#แบกเป้ไปคนเดียวก็ตื่นเต้นดีนะ

นี่เป็นรีวิวออนไลน์แรกในชีวิตหลังจากตระเวนเที่ยวมาพักใหญ่ๆ เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ผาดโผนกันบ้าง รูปอาจเยอะไปหน่อย ภาพสวยบ้างไม่สวยบ้าง ผิดพลาดขออภัยนะคะ

เราว่าเป็นผู้หญิงไปเที่ยวคนเดียวไม่แปลกหรอกค่ะ สนุกดี เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ทำ และนี่ก็เป็นทริปที่ 3 กับการไปเที่ยวคนเดียวของเราค่ะ เราว่ามันสนุกที่ต้องเตรียมตัว หาข้อมูล และความพร้อม ตื่นเต้นที่ได้ไปยืนอยู่ในที่ที่ไม่เคยไป ถนนและซอกซอยที่ไม่เคยผ่าน อยากหยุดก็หยุด อยากเดินต่อก็เดินค่ะ เพียงแต่ว่าอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและสติกันมากขึ้นอีก มิตรภาพและรอยยิ้มหาได้ไม่ยากค่ะ 2 ทริปก่อนหน้านี้เราได้เพื่อนกลับมา และทริปนี้ก็เช่นกันค่ะ 

เอาล่ะมาเริ่มทริปของเราดีกว่า ทริปนี้มีการเปลี่ยนแผนหลายอย่างเลยค่ะ ตามมาอ่านกันเลย

12 ธันวาคม 2559

มีวันหยุด 3 วันโผล่ขึ้นมาในตารางงานที่หยุดไม่ค่อยตรงกับเพื่อนๆ ค่ะ เลยปักหมุด เอาวะ! แบกเป้ไปสังขละนี่แหละ เล็งมานานละ แต่แค่เริ่มต้นก็เงิบละค่ะ เราดันตื่นสายเพราะลืมตั้งนาฬิกาปลุกค่ะ ไปขึ้นรถ บขส.ไม่ทันแน่ๆ งั้นรถตู้แทนละกัน

มาถึงหน้าห้างเซ็นจูรี่ 8 โมงครึ่งค่ะ เอ้า!! ทำไมเงียบจัง เดินไปถามพ่อค้า ได้คำตอบมาว่า "เค้าย้ายไปสายใต้นานละหนู ไม่รู้หรอ" งืออออออออ รู้ค่ะแต่ลืมสนิท เงิบไปอี้กกกกกกกก อ่ะๆๆ โบกแท็กซี่ไปสายใต้ก้ได้ งบบานปลายตั้งแต่เริ่มเลย 555

ขึ้นรถตู้ที่สายใต้ค่ะ สายกรุงเทพ-กาญจนบุรี ค่ารถ 100 บาท ออกเดินทาง 10.00 ถึงบขส.กาญ 12.30 ค่ะ หาข้าวเที่ยงรองท้องแพร้บ แต่กว่าจะกินเสร็จก็ปาไปเกือบบ่ายละ หูยยย...อยากนั่งรถบัสไปสังขละ แต่จะทันพระอาทิตย์ตก มั้ยนะ เดินไปถามรถบัสบอกถึงประมาณ 6 โมงเย็น บรัยค่า...วิวเวิวไม่ต้องดูละ เอาเร็วไว้ก่อน ขึ้นรถตู้สายกาญจนบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ ค่ารถ 175 บาทค่ะ ถ้าเมารถแจ้งคนขายตั๋วได้นะ เค้าจะจัดที่นั่งให้ เรารู้สึกได้ว่าเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากกกกกก ไกลอะไรขนาดนี้คะพี่น้อง ช่วงนี้ถนนขึ้นเขาไม่ค่อยดีนะคะ ใครจะขับรถไประมัดระวังกันด้วย ทั้งหลับทั้งตื่น ถึงสังขละอีกทีเกือบ 5 โมงเย็นค่ะ

