หลังจากที่นั่งดูข่าว ติดตามสภาพอากาศในประเทศไทยมาหลายสัปดาห์  ในที่สุดก็เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแบบจริงจังแล้ว โดยเฉพาะภาคเหนือ ที่มีปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดดอยอินทนนท์

     ปีนี้ผมขึ้นไปเที่ยวเหนือบ่อยมาก  เรียกว่าเป็นปีแห่งภาคเหนือก็ว่าได้ แต่ก็ยังคงมีอีกหลายสถานที่ที่ยังไม่มีโอกาสไปซักที เพราะชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างผมมันจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ไอ้ครั้นที่จะขอลางาน เพื่อหยุดไปเที่ยวมันก็กระไรอยู่ ส่วนใหญ่ผมจึงใช้แค่สิทธิ์อันชอบธรรมที่ตัวเองมีอยู่ คือ วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในการออกท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต และด้วยความชอบส่วนตัวในการออกเดินทางไปกางเต๊นท์นอนตามอุทยานแห่งชาติ สถานที่แรกๆ ในภาคเหนือที่หลายๆ คน แนะนำให้หาโอกาสไปชมความงามของธรรมชาติที่นั่น คือ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ว่ากันว่าที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ที่ไม่เคยทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวัง 

     ผมเชื่อว่าหลายๆ คน ก็มักจะวางแผนขึ้นเหนือกันในวันหยุดยาวๆ ตัวผมเองเกรงว่าจะต้องไปเผชิญกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงตั้งใจจะหลบเลี่ยงผู้คนในเทศกาลวันหยุดยาว โดยการไปอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ในวันเสาร์ – อาทิตย์ การเดินทางของผมครั้งนี้จึงได้เกิดขึ้น

     ใครๆ ก็คิดว่ามันจะโหดไปมั้ย??? กับการเที่ยวเหนือในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และกลับมาทำงานต่อในเช้าวันจันทร์ โดยไม่ต้องลางาน ขอบอกว่าทำได้ครับ และผมก็ขับรถส่วนตัวไปเองด้วย โดยออกเดินทางจาก กทม. หลังจากเลิกงานในคืนวันศุกร์ มุ่งหน้าขึ้นเหนือกับคนรู้ใจของผม

     ทริปนี้ผมใช้เวลาเดินทาง ไป- กลับ ในห้วงตั้งแต่คืนวันศุกที่ 25 พ.ย.59 (หลังเลิกงาน) ถึงที่หมายในวันเสาร์ที่ 26 พ.ย.59 และเดินทางกลับในวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย.59 ที่ผ่านมา

     เป้าหมายเดิมของผมคือจะไปขึ้นดอยอินทนนท์ก่อนในตอนเช้าวันเสาร์ แต่เอาเข้าจริงๆ ระหว่างทางก็เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เพราะดูแล้วกว่าจะไปถึงคงสายๆ ไม่ได้บรรยากาศเช้าอย่างที่ตั้งใจไว้แน่ (เนื่องจากผมออกเดินทางจาก กทม. ประมาณ 4 ทุ่ม) และเมื่อตอนต้นปี ผมก็เคยขึ้นดอยอินทนนท์ และเจอน้ำค้างแข็ง (เหมยขาบ) ฟินกันไปแล้ว มาครั้งนี้ยังไม่ได้ขึ้นก็ไม่เป็นไร ไว้รอโอกาสเหมาะๆ ค่อยมาใหม่   

 ภาพถ่ายเมื่อตอนต้นปี 59 ที่ผ่านมา ครับ

     จากเป้าหมายเดิม จึงเปลี่ยนใหม่เป็นการไปเที่ยวที่ ม่อนแจ่ม ในตอนเช้า และตอนบ่ายค่อยเข้าไปอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังกัน          ผมเดินทางถึง ม่อนแจ่ม ตอนประมาณสิบโมงครึ่ง อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน มีหมอกฟุ้งกระจายทั่วพื้นที่ ผมมาถึงก็จับจองซุ้มอาหารเพื่อพักผ่อนและกินข้าวกัน หลังจากที่เดินทางกันมาทั้งคืน นักท่องเที่ยวเดินทางมากันเยอะพอสมควร       ผมเดินเล่นสักพักก็เดินทางต่อครับ มุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ใช้เวลาเดินทางจากม่อนแจ่มไปห้วยน้ำดัง ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ 

