วันหยุดทั้งที พาครอบครัวเที่ยวไหว้พระดีกว่า,,

"เราพาม่า (ย่า) กับ เหน็นโบ่ (ป้า) ไปเที่ยวกันมั๊ยลูก"

"พาแกไปพักผ่อน ไหว้พระ ไปใกล้ๆ ง่ายๆ สักสองวัน นอนคืนนึง"

ป๊า (พ่อ) โทรมาปรึกษาลูกสาวสุดแสบและขี้มึนแต่น่ารัก 5555555555

มีรึ ที่ลูกนี้จะปฏิเสธ เรื่องเที่ยวและเดินทาง ไว้ใจโผมมมมมม ฮ่าๆๆๆ

"ก็ดีนะป๊า ไปไหนดีล่ะ แถวเพชรบูรณ์ รึ เส้นอุดร-หนองคายดี เลยก็ไปแล้ว"

ลูกสาวตอบพร้อมกับคำถาม,, ซึ่งสุดท้ายการสนทนาก็สิ้นสุดลงและได้ข้อสรุปว่า ไป อุดร-หนองคาย กันนนน เฮ้!!

 

(ปกติแล้วครอบครัวเราจะมีทริปประจำปีกันทุกปีอยู่แล้ว ช่วงเดือนพฤษภาคม หลายวันหน่อย ซึ่งปีนี้ก็มีเช่นเคย  แต่ปีนี้พิเศษหน่อย ที่เราจะมีทริปเล็กๆด้วย นั่นก็คือ ทริปนี้นั่นเอง จริงๆก็มีทริปเสริมตลอดอ่ะ ฮ่าๆ)

 

กางแผนที่ปักหมุดวางจุดเที่ยวกัน,,

พอรู้จุดหมายเราก็วางแผนเส้นทางคร่าวๆเลย โดยเราจะเริ่มต้นที่ขอนแก่น (เพราะต้องแวะมารับอิชั้นเจ้าค่ะ)

แผนการเดินทางของเราก็คือ เราจะวนซ้ายตามแผนที่ค่ะ คือ ขอนแก่น เข้า อุดรธานี มุ่งหน้าสู่ อ. นายูง จ. อุดรธานี จะผ่าน บ้านผือ น้ำโสม แล้วค่อย นายูง (วัดป่าภูก้อน) แล้ว เข้า อ. สังคม จ. หนองคาย (วัดผาตากเสื้อ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ อ. เมือง จ. หนองคาย ซึ่งจะผ่าน ศรีเชียงใหม่ แล้วค่อยถึง อ. เมือง (พักค้างคืน, วัดโพธิ์ชัย, ตลาดท่าเสด็จ) กลับขอนแก่นทาง อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี (วัดคำชะโนด) ผ่าน กุมภวาปี เข้าสู่ถนนมิตรภาพ อุดร-ขอนแก่น จ้าาาาา

วันที่ 4 มีนาคม 2560

เดินทางกันนนนน

ที่บ้านออกเดินทางจาก จ. มหาสารคาม ตอน เจ็ดโมงเช้า มาถึงขอนแก่นตอนแปดโมงค่ะ

Go go!! ตอนแรกเราว่าจะแวะวัดป่าบ้านตาดด้วยนะคะ แต่พอดีทุกคนลงความเห็นว่า เคยมาแล้ว และอีกอย่าง คืออาม่าแกคงเดินจากที่จอดรถไปที่จุดไหว้พระไม่ไหว เราเลยขอผ่านจ้าาา บอกไว้ค่ะเผื่อใครแข็งแรงดี ไม่มีคนชรา แวะได้นะ เส้นทางเที่ยวเดียวกัน ^^

เป็นไปตามแผนค่ะ เรามุ่งหน้าจุดหมายแรกเลย คือ นายูง ระหว่างทางไปถึงนายูงมีแหล่งท่องเที่ยวอีกเยอะเลยนะ ผ่านบ้านผือ น้ำโสม งี้ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ

[ ที่แรก ] "วัดป่าภูก้อน" 