ถึงสังขละแล้วค้าาาาาาาาาาา โทรหาโฮสเทลแพร้บ อยู่ตรงหนายนิ อ่อๆๆ ได้ความละ เดินไปแป้บเดียวถึงค่ะ เราพักที่ Oh Dee Hostel ค่ะ อยู่ตรงข้ามไปรษณีย์เลย ที่พักสวยน่ารักค่ะ ผ้าห่มหอมและนุ่มมาก พี่เจ้าของเทคแคร์ดี ขึ้นไปดูห้องแล้วชอบค่ะ มี 4 เตียงแบบ dorm หูยยย...ต้องนอนคนเดียวจริงหรอ ดีนะพกหลวงพ่อมาด้วย

เหยยย...จะมืดแล้ว ยืมจักรยานที่โฮสเทลปั่นไปสะพานมอญก่อน อยากได้ภาพบรรยากาศเย็นๆ พี่เค้าบอกปั่นไปโลเดียวน้อง มันลงเนินปล่อยไหลเลย ไอ่เราก็สบายละค่ะ

ไปถึงสะพาน ภาพที่เห็นคือมันพานอราม่ามากกกกกกกก ชิลกว่านี้มีอีกมั้ยยยยย ท้องฟ้าเป็นสีชมพูช่วงเวลา magic hour หมอกจางๆ ไกลๆ สะพานยาวๆ เด็กน้อยชาวมอญเชิญชวนให้ประแป้งทานาคา พี่วินเรือจ้างพรีเซ้นท์ทริปล่องเรือ บลาๆๆๆ โอ้ยชอบ ตื่นเต้นๆๆ

 

 

ลองเดินไปบนสะพานค่ะ จะมีเด็กๆ ชาวมอญมาคอยชวนประแป้งแลกกับค่าขนม หลายคนก็จะเดินมาถามเราด้วยประโยคแพทเทินเดียวกันค่ะว่า "ไม่ทราบว่าพี่ทราบประวัติของสะพานนี้มารึยังคะ/ครับ" น่ารักดีอ่ะ

กลางสะพานนี่เด็ดเลย มีแก๊งค์หนุ่มหล่อมาโชว์โดดน้ำแลกค่าขนม โดดเสร็จก็ปีนขึ้นมาโดนใหม่ ปีนไปบ่นไป "ผมเหนือยแล้วนะ ยังไม่ได้ตังค์เลยพี่" เฮ่ยยย พี่เพิ่งมา พี่เพิ่งเห็นแกโดดไปรอบเดียวเอง โห่วววว... >> ถึงน้องบ่นแต่พี่ก็ให้จร้าาา พี่สายเปย์ (หราาา)

 

ใกล้มืดแล้วกลับดีกว่า ความพีคมันอยู่ตรงนี้ค่ะ ขากลับมันเป็นเนินค่ะ เนินตลอดทางโลกว่าๆ ที่ปล่อยจักรยานไหลมานั่นแหละค่ะ โอ้โหววว...จูงจักรยานกลับค่ะ ปั่นไม่ไหวจริงๆ เหนือยแฮ่กๆๆ ถึงละไปหาอะไรกินในตลาดดีกว่า 

เนื่องจากเป็นวันธรรมดาค่ะ ไม่มีถนนคนเดิน แต่ก็มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายของเยอะอยู่นะคะ แล้วเราก็มาเจอร้านหมูจุ่มพม่าค่ะ เล็งไว้ตั้งแต่ตอนอ่านรีวิวละ มันคือหมูและเครื่องในต่างๆ เสียบไม้จุ่มน้ำคล้ายๆ พะโล้ค่ะ แปลกๆ ดี เราไม่กินเครื่องในเลยให้แม่ค้าเสียบเนื้อหมูมาให้ เอ้า!! กินเพลินๆ 40 ไม้เฉยเลย ค่าเสียหายไม้ละบาทจร้าาาาา

ระหว่างที่นั่งกินหมูจุ่มเพลินๆ ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มมานั่งทานด้วย คุยกันไปมาน้องเค้าเลยมาชวนเราไปจอยล่องเรือตอนเช้าค่ะ เห็นมะ แค่กล้ายิ้มทักทายพูดคุย เพื่อนใหม่หาไม่ยากค่ะ

กลับโฮสเทลดีกว่าเหนื่อยละ รีบอาบน้ำนอน กลัวสุกี้น้ำ แต่ปรากฏว่าพอกลับไป เย้...ดีใจ มีรูมเมทมาอยู่ด้วยกันอีก 1 คน เป็นน้อง ผญ ก็มาคนเดียวเหมือนกัน อย่างน้อยก็นอนสบายไม่กลัวละ หลังจากที่แพลนไว้ว่าจะอยู่แค่คืนเดียว ก็ชักสนุก รูมเมทก็น่ารักดี คุยกันถูกคอ เลยอยู่ต่ออีกคืนละกัน

