เกาะช้าง 3 วัน 3 พัน | ประสบการณ์วันหยุดสุดสโลวไลฟ์ ที่ใครจะไปช่วงวันหยุดยาวต้องอ่าน!

มาตะลอนเที่ยวไปกับเรา #คู่ซี้ตะลอนโลก www.facebook.com/bestiewanderer 

 

ไป "เกาะช้าง" 3 วัน 2 คืน "3,000 บาท" ใช่ค่ะ! อ่านถูกแล้วแค่สามพันก็ได้ไปนอนชิลริมทะเล ดำน้ำดูปลา เซลฟี่กลางทะเลชิคๆที่เกาะช้างได้แล้ว

ด้วยความที่ทริปนี้มันดีมากๆจริงๆ เพิ่งกลับมาจากทริปไม่นานเลยอยากมาเล่าให้ฟังกันแบบสดๆ เผื่อจะได้ไปตามรอยกันได้ทันก่อนหน้าฝนจะมาเยือน เราเดินทางไปเกาะช้างเมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา 29 เม.ษ. - 1 พ.ค. 2017 บอกตรงๆเลยว่าตอนแรกอยากบินไปเที่ยวหลีเป๊ะ หรือภูเก็ตอีกสักรอบ แต่เพราะเป็นช่วงหยุดยาวนี่แหละ ค่าตั๋วเครื่องบินเลยพุ่งทะยานรวมราคาไปกลับแล้วเกินสามพันไปอี้ก

เราเลยเบนเข็มเปลี่ยนทางมาเที่ยวทะเลใกล้ๆกรุงเทพแทน และได้ไปเจอ โปรโมชั่นแพ็คเกจของโรงแรม VJ Koh Chang "โปรเฟรนด์จ๋าเราอยากชิล" ราคา 5,000 บาทสำหรับ 2 ท่าน (หารแล้วเหลือคนละ 2,500 บาท) แพ็คเกจรวมที่พัก 3 วัน 2 คืน ห้อง Superior Double/Twin และกิจกรรมดำน้ำ Snorkeling 1 วัน 4 เกาะ (รวมอาหารเที่ยง, อุปกรณ์ดำน้ำ, รถรับ-ส่งที่พัก, เกาะยักษ์ เกาะรัง เกาะโล้น เกาะหวาย) คุ้มขนาดนี้และใช้ได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วย เลยรีบโอนเลยจองอย่างไวเลยค่ะ (ปล. ทริปนี้เราไปเองจ่ายเอง และเห็นว่ารีสอร์ทดีและราคาคุ้มดี เลยอยากมาบอกต่อนะคะ ไม่ได้มีสปอนเซอร์จ้า)

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ (ไม่รวมค่าอาหารแต่ละมื้อ เพราะเราว่ารายจ่ายตรงนี้แต่ละคนไม่เท่ากันแน่นอน ใครชอบจัดเต็มซีฟู้ดเหล้ายาปลาปิ้งก็เตรียมตังค์ไปมากหน่อย ใครกินแค่มาม่า/ข้าวร้านตามสั่งก็เสียตังค์น้อยหน่อย หรืออยากประหยัด...บนเกาะก็มีเซเว่นอยู่เยอะมาก)

  • ค่าห้องพักที่ VJ Koh Chang 2 คืน + ทริปดำน้ำรวมอาหารเที่ยง คนละ 2,500 บาท
  • ค่าเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะช้าง และค่าน้ำมันรถไป-กลับหารกันกับเพื่อน คนละ 500 บาท

 

 

การเดินทางช่วงวันหยุดยาว รอคิวเอารถข้ามเรือเฟอร์รี่ยาววววไปค่ะ

เราเดินทางไปเกาะช้างเมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา 29 เม.ษ. - 1 พ.ค. 2017 ตรงกับวันหยุดยาววันแรงงาน ซึ่งคนส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะได้หยุดกัน เราก็คิดไว้แ้ลวหละว่ารถอาจติด คนอาจเยอะ แต่ด้วยความที่ได้โปรห้องพักราคาไม่แพงมา เลยสู้ค่ะ! ยอมไปช่วงนี้เนี่ยแหละ โดยไม่รู้เลยว่าจะไปเจอกับอะไรที่มันหนักหนากว่ารถติดเข้า... 

