หลังปีใหม่ เพื่อนๆจากต่างแดนตกลงใจแวะมาเยี่ยมเราที่กรุงเทพฯ ทริปเล็กๆจึงเกิดขึ้น เพราะมาแบบไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า เราเลยตัดสินใจพาเพื่อนไปเที่ยวประจวบกัน เลือกจองที่พักกับชาวประมง ที่สร้างบ้านเอาไว้ให้ต่างชาติเช่าเป็นรายเดือน เรารู้จักด้วยความบังเอิญตอนไปทำงานเมื่อปีก่อน กริ๊งกร๊างไปทันทีได้บ้านหลังใหญ่ พักกันได้ประมาณยี่สิบคน แต่พวกเราไปกันแค่ 4 คน เลยใช้บ้านแค่ส่วนเดียว เหมือนไม่คุ้มแต่คุ้มนะ

นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯไปลงหัวหิน รถออกตอนหกโมงเช้าแต่กว่าจะไปถึงก็ได้เวลานานโขเลยล่ะ

เพื่อนตื่นตาตื่นใจกันใหญ่ เลยใช้เวลาอยู่พอสมควร ก่อนจะโทรไปเรียกเจ้าของที่พักให้มารับที่สถานี แวะซื้อของกินข้างทาง มองเห็นเขาเต่าอยู่ลิบๆ แวะเที่ยวอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ดอกบัวกำลังบานสวยเชียว ลมพัดเย็นสบายๆ นั่งกินลูกชิ้นไป คุยกันไป ความที่ว่าไม่ได้เจอกันนานโข ไถ่ถามสารทุกข์กันแล้วขึ้นรถตรงไปยังที่พัก พวกเราพักกันอยู่แถวๆหาดทรายน้อย ด้านหลังเขาเต่า เลือกห้องกันตามใจชอบ บ้านหลังใหญ่ นอนได้คนละห้อง แต่สุดท้ายก็เลือกนอนสองคนต่อห้อง รู้สึกอุ่นใจดี เก็บข้าวของกันแล้ว เดินออกจากบ้านพัก สาวๆอยากเล่นน้ำทะเล ถึงแดดจะเปรี้ยงแต่ไม่มีใครกลัวเลย ยกเว้นเรา หาดเงียบๆไม่มีคนทะเลสวยน้ำใส เราจองเตียงผ้าใบนอนเอาแรง ปล่อยสาวๆจากแดนไกลลงไปเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน กว่าจะขึ้นจากทะเลก็ตะวันคล้อยต่ำแล้ว คืนนี้พวกเราจะออกเรือกัน ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ได้ตั้งจะเที่ยวสิ่งปลูกสร้างหรือสถานที่สร้างขึ้นมาสำหรับนักท่องเที่ยวเลย หลังจากคุยกันมาบนรถแล้วทุกคนตกลงว่าจะเที่ยวธรรมชาติ ไม่เน้นสถานที่ๆคนเยอะ สาวๆบอกว่าเที่ยวแบบนั้นมาเยอะแล้ว คนนำทางเลยตามใจ เพราะจริงๆตัวเองก็ถนัดเที่ยวธรรมชาติมากกว่าเมือง ตะวันคล้อยต่ำ พวกเราก็ออกทะเลไปตกปลากัน มาดูกันว่าจะตกได้สักกี่ตัว จะทำบาปขึ้นมั้ย ตะวันลับฟ้าไปนานแล้ว สองชั่วโมงผ่านไป ได้ปลาเท่าที่เห็น ที่น่าสนใจคือตกปลาเก๋าได้ด้วย ลุงคนขับเรือบอกว่าอร่อยมาก สาวๆเลยยิ้มแฉ่ง หิ้วปลากลับที่พัก ร้องเริ่มร้อง เพราะสามทุ่มกว่าแล้ว มื้อค่ำเป็นมาม่า ปลาที่ได้เอามาต้มทอดได้กุ้งมาจากเพื่อนนักท่องเที่ยวที่อยู่บ้านถัดไป เอากุ้งมาแลกปลา สนุกสนานเฮฮา น้ำจิ้มซีฟู๊ดฝีมือเรา ทำให้ชิมกันแต่ไม่รับประกันว่าจะอร่อยหรือเปล่า หลังจากมื้อค่ำ ก็เอากีต้าร์มาดีดร้องเพลงหน้าระเบียง ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนเพราะความเพลีย ตกใจตื่นมาตอนตีสี่ป้าเจ้าของบ้านมาเคาะประตูเรียก(เราบอกให้ป้าเรียก)งัวเงียตื่นกันมาสามคน อีกคนนอนหลับไม่รู้เรื่อง ที่เราบอกให้ปลุกเพราะป้าบอกว่าจะออกไปเก็บของดี พอเห็นนี่น้ำลายไหลล่ะ หอยนางรมสดๆ เพิ่งเก็บมาสดๆร้อนๆ ป้าเค้าใส่ถ้วยให้ชิม เรารีบเข้าไปในบ้าน เพราะเมื่อคืนน้ำจิ้มซีฟู๊ดยังไม่ได้ทิ้ง มันฟินสุดๆล่ะ สามสาวนั่งกินกันจนอิ่ม หนำใจแล้วก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัว ไปนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น  พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นขอบน้ำขึ้นมาสวยสุดๆ แค่วันแรกก็ทำเอาประทับใจบอกไม่ถูก ชายหาดตอนเช้าเงียบสงบไร้ผู้คน ถ่ายรูปกันเมมแทบเต็ม ก่อนจะกลับไปหม่ำมื้อเช้าที่บ้านพัก อิ่มแล้วไปเที่ยวต่อ  จุดหมายอยู่ที่เขากะโหลก มาเช้าเลยไม่ค่อยมีคน เห็นน้องหมากะลังจับๆจ้องๆอะไรอยุ่ในน้ำ พอคนเริ่มเยอะพวกเราก็ไปกันต่อ..แวะดูน้องลิงปีนเก็บลูกมะพร้าว พระเอกมาแล้ว รู้งานมาก มาถึงก็ปีนเลย พวกเราคอยเชียร์อยู่ข้างล่าง  เก็บลงมาเสร็จก็ปอกให้ดูด้วย เรียกความประทับใจได้เต็มๆ ให้ค่าขนมน้องลิงเสร็จ