 

13 ธันวาคม 2559

เช้านี้ตื่นตี 5 ตั้งใจจะไปตักบาตรที่สะพานมอญตอนเช้าค่ะ อากาศค่อนข้างเย็น หมอกหนามาก เปียกชื้นไปหมด รอบนี้ตั้งใจจะเดินไปค่ะ โลนึงก็โลนึง ขากลับค่อยนั่งมอไซค์ขี้เกียจจูงจักรยาน อิอิ แต่สรุปก้ไม่ได้เดินค่ะ มีชาวบ้านให้ติดรถมอไซค์พ่วงไปด้วย ใจดีจัง

อ้อ!! เนื่องจากหมอกลงค่อนข้างเยอะค่ะ พี่เจ้าของโฮสเทลแนะนำว่าไปล่องเรือช่วงเย็นจะถ่ายรูปสวยกว่า เราเลยเปลี่ยนแผนค่ะ

และบรรยากาศที่สะพานก็สวยงามตามท้องเรื่องค่ะ ให้ภาพเล่าเรื่องละกัน

หลวงพี่ 2 รูปนี้ไม่ใช่พระที่มาบิณฑบาตรนะคะ ท่านน่าจะมาชมสะพานเช่นกัน แอบถ่ายมา

 

ชิลขนาดนี้อย่ากวนค่ะ จะนอน!!!

 

ชมวิวสักพักละก้ข้ามไปฝั่งมอญค่ะ เจอคุณลุงวินมอไซค์บอกไปเที่ยววัดมั้ยหนู 20 บาท 2 วัด เราก็ห๊าาาา>>ถามใหม่อีกที ลุงเลยบอกแล้วแต่จะให้จ้ะ อะเคร...ตกลงค่ะ ไปวัดหลวงพ่ออุตตะมะกับเจดีย์พุทธคยา ไปค่ะพี่สุชาติ

ที่แรก วัดหลวงพ่ออุตตะมะค่ะ เป็นวัดที่สร้างใหม่หลังจากที่วัดเก่าจมน้ำค่ะ เข้าไปกราบหลวงพ่อแล้วก็ออกมาเดินถ่ายรูปค่ะ

 

ต่อมาคือเจดีย์พุทธคยาค่ะ 

 

หลังจากไปมาครบทั้งสองวัดแล้ว คุณลุงก็ขับมาส่งเราที่เดิม ลืมถามชื่อแกไว้ แกน่ารักมากเลยค่ะ นั่งรอให้เราถ่ายรูปตามสบาย ระหว่างทางก็บรรยายชี้นั่นนี่ให้ดูตลอด เลยให้แกไปร้อยนึง อิอิ

ก่อนกลับฝั่งไทย ขอแวะกินขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วยที่ร้านป้าหยินอันเลื่องชื่อซะหน่อย ขนมจีนน้ำยาสไตล์มอญ ชิมคำแรกรสชาติแปล่งๆ เลยลองปรุงตามสูตรคือ ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลาและพริกป่น หื้อออ...ก็พอกินได้นี่นา เงยหน้าอีกทีหมดจานค่ะ แต่หลังจากนั้นจู้ดมั้ย>>ให้ทาย อิอิ

สายแล้ว กลับที่พักดีกว่า >> หูยยยย...ใครอยากได้วิวสะพานไม้โล่งๆ นี่แนะนำช่วงสายๆ เลยนะคะ ไม่มีคนเลย ทำไมหรอ...ก็มันร้อนไง ตอนเดินกลับนี่แสบหลังมาก คิดในใจ 'ทำไมสะพานมันยาวจังแว้' 

 