     ผมเข้าอุทยานฯ ประมาณบ่ายสามโมง หลังจากติดต่อ จนท. เพื่อขออนุญาตกางเต็นท์เรียบร้อยแล้ว ก็ไปจัดแจงจับจองพื้นที่เพื่อเตรียมกางเต๊นท์นอนค้างคืน โดยโซนที่ผมเลือกคือ ลางกางเต็นท์ที่ 4 โซน D ครับ เนื่องจาก จนท. บอกว่าตรงจุดนี้จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า 

     หลังจากจัดเตรียมที่นอนเรียบร้อย ก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่หัววัน เพราะกลัวว่าตอนกลางคืนจะอาบไม่ไหว แล้วพากันออกเดินสำรวจพื้นที่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกดินพอดี เป็นความโชคดีอย่างไรก็ไม่รู้ ที่วันนี้ผมเจอแสงลอด สวยงามมากมาย ยิ่งช่วงพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า ยิ่งอลังการมาก เป็นภาพความประทับใจที่คุ้มค่ากับการเดินทาง

     หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็พากันกลับมาที่เต็นท์ เพื่อเตรียมทำมื้อเย็นกินกันเอง อาหารของผมง่ายๆ เหมาะกับบรรยากาศการกางเต๊นท์และอากาศเย็นๆ คือ สุกี้ครับ ตอนกลางคืนน้ำค้างที่นี่แรงมาก จนผมต้องเอาฟลายชีทมากางทับอีกชั้น อุณหภูมิประมาณ 17 องศา

     คืนนี้เราเข้านอนไวหน่อย ประมาณ 2 ทุ่มครึ่งก็หลับกันแล้ว เพราะต้องเก็บแรงไว้ไปชมวิวตอนเช้า และเดินทางกลับ กทม. กันอีก 

     อากาศช่วงกลางคืนเย็นมาก เรียกว่าเย็นจนแสบจมูก ใครจะไปพักแนะนำให้เตรียมของไปให้พร้อม (ของผมเตรียมไปแบบจัดเต็ม มีทั้งถุงนอน และผ้านวมไว้ห่มทับอีกชั้น ) หลังจากพักผ่อนเต็มที่ ตอนเช้าผมตื่นประมาณ ตี 5 ทำธุระส่วนตัวจัดแจงอุปกรณ์เสร็จก็เดินทางไปยังจุดชมวิวดอยกิ่วลม ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ผมกางเต็นท์ ไปประมาณ ๑ กิโลเมตร 

     เรามาถึงตั้งแต่ยังไม่สว่าง แต่มีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มทยอยกันขึ้นมาชมวิวทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น (ส่วนใหญ่จะไม่ได้พักในอุทยานฯ) ผมเริ่มเก็บภาพไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแสงแรกแห่งวันมา   

   ทะเลหมอกที่นี่อลังการมาก สวยงามสมคำร่ำลือ มีมุมถ่ายภาพหลายมุม    

     หลังจากชื่นชมกันจนสาแก่ใจ ผมก็กลับมามาเก็บเต็นท์ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ กทม. ตรงหน้าจุดกางเต๊นท์ผมก็พอมองเห็นทะเลหมอกครับ แต่ว่าเห็นไกลๆ

     ก่อนกลับผมแวะถ่ายรูปอีกครั้งตรงศาลาริมทางก่อนถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว เวลาประมาณ 9 โมงครึ่ง ครับ แต่ทะเลหมอกก็ยังแน่นและสวยอยู่  

     จบทริปการเดินทางที่ประทับใจไปอีกหนึ่งทริป ใครวางแผนจะขึ้นมารับอากาศเย็นที่ภาคเหนือในห้วงวันหยุด อย่าลืมแวะมาชมความงามของทะเลหมอกที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังกันนะครับ