เกาะสมุย ครั้งแรก ของคนสุราษฎร์ธานี

ที่เกาะสมุยมันมีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป ที่ทำให้คุณนั้นต้องติดใจมาชวนผม

ก็ไม่รู้มีดีอะไรเหมือนกัน อยากรู้ไปดูพร้อมๆกันเลยค่าาาา

บอกก่อนเลยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการมาเกาะสมุย น่าแปลกใจมั้ยล่ะ เป็นคนสุราษฎร์ธานี เกิดที่สุราษฎร์ธานี บ้านก็อยู่สุราษฎร์ธานี แต่ไม่เคยมาเที่ยวเกาะสมุยเลย 555 ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาเที่ยวแต่อย่างใด เรามางานขึ้นบ้านใหม่ที่เกาะสมุยกัน ถ้าไม่มีงานนี้คงไม่ได้มาอ่ะเนอะ 555

เราให้เพื่อนที่เกาะสมุยทำการจองเรือไว้ให้ เพื่อไม่ให้ล่าช้าต่อการขึ้นเรือ จองรอบ เที่ยงตรง แต่แล้วเราก็สายจนได้ ดังนั้นจึงต้องทำการซื้อตั๋วใหม่ และรอคิวตามลำดับ สรุปได้รอบ เที่ยงครึ่ง ดีที่ไม่ต้องคอยนานเท่าไหร่ก็ได้ขึ้นเรือเลย เราเดินทางโดยรถยนต์ ตั๋วที่ได้มาจะเป็นบัตรแข็งๆ เหมือนบัตร ATM จำแนกสีไว้ สำหรับผู้ขับ และผู้โดยสาร จำไม่ได้แล้วใครสีอะไร และคนขับสามารถขับรถขึ้นเรือได้เลย แต่ผู้โดยสารคนอื่น ต้องเดินขึ้นเรือเอง แต่นั่นก็ไมได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด

 

เรือที่เรานั่งไป ลำใหญ่มากกกกกกกกกกก บรรจุทั้งคนและรถไปได้จำนวนมากเลยทีเดียว แต่อันนี้ก็ยังไม่น่าตื่นเต้นเท่าทะเลอันกว้างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า น้ำทะเลสวยมากจริงๆ ขนาดที่ท่าเรือดอนสักยังสวยขนาดนี้ แล้วเกาะสมุยจะขนาดไหน !!!  ภาพนี้ถ่ายจากท่าเรือดอนสัก ถ่ายเรือลำอื่นที่อยู่บริเวณนั้น

 

เราใช้เวลาจากการนั่งเรือ จากท่าเรือดอนสัก-ท่าเรือเกาะสมุย ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นเวลายาวนานพอสมควร แต่ไม่ได้ทำให้เราเบื่อเลย เพราะได้นั่งมองวิวตรงข้างหน้าได้อย่างเพลิดเพลิน ภายในเรือก็สะดวกสบาย เป็นห้องแอร์ มีเก้าอี้ให้ผู้โดยสารนั่ง มีขนม ข้าว จำหน่ายภายในเรือ และมีชั้นดาดฟ้าบนเรือที่สวยมากๆ

นี่คือชั้นดาดฟ้า มีเก้าอีให้นั่งมองดูวิว และถ่ายรูปชิคๆได้

 

เมื่อถึงเกาะสมุย ก็ตามหาที่พักเนื่องจากไม่ได้จองที่พักล่วงหน้าไว้ ก็ขับรถตามหาที่พัก ที่ติดทะเล และใกล้งานที่เราจะไปกันคืนนี้ และที่พักที่หาได้คือ ท้องพลู รีสอร์ท มีหลายราคา เริ่มต้นที่300-2,000 กว่าบาท เราเลือกห้องที่ติดริมทะเล ในราคา 1200 บาท  

ที่พักของเรา เป็นบ้านไม้ 1 หลัง ด้านหน้าจะเป็นทะเล ด้านข้างจะมีต้นไม้ ดอกไม้นานาชนิด ส่วนด้านหลังจะเป็นที่พักหลังอื่นๆ ที่พักเราจะเป็นหลังแรกสุดที่ติดกับชายหาด

 

ด้านหน้า จะเป็นบรรได้ปูนเล็กๆ เหมาะสำหรับวางรองเท้า มีประตูกั้นเล็กๆ ก่อนเข้าด้านใน น่ารักมากค่ะ และก่อนขึ้นบรรไดจะมีแป๊ปน้ำ ไว้สำหรับล้างเท้าด้วย

และเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ถึงกับต้องร้อง ว้าวววว เสียงดังๆ เพราะมันมีสองเตียงค่ะ ซึ่งใหญ่มากๆด้วย ราคานี้กับเตียงใหญ่สองเตียงคุ้มสุดๆ แต่ก็นั้นแหละ ใครจะนอนว่ะ มากันแค่นี้ 555 มีผ้าห่ม หมอน ผ้าขนหนู ครบครัน แถมเหลือเฟือด้วย 555 หมอนนี่นุ่มมากอย่าบอกใคร ผ้าห่มก็อุ่นมาก นอนหลับสบายเลย ลืมบอกไป ที่พักของเราเป็นห้องแอร์ด้วยค่ะ หลับกันยาวเลยทีนี้ อิอิ   ภายในห้อง มีทีวี ชอบผ้าม่านของที่นี่มากเลยค่ะ สีขาวมองแล้วอบอุ่น   แต่เอ๊ะ สังเกตุกันมั้ย จะมีประตูอีกประตู ข้างทีวี เปิดออกไปดู เป็นห้องน้ำ ไม่ได้ถ่ายนะค่ะ ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นฝักบัวน้ำอุ่น มีสบู่ให้ 2 ก้อน แล้วก็มีชักโครก กระจก แค่นั้นค่ะ แล้วก็มีประตูอีกประตู ทำไมมันมีเยอะแยะจังว่ะ 555 พอเปิดอีก ก็เจอ ห้องครัวค่ะ   ไม่มีอะไรมาก ไม่มีโต๊ะกินข้าว มีแค่เก้าอี้ 1 ตัว และอ่างล้างจาน และก็ราวแขวนผ้า เหมือนจะไม่มีใครใช้ห้องครัวนี้สักเท่าไหร่ มันดูกว้างมาก น่าจะทำห้องนอนได้สักห้อง 555 มึงจะเพิ่มไรนักหนา แค่ 2 เตียงก็ไม่มีคนนอนแระ 555   และก็มีตู้เย็น 1 ตู้ค่ะ ภายในตู้เย็นไม่มีไรมาก มีแค่น้ำเปล่า 2 ขวด พร้อมแก้ว 2 ใบ ไม่มีอะไรมากเหมือนโรงแรมอื่น ที่มีทั้งน้ำส้มเอย น้ำแป๊ปซี่เอย เหล้าเบียร์เอย ดีแล้วแหละที่ไม่มี ไม่งั้นถ้าเราเผลอกินเข้าไป ราคาค่าห้องมักจะเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว 555     แต่เอ๊ะ ข้างตู้เย็น มีบรรไดให้ขึ้นไป รอไรละครับ ขึ้นไปดูซิ   ร้องว้าวอีกครั้ง เป็นห้องนอนอีกแล้วค่ะ อยู่ชั้นบน สวยน่ารักมากๆ เก๋ไปอีกแบบ แต่เป็นห้องพัดลม นี่สรุปเรามาพักห้องพักที่ราคา 1200 บาท ที่มีเตียงนอน ตั้ง 3 เตียง 2 เตียงนี่ว่าเยอะแล้วนะ มีเพิ่มมาอีก คุ้มสุดคุ้ม เหมาะกับการมาเป็นครอบครัวหรือแก๊งค์เพื่อนๆ แล้วหารค่าห้องกัน คุ้มมากๆ   เอาล่ะ ภายในห้องตื่นตาตื่นใจมากพอสมควรล่ะ มาดูด้านหน้าที่พักกันดีกว่า ด้านหน้าที่พักก็มีโต๊ะไม้ สวยงาม เหมาะสำหรับซื้ออาหารมานั่งกินชิวๆ   ด้านหน้าและด้านข้างที่พัก มีต้นไม้ ดอกไม้ เยอะแยะ มีคนสวนมานั่งปลูกเพิ่มด้วย ร่มรื่นสบายตามาก   เอาล่ะ ถึงเวลาเปิดตัวประเอกแล้วววว แทน แท่น แท๊นนนน   ทะเลอันสวยงามที่อยู่ตรงหน้านั่นเอง น้ำใส สวยมาก เป็นสีฟ้าคราม ต้องมาเห็นกับตาตัวเองค่ะ ถึงจะรู้ว่าสวยแค่ไหน   ทะเลสวยใช่ม่ะล๊าาาา     ผ่านไป 1 คืนกับการนอนหลับอย่างสบาย ที่รีสอร์ท ตื่นเช้ามา ก็ฟินกับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้า ใกล้เที่ยงแล้วก็ไปหาอะไรรองท้องกัน เพราะจะได้เวลาขึ้นเรือกลับแล้ว มื้อเที่ยงนี้เราฝากท้องกับ ร้าน ครัวบางปอ   บรรยากาศร้านไม่ต้องพูดถึง อยู่ติดริมทะเล ทานข้าวไป รับลมเย็นๆไป     อาหารราคาเบาๆ หน้าตาน่าทาน แม่ครัวทำได้เร็ว รอไม่นานค่ะ     และมื้อนี้ที่เราสั่งคือ เมนู ปลาฉลามผัดฉ่า และ ต้มข่าไก่ทะเล เสริ์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ   ปลาฉลามผัดฉ่า รสชาติอร่อย เผ็ดนิดหน่อย ถือว่ากำลังดีค่ะ เนื้อผ้านุ่ม ฟินค่ะ   ต้มข่าไก่ทะเล เมนูนี้ เป็นเมนูโปรด รสชาติกลมกล่อมเลยทีเดียว อร่อยมากๆค่ะ   และสุดท้าย ท้ายสุด เคยกินกันไหมคะ "เคยจี่" น้ำพริกสูตรปักษ์ใต้ เอามาย่างในกะลา กินกับข้าวมัน ผักเหนาะพื้นบ้าน ฟรีๆนะจ๊ะ ที่ร้านบางปอ     เอาละ กินอิ่มแล้ว เตรียมตัวกลับบ้าน ระหว่างทางไปท่าเรือ ก็เห็นวิวสวยๆ เลยเก็บมาฝาก ลากันไปด้วย ภาพวิวสวยๆนะค่ะ