เพิ่งจะเที่ยงเอง นั่งพักเหนื่อยที่โรงแรมก่อน บังเอิ้ญญญเจอน้องรูมเมทพอดี น้องบอกอยากหาที่นั่งชิลอ่านหนังสือ พี่เจ้าของโฮสเทลแนะนำให้ไป "ซองกาเลีย" คือไรไม่รู้ แต่ 2 สาวไปค่ะ >> นั่งรถสองแถวสีเขียวสายสังขละ-ด่านเจดีย์ คนละ 15 บาท ชอบบรรยากาศบนสองแถวอ่ะ ตื่นเต้นอีกละ ผดส.ทั้งหมดยกเว้นเราสองคนเป็นชาวมอญและพม่าค่ะ นั่งเบียดกันแน่น ทั้งคนทั้งของ วิวสองข้างทางก็ชิลดี ลมเย็นๆ เจอด่านตรวจต้องจอดไปประมาณ 4-5 รอบ โชว์บัตรกันรัวๆ ค่ะ

ชอบภาพนี้ค่ะ ไม่ต้องบรรยายใดๆ 

 

นั่งไปสักพักก็ถึง "ซองกาเลีย" ค่ะ อ๋ออออออ....มันคือแม่น้ำค่ะ มีแพและร้านอาหารริมตลิ่ง ท่าทางจะชิลมาก สองสาวชาวแบกเป้กำลังตาแวว คุณป้าบนรถแกแนะนำว่าอีกนิดเดียวก็ถึงด่านเจดีย์สามองค์แล้ว ไปเที่ยวพม่าก่อนสิ ค่อยกลับมา ไอ่เรามองหน้ากันแล้วก็ ป่ะ!! ไปก้ไป

หนุ่มสาวพม่าน่ารักจัง

 

แล้วตัวนี้ล่ะ ชั้นต้องพูดภาษาอะไรกะเธอ

เราสองสาวไม่ได้ข้ามไปฝั่งพม่ากันหรอกค่ะ แค่มาให้เห็นว่า อ๋อออออ...ด่านเจดีย์สามองค์เป็นแบบนี้นี่เอง และแล้วขนมจีนที่กินไปตอนเที่ยงก็ออกฤทธิ์ค่ะ 55555 เราได้มาสร้างแลนด์มาร์คไว้ที่ชายแดนไทย-พม่าเรียบร้อยแล้ว เย่!!!

--------------------------------------------------------

ขากลับเรานั่งรถสองแถวไปลงที่แม่น้ำซองกาเลียค่ะ บรรยากาศชิลมากกกกกกก+++ นั่งจุ่มขากินข้าว น้ำเย็นเจี๊ยบ อากาศก็ดี วิวก็ดีค่ะ อ่ะๆ ดูรูปๆ

หลังจากนั่งชิลกันพอสมควรแล้ว สองสาวรูมเมทก็ต้องกลับเข้าสังขละกัน แล้วจะกลับยังไงดีล่ะ "โบกรถมะพี่" น้องเมทถาม เอาดิๆ ไม่เคยลอง มีเพื่อนพอดีจะได้ไม่น่ากลัว และแล้วก็มีกระบะผ่านมาให้เราโบกค่ะ ตื่นเต้นอ่ะ!!! นี่เป็นการโบกรถครั้งแรกของเราเลยนะ อิอิ ขอบคุณพี่ชายพี่สาวเจ้าของรถนะคะ

-------------------------------------------------

ถึงสังขละโดยสวัสดิภาพ ภารกิจต่อไปคือไปล่องเรือชมวัดจมน้ำ เราสองสาวไปจอยเรือกะน้องอีกกรุ้ปค่ะ ออกเดินทางกันเลย >> วัดแรกที่เราไปโผล่พ้นน้ำมานิดเดียวเองค่ะ เลยไม่ได้เข้าไปใกล้ๆ

วัดต่อมาเรียกว่าวัดสมเด็จค่ะ มีอุโบสถตั้งอยู่บนเนิน พอเดินไปถึงจะเจอกองอิฐและหินที่นักท่องเที่ยวเรียงเอาไว้มากมายเลยค่ะ 

