที่นี่จึง.. เป็นอะไรที่แบบบ้านๆ ดูเรียบง่าย สบายๆ ครับ

จากนั้น พวกเราทั้ง 5 คน ไม่รอช้า.. จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อยู่ในชุดที่พร้อมเปียก เตรียมของต่างๆ ลงแพให้พร้อม และไม่ลืมที่จะนำถุงดำที่ทางแพแจกไว้ให้ เพื่อเก็บขยะต่างๆ นำกลับมาทิ้งบนฝั่ง.. 

เราได้ทำความรู้จักกับ “จอร์จ” ซึ่ง จอร์จเป็นพนักงานที่จะนำเราไปล่องแพ และ คอยดูแล ให้ข้อมูลต่างๆ ในขณะที่ล่องแพ โดยก่อนที่จะออกไปล่องแพ.. ก็ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเสียก่อน ที่สำคัญ.. ก็คือ ต้องสวมเสื้อชูชีพให้พร้อม และ ถ้าหากต้องการกระเป๋ากันน้ำไว้ใส่กระเป๋าสตางค์ มือถือ หรือของสำคัญ ที่นี่ก็มีให้ยืมเหมือนกันครับ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว.. จอร์จ ก็.. พาขึ้นรถ เพื่อไปยังต้นน้ำ จุดเริ่มต้นล่องแพ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร

09.30 น. เริ่มต้นล่องแพ ปล่อยให้ไหลไป...

เดินทางมาถึงจุดเริ่มต้นล่องแพ ซึ่ง จอร์จ ก็ได้เตรียมแพ รอเราไว้ล่วงหน้าแล้ว จากถนนที่เพิ่งลงรถมา ต้องเดินลงไปอีกสักหน่อย จะถึงตัวแม่น้ำ

ซึ่งก่อนจะล่องแพ เพื่อความปลอดภัย ก็มี ข้อควรปฎิบัติในการล่องแพ ดังนี้ ครับ..

การเตรียมตัวในการล่องแพ

1. เตรียมเสื้อผ้าสำหรับลงเล่นน้ำได้
2. ควรเตรียมเสื้อผ้ามาไว้เปลี่ยน
3. สามารถนำอาหาร และ เครื่องดื่ม ลงแพได้

ข้อควรปฎิบัติในการล่องแพ

1. ห้ามทิ้งขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ลงน้ำ
2. ห้ามเด็ด หรือ เก็บพันธุ์ไม้ริมน้ำ
3. เพื่อความปลอดภัย ควรสอบถามพนักงานถ่อแพก่อนลงเล่นน้ำ

ถึงจุดเริ่มต้นล่องแพ น้ำน่าลงไปเล่นมาก! จะเห็นว่าแพที่ใช้ล่องนั้นจะเป็นแพท่อพีวีซี ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ.. เมื่อก่อนเคยใช้แพไม้ไผ่ แล้วอายุการใช้งานจะสั้น เกิดการแตกหัก.. ผุพังง่าย.. ทำให้ต้องตัดไม้ไผ่มาทำแพบ่อยๆ ปัจจุบัน จึงเปลี่ยนมาใช้ท่อพีวีซีที่มีความทนทานสูงแทน และ สามารถลดการตัดไม้ลงไปได้ด้วย..

และนี่คือ.. จอร์จ (คนยืนในน้ำ) ผู้ที่จะมาถ่อแพพาล่องไปตามลำน้ำคลองพะโต๊ะแห่งนี้ เป็นทั้งพนักงานถ่อแพ และเป็นไกค์ ที่คอยเล่าเรื่องราวต่างๆ ของลำน้ำสายนี้.. ตอนที่เราเจอ จอร์จ ครั้งแรก จอร์จ พูดเก่ง และ ยิงมุกตลก มาจนพวกเราแทบจะรับไม่ทัน มีทั้งฮาบ้าง และ แป้กไปบ้าง แต่ก็เป็นสีสัน.. ที่ทำให้ทริปล่องแพวันนี้ สนุกดี..

วันนี้อากาศดี.. จอร์จ จะพาถ่อแพไปล่องไปตามลำน้ำพะโต๊ะ ซึ่งในขณะนี้ มีเพียงกลุ่มเราแค่กลุ่มเดียว มีแพเราแค่แพเดียว กับ ชายหนุ่ม ทั้ง 6 คน (รวมจอร์จ) เตรียมตัวออกล่องแพกัน..

แพจะค่อยๆ ล่องไปเรื่อยๆ ช้าๆ ได้ชมบรรยากาศธรรมชาติ สองข้างทาง โดยระยะทางล่องแพประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง จอร์จ บอกกับพวกเราว่า.. ถ้ารีบ ก็สามารถเร่งให้ไปไวกว่านี้ได้ หรือ ถ้าไม่รีบก็สามารถล่องไปเรื่อยๆ และ หยุดพักเล่นน้ำระหว่างทางเป็นจุดๆ ไปก็ได้.. ซึ่งพวกเราก็ขอเป็นอย่างหลัง.. ไปเรื่อยๆ ชิลๆ ไปเพราะก็ไม่ได้รีบอะไร..

