เป้สองใบ... พยายามไปเกาะพยาม

เกาะพยามเป็นจุดหมายในใจมาหลายปี ปีนี้มีโอกาสได้ไปเยือนสักที ที่กล่าวว่า "เกาะพยาม ที่ไม่ต้องพยายาม" คือมันไปง่ายมาก ไม่แพงมากด้วย

ติดตามเรื่องราวการเดินทางของพวกเราได้ที่ https://www.facebook.com/PaeSongBai

เริ่มต้นเดินทางจาก กทม --> ระนอง ระยะทาง 568 กิโลเมตร รวมระ

ยะเวลา 6 ชม. ครึ่งโดยประมาณ ใครสะดวกขับรถไปก็ดี นั่งรถทัวร์ก็แล้วแต่สะดวก (นั่งรถทัวร์ไปดีกว่านะ ไม่เหนื่อย)

ทางที่เราขับไปก็คือเส้นถนนพระราม 2 (ธนบุรี-ปากท่อ) ลงภาคใต้ แล้วไปตัดเข้าระนองที่อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร ระวังนิดนึงช่วง ชุมพรไประนองตอนเช้ามืดหมอกลงหนามาก (ระยะมองเห็น 50 ม.)

ถึงตอนเช้าพอดีแนะนำว่าถ้าไม่ร้อนจนเกินไปให้ไปอาบน้ำพุร้อนที่ บ่อน้ำร้อนธรรมชาติรักษะวาริณก็จะดีมากครับ ต่อด้วยไปทานอาหารเช้าติ่มซำที่ร้าน โอชาติ่มซำ ทางไปท่าเรือปากน้ำ

แล้วก็ไปจองตั๋วเรือ ตั๋วเรือมี 2 ราคาครับ

1. เรือ speed boat --> 350 บาท / คน ออกทุก 1 ชม. ระยะเวลา 40 นาทีถึงเกาะ
2. เรือเมล์ --> 200 บาท / คน ออกแค่ 2 เวลา 9:30 กับ 14:00 ระยะเวลา 2 ชม. ถึงเกาะ

ถ้านำรถไปทางท่าเรือไปเกาะพยามก็มีบริการรับฝากรถวันละ 100 บาท เช่นกันครับ

ไปถึงเกาะก็แนะนำให้เช่ามอเตอร์ไซต์แว๊นเลยครับ 200 บาท/วัน หาที่พักราคาถูกกันไป ใครจองแล้วก็ไปที่พัก check-in ได้เลย

แม่แมวจองคืนแรกที่ Bamboo Bungalow ไว้ ราคา 800 บาท (แล้วแต่ช่วง)
บ้านพักดูดีครับ มีแต่พัดลมนะ No Air Condition

 

แล้วบ่ายๆ เราก็ไปหาที่เล่นน้ำทะเล แนะนำให้ไปหาดเขาควาย เพราะที่นั้นจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะครับ อากาศร้อนคร้บ แต่ลงน้ำก็เย็นสบาย ตอนเย็นชมพระอาทิตย์ตกสวยสุดๆ ฟินกันไป

อาหารเย็นตาม Resort หรือ Bungalow จะแพงกว่าตามร้านทั่วไปหลายเท่าตัวนัก ตกมื้อละ 500++ แน่ๆ อาหารตามสั่งข้างนอกก็มื้อละ 150++ สำหรับ 2 คน น้ำดื่ม 500

cc 30 บาท ก็เกาะนิถ้าพกน้ำไปได้ก็จะดีนะ

วันรุ่งขึ้นเราก็แว๊นซ์ตามหาดต่างๆ ไปดูหมู่บ้านมอร์แกน ทางโหดมากทีเดียว ไม่มีถนนลุยทางดินเข้าป่าอย่างเดียว กลับมายางรถแตกครับ เปลี่ยนอย่างเดียว ที่นี่ ร้านซ่อมมอเตอร์ไซต์น่าจะเป็นอะไรที่ดี สำคัญมาก เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้มอเตอร์ไซต์ 100 %

แว๊บไปกินกาแฟที่ The Blue Sky Resort รีสอร์ทสุดชิคบนเกาะ บรรยากาศสวยมากนะ หรูหรามีระดับทีเดียว เราสองคนเลยจัดน้ำผลไม้ปั่นคนละแก้ว ดูเหมาะสมกับฐานะ (ยากจน) อย่างเรา และเนียนถ่ายรูปกันไปพอหอมปากหอมคอ (ร้อนมากเหงื่อไหลเป็นน้ำ)   ตกบ่ายเราก็ย้ายที่พักไป Kwangpeeb Bay Resort ณ หาดกวางปีบ หาดกวางปีบเป็นหาดที่อยู่ท้ายเกาะ การเดินทางค่อนข้างร๊อคกันนิดนึง คือ ทางดินหัวสสั่นหัวคอนกันไป จอดรถด้านหน้าและเดินเท้าไปหาดอีกประมาณเกือบ 1 กิโล ซึ่งจะมี Resort นี้ที่เดียว บ้านพักติดชายหาด มองออกไปก็ทะเล ฟินมาก ห้องพัดลม (อีกแล้ว) No Air Condition ราคา 2000 บาท (ถือว่าแพงไปหน่อย แต่คุ้มมากมายกับบรรยากาศ) ที่พักเตียงนอนมีมุ้งให้พอโรแมนติกได้ดี หาดที่นี่ส่วนตัวมากๆ ไม่ค่อยมีคน น้ำใสมากเพราะเป็นจุดดำน้ำตื้น มีปะการังเยอะ เล่นน้ำควรระวัง จิบเบียร์ไปเล่นน้ำไป สุดๆ ครับ ตัวริ้นกัดสิครับ เจ็บด้วย แพ้อีก แดงเป็นตุ่มเต็มตัว แนะนำให้พกสเปรย์หรือยาทากันแมลงหรือยุงไปด้วยครับ เยอะมาก

 

ที่นี่ตอนกลางคืนน้ำจะซัดแรงมากๆ คลื่นซัดใต้ถุนบ้านเสียงค่อนข้างดัง

 บวกกับมุ้งเอาแมลงไม่อยู่โดนกัดกันไป แถมที่ Resort มีเวลาเปิดปิดไฟด้วยอีก (เปิด 18:00 - 2:00) เสียดายวันที่เราไปไม่เจอนกเงือก เจ้าของรีสอร์ทเล่าว่าตอนเช้าๆ จะพบนกเงือกมานั่งกินอาหารเช้าด้วย 55555

วันรุ่งขึ้นเราก็ไปไหว้พระวัดเกาะพยาม เป็นวัดเดียวในเกาะและ

มีโบสถ์กลางทะเล และเดินทางด้วยเรือเมล์เที่ยวบ่าย 2 กลับมาพร้อมกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่ต้องพยายามก็สามารถไปได้ ไม่ต้องหรูหรา ไม่ต้องแพงแบบใครๆ เค้า (เพราะงบน้อย)

ไปเที่ยวครั้งนี้ได้อะไรหลายอย่าง พอเพียงอยู่แบบง่ายๆ ก็อยู่กันได้ Less Air Condition สัก 2-3 วัน รูขุมขนจะได้มีเหงื่อไหลมาบ้าง อาหาร - น้ำดื่ม สำคัญ มองกลับมาเรากินทิ้งกินขว้างไปเท่าไหร่ ไฟเราใช้กันเปลืองยังไง internet ไม่ค่อยมีก็ดีไปอย่าง ตัดขาดสิ่งวุ่นวายจากโลกภายนอก ได้คุยอะไรเรื่อยเปื่อยกับคนข้างๆ มากขึ้น

สุดท้ายก็ขอบคุณแม่แมวเพื่อนร่วมทางที่จัดทริปให้และอยู่เคียงข้างกันเสมอ ขอบคุณที่ทนเวลาเค้างี่เง่า (ก็มันร้อนนินา) ไว้เค้าจะพาไปที่สบายๆ บ้างนะ

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ แล้วพบกันใหม่ทริปต่อไป จุ๊บๆ 

https://web.facebook.com/PaeSongBai/

#เป้สองใบกับเราสองคน ‪#‎เกาะพยาม‬ ‪#‎อ่าวเขาควาย‬