ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  ธันวาคม 11 , 2556

    ตะเพินคี่ ผจญภัยสุดท้าทายในพุเตย

    ยังไม่ทันสิ้นเสียงจากปลายสายดี เราก็รีบตอบรับคำชวนไปโรยตัวที่น้ำตกทันที ทั้งๆ ที่ตอนท้ายได้ยินชื่อ “ตะเพินคี่” ยังต้องถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แล้วก็ได้ยินชื่อ “อุทยานแห่งชาติพุเตย” ตามมาติดๆ ให้ได้งงกันอีกเป็นครั้งที่สอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราอ่อนด้อยประสบการณ์หรืออย่างไรกันแน่ เราจึงแทบจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า มีอุทยานแห่งชาติในจังหวัดสุพรรรณบุรีกับเค้าด้วย แต่ไม่ว่าการเดินทางในครั้งนี้จุดหมายปลายทางจะอยู่ที่ใด เราก็พร้อมที่จะออกแรงยืดเส้นยืดสายทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์กันอยู่แล้ว

    • โพสต์-2
    theTripPacker •  ธันวาคม 11, 2556
    • โพสต์-3
    theTripPacker •  ธันวาคม 11 , 2556

    เมื่อผู้ร่วมทางทุกคนพร้อม ล้อก็ได้ฤกษ์หมุนกันตั้งแต่ไก่โห่ เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วต่อไปที่อำเภอด่านช้าง ก่อนเข้าไปในอุทยานแห่งชาติพุเตย เราหยุดแวะตุนเสบียงกันนิดๆ หน่อยๆ เพื่อดับความหิวระหว่างทาง กิจกรรมในวันแรกเป็นการทดสอบกำลังกายกันแบบเบาๆ พร้อมทั้งทำความรู้จักกับอุทยานแห่งชาติพุเตยกันก่อน และไฮไลท์ของเราในทริปนี้ก็คือ “ตะเพินคี่แอดเวนเจอร์” ซึ่งเริ่มต้นในเช้าวันถัดไป หลังจากจัดแจงเก็บสัมภาระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็ฝากกระเป๋าไปกับรถ 6 ล้อ เหลือแต่ข้าวของที่จำเป็นติดตัวไว้เท่านั้น จากนั้นก็กระโดดขึ้นท้ายรถปิกอัพซึ่งพาเรากระเด้งกระดอน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาจนมื้อเช้าลงไปกองอยู่ก้นกระเพาะจนในที่สุดเราก็มาถึงทางเข้า “น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่” จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยตะลุยป่าอย่างเต็มรูปแบบ ที่เราจะมีเพียงสองเท้าคู่ใจพาเราเดินๆๆ แล้วก็เดินตามเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งเป็นทั้งผู้นำทางและผู้ดูแลความปลอดภัยในคราวเดียวกัน

    เดินเข้ามาไม่ไกลเราก็มาถึง “น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่” ที่แฝงตัวอยู่กลางป่าทึบ ถ้ามาในช่วงฤดูน้ำหลาก ปริมาณน้ำที่ไหลลดหลั่นกันมาตามโขดหินคงทำให้น้ำตกแห่งนี้ดูยิ่งใหญ่อลังการไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เพราะปริมาณน้ำในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้มีไม่มากนัก เราจึงได้เดินลัดเลาะขึ้นไปตามแนวหินบนน้ำตก จากนั้นทางเดินของเราก็ค่อยๆ เริ่มใช้แรงมากขึ้น ทั้งปีน ทั้งไต่ ไปทีละขั้น เดินผ่านหินทีละก้อน ลัดเลาะไปตามทางน้ำ ซึ่งเพื่อนร่วมทริปส่วนใหญ่ของเราไม่อยากตะลุยน้ำให้เปียกเฉอะแฉะจึงพยายามมองหาทางเดินจากหินก้อนหนึ่งข้ามไปสู่หินอีกก้อนหนึ่ง จนบางทีเกือบจะพลาดการชื่นชมธรรมชาติรอบตัวเพราะมัวแต่ก้มมองหาทางและระวังไม่ให้ตัวเองลื่นล้มตกน้ำป๋อมแป๋มไปซะก่อน หลังจากเดินมาจนหอบแฮก ก็ได้เวลาหยุดพักกินอาหารกลางวันกันตอนใกล้เที่ยง บริเวณลานหินริมลำธาร พอเลือกได้ที่นั่งเหมาะๆ น้ำดื่มและห่อข้าวที่พกใส่กระเป๋ามาด้วยจึงได้ทำหน้าที่เติมพลังให้เต็มอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะบรรยากาศรอบตัว หรือเพราะความหิวกันแน่ เราถึงได้รู้สึกว่าข้าวเหนียวหมูทอดในห่อใบตองธรรมดาช่างเอร็ดอร่อยเสียเหลือเกิน

