อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี  อุทยานจะเปิดให้จองช่วงเดือน ม.ค-ก.พ.และจะเปิดให้เข้าพื้นที่ เดือน มี.ค.-เม.ษ เท่านั้น เพราะฉนั้นจะขึ้นชื่อเรื่องการจองยากเป็นลำดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้ นอกจากการเปิดให้เข้าพื้นที่ในช่วงสั้นๆ ที่นี่เรียกได้ว่ามีการผจญภัย ครบทุกแบบ มีทั้งเดินป่า ปีนผา โดดน้ำ มุดน้ำ จึงทำให้หลายคนก็อยากไป รวมถึงผมด้วย พลาดจากปีที่แล้วมาครั้งนึง ปีนี้ตั้งตารอเปิด ที่สุดก็จองได้สำเร็จ

       สำหรับการเดินทาง ไปถึงที่พัก ให้ตั้ง GPS อุทยานได้เลย หรือ เข้าไปขอเส้นทางในเพจอุทยาน ยังๆถึงจะถึงอุทยานแล้วก็ยังไม่ถึงจุดหมายนะ วิ่งเข้าไปอีก 15 กิโล ตามป้ายหน่วย เขาพระอินทร์ ทางจะเป็นทางลูกรัง หลุมค่อนข้างเยอะ และที่สำคัญสัญญานโทรศัพท์ไม่มี

อาหารการกินแนะนำให้สั่งกับทางอุทยานเลยจะดีกว่า หลังจากที่กลับจากกิจกรรมแล้ว คงจะไม่มีแรงทำอาหารกันแล้ว อุทยานคิดแค่หัวล่ะ450บาท 5 มื้อ และที่สำคัญสามารถเติมได้อีกด้วย

 การเดินทางวันแรกเราจะไปถ้ำเสาหินกัน นั่งรถของอุทยานออกมาประมาน10กิโล ภายในถ้ำมีเสาหินที่สูงที่สุดในโลก ประมาณ 62.5 เมตร ตามข้อมูลที่เจ้าหน้าที่บอก

ช่วงแรกของการเดิน เป็นป่าไผ่ ทางลาดลงยาวๆ ประมาน 2กิโล ออกเช้าหน่อยก็ดีนะครับ แดดค้อนข้างร้อน เพราะป่าไผ่ไม่สามารถบังแดดได้เท่าไร

   ถัดมาจากป่าไผ่ จะเป็นป่าหิน ที่ค่อนข้างสูงชัน เกือบ2 กิโลเหมือนกันกับป่าหินตรงนี้ ทางลงชันยาวๆ

 เห็นทางลงตอนไป เจ้าหน้าที่บอกว่าวันนี้เราต้องเดินกลับ ทางเดิน เอิ่ม!!! ต้องปีนกลับนะครับ 555

เดินพ้นป่าหิน ถึงน้ำแล้วครับ จุดนี้สามารถโดดน้ำได้ ไม่สูงมากเท่าไร โดดแก้ร้อนได้ ก่อนจะเดินเข้าถ้ำเสาหิน และต้องกลับมากินข้าวกลางวันกันจุดนี้อีกที

  หลังจากนี้ตัวไม่แห้งกันแล้วนะครับ เดินๆโดดๆ แช่น้ำเย็น สบายกันไป

 เข้าถ้ำเสาหินกันแล้วครับ เสียงน้ำในถ้ำค่อนข้างดัง กินมูลค้างคางลอยคุ้ง ที่สำคัญมืดมาก ไฟฉายที่เตรียมมาก็ต้องนำมาใช้ที่จุดนี้แหละครับ

  ลอยคอกัน เกาะกำแพงถ้ำกันไปเรียงหนึ่งอย่างเป็นระเบียบ เพราะน้ำค่อยข้างแรง

   มืดจริง ดูจากไม่มีไฟฉายล่ะก็มองอะไรไม่เห็นเลย

 ทุลังทุเล กันพอสมควร แต่เจ้าหน้าที่ เขาดูแลเราเรื่องความปลอดภัยดีมาก ทั้งดึง ทั้งฉุด มาแล้วยังไงก็ต้องถึงให้ได้

