อ้าวก็ผมอยู่ภูเก็ตนี่นา วันไหนอุณหภูมิ 22-23  องศากับมีลมนิดหน่อยก็ฟินเหมือนอยู่บนยอดดอยแล้ว  คนแถวบ้านนี่เอาเสื้อกันหนาวออกมาสวมใส่กันเลยทีเดียว … ตอนนี้ลมหนาวยังมาไม่ถึงก็ตากแอร์ไปก่อน อิอิ

ถึงหน้าหนาวทีไรก็นึกถึงวันหยุดยาาาาาวครับ เพราะทำงานหนักมาเกือบตลอดปี (หัวหน้าอาจไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้ 555) … แต่ปีนี้มันช่างรันทดซะจริง ทะลึ่งเดินทางไปหลายทริปตั้งแต่ต้นปี จะเอาวันลาที่ไหนเหลือไปเที่ยวไกล ๆ ได้อีกล่ะเนี่ย … แต่แล้วฟ้าก็มาโปรดเมื่อ Love Andaman ร่วมกับ Air Asia  จัดทริปพิเศษไปเกาะรอกช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ผมเองก็พลอยได้เกาะเรือไปกับเขาด้วย เย้ ๆ  … นี่จึงเป็นที่มาของ  Vacation time แบบ mini ­ของผม

ก่อนออกเดินทาง ขอแนะนำช่องทางติดตามผลงานหน่อยนะคร้าบ 
FB 9Mot-Photography 
Youtube 9Mot-Photography 
instagram @9mot  
blog  www.9mot.com

ปกติแล้วการเดินทางไปเกาะรอก  มักจะต้องมาขึ้นเรือที่เกาะลันตาซึ่งไม่สะดวกนักเพราะต้องเดินทางหลายต่อและใช้เวลามาก  ยิ่งถ้าเริ่มจากภูเก็ตด้วยแล้วยิ่งเหนื่อยและเสียเวลามาก … แต่เมื่อทาง Love Andaman เปิดเส้นทางตรงโดยใช้  Speed boat นำเราจากท่าเรือ boat lagoon ของภูเก็ตมุ่งตรงไปยังเกาะรอก  ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นและไม่ต้องเดินทางด้วยรถไกลจนเกินไป … ในวันที่คลื่นลมไม่แรงมากจะใช้เวลาจาก boat lagoon ไปยังเกาะรอกไม่เกิน 2 ชม.  ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการไปเที่ยวเกาะสิมิลันหรือเกาะตาชัยอันโด่งดัง  เพียงแต่สิมิลันกับตาชัยต้องนั่งรถยาวจากภูเก็ตไปยังเขาหลักแล้วไปต่อเรืออีกราว 1 ชม.เศษ   ในขณะที่การไปเกาะรอกนั่งรถจากโรงแรมมาท่าเรือแค่อึดใจ จากนั้นก็นั่ง speedboat กันรวดเดียวถึงเกาะรอกเลย

แต่อย่างที่บอกครับทริปนี้จัดขึ้นเป็นพิเศษ  เราจึงออกเดินทางกันจากท่าเรือน้ำลึกเพราะผู้ร่วมทริปส่วนใหญ่พักกันที่  Amatara Resort & Wellness ซึ่งอยู่ ณ แหลมพันวาใกล้กับท่าเรือน้ำลึกนั่นเอง  สำหรับพาหนะวันนี้เป็นเรือแบบอลูมิเนียมแบบเดียวกับที่ทาง Love Andaman กำลังสั่งต่อเพื่อนำมาประจำการในช่วง high season ปีนี้  เรือจะเบากว่าเรือไฟเบอร์ทำให้เดินทางได้เร็วขึ้น และยังลดแรงปะทะของคลื่นได้ดีกว่าด้วย