    • โพสต์-4
    theTripPacker •  ธันวาคม 11, 2556
    • โพสต์-5
    theTripPacker •  ธันวาคม 11 , 2556

    หายเหนื่อยดีแล้ว สองเท้าก็ต้องออกเดินอีกครั้ง ซึ่งทางเดินครึ่งหลังนี้ เป็นทางเดินผ่านป่าสลับกับธารน้ำและน้ำตกเล็กๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ เราจึงได้ชื่อชมธรรมชาติรอบๆ ตัวจนอิ่มเอมใจ แล้วอยู่ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็นำทางมาถึงหน้าผาน้ำตกสูงที่ได้ชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า“ตะเพินคี่กลาง” จากเส้นทางนี้ถ้าเราจะเดินไปให้ถึง “น้ำตกตะเพินคี่น้อย” เราจะต้องปีนผ่านน้ำตกนี้ไป แล้วความระมัดระวังตัวไม่อยากเปียกน้ำที่เราเฝ้าทำมาตลอดทางก็มีอันหมดประโยชน์ เพราะจนแล้วจนรอดยังไงก็ต้องเปียกกันอยู่ดี แต่ก็จัดว่าเป็นการเปียกที่สนุกและคุ้มค่ามากๆ ความท้าทายแบบซอฟท์ๆ ที่เราต้องไต่ไปตามแนวน้ำตก ใช้เชือกดึงตัวเองขึ้นไปทีละน้อย ก็เริ่มทำให้อดรีนาลีนในกายหลั่ง เผลอแป๊บเดียว “น้ำตกตะเพินคี่น้อย” ก็ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ก่อนจะได้เพลิดเพลินไปกับตะเพินคี่น้อยในวันรุ่งขึ้น เรายังต้องออกแรงเดินอีกอึดใจผ่านไร่ข้าวโพดไปยัง หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ซึ่งมีลานกางเต้นท์กว้างที่สามารถมองเห็น “ยอดเขาเทวดา”อันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของสุพรรณบุรีอยู่ไม่ไกล แม้เราจะไม่ได้ขึ้นไปบนยอดเขาเทวดาในคราวนี้ แต่กิจกรรมโรยตัวสุดมันส์ยังคงรอเราอยู่

    เช้าวันสุดท้ายของทริป เหล่าผู้ร่วมทางของเราทุกคนดูเหมือนจะตื่นเต้นกับกิจกรรมโรยตัวที่น้ำตกตะเพินคี่น้อยเป็นพิเศษ บางคนอาจจะเคยได้เล่นกิจกรรมผาดโผนแบบนี้มาบ้างแล้ว ซึ่งกลับกันกับบางคนที่ถือว่าเป็นมือใหม่แกะกล่องสำหรับการห้อยโหนฝากชีวิตไว้บนขดเชือกแบบนี้ แต่ก็ไม่เห็นมีใครคิดจะถอดใจเลยซักคน อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่มาสอนวิธีการโรยตัว รวมทั้งยังดูแลเราอย่างใกล้ชิด เราทุกคนจึงฮึดสู้เต็มพิกัด สำหรับน้ำตกตะเพินคี่น้อยนี้มีความสูงราวๆ 15 เมตร เมื่อสวมใส่อุปกรณ์เรียบร้อย ความหวาดเสียวแรกก็เริ่มต้นที่จุดปล่อยตัวด้านบนสุดของน้ำตก หลายคนยืนทำใจอยู่นานกว่าจะก้าวขาผ่านไปได้ แต่พอเริ่มได้โรยตัวเท่านั้นแหละ สายน้ำเย็นๆ ที่กระเซ็นสาดสู่ตัวตลอดเวลา พร้อมกับเสียงเชียร์จากเพื่อนร่วมทริป ความสนุกสนานก็ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีเราก็โรยตัวมาถึงแอ่งน้ำด้านล่างซะแล้ว ภาระกิจตะลุยตะเพินคี่ของเราจึงจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมกับความประทับใจที่ทำให้เราได้มีเรื่องเก็บกลับมาเล่าไปอีกสามวันเจ็ดวัน...... 