จากนั้นเราก้ไปแวะกันที่วัดสุดท้าย คือวัดวิเวการามเก่า >> ตอนที่พวกเราไปน้ำยังลดไม่มากค่ะ โบสถ์ยังมีน้ำล้อมรอบ แต่ลุงคนขับเรือก็พาเราปีนเข้าทางหน้าต่างค่ะ ภายในโบสถ์มีน้ำนองเล็กน้อยประมาณตาตุ่มค่ะ เราว่ามันสวยไปอีกแบบนะคะ ได้มุมถ่ายรูปไปอีกแบบ พระอาทิตย์ใกล้จะกลับบ้านแล้วค่ะ ช่วงเวลา magic hour ใกล้เข้ามาแล้ว แบตกล้องก็จะมาหมดอะไรตอนเน้!!! เลยได้รูปยามเย็นมานิดเดียวเอง ขากลับโฮสเทลนี่ฮามากค่ะ ด้วยความที่ไม่อยากเดินขึ้นเนินกันกลับเลยจะหารถโบก แหม่!!! พอโบกเป็นแล้วโบกใหญ่เลย อิอิ >> บังเอิ้ญญญ...มีรถหกล้อคันนึงกำลังสตาร์ทรถ เราเลยวิ่งไปถาม ปรากฏว่าคนขับเป็นฝรั่งค่ะ คือทั้งคันนั้นเป็นชาวต่างชาติค่ะ เราก็ขอติดรถไปด้วย คุยไปคุยมาได้ความว่า พวกเขามาทำงานอาสาที่บ้านอุ่นรักค่ะ เป็นบ้านสำหรับเด็กกำพร้าและถูกทอดทิ้ง และเด็กที่ไม่มีสัญชาติทั้งไทยและพม่าค่ะ เราเองก็เพิ่งรู้ว่าที่สังขละมีโครงการนี้ด้วย ใครไปเที่ยวสังขละลองแวะไปเยี่ยมชมให้กำลังใจน้องๆ และอาสานะคะ เค้ามีกิจกรรมหลายอย่างเลยค่ะ

จบทริปสำหรับวันนี้ คร่อก Z.z..Z.z

 

14 ธันวาคม 2559

เช้านี้เราตั้งใจจะไปที่สะพานปูนเพื่อถ่ายภาพสะพานไม้ตอนพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ ส่วนน้องเมทเราขอแยกไปเดินสะพานไม้ช่วงสายๆ ค่ะ เราเลยนั่งพี่วินไป 20 บาท >> สั่นเลยคะ อากาศเย็นมาก

ถึงแล้วสะพานปูนหรือสะพานซองกาเลีย โอ้โห....วิวสวยมากค่ะ พระอาทิตย์กำลังขึ้น หมอกก็หนา สะพานมอญจะอยู่ฝั่งตะวันออกของสะพานปูนค่ะ ทำให้ได้ภาพยามเช้าสวยๆ อีกแบบ ยืนอยู่นานเลยค่ะ เพลินมาก ฟินมาก ทั้งวิวและอากาศ

หลังจากถ่ายรูปสักพักเราก็ขอติดรถพี่คนที่จอดถ่ายรูปไปลงหมู่บ้านมอญค่ะ หาของกินเบาๆ แล้วก็กลับที่พักค่ะ

ได้เวลาเก็บข้าวของกลับกรุงเทพแล้วค่ะ หมดเวลาสนุกแล้วสิ >> เรากลับรถตู้ที่สังขละรอบ 10 โมงค่ะ ถึงกาญประมาณบ่ายสอง แล้วก็ต่อรถตู้เข้ากรุงเทพเลย ถึงประมาณ 4 โมงกว่าค่ะ ข้อดีของรถตู้คือทำเวลาได้ดี แต่ข้อเสียคืออึดอัดและไม่ได้ชมวิวค่ะ จริงๆ มีรถบัสหมอชิต-ด่านเจดีย์นะคะ ยิงยาวเลย ถ้ามีโอกาสกลับไปคราวหน้าก็ว่าจะลองดูค่ะ

ขอบคุณสองเท้าที่พาเราออกเดินทาง

ทริปนี้ประทับใจ ฟินและอินมากค่ะ

- อาจเป็นเพราะเราต้องเตรียมทำการบ้านมาเยอะ

- อาจเป็นเพราะที่พัก รูมเมทและเพื่อนร่วมทริปท่านอื่นๆ น่ารัก

- อาจเป็นเพราะอากาศและบรรยากาศ

หรืออาจเป็นเพราะอะไรก็ช่าง แต่ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่ได้จากการออกไปเที่ยวค่ะ 

 

****ลองออกไปเที่ยวนะคะ แล้วคุณจะได้เติมอะไรใหม่ให้ชีวิต****

 

ขอบคุณที่ติดตามรีวิวจนจบนะคะ :)