ว่าจะเขียนแบบมินิรีวิว แต่เอาเข้าจริงข้อมูลเริ่มเยอะ … แชว๊ป  ตัดภาพไปที่การเดินทางของเราเลยดีกว่า  วันนี้มีลมพอสมควร หลาย ๆ ท่านที่ไม่ค่อยได้เผชิญคลื่นก็เลยเกร็ง ๆ กันหน่อย แต่โชคดีไม่มีใครให้อาหารปลาแม้แต่คนเดียว 555  … สำหรับคนกลัวคลื่นผมแนะนำให้นั่งท้ายเรือครับสบายกว่าหัวเรือเยอะเลย … นั่งเรือมาได้ราว 1 ชม. เรือก็จอดให้ลูกทัวร์อย่างเรา ๆ ได้เข้าห้องน้ำกันที่หมู่เกาะห้า เพราะถ้าเรือแล่นอยู่จะไม่ค่อยสะดวก (เข้าห้องน้ำในเรือนะครับ ไม่ใช่บนเกาะ) นอกจากนี้คนที่ไม่เข้าห้องน้ำก็ได้ชมและถ่ายภาพหมู่เกาะห้าด้วย

เรามีแผนจะมาดูปะการังน้ำตื้นกันที่นี่ช่วงบ่ายระหว่างเดินทางกลับครับ

เมื่อเรือนำเรามาถึงร่องน้ำระหว่างเกาะรอกในและนอกปุ๊ป  ทุกคนก็ปรบมือดัง ๆ ให้กับกัปตันในขณะที่ไกด์ประจำกรุ๊ปเริ่ม  brief โปรแกรมและคำแนะนำต่าง ๆ … จากนั้นเรือก็ลดความเร็วนำเราแล่นผ่านน้ำใสน้ำเงินสลับฟ้า  โดยมีเสียงโอ้วสลับกับเสียงกดชัตเตอร์ของเหล่าช่างภาพแบบไม่ขาดสาย เพราะวันนี้อากาศดีฟ้าเปิด สีของทะเลจึงสวยจับใจจริง ๆ

เกาะรอกทั้งสองห่างกันราว 100 เมตร กั้นด้วยร่องน้ำใส ๆ แบบนี้

เมื่อขึ้นถึงฝั่งไกด์ก็ย้ำพวกเราทุกคนอีกครั้งในเรื่องของข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์เกาะรอกแห่งนี้ให้สวยงามอย่างยั่งยืน  และน่าดีใจที่ได้ยินคำยืนยันว่าทาง Love Andaman จะให้ความสำคัญกับเรื่องการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวต่อวันไม่ให้มากเกินไป  อย่างช่วง high season ก็จะออกเรือไม่เกิน 3 ลำ  ซึ่งจะช่วยให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักทะเลไปได้อีกนานแสนนาน

“ปรื้ดดดด” สมองทำการ save ข้อควรปฏิบัติสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เสร็จแล้วก็ได้เวลาถ่ายภาพแว้ว …

หาดขาวน้ำสวยจริง ๆ

ช่วงนี้ยังถือเป็นต้นฤดูกาลท่องเที่ยว  ซึ่งหมายความว่าเพิ่งผ่านฤดูมรสุมมาหมาด ๆ ดังนั้นบนหาดจะยังคงมีเศษขยะที่ถูกคลื่นลมพัดมาสะสมอยู่บ้าง  แต่สิ่งรกตาเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงไปหลังจากที่มีการทำความสะอาดและไม่มีของใหม่มาเติม … หากมองข้ามเรื่องนี้ไป  เกาะรอกเป็นอีกเกาะที่หาดทรายขาวละเอียดมากทีเดียว  อีกทั้งชายหาดก็มีความยาวพอสมควร   ทำให้พื้นที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวไม่ต้องไปกระจุกตัวกันมากเกินไป

ข้อดีอีกอย่างคือร่มไม้บนเกาะรอกเยอะเหลือเกินครับ  แค่หน้าหาดยังร่มรื่นมาก ๆ  ถ้าเข้าไปสำรวจด้านในผมคิดว่าป่าที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์มากแน่ ๆ  แต่รอบนี้ขอมาเก็บวิวบนหาดกับน้ำทะเลก่อนนะครับ

สมบูรณ์ไม่สมบูรณ์ดูได้จากขนาดของลูกจระเข้ตัวนี้ครับ (ไม่กล้าเขียนชื่อจริง อิอิ)

เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพได้สักพักก็ได้เวลาอาหารเที่ยง  ซึ่งทาง Love Andaman ก็ให้บริการแบบไม่น้อยหน้าใคร … ลืมภาพผัดผักรวมกับสปาเก็ตตี้ที่มักเสิร์ฟตามทัวร์ต่าง ๆ ไปได้เลย  เพราะเจ้านี้เขามี line อาหารน่าสนใจกว่านั้นมาก  ถ้าพี่แกยกภัตตาคารมาได้คงทำไปแล้ว แต่นี่ต้องหอบหิ้วของทั้งหมดมาจากฝั่งและยังต้องนำขยะกลับไปทิ้งด้วยก็เลยออกมาในรูปแบบ premium buffet line แทน .. ส่วนขนมหวานตบท้ายกับเครื่องดื่มก็หลากหลายมากครับ เลือกเอาตามใจชอบเลย

บ่ายวันนี้เรามีโปรแกรมดำน้ำกันที่หน้าเกาะรอกนอกครับ    นั่งเรือผ่านน้ำใสราวกระจกออกไปแป๊ปเดียวชนิดตดไม่ทันหายเหม็นก็ถึงจุดดำน้ำแล้ว  ซึ่งจะว่าไปก็มีให้เลือก 2-3 จุดเห็นจะได้ … อันที่จริงปะการังแถบนี้ยังสวยและสมบูรณ์มาก แต่จุดผูกทุ่นยังมีไม่เยอะ ก็เลยลงดูปะการังได้เฉพาะจุดที่มีทุ่นให้ผูกเรือเท่านั้น

ระหว่างนั่งเรือไปก็เก็บภาพวิวจากบนเรือได้ไม่เบื่อเลย

เรามาถึงจุดดำน้ำตอนช่วงน้ำขึ้นพอดี  ทำให้ระยะการถ่ายภาพใต้น้ำด้วยกล้อง Go Pro ของผมค่อนข้างห่างจากปะการังไปหน่อย  อะไรที่อยู่ไกล ๆ ก็กลายเป็นสีฟ้าไปหมด  ภาพที่ออกมาจึงสวยและดูน่าตื่นตาน้อยกว่าที่เห็นมาก … แต่ยืนยันได้เลยว่าปะการังที่นี่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ดาวทะเล ดอกไม้ทะเลและเจ้านีโม่มีให้เห็นเยอะเลย  ส่วนปลาก็มีหลากหลายทีเดียวเชียว

(เนื่องจากมีแบตเตอรี่จำกัด ผมก็เลยถ่าย VDO อย่างเดียว  คอยชมท้ายรีวิวครับ รับรองไม่ผิดหวัง อิอิ)

ตกบ่าย  เมฆฝนเริ่มก่อตัว  เราจึงปรับแผนเล็กน้อยด้วยการยกเลิกดำน้ำ ณ อีกจุดใกล้ ๆ กัน  เพื่อจะไปดำที่หมู่เกาะ 5 ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างเส้นทางกลับแทน … เรือย้อนกลับไปรับเพื่อน ๆ บางคนที่เลือกพักผ่อนบนหาด  จากนั้นจึงมุ่งหน้ากลับไปยังภูเก็ต  โดยมีกลุ่มเมฆฝนล้อมรอบเรือของเรา

ขากลับผมย้ายมานั่งค่อนมาทางด้านหลังเพราะแรงกระแทกจากคลื่นจะน้อยกว่า …. สักอึดใจใหญ่ ๆ เราก็มาถึงหมู่เกาะห้า  แต่สภาพอากาศดูไม่ค่อยดี น้ำแรงเนื่องจากมีลม  กัปตันจึงแนะนำให้เราเดินทางกลับเพื่อความปลอดภัย  ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย   เราจึงมุ่งหน้ากลับท่าเรือน้ำลึกของภูเก็ตทันที

น้ำแรงเกินไปและมีทีท่าว่าฝนจะตกลมแรง จึงได้แค่ถ่ายภาพหมู่เกาะห้าไว้เป็นที่ระลึก

สุดท้ายแล้วจริงๆ ขอฝาก MV – Vacation time ที่ผมทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่มีกับทริปนี้ครับ  หากชอบ VDO ก็อย่าลืม subscribe channel ของ “9Mot Photography” ด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาด VDO สวย ๆ แบบนี้ที่จะมีออกมาให้ชมเรื่อย ๆ