เราเดินทางไปเกาะช้างด้วยรถส่วนตัว ขับรถออกจากกรุงเทพประมาณ 9 โมงเช้า ถึงท่าเรือเฟอร์รี่ประมาณ 5โมงเย็น พอไปถึงก็เห็นคิวรอขึ้นเรือเฟอร์รี่เยอะพอสมควร คือหางแถวห่างออกมาจากท่าเรือประมาณ 2 กม. ตอนแรกเราคิดว่าอาจจะต้องรอคิวประมาณ 2 ชั่วโมงเต็มที่ เพราะอ่านเจอมาว่าเรือออกทุก 30 นาที แต่!!! ไม่ใช่!!! เรารอคิวเอารถขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากทั้งหมด 7 ชั่วโมง รอตึ้งแต่ 5 โมงนิดๆ กว่าจะได้ขึ้นเรือคือประมาณ 5 ทุ่มกว่าค่ะพี่น้อง!

 

เป็นการรอคิวที่เสียเวลาไปอย่างเลือกไม่ได้จริงๆค่ะ สามทุ่มแล้วเพิ่งจะได้อยู่ตรงที่เลี้ยวเข้าท่า ได้ขึ้นเรือจริงๆก็ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง สองข้างทางที่รอคิว มีห้องน้ำอยู่บ้างนิดหน่อยเป็นระยะ แต่พอดึกหน่อยประมาณสองทุ่มก็ไม่มีอาหารขายด้วยนะคะ ดีว่าเราตุนขนมและน้ำบนรถไว้นิดหน่อย ไม่งั้นต้องแย่แน่

 

 

พอขึ้นมาบนเรือ ร้านขายน้ำดื่ม/ขนมบนเรือก็ปิดไปแล้วเหมือนกัน
คำเตือนสั้นๆสำหรับคนที่จะขับรถไปเกาะช้างช่วงหยุดยาว
  • ทำยังไงก็ได้ให้ไปถึงท่าเรือให้ทันเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะช้างรอบแรก ไม่อย่างงั้นแพลนพังแน่
  • ตุนอาหาร ขนม น้ำดื่ม ไว้ทานบนรถระหว่างรอคิว
  • เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนมาเข้าคิว ไม่งั้นอาจได้ปล่อยข้างป่าแน่
  • ถ้าอยากมาแบบชิลๆ ให้เลี่ยงช่วงวันหยุดยาว หรือมาแบบไม่ต้องเอารถข้ามฟาก

 

 

VJ Koh Chang

วี.เจ. เกาะช้าง อยู่บนหาดคลองพร้าว ห่างจากท่าเรือเฟอร์รี่ประมาณ 20 นาที เราไปเห็นรูปเก่าๆของเค้ามาคือเมื่อก่อนจะตกแต่งแนวไทยๆ แต่จอนนี้เพิ่งปรับปรุงห้องพักใหม่ ทำให้น่าพักมากขึ้น ตกแต่งแนวโรงแรมวัยรุ่น เฟอร์นิเจอร์ดูมินิมอลสบายตาขึ้น

 

อย่างที่บอกรายละเอียดตอนแรก เราจองแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน สำหรับ 2 ท่าน ห้องพัก Superior Double/Twin และกิจกรรม 1 อย่าง ดำน้ำ Snorkeling 1 วัน 4 เกาะ (รวมอาหารเที่ยง, อุปกรณ์ดำน้ำ, รถรับ-ส่งที่พัก, เกาะยักษ์ เกาะรัง เกาะโล้น เกาะหวาย) หรือ นวดไทย 1 ชั่วโมง + เซ็ตอาหารเที่ยง แต่เรามากัน 3 คน เลยต้องจ่ายเพิ่มจากโปรอีก 2,000 บาท และอัพเกรดเป็นพัก ห้อง Deluxe เพิ่ม 500 บาท / คืน จะได้นอนด้วยกันสามคนในห้องเดียว

เมื่อคืนกว่าเราจะข้ามเรือมาถึงก็ปาไปเที่ยงคืนกว่า ระหว่างทางเลยแวะเซเว่นหาอะไรกินกันแล้วมาถึงโรงแรม เช็คอินเสร็จก็สลบกันเลย! จริงๆแล้ววันรุ่งขึ้นเรามีจองทัวร์ไปดำน้ำไว้ แต่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางกันมาก เลย ยอมขอแคนซิลทัวร์สน็อกเกิ้ล บอกเค้าว่าไม่ไปดีกว่า ถึงจะไม่ได้เงินคืนก็ไม่เป็นไร ฝืนตื่นมาขึ้นรถไปสน็อกเกิ้ลตอน 8 โมงเช้าไม่ไหวกันจริงๆ รีวิวนี้เลยไม่มีภาพดำน้ำมาให้ทุกคนได้ดูกันเลย

 

เราชอบห้องน้ำของเค้ามากนะ ตกแต่งกระเบื้องผนังในห้องน้ำด้วยลายหินอ่อน สลับกับลายไม้สีอ่อน ดูสะอาดมินิมอลสบายตา

 

ตื่นเช้ามาสามารถเปิดประตูระเบียงออกมารับลมรับแสงแดดกันหน่อย แต่ห้องนี้ไม่เห็นวิวทะเลนะ 

 

ต่อไปจะพาไปดูอาหารเช้าของที่นี่ จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ตัวเลือกอาหารไม่เยอะเท่าไหร่ แต่มีมาค่อนข้างครบตามเบสิกที่เราๆต้องการกันตอนเช้าเช่น ไข่ต่างๆ สามารถสั่งให้ทำไข่ดาว Omelet, Scrabble egg ได้ มีแฮม มีเบค่อน ไส้กรอก ขนมปังและแยมต่างๆ ส่วนอาหารจะมีอยู่ 3-4 อย่างสลับเปลี่ยนไปแต่ละวัน วันแรกที่เราไปทานมี ข้าวผัด ข้าวต้ม ผัดผัก และแกงอีกหนึ่งอย่าง 

 

ส่วนพวกน้ำก็จะมีน้ำส้ม นมสด ชา และ กาแฟ รวมถึงสลัดและผลไม้เช่น สัปปะรด มะละกอ และแตงโม ถึงอาหารจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ทีเด็ดคือวิวของห้องอาหารที่ชิลมากๆ นั่งกินไปมองวิวทะเล รับลมทะเลไปด้วย

 

กินอิ่มแล้วไปเดินเล่นที่ชายหาดหน้าโรงแรมกันนะ ช่วงกลางวันหาดหน้าโรงแรมจะเงียบสงบมาก เหมาะกับการพักผ่อนสุดๆ แต่พอแดดร่มลมตก ทางโรงแรมจะนำโต๊ะ เก้าอี้มาเซต หน้าหาดเพื่อจัดเป็นบาร์บีคิวดินเนอร์ริมทะเล



 

ถัดจากโรงแรมไปนิดนึง จะมีชิงช้าห้อยอยู่ที่ต้นมะพร้าวให้นั่งชิลรับลม นั่งถ่ายรูปกันด้วย

 

น้ำทะเลบริเวณหน้าโรงแรมมีความใสดีแล้วก็สะอาด เล่นได้ค่ะ แต่ว่าระดับน้ำไม่ลึก ถ้าใครชอบว่ายน้ำทะเลอย่างจริงจังคงต้องเดินลึกลงไปในทะเลไกลนิดนึง ส่วนๆสาวๆอย่างเรา ได้เอาเท้าแตะนิดๆ นั่งแช่หน่อยๆ ถ่ายรูปเล็กน้อย ก็ทนร้อนไม่ไหวมานอนชิลที่เตียงริมสระแล้วค่ะ :)

 

 

ทานอาหารทะเลถูกๆอร่อยๆ ที่ "ร้านภูทะเลซีฟู้ด"

บอกตามตรงว่าตัดสินใจมาลองที่นี่ เพราะเห็นรูปในรีวิวนึงแล้วร้านนี้วิวสวย ตกแต่งร้านดี พิกัดอยู่ซอยโรงแรมรามายานา ปากซอยมีป้ายบอกชัดเจน ขับตรงมาเรื่อยๆจากโรงแรมที่เราพักร้านอยู่ซ้ายมือ ถนนแคบไปนิดที่จอดรถหายาก แต่เรามาช่วงประมาณบ่ายสองเลยสบายๆ คนไม่เยอะแล้ว

 

มาดูเมนูอาหารและราคาคร่าวๆกันบ้าง สำหรับร้านอาหารทะเลที่อยู่บนเกาะแบบนี้ เราว่าร้านนี้ราคาไม่สูงเลยนะคะ เมนูส่วนใหญ่เริ่มที่ราคาจานละร้อยนิดๆ แถมอาหารยังสด และที่สำคัญคือทำเร็วมากๆ รอไม่ถึง 15 นาที อาหารก็ทะยอยมาเสิร์ฟแล้ว

 

อาหารที่สั่ง ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ยำทะเล หอยเชลอบเนย หอยนางรมทรงเครื่อง หอยตัวไม่ใหญ่แต่สดค่ะ เราชอบ น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสชาติกลางๆ ไม่แซ่บไม่เผ็ดเกินไป โดยรวมอาหารอร่อยถูกปากดีค่ะ น้องๆในร้านก็น่ารัก บริการดี


 

ถ้าใครไม่กลัวร้อน จะมานั่งรับลม ถ่ายรูปตรงนี้ก็สวยดีนะคะ ไม่บอกดูไม่ออกเลยว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของเกาะช้าง


เดินเล่นริมหาดทรายขาว

หลังจากกินอิ่มกันแล้ว เราขับรถไปเดินเล่น นั่งเล่นกันต่อที่หาดทรายขาว บริเวณนี้ทรายละเอียดนุ่มมาก น้ำน่าว่ายเล่น คลื่นไม่แรง นักท่องเที่ยวจะหนาแน่นกว่าหาดคลองพร้าวพอสมควร มีร้านอาหาร มีเซเว่น และโรงแรมอยู่เยอะมาก

 

เราอยู่ที่นี่กันจนเกือบค่ำ ก็กลับไปที่โรงแรม เพื่อดินเนอร์ริมหาดกันสักน่อย

 

 

ดินเนอร์ริมหาดที่ VJ Koh Chang

ดินเนอร์ที่โรงแรม วีเจ เกาะช้าง จะมีทั้งแบบสั่งจากเมนู A lar carte ธรรมดา ราคาเริ่มที่จานละประมาณ 2 ร้อยบาทขึ้นไป หรือจะเลือกทานเป็น Seafood BBQ เค้าจะมีขายแบบเป็นเซ็ต ถ้าจำไม่ผิดเซ็ตละ 800 บาท เซ็ตนี้ได้ทานสลัด ซีฟู๊ดย่าง (เราได้กุ้ง ปลา ปลาหมึก) และไอศกรีม

 

จากที่เราลองทาน เราแนะนำให้ดินเนอร์ที่นี่นะ ถ้าใครอยากได้บรรยากาศโรแมนติก ริมหาด เห็นพระอาทิตย์ตกดินสวยๆเงียบๆ ไดด้มีเวลาอยู่กับคนตรงหน้า แต่เรื่องอาหารเราว่าธรรมดาค่ะ ไม่ได้ประทับใจเป็นพิเศษ บรรยากาศก็จะเงียบๆหน่อย ไม่มีเพลงหรือวงดนตรีเล่นสด (แต่รีสอร์ทข้างๆมีดนตรีสดนะ ทำให้เราได้นั่งฟังวงนั้นไปกับเค้าแหละ 555)


 


นั่งชิลรอบดึกที่ "สบายบาร์"

ถ้าใครกำลังมองหาที่นั่งชิล ฟังเพลง จิบค้อกเทลริมทะเล และดูโชว์ควงกระบองไฟ ที่เกาะช้าง รับรองว่าที่ที่เราจะเสิร์ชเจอเป็นที่แรกๆก็คือ สบายบาร์นี่แหละค่ะ ก็ที่นี่มีครบทุกอย่างที่ว่ามา แถมยังฮ็อตสุดๆ ที่นั่งเต็มตั้งแต่หัวค่ำ ใครอยากจับจองที่ดีๆ แนะนำว่ามาตั้งแต่ตอนพระอาทิตย์ตกเลยดีกว่าเนาะ จะได้นั่งยาวๆไปทีเดียว

จากที่ลองสั่ง Cocktails มาลองจิบสามแก้ว บอกได้คำเดียวว่าไม่สะเทือนค่ะ 5555 ผสมแอลกอฮอล์มาเจือจางมาก แต่ก็รับได้กับราคาแก้วละร้อยกว่าบาทนะคะ แต่หอยนางรมสดของร้านนี้คือเด็ดเลยนะ ราคาตัวละ 100 บาท ขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือ สดหวานตัดกับน้ำจิ้มแซ่บๆ เข้ากันดีมาก

 

ที่สบายบาร์จะมีโชว์ควงระบองไฟตอน 3 ทุ่ม และ 4 ทุ่ม ซึ่งเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะนอกจากจะควงได้ตื่นเต้นตามสเต็ปต่างๆของเค้า ดีเจยังเปิดเพลงได้มันส์เร้าอารมณ์ เข้ากับโชว์มากๆ ต้องมาลองดูจริงๆ!

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เราเข็ดกันมากสำหรับคิวรอขึ้นเฟอร์รี่ เราเลยตื่นกันแต่เช้าตรู่ เพื่อมารอขึ้นเรือรอบแรกซะเลย 55555 ซึ่งก็สำเร็จค่ะ! เรือรอบแรกไม่ต้องรอคิวยาวเลย แป้บๆก็ได้ขึ้นตรงตามเวลา ออกมาจากเกาะถึงฝั่งตอนประมาณ 9 โมงกว่า

 

สรุปสำหรับการมาเกาะช้างครั้งแรกของเราในครั้งนี้...

ถ้าถามว่าประทับใจเกาะนี้มั้ย ก็อยากตอบตามตรงว่าโอเค แต่ไม่ได้ว้าว ขอหักคะแนนเรื่องเรือเฟอร์รี่ที่เอารถข้ามฟากแบบติดลบ เพราะเราเคยไปเกาะสมุยมาโดยใช้เรือเฟอร์รี่เอารถข้ามฟากมาเหมือนกัน ที่นั่นเค้าระบบการจัดการดีกว่า ถึงรถจะเยอะ แต่เค้าก็มีบริการให้จองคิวล่วงหน้าผ่านทางว็บไซต์ ทำให้เราทราบแน่นอนว่าเราควรมาถึงท่าเรือกี่โมง และจะได้ขึ้นประมาณตอนไหน ต่างจากตรงเกาะช้างที่ต้องไปตายเอาดาบหน้าลูกเดียว ส่วนเรื่องอื่นๆเช่นโรงแรม ร้านอาหาร บรรยากาศทะเลและชายหาดที่นี่คือว่าสวย ธรรมชาติยังดีอยู่นะคะ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีก (แบบที่ไม่ตรงกับวันหยุดยาวค่ะ 5555555)

 

ติดตามอ่านรีวิวอื่นและดู VDO ท่องเที่ยวแบบฉบับสองสาวคู่ซี้ได้ที่ช่องทางด้านล่าง

Facebook: https://www.facebook.com/bestiewanderer/