ท่องทะเลปลายตราด @ เกาะกูดรอบสี่ ทริปแฟมิลี่สนุกดีทั้งครอบครัว

ย้อนหลังกลับไปสักสิบปีก่อน จำได้ว่าเคยอ่านข้อมูลแนะนำการท่องเที่ยวเกาะกูด ดินแดนสุดภาคตะวันออก จังหวัดตราด บอกว่าเกาะแห่งนี้อยู่ไกล๊...ไกล เดินทางยาก เที่ยวเองค่อนข้างลำบาก จะให้ดีควรซื้อแพ็คเกจของรีสอร์ทซึ่งมีอยู่ไม่กี่แห่งบนเกาะ ตอนนั้นอยากไปสุดๆ แต่ติดปัญหาอยู่ตรงแค่คนเบี้ยน้อยหอยเล็กอย่างผมรู้สึกแขยงทุกทีเวลาต้องจ่ายค่าแพ็คเกจโหดๆ เลยจำใจปล่อยให้เกาะกูดนอนรออยู่กลางทะเลเรื่อยมา

โอ๊ย... แต่นั่นมันเรื่องสิบปีก่อนโน้นแล้วครับ กลับมายุคปัจจุบัน เดี๋ยวนี้เกาะกูดกลายเป็นเกาะเที่ยวง่ายมาก และแม้จะมีรีสอร์ทเพิ่มขึ้น – โดยเฉพาะแถวคลองเจ้า แต่ภาพรวมของเกาะกูดยังคงค่อนข้างสงบ บนเกาะยังเป็นอะไรที่ดิบพอสมควร พื้นที่กว้างใหญ่เป็นป่าเป็นสวน เขียวไปทั้งเกาะ ที่สำคัญผมขอเน้นย้ำเลยว่าเดี๋ยวนี้คิดใหม่ทำใหม่ เที่ยวเกาะกูดไม่ต้องง้อแพ็คเกจ เที่ยวง่ายไม่ต่างจากเกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะล้าน ซึ่งอยู่ในทะเลตะวันออกเหมือนกัน

เริ่มแรกต้องว่าถึงการนั่งเรือก่อนครับ เรือข้ามไปเกาะกูดถ้าเป็นสปีดโบ้ทมีเยอะแยะ แต่เราไม่พูดถึงสปีดโบ๊ทเพราะเน้นประหยัด เรือโดยสารไปเกาะกูดมีสองบริษัท เกาะกูดปริ๊นเซส กับเกาะกูดเอ็กซ์เพรส ราคาเท่ากันเป๊ะ ไปควบกลับ 600 บาท ขึ้นเรือที่เดียวกันคือท่าเรือแหลมศอก – ย้ำว่าแหลมศอกนะครับไม่ใช่แหลมงอบ มีวันละเที่ยวเดียวเหมือนกันคือเที่ยงครึ่ง ส่วนขากลับสิบโมงตรงเที่ยวเดียวอีกเหมือนเดิม ต่างกันตรงเกาะกูดปริ๊นเซสขึ้นเกาะที่อ่าวสลัด เกาะกูดเอ็กซ์เพรสขึ้นเกาะที่ท่าเรือน้ำลึกอ่าวตะเภา อยากใช้บริการที่ไหนจิ้มเลย ผมเคยใช้บริการแค่ปริ๊นเซส ไม่ขอลำเอียงตัดสินว่าดีกว่าเอ๊กเพรส

แค่นั้นแหละเรียบร้อยทุกอย่างเชื่อผมสิ! ต่อมาหารถไปตราด ถ้าอยากชิลก็นั่งรถทัวร์จากสถานีเอกมัย ใครมีอคติกับเจ๊เกียวให้โยนทิ้งไปก่อนเพราะคราวนี้ต้องพึ่งพาเชิดชัยทัวร์ ไปให้ทันรถเที่ยวแรกตีห้าจะชัวร์สุด หากเป็นเที่ยวหกโมงเช้าอาจต้องตาลีตาเหลือก เพราะใช้เวลาเดินทางตั้งห้าชั่วโมงจึงถึงตัวเมืองตราด ถ้าอยากไปแบบสปีดเร็วกว่านรกต้องนั่งจรวด ฐานปล่อยจรวดอยู่แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นจรวดสี่เหลี่ยม 14 ที่นั่ง บอกเขาเลยนะครับว่าลงตัวเมืองตราด เพราะจรวดไปเกาะช้างบางลำไม่เข้าตัวเมือง

แล้วทีนี้ไปท่าเรือยังไง? ก็ไปกับเรือที่เราจองไว้ไงครับ ทั้งสองบริษัทมีรถรับส่ง-ฟรี 1.จากตัวเมืองไปแหลมศอก 2.จากท่าเรือบนเกาะกูดไปที่พัก 3.จากที่พักมาท่าเรือบนเกาะกูด 4.จากแหลมศอกไปตัวเมืองตราด ฟรีทุกขั้นตอนไม่ต้องเสียเงินเพิ่มสักบาท จะมีอะไรง่ายดายไปกว่านี้อีกเล่า ที่เราต้องทำมีเพียงแค่ติดต่อกับบริษัทเรือล่วงหน้าว่าเราจะไปถึงตราดที่ไหน กี่โมง เขาจะได้รอรับถูก

เรื่องรีสอร์ทอยากพักที่อ่าวไหน หรูหราไฮโซหรือยาจกปานใด เปิดอากู๋หรือ Agoda หาข้อมูลเช็คราคากันตามสะดวก ผมหมดหน้าที่แนะนำแล้ว ต่อไปจะได้เล่าเรื่องของตัวเองสักที!

เดินทาง 17-20 พ.ย. 57 เป็นเกาะกูดครั้งที่สี่และสี่ปีติดกันของผม เม.ย. 54 มี.ค. 55 ม.ค. 56 และ พ.ย. 57 มาไม่เคยซ้ำเดือนจึงเป็นเรื่องดีที่จะได้เห็นเกาะกูดอีกช่วงเวลา คือตอนปลายฝนเพิ่งหมดพายุมรสุมใหม่ๆ

งานนี้ตอนแรกผมสบายตัวเพราะให้น้องสาวจัดแจง หาแพ็คเกจบ้างไม่แพ็คเกจบ้างอยู่นานตัดสินใจไม่ได้สักที (ตามประสาสาวๆ) พ่อเลยบอกให้ฟันธงเอาไงดี ผมอาศัยประสบการณ์เก่าๆ นั่นแหละจิ้มไปที่ อาณาเล รีสอร์ท เคยมานอนที่นี่แล้วติดใจ บรรยากาศดี วิวสวย มีสระว่ายน้ำ ราคาถูกกว่าอีกหลายรีสอร์ทที่อยู่ริมทะเลด้วยกัน ข้อเสียคือห้องพักเก่าอยู่สักหน่อย ห้องแอร์ธรรมดาพันกว่าบาทไม่มีตู้เย็น-น้ำอุ่น ซึ่งไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเลย อยากได้ห้องใหม่เขามีนะครับแต่ต้องเพิ่มตังค์ตามระเบียบ

ไปกับครอบครัวก็ต้องขับรถไป ผมนี่แหละรับบทโชเฟอร์ ออกจากเมืองกรุงหกโมงนิดๆ ถึงท่าเรือราวสิบเอ็ดโมงครึ่ง ห้าชั่วโมงมาตรฐาน

ที่สำนักงานเกาะกูดปริ๊นเซสมีบริการรับฝากรถวันละ 50 บาท พอได้เวลาก็มีรถรับไปขึ้นเรือ ช่วงนี้ใช้เรือลำเล็ก 150 ที่นั่ง ผมสงสัยเลยไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่สักหน่อย เขาบอกว่าพอดีกัปตันเรือใหญ่ต้องไปอบรม พอเดือนธันวาคมจะเปลี่ยนเป็นกลับมาเป็นเรือใหญ่ 300 ที่นั่งเหมือนที่ผมเคยนั่งครั้งก่อน

ขึ้นเรือแล้วก็หาที่นอนตามสบายเพราะต้องล่องลอยในทะเลประมาณชั่วโมงสี่สิบนาที เรือเกาะกูดปริ้นเซสขึ้นเกาะที่อ่าวสลัด จากนั้นมีรถสองแถวไปส่งตามรีสอร์ทต่างๆ ของผมไปอาณาเล รีสอร์ท นั่งรถอีกราวครึ่งชั่วโมง

บ่ายสามโมงเศษ มาถึงแล้ว อาณาเล รีสอร์ท ช่างคุ้นตายิ่งนักเพราะเป็นรอบที่สามแล้วสำหรับผมที่พักที่นี่ รีสอร์ทอยู่เวิ้งเดียวกับอ่าวง่ามโข่ครับ แต่เป็นอีกฝั่งของแหลมหิน เขาเรียกของเขาว่าหาดทรายแดง ผมก็เออออห่อหมกตามเขาแล้วกัน ถึงส่วนตัวจะคิดว่ามันก็อ่าวง่ามโข่นั่นแหละ

ความแตกต่างจากการมาเที่ยวครั้งก่อนๆ คือเห็นชัดว่าถึงน้ำทะเลจะสวยใส แต่ผมเคยเจอที่ใสกว่านี้ ซึ่งนั่นเป็นเพราะเงื่อนไขด้านเวลา ต่อมาคือเดือนพฤศจิกายนยังมีคลื่นลมพอสมควร และสุดท้ายคือระดับน้ำค่อนข้างสูงครับ แต่สุดท้ายยังสรุปได้ว่าสวยมาก บรรยากาศโดยรวมโอเค เรื่องห้องพักเก่าสักนิดไม่เป็นไร พ่อแม่กับน้องสาวชอบใจผมก็โล่งอก

วันแรกมาถึงขอเล่นน้ำโดดน้ำกันให้สนุกสนานเสียก่อน

มื้อเย็นกินกันที่รีสอร์ทครับ ราคาที่นี่ไม่โหดเว่อร์ มาตรฐานของรีสอร์ทระดับธรรมดาบนเกาะ ข้าวจานเดียวก็ 80-100 บาท กับข้าว 100+ ซีฟู๊ดก็ว่ากันตามชนิด รสชาติทางบ้านเขาว่าโอเคอยู่ครับ อ่อนเปรี้ยวอ่อนเค็มอันไหนก็เติมกันไป

วันถัดมาสดชื่นเหลือเกิน ฟ้าใส เมฆสวย ทะเลปิ๊งๆ เบรกฟาสต์ที่อาณาเล อาหารไม่เยอะมากแต่โอเค กินอิ่มแล้วก็มาถ่ายรูปเล่นกันตามระเบียบ

บริเวณหาดทรายแดงทางรีสอร์ทตกแต่งสถานที่ไว้ค่อนข้างร่มรื่นดี จุดเด่นคือความเป็นส่วนตัวสูงเพราะมีแค่ผู้เข้าพักที่รีสอร์ท แต่ชายหาดค่อนข้างสั้น แล้วเรื่องความสวยความใสอาจเป็นรองหาดเปิดที่อื่นๆ อยู่เล็กน้อย

วันนี้ตกลงกับพ่อว่าน่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ไปแว้นกัน คราวก่อนผมเช่าจากร้านใกล้ๆ รีสอร์ทวันละตั้งสี่ร้อย คราวนี้ร้านนั้นปิดกิจการไปเรียบร้อย เลยขอเช่ากับบังกะโลใกล้ๆ คิดวันละสองร้อยห้าสิบ (พนักงานที่รีสอร์ทเขาให้เดินมาเช่าเอง เพราะถ้าให้เขาเช่าให้จะบวกเพิ่มอีกห้าสิบบาท เขาบอกตรงๆ เลย ดีครับ จริงใจ ตรงไปตรงมา) จัดการสอยมาสองคัน ผม-แฟน-น้องสาว พ่อ-แม่ ถนนที่นี่มีหลายช่วงค่อนข้างชัน ถ้ามือไม่แข็งแบบว่าเคยแค่ขี่ไปตลาดแถวบ้านไม่ขอแนะนำ ห่วงทั้งคนและห่วงทั้งรถ แต่ถ้าเป็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ประจำไม่ถือว่ายากเย็น ผมซ้อนสามยังไปสบาย

มากับครอบครัวผมไม่อยากตะลุยมาก เลยคัดเฉพาะที่เด็ดๆ เริ่มแรกต้องอ่าวบางเบ้าครับ อยู่ถัดจากอ่าวง่ามโข่ไปอ่าวเดียว หากไม่มีมอเตอร์ไซค์เดินไปก็สักครึ่งชั่วโมง เป็นอ่าวที่ผมต้องไปทุกครั้งเมื่อเที่ยวเกาะกูด เป็นชายหาดสุดรักของผมเลยล่ะ เวิ้งอ่าวโอบล้อมด้วยแนวเขาเลยไม่ค่อยมีคลื่นลม น้ำนิ่งใสแจ๋ว สงบเงียบ บรรยากาศเพอร์เฟกต์สุดๆ ผมไม่เคยมาพักอ่าวนี้นะครับถึงแม้ชอบมากที่สุด เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องมาเที่ยวที่นี่ไม่ว่าจะนอนที่ไหนบนเกาะ

จากอ่าวบางเบ้าผมย้อนผ่านหน้าอาณาเลไปอ่าวคลองเจ้า อ่าวชื่อดังที่สุดของเกาะเพราะเป็นอ่าวแรกๆ ที่มีรีสอร์ท ชายหาดยาว ค่อนข้างเปิด เดี๋ยวนีมีรีสอร์ทไฮโซอยู่ด้วย แต่เรื่องความสวยยังไม่ติดใจผมเท่าไหร่ บนกาะกูดมีหาดสวยกว่านี้อีกแยะ แวะอ่าวคลองเจ้าสักพักก็ตรงไปน้ำตกคลองเจ้า ชื่อบอกแล้วว่าอยู่แถวอ่าวคลองเจ้านั่นไง ขี่รถเข้าไปง่ายครับ เดินเท้าต่อราว 400 เมตร ผมเคยมาที่นี่เดือนมีนาคม ตอนนั้นน้ำเยอะประมาณน้ำก๊อก! มาคราวนี้ได้เห็นภาพน้ำเยอะประมาณน้ำตกจึงเป็นอะไรที่ชื่นใจสุดๆ นักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำตลอดครับทั้งไทยทั้งฝรั่ง น้ำใสเย็นฉ่ำมาก เล่นน้ำตกคลองเจ้านานพอแล้วจึงไปต่ออ่าวตะเภา ตรงท่าเรือน้ำลึก เป็นจุดขึ้นเรือของเกาะกูดเอ็กซ์เพรส อ่าวนี้ทอดตัวยาวเหยียดมาก สีทรายจะออกแดงๆ นิดหน่อย เป็นหาดที่มีนักท่องเที่ยวน้อย ต่อให้เป็นช่วงไฮก็เถอะ พอแล้วครับ กลับมารีสอร์ทดีกว่าไม่อยากสมบุกสมบันเกินไป พอใกล้พระอาทิตย์ตกผมเอามอเตอร์ไซค์แว้นไปเก็บภาพสักหน่อยที่อ่าวคลองเจ้า ด้วยความเป็นอ่าวเปิดเลยชมได้ชัดๆ ส่วนที่อาณาเลมุมพระอาทิตย์ตกอยู่ลับหลังเขาพอดี น่าเสียดายว่าพระอาทิตย์หลบหลังเมฆ แต่ยังได้แสงเย็นงามๆ มานิดหน่อย วันที่สามยังมีมอเตอร์ไซค์ให้ใช้ถึงก่อนเที่ยง กินข้าวเสร็จเลยพาก๊วนไปจนสุดถนนเกาะกูดด้านทิศใต้ที่อ่าวใหญ่ เป็นชุมชนประมงใหญ่ที่สุดบนเกาะกูด บ้านเรือนยื่นลงไปในทะเล ใครอยากกินซีฟู๊ดสดๆ ต้องมาที่นี่เลย มีฝรั่งกรุ๊ปหนึ่งมาเดินเที่ยวกันด้วย สะพายกล้องตัวเบ้อเร่อกันทุกคน ดีใจครับที่เขาติดใจอยากมาดูวิถีแท้ๆ ของคนบ้านเรา ออกจากอ่าวใหญ่แล้วกลับไปที่อ่าวบางเบ้าอีกรอบ จริงๆ ระหว่างทางผ่านอีกหลายอ่าวอย่าง อ่าวพร้าว อ่าวตะเคียน อ่าวจาก แต่ผมว่าบางเบ้าสวยสุดแล้วล่ะ และที่บ้านชอบเหมือนกันเลยขอกลับไปที่นั่นดีกว่า แวะถ่ายรูปเล่นกันจนสักเกือบเที่ยงค่อยเอารถไปคืน เช่าครบยี่สิบสี่ชั่วโมงพอดี มื้อเที่ยงวันนี้ลองเดินมากินกันที่ฮอริซั่น รีสอร์ท อยู่บนเนินเขาริมอ่าวง่ามโข่ คนละฝั่งกับอาณาเล มาที่นี่เพราะอยากชมวิวล้วนๆ แต่อาหารค่อนข้างแพง สูงกว่าอาณาเลประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ อาหารจานเดียว 120+ ถือซะว่าเอาบรรยากาศแล้วกัน ช่วงบ่ายพักผ่อนถ่ายรูปเล่นกันไปครับ บ่ายสามผมลองหัดพายเรือคายัค เป็นความตั้งใจที่จะหัดพายเสียที เพราะเที่ยวทะเลเยอะแต่ต้องเสียโอกาสหลายจุดเพราะดันพายคายัคไม่เป็นนี่แหละ ช่วงแรกวนไปวนมา คลื่นซัดทางไหนก็ลอยเคว้งตามคลื่น จนคลื่นเริ่มเบาค่อยพอไปได้หน่อย อยู่ขั้นเริ่มต้นครับ มีโอกาสคงหัดไปเรื่อยๆ

ที่อาณาเลมีคายัคจอดริมหาดเรียงรายเลือกลำไหนตามสบาย ที่ไม่สบายคือไม้พายครับ ค่าเช่าชั่วชั่วโมงละร้อย ทั้งวันสามร้อย ใครอยากประหยัดตังค์ลองเอากาบมะพร้าวไปพายได้ก็เชิญเลย!

วันสุดท้าย ตื่นเช้ากินข้าว โบกมืออำลาอาณาเล รถของเกาะกูดปริ๊นเซสมารับเก้าโมงตรงเป๊ะ – เลทสีกหน่อยก็ไม่ได้นะ (ฮา...) ขึ้นเรือแบบสบายปลอดภัยไร้กังวล รถที่จอดไว้สภาพไหนก็อยู่ในสภาพนั้น เป็นอันปิดทริปเกาะกูดแฟมิลี่ไว้เพียงเท่านี้ครับ

สรุปแล้วเกาะกูดช่วงเดือนพฤศจิกายน ในความเห็นผมขอบอกว่าความสวยน้อยกว่าหลังจากปีใหม่ไปจนถึงซัมเมอร์อยู่พอสมควร แต่ยังต้องบอกว่าสวยอยู่เยอะมาก และเกาะกูดยังเป็นเกาะที่ผมหลงรักเต็มเปาเพราะหลายเหตุผล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผมต้องกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่นอน บางทีอาจเป็นห้าปีติดก็ได้ว่ากันโอกาสหน้า สำหรับทริปนี้แค่ทุกคนที่บ้านแฮปปี้ ผมพอใจแล้วล่ะ

อ้อ... ขากลับจากตราดแวะสวนสละสมโภชณ์ซื้อทั้งสละสดและสละลอยแก้วแช่แข็งกันด้วย แนะนำเลยที่นี่เขาขึ้นชื่ออร่อยจริงจัง พิกัดก็อยู่ในซอยวัดวังกระแจะ จากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า กทม. พอเลยตัวเมืองตราดมาสักเจ็ดกิโลจะพบซอยเข้าวัดทางซ้าย เอากลับไปฝากใครก็รับประกันว่าไม่ผิดหวังครับ ของโปรดผมเลย

----------------------------------------------------------------------------------

อยากคุยเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ

www.facebook.com/alifeatraveller

หรือ

alifeatraveller.wordpress.com

----------------------------------------------------------------------------------