     

    ขอขอบคุณ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคกลาง  ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี (สสพ.) - จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดชัยนาท โทร. 0 3553 6030 e-mail : tatsuphan@tat.or.th
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  ธันวาคม 11 , 2556

    Note

    - หากต้องการทำกิจกรรมเดินป่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ – น้ำตกตะเพินคี่น้อย จะต้องติดต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นผู้นำทางเท่านั้น

    - กิจกรรมโรยตัว เป็นกิจกรรมที่ทางอุทยานฯ จัดร่วมกันเอกชน หากสนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ ล่วงหน้าได้ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย

    - สำหรับอาหารการกิน หากไม่ต้องการนำอาหารสดขึ้นไปทำเอง สามารถติดต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เตรียมไว้ให้ได้ แต่ต้องติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์

    - ติดต่อสอบถามเรื่องแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ และรายละเอียดกิจกรรมอื่นๆ โทร. 08 1934 2240, 0 3544 6237 หรือ https://www.facebook.com/phutoei.np?fref=ts

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  ธันวาคม 11, 2556

    Editor's Comment

    • จุดเด่น:
    • อุทยานแห่งชาติพุเตย มีกิจกรรมโรยตัวผ่านน้ำตกตะเพินคี่แบบเบาๆ สำหรับมือใหม่ที่อยากลองท้าทายความกล้า หรือถ้าอยากจะออกแรงเดินป่ากันสนุกๆ ทางอุทยานฯ ก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจให้เลือกเดินด้วย รวมถึงบริเวณกางเต้นท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอย่างเพียงพอจนไม่ทำให้เรารู้สึกลำบากเกินไปนัก การท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ในเขตอุทยานฯ จึงสนุกสนานได้เต็มที่
    • จุดด้อย:
    • เส้นทางถนนระหว่างแหล่งท่องเที่ยวจุดต่างๆ เป็นทางลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ การขับขี่จึงต้องใช้ความชำนาญ และความระมัดระวังสูง การโดยสารท้ายรถปิกอัพจึงควรมีการเตรียมอุปกรณ์ หรือหน้ากากกันฝุ่นไว้ด้วย
    • ข้อสรุป:
    • อุทยานแห่งชาติพุเตย ตั้งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมากนัก การเดินทางจึงไปมาสะดวกสำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมากางเต้นท์กลางธรรมชาติ แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆ และแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ทำมากมายอีกด้วย
    คะแนน
    • โพสต์-8
    theTripPacker •  ธันวาคม 11 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : ตู้ ปณ. 19 อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี 72180

    GPS : 14.94672, 99.41615

    เบอร์ติดต่อ : 08 1934 2240, 0 3544 6237

    E-mail : phutoei_np@hotmail.com

    Facebook : https://www.facebook.com/phutoei.np?fref=ts

    ค่าธรรมเนียม :

    - ชาวไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

    - ยานพาหนะ 30 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ช่วงปลายฤดูฝน-ฤดูหนาว หรือในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ เนื่องจากอากาศเย็นสบาย และเหมาะสมกับการเที่ยวน้ำตก

    ไฮไลท์ : กิจกรรมท้าทายความกล้า โดยการโรยตัวท่ามกลางสายน้ำเย็นฉ่ำที่น้ำตกตะเพินคี่น้อย รวมถึงความสวยงามของน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่

    กิจกรรม : การโรยตัวที่น้ำตกตะเพินคี่น้อย / การเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่-ตะเพินคี่น้อย / ชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่ยอดเขาเทวดา และจุดชมวิวต่างๆ / กางเต้นท์แคมปิ้งบนตะเพินคี่

    • โพสต์-9
    theTripPacker •  ธันวาคม 11 , 2556

    วิธีการเดินทาง

    การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ผ่านอำเภอเมืองสุพรรณ แล้วใช้เส้นทางสุพรรณบุรี-ดอนเจดีย์-ด่านช้าง มุ่งหน้าไปยังอำเภอด่านช้าง

    เส้นทางเข้าอุทยานแห่งชาติเส้นทางแรก ก่อนถึงตัวอำเภอด่านช้างประมาณ 3 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3086 แล้วขับไปอีก 34 กิโลเมตร จะมาถึงสี่แยกบ้านปลักประดู่ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3480 ตามป้ายบอกทางไปอุทยานฯ ตลอดเส้นทางนี้เป็นถนนลาดยางตลอดทั้งเส้น

    เส้นทางที่สอง ให้ผ่านตัวอำเภอด่านช้างมาทางอำเภอบ้านไร่ เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 15 ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพุเตยที่ 1 (พุเตย) เพื่อเข้าไปยังที่ทำการอุทยานฯ เส้นทางนี้จะเป็นถนนลาดยางและทางลูกรังขึ้นเขา

    ** การมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติพุเตย ถ้าทำได้ แนะนำให้ใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อจะสะดวกกว่า โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน


    • โพสต์-10
    theTripPacker •  ธันวาคม 11, 2556
  1. โหลดเพิ่ม