ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เที่ยวน้ำพุร้อน ต้มไข่น้ำแร่ แล้วไปแช่แอ่งน้ำอุ่นให้หายหนาว อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chaeson National Park) จ.ลำปาง
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02 , 2560

    อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เที่ยวน้ำพุร้อน ต้มไข่น้ำแร่ แล้วไปแช่แอ่งน้ำอุ่นให้หายหนาว

    หนาวนี้ไปไหนดีนะ? เป็นคำถามที่ได้ยินทุกปีพอเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ในประเทศไทยก็มีหลายสถานที่ชวนให้เราไปเช็คอินในช่วงฤดูหนาวมากมายเหลือเกิน ไหนจะทั้งภู หรือดอยต่าง ๆ แล้ว ก็ยังมีบ่อน้ำแร่นี่แหละที่เป็นที่เที่ยวยอดฮิตไม่แพ้กัน แถมยังเหมาะอย่างยิ่งกับช่วงฤดูหนาว อย่างเช่น อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ซึ่งมีที่เที่ยวครบหลายรูปแบบ ถ้าได้ลองไปแล้วก็ต้องติดใจอยากกลับไปหนาวที่แจ้ซ้อนอีกแน่นอน

    อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลวังเงินถนนลำปาง-เดินชัย บริเวณอุทยานฯ มีธารน้ำแร่ ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติที่สวยงามแทรกกอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำวร้อน มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอวังเหนือ อำเภอแจ้ห่ม อำเภอเมืองปาน อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมสูง และเป็นแหล่งที่ดำเนินงานตามแนวพระราชดำรัสในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติ มาประยุกต์การดำเนินงานอย่างสอดคล้องเป็นประโยชน์ แนะนำเลยว่าควรมาตั้งแต่เช้าตรู่ มายืนชมพระอาทิตย์กำลังขึ้นท่ามกลางไอระเหยจากน้ำร้อน ก็เป็นภาพที่สวยงามตราตรึงใจไปอีกนาน ฤดูที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและมีอากาศเย็นสบาย คือช่วงเดือน พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์

    อย่ามัวตะลึงกับความงดงาม และถ่ายรูปจนเพลินนะ เพราะที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนนี้ยังมีกิจกรรมที่ฮอตฮิต นั่นคือ การต้มไข่น้ำแร่นั่นเอง ต้องบอกก่อนว่าบ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อนนี้ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ (แรก ๆ อาจจะฉุนแต่อยู่ไปนาน ๆ ก็เริ่มชินครับ) จำนวนทั้งหมด 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ทำการอุทยาน น้ำแร่ที่นี่มีอุณหภูมิสูง ถึง 70 – 80 องศาเซลเซียส จึงสามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ไข่แดงจะแข็งไม่มาก มีรสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า ดูดกรึบเข้าไปทีเดียวได้เลย เรามักจะเห็นชาวบ้านแถวนี้พาครอบครัวมาต้มไข่ยามเช้า และพกแม็คกี้คู่หูความอร่อยที่ทานพร้อมไข่ต้มมาด้วย ส่วนร้านอาหารแถวนี้ก็จะนำไข่มาปรุงเป็นเมนูประจำถิ่น ชื่อว่า "ยำไข่น้ำแร่"  และไม่นานเมื่ออาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้าบรรยากาศที่ว่าเย็นตอนช่วงเช้าก็เริ่มร้อนเพราะไอแดด แต่ว่าบ่อน้ำร้อนนี่ก็ยังมีความสวยงามอยู่ ลองถอยออกมาสักหน่อยก็จะเห็นความงามของบ่อทั้ง 9 ได้เต็มตา

    • โพสต์-2
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02 , 2560

    นอกจากบ่อน้ำร้อนที่ขึ้นชื่อติดอันดับของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนแล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกด้วย

    1. น้ำตกแจ้ซ้อน  เป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ มี 6 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตร มีทางเดินไปสะดวกและมามารถเดินจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตกได้ น้ำตกแม่มอญ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงจากชะง่อนผาสูงลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง น้ำจะตกลมาเป็นช้น ๆ สวยงาม ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ ระหว่างทางจะพบกับธรรมชาติที่สวยงาม 