  มาถึงเสาหินแล้ว อลังการมากสูงมาก แต่มืดเหมือนเดิม อยากถ่ายรูปชัดๆต้องเตรียมไฟฉายที่สว่างมากๆมาด้วย หน้าตาของผู้พิชิตเสาหิน ผมก็กินน้ำไปหลายอึก เพราะว่ายน้ำไม่เป็น555 อย่าลืมเก็บแล้วไว้ตอนกลับด้วยนะครับ เพราะต้องออกทางเดิม ออกจากถ้ำมาแล้ว เจ้าหน้าที่บอก จะกินข้าวได้ต้องโดดก่อน เหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว เอ้า!!!!โดดก็โดด

  ดูจากข้างล่างเหมือนไม่สูง แต่ทำไมเวลายืนข้องบนมันสูงจัง หลังจากกินข้าวกลางวันที่เจ้าหน้าที่เตรียมมาให้แล้ว ก็กลับที่พัก ถึงที่พัก4-5โมงเย็น กินข้าวพักผ่อนตามอธัยศัย พรุ้งนี้ลุยต่อ

  เช้าวันใหม่ วันนี้เราจะเดินทางไปถ้ำนกแอ่นกัน เจ้าหน้าที่บอกว่าวันนี้ไม่หนัก 1ใน4ของเมื่อวานเลย เดินบ้างนิดหน่อย เส้นทางที่เราจะเดินในวันนี้ ไปยังถ้ำนกแอ่น

 ทางไปถ้านกแอ่นจะไปคนล่ะทางกับ เสาหินเมื่อวาน ออกจากที่พักประมาน6-7 กิโล เส้นทางเดินทางก็ประมาณ 1กิโลกว่า 

  จุดชมวิวผานกนางแอ่น เป็นจุดชมวิวที่เป็นแอ่งกว้างๆ

 ถ่ายรูปไว้นิดนึง สามารถปีนขึ้นไปถ่ายตรงยอดได้ แต่ต้องระวังหน่อยครับ ป้ายที่ติดอยู่ไม่ได้ยึดแน่น อาจตกทั้งคนทั้งป้าย เดินต่อแถวกัน เพราะทางชันและเล็ก

 เดินมาใกล้ถึงแล้วครับ ทางลงชันยาวๆเหมือนเดิม ดีนะวันนี้เราไม่ได้กลับทางเดิม

  มุดถ้ำช่องเล็กๆเข้ามา โหย!!เหมือนกับคนล่ะโลกเลย ทึ่ง!!!!

 จุดนี้ต้องรัดชูชีพ เตรียมโดดน้ำ ลอยน้ำกัน ยาวๆ

โดด!!!

 ลอยคอประมาน600-700เมตร ชมวิวกับน้ำเย็น 

สุดเส้นทางลอยคอ เราก็จะเข้าถ้ำกันต่อ

หินงอกหินย้อยในถ้ำ

 สวยงามภายใน้ถ้ำ

ธรรมชาติมีอะไรที่น่าค้นหาอีกมากมาย

ว้าว!!!

เรายังคงเดินหน้าต่อกันเลยๆ เจ้าหน้าก็ยัง ดูแลเราเป็นอย่างดี ตลอดเส้นทาง

หินที่หน้าตาคล้ายเอเลี่ยน 

เหมือนมากๆ

มาถึงจุดที่จะต้องโดดที่สูงกว่า จุดอื่นพ้นจุดนี้ ก็ลองคอกลับกันแล้ว

โดด!!!!

ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย สนุกมากสำหรับทริปนี้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ และเพื่อนร่วมทางครับ

พี่ไก่ เจ้าหน้าที่ของเรา ดูแลดีมาก ตลอดเส้นทางทั้ง2วัน

 จบทริป การเดินทาง 2 วัน ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ เรามากัน 6 คน ค่าใช้จ่าย ค่ารถนำเที่ยว ค่าเจ้าหน้าที่ ค่ากางเต้น ค่าอาหาร ค่าเข้า คนล่ะ 1163 หากรูปไม่สวยต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้ ทริปนี้ GoPro อย่างเดียวเลย