เราสองสามคน ณ ทุ่งสะวันน่าเมืองไทย ... แสลงหลวง (เรื่องเล่าเรื่องแรกของเราค่ะ)

เริ่มด้วยความคิดที่ว่า...สักพักแล้วนะที่ไม่ได้ไปไหน...จึงมีความคิดจะแบคแพคไปนอนที่ทุ่งแสลงหลวง เพราะเคยไปเมื่อหลายปีมาแล้วที่นี่สวยมาก ครั้งนี้พาเหยื่อมาด้วย 2 คน เราขึ้นรถทัวร์เดินทางจากกทม.คืนวันศุกร์ที่ 15 ก.ค. แล้วนั่งรถแบบเอ้อละเหยลอยชายแวะโน่นนี่ต่อไปจนถึงอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หน่วยหนองแม่นา) ตอนเย็นๆ เกือบมืดของวันเสาร์ที่ 16 ก.ค.  

จ่ายค่าเข้าอุทยานฯ ค่ากางเต็นท์ ติดต่อจองรถกะบะโฟวิวนัดแนะกันสำหรับพรุ่งนี้เช้า หลังจากนั้นเราก็ช่วยกันตั้งแคมป์กลาง กางเต็นท์ และรีบอาบน้ำเพราะถ้าไม่รีบอาบ ค่ำคืนนี้พวกเราอาจจะเป็นคนประเภทที่สะอาดมากๆ สะอาดสุดๆ ไม่สกปรกอะไรเลย ถึงขนาดที่ว่าไม่ต้องอาบน้ำอาบท่ากันเลยก็ได้เพราะน้ำเย็นมากกกกก

เสร็จแล้วก็มาตั้งวงเปิบอาหารอร่อยๆ ที่แวะซื้อมาจากในเมือง แล้วนอนดูดาวกันเกือบเที่ยงคืนก็เข้านอนเพราะความเพลียจากที่เราแวะเที่ยวกันมาตลอดทาง แต่ด้วยที่อากาศดีมากพวกเราเก็บเต็นท์พับไว้อย่างเดิม พับๆ เก็บๆ เต็นท์คร้าา แล้วหันมานอนปลาทูกันซะงั้น หลับซาบายยย

17 ก.ค. 59

04.30 น. นาฬิกาปลุกแต่ไม่ลุกค่ะ อะไรจะสบายขนาดนี้ อากาศดีมากๆๆๆ ชมพระอาทิตย์ขึ้นอ่ะหรา รอข้าไปก่อนน๊าา... อารมย์นี้เลย

05.00 น. โอ้แม่จ้าว ปลาทูทอดดดด นี่ทุกคนก็ไม่ตื่นกันเลยเร๊อะเค๊อะ นัดรถไว้ตี 5 ค่ะ กระโดดออกจากถุงนอนอันอ่อนนุ่มสิคะ ตื่นๆๆๆ ทุกคนตื่น เปลี่ยนชุดๆ เตรียมกล้อง ขาตั้งกล้อง เตรียมกาแฟโอวัลติน หาๆๆ อยู่ไหน สามคนเรานี่แหละเก็บไว้แถวๆ นี้ เก็บกันดี๊ดีจนหาเกือบไม่เจอ หน้าเน่อไม่ต้องล้างฟันเฟินไม่ต้องแปรงกันเลยดีมั้ย แต่สงสารเราชาวคณะกันเองและพี่เจ้าหน้าที่ ก็ไปล้างหน้าแปรงฟันซะหน่อยดีกว่า

จะตีห้ายี่สิบแล้ว พี่เจ้าหน้าที่โทรมาตาม ....น้องที่จองรถไว้รึเปล่าครับ พี่และรถพร้อมแล้วครับ พวกเรางี้รีบสุดติ่ง เดินปนวิ่งไปกระโดดขึ้นรถกันเลย 

ทางลื่น และชันในบางช่วง แล้วยังมีน้ำขังในบางจุดเพราะพวกเรามาช่วงต้นฝน นั่งรถไปก็ลุ้นไปกับถนน และก็ลุ้นให้ไปทันพระอาทิตย์ขึ้น เพราะพวกเราออกสาย (จริงๆ ต้องออกตั้งแต่ตีห้า) แล้วเราก็มาถึง จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ณ ศาลาดุสิตา ...ดูสิคะ สวยเชียว

มีคนมาก่อนหน้าเรา 1 คน มาตั้งกล้องรอเลยค่ะ แต่พวกเรามองไปเบื้องหน้าคือมันสะกดสายตาจริงๆ เพื่อน 2 คนของเราของมีกล้องใหญ่ อันตัวเรานี้เบี้ยน้อยหอยน้อยค่ะ กล้องมือถือตามอัตภาพ เพราะเจ้ากล้องคู่ชีพดันมาพังไปซะงั้น

เรายืน เราส่อง เราคอย เรารอแสงสว่างของเธอ คุณพระอาทิตย์....เธอสวยงาม เธอหล่อเหลา เมื่อเธอปรากฎตัวทั้งในยามเช้าและยามเย็น (ยกเว้นตอนกลางวัน ฉันคงต้องหลบหน้าเธอไปสักพัก)

นั่นไง เธอมาแล้ว มาพร้อมกับความฟินของทุกคนที่กำลังวุ่นเก็บรูปภาพ ในช่วงนี้มีรถโฟวิวอีก 2 คันมาจอดเทียบท่า มาช่วยกันตะลึงในความงามค่ะ 

ภาพที่่เห็นสวยไม่เท่าการมองจากสายตาจริงๆ ค่ะ ....หลังจากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ี ทุ่งนางพญา ซึ่งไกลจากจุดนี้ประมาณ 8-9 กม. พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว แต่อากาศไม่ร้อน แสงแดดที่ส่องมากำลังสบายผิว พวกเราไม่นั่งหน้ารถแล้วค่ะ เรากระโดดขึ้นหลังรถกะบะนั่งชมวิวกันยาวๆ เลย ระหว่างทางก็มีเมฆดำๆ เริ่มเคลื่อนตัวท่าทางเหมือนฝนจะตก เส้นทางทุลักทุเลพอสมควร แต่วิวสวยดีให้อภัยทุกอย่าง ^^ 

และแล้วพวกเราก็มาถึง ทุ่งนางพญา ไปชมวิวกันเลยค่ะ

ถึงแร้วววววววว ฟ้าเปิดนิดนุง แต่พระอาทิตย์ส่องมาไม่ถึง แค่นี้ก็แสนจะขอบคุณธรรมชาติแล้วค่ะ

หลังจากพวกเราส่องวิวกันจนควรจะกลับได้แล้วเพราะฝนมาแว้ววว เราก็กระโดดขึ้นนั่งหลังรถบุเรงๆ กันกลับที่ทำการอุทยานฯ

ขอขอบคุณสองหนุ่มเหลือน้อยของเราค่ะ ^^

และขอบคุณตัวเองที่ออกเดินทาง...ไปต่อที่ภูทับเบิกอีกจร้าาา

 

***เราเที่ยวแบบไม่คำนึงถึงสะตังในกระเป๋า เราไม่ได้มีเงินมากมาย แต่เราคำนึงถึงความสุขและมิตรภาพระหว่างทางมากกว่าเท่านั้นเอง***

กดไลค์ให้กำลังใจกัน กดติดตามกันใน Trippacker ได้นะคะ

และถ้าอยากติดตามการเดินทางของเรา ดูรูปที่เราถ่ายมาเพื่อแบ่งปันเพื่อนๆ สามารถกดติดตามและกด Subscribe กันได้ทีเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/TrekThai/