สายน้ำพะโต๊ะ แห่งนี้ น้ำจะไม่ลึกมาก มีลึกในบางจุด ซึ่งตรงไหนลึก ไม่ลึก เล่นน้ำ ได้หรือไม่นั้น? ก็สามารถสอบถามกับพนักงานประจำแพได้เลยครับ ในบางช่วงนำจะไหลเอื่อยๆ ช้าๆ และในบางช่วงก็มีแก่งเล็กๆ ให้ได้ตื่นเต้นกันบ้าง..

เมื่อถึงจุดที่สามารถแวะเล่นน้ำได้ จอร์จก็จะเตรียมจอดแพ เพื่อให้เล่นน้ำ พักผ่อนกันไป..

เมื่อถึงจุดที่ฝั่งมีลักษณะเป็นชายหาดเล็กๆ ก็ขอจอดแพ พักชมบรรยากาศกันสักหน่อย..  ซึ่งในระหว่างล่องแพนั้น ก็สามารถ นำอาหาร และ เครื่องดื่ม ลงแพไปด้วยได้ แต่ทั้งนี้.. ก็ต้องช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ลงแม่น้ำ ซึ่งทางแพก็จะมีถุงดำเอาไว้ให้ใส่ขยะต่างๆ เพื่อเก็บมาทิ้งบนฝั่งด้วยครับ

การล่องแพในวันนี้ จึง ล่องๆ จอดๆ อยู่เป็นระยะ เพราะไม่ได้เร่งรีบอะไร ล่องไป.. แวะเล่นน้ำไป.. ก็เย็นสบายดี..

ในบางจุดน้ำตื้นมาก จนถึงขนาดท้องแพด้านล่างติดกับพื้นเนินหิน จนทุกคนต้องลงจากแพ แล้วช่วยกันเข็นแพ ให้ผ่านเนินหินนั้นไปได้ และ ตรงนี้ก็เลยเป็นจุดที่น่าสนใจจุดหนึ่ง เพราะเป็นเหมือนเนินกองหินขนาดใหญ่ ที่มีน้ำไหลผ่าน สามารถนอนแช่ในน้ำได้อย่างเย็นสบาย 

หากนั่งแพเบื่อๆ จะลองเปลี่ยนหน้าที่มาลองถ่อแพเองบ้างก็ได้นะ..

สายน้ำพะโต๊ะแห่งนี้ เมื่อตอนต้นปี.. ที่ผ่านมา(2560)  ได้ประสบกับเหตุอุทกภัยใหญ่ จึงทำให้เห็นร่องรอยจากน้ำท่วมครั้งนั้น ตามสองข้างทางที่ล่องแพมา แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ก็เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว.. สามารถมาเที่ยวกันได้ ซึ่งสายน้ำพะโต๊ะนี้ มีกิจกรรมล่องแพ ล่องกันได้ตลอดทั้งปี.. 

บางช่วงที่แพติดกับขอนไม้ หรือ ต้นไม้ที่ล้มขวางทางน้ำ “จอร์จ” ก็ต้องใช้วิธีลงน้ำเพื่อลากแพที่ติดกับขอนไม้

บรรยากาศดีๆ ธรรมชาติป่าไม้สองข้างทางก็ดูสดชื่น ก็.. ไหลไปเรื่อยๆ ชิลไปกับสายน้ำ.. 

11.30 น. แวะชิมผลไม้ สดๆ จากสวน

ในช่วงหน้าฝน (ที่เป็นหน้าผลไม้) เช่นนี้ แพก็จะพาแวะ สวนผลไม้ ที่อยู่ติดกับลำน้ำพะโต๊ะนี้ด้วย ซึ่งจะเป็นสวนมังคุด เงาะ มะไฟ ฯลฯ โดยสามารถที่จะเก็บกินสดๆ กันจากต้นได้เลย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่แถมมากับการล่องแพครับ..

แต่.. น่าเสียดายที่ช่วงนี้ พวกเงาะ มังคุด ยังไม่แก่พอที่จะนำมารับประทานได้ แต่ยังมี.. มะไฟ อยู่ ที่ตอนนี้.. กำลังออกผลเยอะ ก็เลยได้ปีนไปเก็บมะไฟมากินกัน ได้แล้ว.. เสบียงอาหารเพิ่ม 55+ 

13.00 น. ลิ้มลอง..อาหารชาวแพ!

ทานอาหารมื้อเที่ยงกันช้าสักหน่อย เพราะมัวแต่.. สนุกสนานกับการล่องแพ ซึ่งตามปกติต้องมาถึงจุดสิ้นสุดของการล่องแพ ในเวลาเที่ยงตรง จะได้เวลารับประทานอาหารเที่ยงพอดี ณ ตอนนี้ก็ล่วงเลยเป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว.. เราจอดแพ และเดินขึ้นฝั่งมาที่ “มาลิน บริการล่องแพ” ซึ่งคุณเล็กก็ได้จัดเตรียมอาหารไว้รอพวกเราอยู่แล้ว เป็น “อาหารชาวแพ” 7 อย่าง (+ ข้าวกระบอกไม้ไผ่, ผลไม้ตามฤดูกาล และ น้ำสมุนไพรอัญชัน) ถ้าไม่อิ่มก็สามารถเติมได้..(ยกเว้นไข่เจียวใบตอง – เพราะใช้เวลาในการทำนาน) ...ซึ่งหน้าตาอาหารก็หน้าตาน่าทานทุกเมนูจริงๆ เล่นน้ำเหนื่อยๆ มาแบบนี้ กำลังหิวใช้ได้เลย!

อาหารชาวแพ 7 อย่าง ที่เรียกว่า “อาหารชาวแพ” นั้น ก็เพราะว่า.. ในสมัยก่อน ชาวพะโต๊ะ จะมีอาชีพทำเหมืองแร่ นานๆ ทีจะเข้าเมือง(อำเภอหลังสวน) เพื่อไปซื้อของใช้ที่จำเป็น ซึ่งการเดินทางที่สะดวกที่สุดในสมัยนั้น ก็คือ การล่องแพ  และใช้เวลาเดินทางราว 2 วัน จึงต้องมีการแวะพักแพเพื่อค้างแรม และ นำเสบียงที่พกพามาประกอบกับวัตถุดิบที่สามารถหาได้ตามป่า นำมาประกอบอาหารแบบง่ายๆ  ที่ก็เรียกว่า “อาหารชาวแพ”

1. ไข่เจียวใบตอง(ไม่ใช้น้ำมัน)

เมนูนี้.. เป็นไข่เจียวที่ต้องใช้เวลา และต้องใจเย็น ในการทำอย่างมาก(ใช้เวลาในการทำ 15-20 นาที) จะได้มาซึ่งไข่เจียวที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน แถมได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบตอง ถือเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ..

2. แกงส้มหยวกกล้วยหมูสามชั้น

ส่วนตัวไม่เคยกินหยวกกล้วยอะไรแบบนี้มาก่อนนะครับ แต่เมนูแกงส้มนี้ช่างเข้ากันดี และ อร่อยจัดจ้านดีครับ..

3. ใบเหลียงผัดไข่

ใบเหลียงผัดไข่ ผัดมาแบบร้อนๆ ส่งกลิ่นหอม มาแต่ไกล..

4. แกงเลียงผักรวมมิตร

เหมือนจะเป็นเมนูน้ำเมนูเดียว กับสารพัดผักหลากชนิด ซดน้ำแกงเลียงร้อนๆ ก็ช่วยให้คล่องคอดีเหมือนกัน..

5. ผักกูดราดกะทิ

ผักกูด เคี้ยวกรุบๆ ไม่น่าเชื่อว่า.. จะเข้ากันได้ดีกับกะทิสด อร่อยครับ

6. น้ำพริกลงแพ

อันนี้.. ถือว่าเป็นทีเด็ดเลย! น้ำพริกอร่อยมาก กินกับผักสด และ ผักต้ม อร่อย..จนต้องขอเพิ่มน้ำพริกอีกถ้วยเลย..

7. ปลาทูทอด

และ ความพิเศษ คือ "ข้าว" ที่นี่จะหุงด้วยกระบอกไม้ไผ่ 

โดยใช้ ใบคลุ้ม ในการห่อข้าว แล้วนำไปหุงในกระบอกไม้ไผ่ ซึ่งวิธีทำจะใช้ข้าวหอมมะลิประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ห่อด้วยใบคลุ้ม แล้วรวบรวมนำไปใส่ในกระบอกไม้ไผ่ขนาดใหญ่ จากนั้น.. เติมน้ำเข้าไปจนเต็ม แล้วนำไปใส่ไว้ในกองไฟ(คล้ายทำข้าวหลาม) รอประมาณ 30-40 นาที ก็จะได้ข้าวสุกพร้อมทาน..

ซึ่งข้าวที่สุกแล้วก็จะมีกลิ่นหอมของใบไม้ ช่วยให้น่ากินยิ่งขึ้นเลยล่ะ..ครับ

ติดตามการเดินทางทริปอื่นๆ ได้ที่..

การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker

Instagram : CHAILAIBACKPACKER

Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9