    2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ  2 ชั่วโมง โดยเส้นทางจะผ่านจุดสื่อความหมาย 19 จุด ผ่านสภาพป่าและพรรณไม้ที่น่าสนใจหลายชนิด รวมถึงอาจพบสัตว์หายากอย่างนกเขนเทาหางแดง และปลาปุงแห่งลำห้วยแม่มอญ เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาพรรณไม้ต่าง ๆ เช่น ต้นก๋ง กวาวเครือ หรือ ยางปาย ศึกษาระบบนิเวศน์ เช่น วงจรชีวิตหนอนรถด่วน และสภาพภูมิศาสตร์โดยรอบลานน้ำพุร้อน เช่น อะไรทำให้เกิดบ่อน้ำพุร้อน ทำไมน้ำพุร้อนทำให้ไข่แดงสุกแต่ไข่ขาวเหลว หรือจั๊กจั่นน้ำแร่ เป็นอย่างไร (จั๊กจั่นน้ำแร่จะมีชุกในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม) โดยจะเริ่มต้นเดินทางตั้งแต่ลานบ่อน้ำพุร้อนจนถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แล้ววกกลับมาทางใหม่อีกจนถึงลานน้ำพุร้อน

    3. แอ่งน้ำอุ่น ตั้งอยู่ติดกับบ่อน้ำพุร้อน เป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของน้ำพุร้อน และน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน ทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่อาบ ส่วนห้องอาบน้ำแร่ มีทั้งห้องอาบแช่ สำหรับ 3-4 คน ห้องรวมแบบตักอาบและบ่อสำหรับแช่อาบกลางแจ้ง น้ำแร่ที่ใช้ต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิน้ำแร่ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส

    หากใครเดินเที่ยวจนทั่วและเมื่อยเท้าละก็ลองมาแช่น้ำอุ่นดู หรือใครเมื่อยทั้งตัวก็แนะนำให้เข้าห้องอาบน้ำแร่ได้เลย นอกจากจะช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน และยังช่วยบรรเทาอาการของโรคเกี่ยวกับกระดูกได้อีกด้วย แต่น้ำแร่จากที่นี่ไม่สามารถใช้ดื่มได้นะครับ เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดสูงกว่ามาตรฐาน

    4.น้ำตกแม่ขุน อยู่ใกล้กับน้ำตกแม่มอญ มีลักษณะเป็นน้ำตกสายยาว สูงประมาณ 100 เมตร ไหลลงมาบรรจบกับน้ำตกแม่มอญ ต้องเดินเท้าจากที่ทำ การอุทยานฯ 5 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทาง

    5.ถ้ำผางาม ห่างจากที่ว่าการอำเภอวังเหนือ 8 กิโลเมตร อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ แจ้ซ้อน 3 (ผางาม) หน่วยนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 60 กิโลเมตร มีถ้ำที่สามารถเข้าไปศึกษาและท่องเที่ยวได้ เช่น ถ้ำฟางาม ถ้ำน้ำ ถ้ำหม้อ เป็นต้น

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02 , 2560

    สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีดังนี้

    1. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

    2. ห้องอาบน้ำแร่  จัดไว้บริการ 3 รูปแบบ คือ ห้องแช่ส่วนตัวจำนวน 41 ห้อง ห้องแช่รวม 1 ห้อง และยังได้จัดสระน้ำแร่ กลางแจ้งไว้บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. และในวันหยุดเปิดบริการ ตั้งแต่ 06.00 – 19.00 น. นอกจากนี้ยังมีนวดแผนโบราณ ไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย

    3. ที่พักแรม/บ้านพัก บ้านพักในอุทยานมีจำนวน 11 หลัง พักได้หลังละ 3-15 คน ราคา 900-3,600 บาท ค่ายพักแรม พักได้ 40 คน ราคา 4,000 บาท อุทยานฯ มีเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวเช่า พักได้ 2-5 คน ราคา 150-225 บาท หรือนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์มาเองเสียค่าสถานที่กางเต็นท์ คนละ 30 บาท/คืน ทั้งหมดสร้างอยู่บนเนินเขา สามารถนำรถยนต์เข้าถึงได้

    ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็คงได้คำตอบในใจแล้วว่า หนาวนี้ควรไปเที่ยวไหนดี จะมาแช่น้ำแร่ที่แจ้ซ้อนก็ดีนะหรือไม่ว่าจะไปที่ไหนก็อย่าลืมเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วยนะครับ สุดท้ายผมก็ยังคิดว่าเที่ยวเมืองไทยสบายใจและสวยงามที่สุด 

    • โพสต์-4
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02, 2560

    Editor's Comment

    • จุดเด่น:
    • อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นอุทยานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง มีแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานหลากหลาย ทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติ น้ำตก หรือธารน้ำแร่ มีบ้านพักและร้านค้าสวัสดิการต่าง ๆ ที่พร้อมอำนวยตวามให้แก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งธรรมชาติภายในยังอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยพรรณไม้และสัตว์หายากบางชนิด
    • จุดด้อย:
    • เนื่องจากห่างไกลจากอำเภอเมืองจังหวัดลำปางจึงทำให้การเดินทางสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวค่อนข้างลำบาก หารถโดยสารประจำทางได้ยาก และจำเป็นต้องเช็คสภาพอากาศก่อนมาเพราะในช่วงฤดูฝนหรือน้ำหลากอาจมีปัญหาน้ำท่วมฉับพลันได้
    • ข้อสรุป:
    • หากใครมาเที่ยวลำปางแล้วมีเวลามากพอ อยากแนะนำให้มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เพราะที่นี่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
    คะแนน
    • โพสต์-5
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02 , 2560

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ :  อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ. เมืองปาน จ. ลำปาง 52240

    GPS : 18.836330, 99.469360

    เบอร์ติดต่อ : 0 5438 0000, 08 9851 3355

    ราคาที่พัก : อัตราค่าบริการอยู่ระหว่าง 250-800 บาท ขึ้นอยู่กับชนิด ขนาดของเต็นท์ และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ

    ช่วงเวลาแนะนำ : สามารถเที่ยวได้ตลอดปี แต่ในฤดูหนาวธรรมชาติจะสวยงามที่สุด

    ไฮไลต์ : ดูพระอาทิตย์ท่ามกลางไอความร้อนจากบ่อน้ำร้อนที่สวยงาม และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเหมาะกับทุกคนในครอบครัว

    กิจกรรม : อาบน้ำแร่ที่ห้องอาบน้ำกลางธรรมชาติ , แช่ไข่ต้มจากน้ำแร่ธรรมชาติ ,เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติและน้ำตกแจ้ซ้อน

    • โพสต์-6
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02 , 2560

    วิธีการเดินทาง

    โดยรถยนต์ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนอยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 75 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอด มีให้เลือก 2 เส้นทาง

    1. จากสนามกีฬาประจำจังหวัดไปตามถนนสายลำปาง-ห้างฉัตร (สายเก่า) เลี้ยวขวาที่สามแยกบ้านน้ำโท้งไปตามถนนสาย 1157 เส้นลำปาง-ห้วยเป้ง-เมืองปาน ไปประมาณ 55 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนสาย 1287 เมืองปาน-แจ้ห่ม ไปประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 1252 เส้นข่วงกอม-ปางแฟง อีก 11 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเขาอุทยานฯไปตามถนน รพช. อีก 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน  

    2. จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงหมายเลข 1035 เส้นลำปาง-แจ้ห่ม ไปจนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1287 ซึ่งเป็นทางเข้าไปอำเภอเมืองปาน แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยก ใช้ทางหลวงหมายเลข 1252 เส้น ข่วงกอม-ปางแฟน ป่ระมาณ 11กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยาน ตามถนน รพช. อีก 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ 

    โดยรถประจำทาง มีคิวรถโดยสารประจำทางสายลำปาง-แจ้ซ้อนถึงที่ทำการอุทยานฯ อยู่บริเวณถนนตลาดเก่า ราคา 50 บาท ออกจากลำปาง เวลา 08.00-18.00 น. หรือเหมารถประมาณ 350 บาท 

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02, 2560
    • โพสต์-8
    theTripPacker •  กุมภาพันธ์ 02, 2560