จากทางเข้าจะเป็นทางขึ้นเขา ค่อนข้างชันและแคบ ขึ้นไปถึงจุดหนึ่งจะมีทางแยก ตรงไปจะขึ้นถึงตัววิหารเลย แต่เราเลี้ยวขวาค่ะ เพราะ ทางตรงเจ้าหน้าที่ปิดไว้บอกว่าที่จอดรถเต็ม ซึ่งเลี้ยวขวาจะไปเจอเจดีย์ และลานจอดรถ ซึ่งเราสามารถจอดรถที่นี่แล้วใช้บริการรถรับ-ส่ง ของทางวัดได้นะคะ เค้ามีให้บริการตลอดเลย ค่าบริการ ตั๋วไป-กลับ คนละ 20 บาท 

ขึ้นมาถึงบนวิหาร โอ้โหวววว สวยมากกกก ไม่อยากจะคิดถึงหน้าหนาวเลย บรรกาศคงดีมากๆ นี่ขนาดอากาศร้อน แต่วิวยังสวย องค์พระก็สวยมาก วิจิตรงดงามยิ่งค่ะ สมที่อยากมาชม (ที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการด้วยความสุภาพตลอด มีร่ม และวีลแชร์ สำหรับผู้สูงอายุด้วย ถ้าไม่มีคนเข็น เจ้าหน้าที่ก็อาสาเข็นให้ได้ด้วยนะคะ แต่ของฝ้าย ป๊าเข็นเอง แม่ผมผมเข็นได้ครับ พ่วนแหล่ววววว)

 

ชื่นชมความงดงามเสร็จ เราก็ออกเดินทางต่อค่ะ ซึ่งจะต้องย้อนออกมานิดหน่อย เราแวะกินข้าวเที่ยงกันที่ทางลงจากวัดค่ะ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง และตำบักหุ่ง แซ่บหลายเด้อออ,,

[ ที่สอง ] "วัดผาตากเสื้อ"

จาก นายูง ไม่ไกลมากนักก็ถึง สังคม ค่ะ มาที่นี่ก็คงต้องแวะที่นี่เลย วัดผาตากเสื้อ จุดเด่น ก็สกายวอล์คเลยจ้าาา แต่พอมาถึงจริงๆ วัดก็สวยนะเนี่ย คนเยอะมากค่ะ ตรงกับวันหยุดด้วยไง 

สวยสมรีวิวค่ะ ตอนแรกม่าจะไม่ยอมเดินไปดู แกกลัว เลยบอกแกว่านิดเดียว สั้นๆ แกก็เลยไป เห้ยยย เกินคาด แก ก็กลัวนะ แต่ก็ชอบ ยิ้มใหญ่เลยค่ะ คนที่กลัวกลับเป็นป้าซะงั้น สนุกดีค่ะ หัวเราแซวกันใหญ่ ฮ่าๆๆๆ

ใกล้ๆกับวัดมี พวกน้ำตกด้วยนะคะ ใครสนใจ วัยรุ่นเอ๊าะ ก็จัดไปจ้ะ,,

[ ที่สาม ] คือการแวะกิน แวะซื้อของฝากระหว่างทางจ้าาา ที่เห็นเยอะมากๆเลยก็ สับปะรด อย่างอื่นก็มีนะ แต่ว่าฝ้ายหลับ กราบขออภัยในความกินแล้วหลับด้วยยย... 

ส่วนรูปมุมขวาล่างนั้นเป็นรูปห้องพักของเราในคืนนี้ค่าาา,, 

สวัสดีจ้าหนองคาย,,

วันที่เราไปถึงตรงกับวันที่เค้าจัดงานกาชาดประจำปีด้วย รถเยอะนิดหน่อย 

สิ่งแรกที่เราทำคือ หาที่พักก่อนเลยค่ะ เพราะไม่ได้จองไว้ มาแบบง่ายๆ สบายๆ 555555 (ข้ออ้าง!! ฝ้ายยุ่งกับงานไปหน่อยเลยผลัดมาเรื่อยๆจนถึงวันเดินทาง) ตอนแรกเล็ง มัดหมี เกสทเฮ้าท์ แต่เต็ม เลยได้ สวัสดีเกสท์เฮ้า แทนค่ะ (ม่าไม่ชอบโรงแรม เลยหาที่เป็นบ้านพักแทนจ้า)

ได้ที่พัก เก็บสัมภาระเรียบร้อย เราก็ออกหากินเลยค่ะ ฮ่าๆๆ เย็นพอดีไง แฮร่,,

[ ที่สี ] ตลาดยามเย็นริมฝั่งโขง

เย็นนี้เราฝากท้องที่ร้านอาหาร "ระเบียงแม่โขง" ค่ะ อาหารอร่อย บรรยากาศเยี่ยม สะอาด เยี่ยมจ้าาา แถบเดียวก็ยังมีให้เลือกหลายร้านเลยนะ ตามความชอบเลย ใกล้กันนั้นก็มีร้าน "แดงแหนมเนือง" ด้วย แต่มาโขงทั้งที แหนมเนืองบ้านเรากินบ่อยแล้ว เลยขอจัด ผัดฉ่าปลาบึก กับต้มแซ่บปลาน้ำโขง กันดีกว่าเน๊าะ แฮร่

วันที่เราไปเป็นคืนวันเสาร์ ตรงกับวันที่มีถนนคนเดินเลียบชายโขงด้วยแหล่ะ (รึมีทุกวัน รึวันอะไรบ้างอันนี้ฝ้ายก็ไม่รู้เน้อ) กินเสร็จก็เลยชะแว๊บไปเดินเล่นนิดหน่อย เลยได้ขนมติดไม้ติดมือมานิสสสนึง ท้องม้วนสด ขนมถั่วแปลบ น้ำนมข้าวโพด ชีสเค้ก แค่นี่เองนะ แฮร่

หลังจากเพลียจากที่เดินทางกันมาทั้งวัน เราก็เลยเข้าที่พัก พักผ่อนเลยค่ะ ไม่ไปไหนต่อละ พรุ่งนี้ค่อยลุยต่อ ฮูเลฮูเล่

คร๊อกฟี่ๆๆ Zzz...

 

อรุณสวัสดิ์ค่าาา,,

เช้าวันที่ 5 มีนาคม 2560

ขณะรอคนอื่นๆ ฝ้ายก็เลยขอเดินเล่นรอบๆที่พัก ชื่นชมความน่ารักกันเก็บภาพกันหน่อย,,

"บ้านอากงสไตล์" นั่นคือชื่อเรียกที่ฝ้ายตั้งให้ ฮ่าๆๆๆ ที่นี่น่ารักดีค่ะ ถูก ดี และสะอาด ใครมองหาที่พักสไตล์นี้ แนะนำเลยค่ะ "สวัสดี เกสทเฮ้าท์" ใกล้กับหลายที่เที่ยวทั้งวัดต่างๆ ตลาดท่าเสด็จ อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ สะพานข้ามไทย-ลาว และอื่นๆ หาง่าย มีที่จอดรถของที่พักด้วย หรือจะจอดวัดฝั่งตรงข้ามที่พักก็ได้นะคะ ^^ 

หนองคายยามเช้า มันดีต่อใจจริงๆ,,

เอาจริงๆดิ แอบหลงรักที่นี่เลยนะ หนองคายเมืองน่ารัก ^^

ข้างบ้านพักมีร้านอาหารเช้าด้วย ดีจริงๆ จัดสิรออะไร ฮ่าๆๆ งั่มๆๆ

หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ตอนแรกเราว่าจะเดินตลาดท่าเสด็จกันเพราะใกล้ที่พักซึ่งเดินไปได้เลย แต่มันเช้าไป เค้ายังไม่ค่อยเปิดร้านกัน เลยไปวัดก่อน แล้วค่อยมาเดินดีกว่า,,


[ ที่ห้า ] วัดโพธิ์ชัย (วัดหลวงพ่อพระใส)

วัดคู่บ้านคู่เมืองของที่นี่ค่ะ มากราบไหว้เพื่อความสิริมงคล งดงามยิ่งนัก

(วันนี้ตรงกับวันพระค่ะ คนเลยแน่นขนัดตากันเลยทีเดียว)