ที่ต่อมาที่เราแวะมาคือหมู่บ้านชาวประมง วันนี้เตรียมกระติกมาด้วย จะซื้ออาหารทะเลไปทำกินกัน

กำลังแกะปูปลาออกจากอวน

 

ปู...ลายสวยเชียว ได้วัตถุดิบแล้วไปกันโลดดด

แวะเที่ยวชายหาดหม่ำมื้อเที่ยงกันก่อน ลุงคนขับรถบอกว่าที่นี่ขึ้นเรือไปเที่ยวถ้ำได้นะ พอถามไถ่แล้วไม่มีใครไป

 หาดที่นี่เป็นทรายละเอียดจริงๆ แต่ไม่มีคนเล่นน้ำเลย ส่วนใหญ่มากินอาหารกับไปเที่ยวถ้ากันมากกว่า จุดหมายปลายทางของเราไม่ใช่นี่นี่ พวกเราจะไปล่องเรือที่คลองเขาแดงกัน เราเคยมาล่องครั้งนึงชอบมากๆ เพื่อนบอกว่าเหมือนกุ้ยหลินเลย แถวๆนี้มีหอยนางรมแยะ เช้ามืดชาวบ้านจะพากันมาเก็บหอย

ออกจากคลองเขาแดง แวะซื้อสับปะรดข้างทาง เยอะมาก แต่เรากินไม่ได้ ไม่ถูกกัน เพื่อนกินไปคนละลูก ท่าทางน่าอร่อยมาก 

กลับถึงที่พักตอนตะวันคล้อยแล้ว อาบน้ำเสร็จก็ออกมาเตรียมมือเย็นกัน นึ่งปูทิ้งไว้ตอนผลัดกันไปอาบน้ำ งานนี้จัดเต็ม ซื้ออาหารทะเลมาจากหมู่บ้านชาวประมงหลายอย่างเลย

สาวจากปักกิ่งขออาสาเผาปลา ในขณะที่พวกเราไปอาบน้ำ  ค่ำนี้มีปาร์ตี้เล็กๆ ครื้นเครงกันประสาสาวๆ พรุ่งนี้สามสาวจะไปภูเก็ตกันต่อ ส่วนเรายังอยู่เขาเต่า เพราะเพื่อนอีกคนจากชลบุรีจะมาสมทบ ไปลุยกันต่อ

ตื่นเช้ามาส่งเพื่อนสามสาวไปภูเก็ต แวะรับเพื่อนที่มาจากชล จองมอไซด์เอาไว้ จากนี้ไปแว๊นลูกเดียวไม่ใช้รถใหญ่แล้ว ลุงคนขับรถก็เลยไปรับงานอื่นต่อ 
ตอนเอาของมาเก็บ พวกเราเดินไปที่หาดกะว่าจะเล่นน้ำทะเลสักพักแล้วค่อยไปต่อ แต่ปรากฏว่าลมแรงมาก คลื่นเยอะอีกตะหาก

