3 วัน 2 คืน " ครั้งแรกกับภูกระดึง "

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นี่คงเป็นกระทู้ที่สองของเราสินะ เริ่มต้นเดินทางในครั้งนี้ ''เริ่มจากการเสพรีวิวท่องเที่ยวอีกเช่นเคย''

รีวิวที่ชื่อว่า 1ภู 1ดอย 1เขา ของคุณ Nattapon 

บอกเลยมันจุดประกายความคิดเลย คำว่า 1เขา เขาช้างเผือก ซึ่งเราก็เคยไปสัมผัสมาเเล้ว

เราก็เลยคิดในใจว่าอยากจะไป 1ภูที่ว่านี้แหละ ภูกระดึง ภูเขารูปหัวใจ แล้วนี่ละที่มาของทริปนี้

ก่อนจะเริ่ม ขอ อวดรูป เขาช้างเผือก หน่อยนะ อย่าว่ากัน !!!!!!

อย่ารอช้า เรามาเริ่มไป เลยกัน >>>

 

อุทยานแห่งชาติภูกระดึงตั้งอยู่ในอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย การเดินทางเริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558

เราสองคนนั้นเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน ไปลงที่สนามบินเลย 

พอไปถึงเราก็ถามพี่ๆคนเลยใจดี ว่ามีรถไป ผานกเค้ามั้ย โดยมีสองทางเลือก

(1) แท็กซี่ ในราคา 900 บาท

(2) นั่งรถไปที่ บขส ขึ้นรถเมืองเลย-ขอนแก่น ไปลงผานกเค้าในราคา 55 บาท ให้ทายว่าเราจะเลือกแบบไหน??

** แท่นแทนน **

 

เราเลือกแบบที่ (2) เราไปถึง บขส.ตอนหกโมง ก็ขึ้นรถแบบว่า น่าจะ ป1. บอกพี่คะๆ ถึงละบอกด้วยนะค่ะ

ณ เวลา ประมาณเกือบๆสองทุ่ม ถึงแล้ว ผานกเค้า (ร้านเจ๊กิม) จุดเริ่มต้นการเดินทางภูกระดึง 

ว่าแต่ หาที่พักกัน ดีกว่า พักผ่อนเตรียมเดินทางเขาภูกระดึงพรุ่งนี้แต่เช้า ลุยย!!!

^^

^

เข้าสู่ โหมดแนะนำ

ผานกเค้าเดอเลย รีสอร์น แนะนำที่นี้คะ ราคาไม่แพง (3หลักเท่านั้น) 

การเดินทางจากร้านเจ๊กิม สามารถนั่งวินมอไซค์เข้าไปในรีสอร์นได้

พี่วินเขาคิดราคาเพียง 30 บาทนะ

 

 

บรรยายกาศที่พัก บ้านอิงผา คืนละ 500 บาท  (สำหรับ 2 ท่าน)

บ๊าย...บาย ฝันดีน้า

**********************************************************************************

 

เริ่ม!!!!   เช้าวันที่ 25 ธันวาคม เราออกเดินทางจากรีสอร์นกันตั้งแต่ เจ็ดโมง

ระหว่างทางที่เราเดินจากรีสอร์นไปผานกเค้า สะพานข้ามลำน้ำพอง

 

 

จากผานกเค้าเราต้องนั่งรถสองแถว จากนี่ไปที่อุทยาน อีกประมาณ 30 นาที

ค่าโดยสารรถสองแถวอยู่ที่คนละ 30 บาท หรือจะเหมาก็ได้นะ คันละ 300 บาท

 

แล้วก็มาถึง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง พอไปถึงเราก็เราเตรียมยื่นหลักฐานที่เรากดจองเต้นท์ในเว็บไซต์

อุทยานพร้อมทั้งเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานคนละ 20 บาท หลังจากเสร็จขั้นตอนชำระค่าธรรมเนียมแล้ว 

สำหรับคนที่ต้องการจ้างลูกหาบเราก็มาติดต่อตรงอาคารลานกว้างก่อนทางขึ้นภู ได้เลยค่ะ

โดยในราคาไม่แพง กิโลละ 30 บาทเท่านั่น  เชื่อเถอะ!! อย่าแบกไปเองเลย

ขออภัย นะคะ !!! ไม่มีรูปในส่วนตรงนี้เพราะคนถ่ายตื่นเต้นกับการขึ้นภูกระดึงมาก 5555

 

เรียบร้อย เตรียมออกเดินทางกันดีกว่า ลุยยยยยย

 

การเดินทางขึ้นภูกระดึง เราจะต้องเดินทางผ่าน ทางที่เขาเรียกว่า ซำ ซำ ซำ แต่ละซำตามนี้เลยค่ะ

เดินมาเรื่อยๆ ระหว่างทางซำแรก เรียกว่า ซำแฮก ที่บ่นๆว่าเมื่อไหร่จะถึงสักที 

ระหว่างทางเซฟฟี่ซะหน่อย นี่แหนะ**

^

^^

ละแล้วเราก็มาถึงซำแฮก ที่มาของซำแฮก คือ เราต้องหอบแฮกๆ 

อีกเรื่องหนึ่งก็สำคัญ ท้องเค้าเริ่มร้องแล้วว แวะกินข้าวกันหน่อยแล้วกันนะ

 

 

เราสองคนก็เดินกันไปเรื่อยๆ เดินไป กินไปตลอดทาง บ่นบ้าง เหนื่อยบ้างแต่ก็ต้องเดินๆ

 

ในที่สุดเราก้เดินๆ และก็เดิน เรื่อยจนมาถึง ซำแคร่ ซึ่งเป็นซำสุดท้ายที่โหดมาก

เราจะต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 1,300 เมตร ชันมากๆมีแต่โขดหิน  (บอกเลยซำแฮกกับซำแคร่โหดสุดๆละ)

เอาว่ะ จุดหมายตอนนี้  ท่องไว้ ท่องไว้ " หลังแป " " หลังแป "

 

เอาแผนที่มาประกอบกันหน่อย เพื่อความเข้าใจ  เนอะ

ระหว่างทาง สุดประทับใจเจอคุณลุงลูกหาบ ต้องยกนิ้วให้เลยสุดยอดจริงๆ ค่ะ คุณลุงข๊าาาาาา

 

ว้าว ในที่สุดก็ถึงแล้ว " หลังแปที่รัก " นึกว่าจะมาไม่ถึงซะแล้วเรา  ไหนละ "ที่พัก"  ไหนละ "ร้านข้าว"

เราใช้เวลาเดินทาง มาถึงหลังแป ประมาณบ่ายโมงนิดๆ    คิดว่าเร็วนะ เข้าข้างตัวเอง อิอิ

เอ้า!!!!! ตากล้องฟิตมากเดินอย่างเดียวไม่ถ่ายอะไรเลย 55555

 

มาๆๆๆๆ  มาเซฟฟี่กันสับใบ แชะ!!!!!!!!

 

 

ขอแบบรูปเดี่ยว สักใบ เอาไว้ติดฝาผนังบ้าน ว่า มาถึงเเล้ว ภูกระดึง ฮ่าๆ   อีกแชะนะ!!!!!!!

 

จากการผิดหวัง หลังแปยังไม่ใช่ จุดมุ่งหมายต่อไป วังกวาง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

จากเส้นทางตอนจากนี้ เป็นทางราบอีกประมาณ 3.2 กิโลเมตรนะคะ ระหว่างทางเป็นป่าสนเขา   วู้ๆ

 

 

จนในที่สุด...เรา เรา เรามาถึงแล้วค่ะ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง เป็นเวลา บ่ายสองโมงกว่าๆ

ตรงจุดนี้เราติดต่อเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้าพัก

โดยขนาดของเต็นท์ที่มีบริการ ( ราคาที่แจ้งไว้เฉพาะเต็นท์ไม่รวมเครื่องนอน )

สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้ค่ะ  http://www.dnp.go.th/

-     เต็นท์โดมขนาด 3 คน            ราคา   225   บาท / คืน

-     เต็นท์โดมใหญ่ขนาด 6 คน     ราคา   450   บาท / คืน

-     เต็นท์เคบิ้นขนาด 6 คน           ราคา   450   บาท / คืน

** ส่วนใครจะเอาเต็นท์ไปเอง ก็สามารถเอาไปได้ **

*** โดยราคาค่าพื้นที่กางเต้นท์น่าจะประมาณ 90 บาท / คืน ***

 

แล้วยังมีบริการ เครื่องนอนให้เช่า

-     ถุงนอน           ราคาถุงละ 30 บาท / คืน

-     แผ่นรองนอน   ราคาแผ่นละ   20   บาท / คืน

-     หมอน             ราคาใบละ   10 บาท / คืน

-     ผ้าห่ม              มีราคา 30 และ 50 บาท/ คืน ค่ะ

 

รายละเอียดแผนที่ลานกานเต้นท์ ค่ะ

 

 

นี่คือภาพเต้นท์ ที่พักของเราสำหรับ 2 คืนนี้  กว้างมาก แต่สภาพตอนนี้ไม่ไหว พักเอาแรงรอกระเป๋าก่อนดีกว่า 555+

หลังจากเราได้กระเป๋าเรียบร้อย เราก็วางแผนสำหรับการดูพระอาทิตย์ตกของวันนี้ ที่ผาหมากดูก กันเลย

ก่อนอื่น เส้นทางของวันนี้ เราจะไปไหว้พระขอพรกันที่ ลานพระพุทธเมตตา

ลานพระพุทธเมตตาเป็นลานหินธรรมชาติอยู่ใกล้กับบริเวณบ้านพักที่ศูนย์วังกวางบนยอดภูก­ระดึง

จะมีองค์พระขนาดใหญ่ซึ่งสร้างโดยอดีต­นายอำเภอที่วังสะพุง ซึ่งในสมัยนั้นอำเภอภูกระดึงขึ้นอยู่กับวั­งสะพุง

สร้างขึ้นมา และ ที่รอบองค์พระจะมีคนมาถวายกระดิ่งและ แก้บนเป็นจำนวนมาก (เอาคร่าวๆนะ)

 

จากลานองค์พระพุทธรูป ไป ผาหมากดูก เป็นระยะทาง 2.2 กิโลเมตร

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ เอ้าแยกย้าย หาข้าวกินกัน

อย่าลืมนะ นอนหลับฝันดี คืนแรกที่ภูกระดึง

************************************************************************************************

 

เอ้า เริ่ม!!!!   เช้าวันที่ 26 ธันวาคม วันนี้เราวางแผนจะเดินรอบภู

แต่ก่อนอื่นเราตื่นตั้งแต่ ตี 4 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ผานกแอ่น (ตามที่พี่เจ้าหน้าที่ประกาศตามสาย)

 

ผานกแอ่น ระยะทาง 2 กิโลเมตรมั้ง 

 

ระหว่างทาง เต็มไปด้วยหมอกหนา บรรยากาศมโนว่าอยู่เมืองนอกได้เลย อากาศดี๊ดี 

 

อากาศดี ทำให้คนอารมณ์ดี อิจฉาปล่าวละค๊าาาาา

 

ณ  ลานวัดพระแก้ว 

จากนั้นเราก็กลับไปที่เต้นท์ กินมื้อเช้า เตรียมตัวออกเดินทางเดินรอบภู

----------------------------------------------

 

เริ่มกันเลย วันนี้ที่เเรกที่เราจะไปกัน น้ำตกถ้ำใหญ่ ตามหาใบเมเปิล สีแดง

 

ต่อมาจากน้ำตกถ้ำใหญ่ ผ่านน้ำตกธารสวรรค์ จากนั้นเราไปแวะที่สระอโนดาด เเวะแช่น้ำกันซะหน่อย

 

อะไรกัน??? ตากล้องเรา วันนี้ไม่ฟิตแล้วหรออ ค่ะ

 

เดินไปเรื่อย ตากล้อง ตากล้อง เอ้า ~ ตากล้องแวะพัก จิบชาร้อน ที่ น้ำตกถ้ำสอเหนือ  ชิวไปมั้ยค่ะ คุณตากล้อง??  

 

ในที่สุดจุดมุ่งหมายตอนนี้ ที่ผาหล่มสัก ระยะทางเดินเท้า  9 กิโล เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง

 

พี่ตากล้องเรา เหนื่อยซะเเล้ว!!!!! ไหวอะป่าว เบบี้

 

จากนั้น เราทั้งสองก็เดินผ่าน ผาต่างๆ ตั้งแต่ผาหล่มสัก

ผาแดง

ผาเหยียบเมฆ

ผานาน้อย

ผาจำศีล

และสุดท้ายที่ ผาหมากดูก

 

 

 

รวมระยะทางที่เราทั้งคู่เดินเท้าทั้งหมด รวมแล้ว 62 กิโล 3 วัน 2 คืน ที่ภูกระดึง    #ทำไปได้

 

จากนั้นเราก็กลับมาที่เต้นท์แบบเพลียขามาก นอนปวดขา ร้องโอ๊ยๆไปทั้งคืน

ฝันดีกับอีกคืน ที่ภูกระดึง

 

************************************************************************************************

 

ว้าาา เริ่ม!!!!   เช้าวันที่ 27 ธันวาคม วันสุดท้ายที่ภูกระดึง (หมดเวลาสนุกเเล้วสิ)

วันนี้ตอนเช้าเราไม่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น (ปวดขา ตื่นสาย) เราก็เลยเตรียมตัวลงจากภูกระดึงอย่างเดียว ค่ะ

 

กลับแล้วนะ ภูกระดึง  (ฉันหลงรักเธอ)

 

ช่วงโชว์ของ

นี่ๆเรามีใบประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึงด้วยนะ (เท่ห์เลย)

ขอบคุณพี่ๆ ร้านข้าวที่ซำแฮกด้วยค่ะ ที่เป็นเมนเทอร์แนะนำให้เราทั้งคู่ได้ใบประกาศเกียรติคุณใบนี้ เย้ๆๆๆ

พี่คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังของที่มาใบประกาศใบนี้ อิอิ**

สุดท้าย ขอติดแปะรูปผานกเค้า (ร้านเจ๊กิม) ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ที่รอรถกลับกรุงเทพ  ขอบคุณครับ

ลืมบอกไป สามารถจองรถกลับกรุงเทพได้ที่ร้าน เจ๊กิม แนะนำ แอร์เมืองเลยดี๊ดี ขับดีปลอดภัยไว้ใจได้ ถึงก็เร็ว

แอร์เมืองเลย วีไอพี นะจ๊ะ รอบ 2 ทุ่ม เบาะนุ่ม นั่งสบาย แอร์เย็นเกิน ดีดี๊

 

 

 สุดท้ายละนะ  ขอขอบคุณผู้ร่วมทริป ขอบคุณนะที่จับมือกัน ขอบคุณที่เธอเลือกฉัน 

ขอให้เดินไปด้วยกันแบบนี้เรื่อยๆไป  

 

บันทึกลับ Ida Ida *Ilada