 

[ ที่หก ] ตลาดท่าเสด็จ

ตลาดริมโขง ซึ่งมีแลนด์มาร์คเป็นรูปปั้นพญานาค แต่!! เราไม่ได้แวะไปชักภาพค่ะ เนื่องจากคนชรามิอาจไปได้ และไม่สนที่จะไป เน้นซื้อของกินจ้า 5555555

เรามาเดินตอน แปดโมงกว่าๆ ร้านค้าก็เริ่มทยอยเปิดแล้ว เราเลยได้อะไรติดไม้ติดมือกันนิดหน่อย พวกหมูยอ ไรงี้

ที่นี่มีของขายเยอะ หลายอย่าง ทั้งของกินและของใช้ เชิญเลือกซื้อเลือกชมกันตามสะดวกน๊าาา

แล้วเราก็ไม่พลาดที่จะไปแวะ แดงแหนมเนืองค่ะ จัดแหนมเนืองกับกล้วยกล้วยเบรคแตก ไปฝากเพื่อนบ้าน กินเอง และเพื่อนที่ทำงานจ้าาา,,

ช้อป ชิม กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อเลย เผื่อเวลาไปรถติดที่บ้านดุงกัน,,

ซึ่งก็เป็นไปตามคาด รถค่อนข้างเยอะ เราเลยแวะทานข้าวเที่ยวกันตั้งแต่ 11 โมง เลย เผื่อไว้ก่อน ฮ่าๆ

ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายบายศรี เครื่องสักการะบูชา เยอะมากกกกจริงๆนะ และเกลือ นี่ก็ถูกมากกก สอยมาดิรอไร ฮ่าๆ 

[ ที่เจ็ด ] วัดคำชะโนด 

คงต้องยอมรับตรงๆเลยค่ะ ว่าเข้าไปมันถึง ถึงแค่ปากทาง เพราะคนเยอะมากกกกกก มากกกกกกก ด่านแรกรถติด 12 กิโลเมตร ใช้เวลา เกือบชั่วโมง แล้วมาถึง 2 กิโลเมตรสุดท้าย ใช้เวลาไปอีกครึ่งชั่วโมง พอมาถึงวัด จอดรถ ก็เจอด่านสอง คนยืนรอคิวยาวถึงปากประตูวัด ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ้ยน้อ บุญมี มาถึงแต่ไม่ถึงค่ะ ด้วยที่อากาศร้อนจัด อาม่ายืนรอคิวไม่ไหวแน่ ประกอบกับตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองกว่าแล้ว เราเลยเลยตัดสินใจยืนไหว้จากปากทางข้ามเข้าวัง และไหว้พระประธานประจำวัด แล้วก็เดินทางกลับค่ะ ต่างก็พูดเหมือนกันว่า เดี๋ยวมาใหม่!! ต้องเข้าไปให้ได้ ฮ่าๆ ตัวฝ้ายเคยมาแล้วครั้งนึงเลยไม่เป็นไร แต่ไว้จะพาที่บ้านมาใหม่ค่ะ ^^ (ถ้าใครจะเดินทางไปช่วงนี้ วางแผนเวลาดีๆนะคะ)

จากเส้นทาง วัดคำชะโนด สู่ขอนแก่น (ถ้าไม่ย้อนเข้าเมือง) จะผ่าน อ. กุมภวาปี จ. อุดรธานี ด้วย หากใครไปช่วงบัวแดงบานก็แวะชม ทะเลบัวแดง ได้ด้วยนะคะ

 

 

เอาล่ะ พากันมาก็คงต้องพากันกลับค่ะ,,

น้อยวันก็เที่ยวได้น๊าาา 

#เที่ยวกับครอบครัวไม่สนุกหรอกแต่โคตรมีความสุขเลย

#อยากเที่ยวแบบสนุกต้องไปกับเพื่อนแต่ถ้าอยากเที่ยวแบบความสุขอย่างล้นเขื่อนต้องไปกับคนที่รักเรา

*ขอบคุณที่ตามมาเที่ยวไปด้วยกันนะคะ ^^