เลยข้ามจากฝั่งหาดทรายน้อยมาเที่ยวที่วัดถ้ำเขาเต่าแทน มองเห็นสวนสนอยู่ลิบๆ ไหว้พระทำบุญเสร็จแว้นออกนอกเมืองตามประสา สำหรับเพื่อนคนนี้ไปแว๊นด้วยกันบ่อย  แวะไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดห้อยมงคล มาถึงกันแต่เช้า ยังไม่มีคนไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ซุ้มต่างๆก็ยังวางของกันไม่เสร็จ พวกเราเลยไหว้กันตามมีตามเกิด ก่อนจะขอพรให้เดินทางปลอดภัยแล้วไปต่อ จุดหมายต่อไปอยู่ที่น้ำตกป่าละอู  เงียบโล่งไร้ผู้คน  แวะเติมพลังที่ร้านกาแฟเล็กๆข้างทางก่อนเข้าไปน้ำตก มาถึงปุ๊บสิ่งแรกที่เห็นคือผีเสื้อ ถึงแม้จะไม่แยะเท่าไหร่แต่ก็ทำเอาพวกเราอดยืนดูไม่ได้ น้ำตกใสๆเห็นปลาว่ายไปว่ายมาชัดเจน น้ำเย็นมาก เดินทวนน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ 

ตื่นตะหนกกับปลามาก นี่ถ้าตกไปจะโดนตอดมั้ย >< เห็นแล้วแอบกลัว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง อากาศดีมากๆ ลมเย็นๆ น้ำเย็นๆ ได้ยินเสียงนกร้องอยุ่ตลอดเวลา เก็บรุปกันจนพอใจ เดินออกจากป่ากลับไปทางเดิม 
       ออกจากน้ำตกมาขับมาเรื่อยๆตามทาง เจอสำนักสงฆ์หลายที่ก็เลยแวะเข้าไปดูเผื่อๆจะได้ทำบุญ

เงียบและว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย เลยไม่ได้ทำบุญตามที่ตั้งใจ ขับรถกลับออกมาไปจุดหมายใหม่ ระหว่างทางไปอ่าวมะนาว เจอร้านส้มตำน่ารัก(จริงแล้วหิว) เลยแวะเข้าไป สั่งกินสองคนเต็มโต๊ะ ไม่อิ่มก็ไม่รู้จะพูดยังงัย ใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะกว่าจะหมด อร่อยทุกอย่าง ราคาไม่แพง  มาถึงอ่าวมะนาว ไม่มีคนเหมือนเคย อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเรามาเที่ยวกันวันธรรมดา เลยร้างไร้ เดินเล่นริมหาด น้ำเย็นดี แต่ไม่ได้ลงเล่น ไม่ได้เตรียมชุดมา นั่งเม้าส์มอยกันอยู่พักใหญ่ 
    ตอนขับรถออกมากจากอ้าวมะนาว เจอตลาดขายของชาวบ้าน เพื่อนเลี้ยวเข้าไปทันที เดินดูของ โดยเฉพาะของกิน นำ้อ้อยคันกันสดๆ ยืนดูแต่ไม่ได้ซื้อ ไม่ชอบหวานๆ ได้ของกินถูกใจ ไปยืนรอเขาปิ้งตั้งนาน ได้มาห้าไม้ อร่อยถูกปากไม่เสียทีที่รอ...งานนี้กินกันเต็มๆ ชิมเกือบทุกอย่าง รูปเริปไม่ต้องถ่าย เดินเพลินจนตะวันคล้อยต่ำลง ได้เวลากลับ มื้อค่ำไม่ต้อง กลับถึงที่พักนอนหลับเป็นตาย....ตื่นมาตอนสายลงไปเล่นน้ำทะเลจนตัวเมี่ยม..เก็บของกลับตอนบ่ายแก่ๆ ต้องกลับมาทำงาน ส่วนเพื่อนต้องไปทำธุระต่อ ถึงแม้จะยังเที่ยวไม่ทั่วซะที แต่ไปทีไรก็ประทับใจทุกครั้ง เที่ยวครั้งนี้ไม่ได้เน้นในเมืองเลย คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะลองเก็บบรรยากาศในเมืองดูบ้างน่าจะดี

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่า