ออกเรือไปติดเกาะ !!! สีชัง กับ

ก่อนจะเข้าสู่หน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงของฤดูปีนเขาลุยป่า วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวเกาะ ไปติดเกาะกันสัก 2 วัน กับผม "PareAekTrip" เราจะไปติดเกาะสีชังกัน เกาะใกล้ๆ กทม. ใช้เวลาเดินทางจาก กทม. ไม่นาน

สำหรับการเดินทางใครที่ขับรถส่วนตัวมา สามารถจอดรถค้างคืนได้ที่ เกาะลอย ศรีราชา แล้วต่อเรือข้ามเกาะ
ใครไม่อยากเอารถมาจอดทิ้ง สามารถนั่งรถตู้ที่อนุเสาวรีฯ เดินหาคันที่ไปเกาะลอย หรือบอกไปเกาะสีชัง ได้เลยครับ รถตู้จะมาส่งที่เดียวกับที่นำรถมาจอด แล้วต่อเรือข้ามเกาะที่เดียวกัน ค่าเรือข้ามเกาะไปกลับ 100 บาท สบายๆ ครับ ราคาสุดคุ้ม ใช้เวลาประมาณ 45 นาที นั่งเรือไปก็มีอะไรให้ชมไปเรื่อยๆ

ผมได้ติดต่อห้องพักไว้แล้ว และก็ได้เช่ามอเตอร์ไซด์กับทางที่พัก ก็จะสะดวกดี พอเรามาถึงเกาะทางที่พักจะเอารถมาเตรียมไว้ให้เราที่ท่าเรือเราเริ่มใช้ได้เลยพร้อมน้ำมันเต็มถัง เวลากลับเราก็มาจอดไว้ที่ท่าเรือเหมือนเดิม ค่าเช่าทั้งทริป 300 บาท น้ำมันแล้วแต่เราจะเติมอยู่ที่หมดไปเท่าไหร่ ได้รถเรียบร้อยเริ่มเดินทางบนเกาะกันเลยครับ ผมกับผู้ร่วมเดินทาง ตัดสินใจเข้าไปเช็คอินและเก็บของกันก่อนแล้วค่อยออกเที่ยวเบาๆ ก่อนในวันแรก เก็บของเสร็จ ก็เริ่มหาที่ฝากท้องกันก่อนเลยครับ มื้อนี้มื้อเที่ยงนะครับ สนนราคาก็ไม่ต่างกับ กทม. ทั่วไป

ในบริเวณ ของ พระจุฑาธุชราชฐาน มีพระที่นั่งพระตำหนักให้เดินชอยู่หลายหลัง แต่หลังที่เห็นจะสวยและวิวดีก็เห็นจะเป็น หลังสีเขียวๆ เรียกว่า เรือนไม้ริมน้ำ หรือเรือนเขียว ถ้าเราหันหน้าออกจากเรือนเขียว จะเจอวิวสวยงามมากกกกกก

มาเกาะสีชังแล้วไม่มีรูปสะพานขาวถือว่ามาไม่ถึงนะครับ สะพานอัษฏางค์

แสงแดดอาจจะแรงหน่อยนะครับ แต่ถ้าแลกกับวิวแล้ว บอกเลยครับ ย้อมร้อนเลยยยยย 555 สวยๆๆๆ ออกเดินทางต่อครับ จุดหมายต่อไป

วัดอัษฎางค์นิมิตร สถานที่นี้ต้องจอดรถไว้ที่ด้านนอกแล้วเดินเท้าตามทางเข้ามานะครับไม่ไกลเดินตามทางมีร่มไม้ สบายยยครับ ระหว่างทางเดินจะมีจุดชมวิวใครจะพักตอนเข้าหรือตอนออกก็แล้วแต่นะครับ แต่บอกก่อนว่า(กลางแจ้งเลย)

มาต่อกันที่วัดนี้ครับ อยู่บนเนินเขา จอดรถด้านล่างแล้วเดินขึ้นมาครับ เดินไม่ไกล แดดไม่ร้อน 555 วัดนี้ก็จะมีพระ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เคารพบูชาได้ตามแต่ศรัทธา และที่สำคัญ บนวัดแห่งนี้ยังเป็นที่สามารถชมวิวเกาะสีชังได้อีกด้วย

ที่ต่อไปของวันนี้ คือ มณฑปรอยพระพุทธบาท เดินขึ้นมาก็จะเป็นสถานที่บูชารอยพระพุทธบาท ถือโอกาสนั่งพักตากลมเย็นๆ ที่นี่สักแปบนึง ก็ไปต่อครับ

ที่ต่อไปเป็นที่สุดท้ายของเราในวันนี้ ถือเป็นจุดสำคัญอีกที่นึงสำหรับการมาเที่ยวเกาะสีชัง  เป็นจุดชมวิว เส้นตัดท้องฟ้า สายน้ำ เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า  เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ตกน้ำ (ทะเล) จุดชมวิว เรือบังพระอาทิตย์ (โอกาสดีมีภาพแบบนี้ให้ได้เก็บไว้ดู สวยงามแบบแปลกๆ ดี)

อ่อออออ...ลืมบอกไปนะครับว่า ที่ไหน ณ จุดนี้ ช่องเขาขาด หมดไปหนึ่งวัน กลับที่พัก อ่อ อย่าลืมแวะหาของกินกันด้วยนะครับ ฝันดีนะครับ คืนนี้ๆๆๆๆๆ

 

แสงเริ่มสว่างขึ้น ท้องฟ้าเริ่มสวยงาม อรุณสวัสครับบบบ และหน้าที่พักของผม ถ้าน้ำขึ้นสามารถลงเล่นน้ำได้ครับ น้ำลงเดินลงมาถ่ายรูปได้อีกครับ และนี่คือชื่อที่พักของเราสองคน รับตะวันสีชัง รีสอร์ท ที่พักดี สบาย เจ้าของนิสัยดี น่ารัก เป็นกันเอง

เช้าวันนี้โปรแกรมนั้นไม่มีอะไรมากครับ เนื่องจาก เกาะสีชัง เป็นเกาะที่ไม่กว้างใหญ่อะไรมากนัก จริงๆ แล้วเที่ยววันเดียวก็ทั่ว มาเช้าเย็นกลับได้สบาย แต่ถ้าใครอยากดูพระอาทิตย์ตกและชมบรรยากาศแบบเต็มอิ่มจุใจ ก็คงต้องค้างคืนแบบผม ดังนั้นเช้านี้เลยตัดสินใจกลับไปเก็บภาพที่ สะพานอัษฏางค์ อีกรอบนึง เพราะความสวยทำให้ต้องไปอีกรอบ

ก่อนจะทิ้งเกาะ กลับเมืองกรุง เราได้มากระโดดจากลากันที่สุดท้าย!!!!!!!

บริเวณนี้ ไม่สามารถบอกชื่อได้จริงว่าคืออะไรและเรียกว่าอะไร เนื่องจากขับรถเรื่อยเปื่อยตามทางขึ้นเขามาเรื่อย ตามทางที่ไม่เห็นมีใครเขาเข้ามากัน ด้วยความอยากรู้อย่างเห็นเลยได้เข้ามาเจอแบบนี้ ซึ่งมัน กว้าง ใหญ่ สวย ร้อน ส่วนตัว เอาเสียมากๆๆๆๆๆเลยครับ พูดแบบนี้อาจจะเชื่อได้ยากงั้นลองหาโอกาสไปเที่ยวกันนะครับ "เกาะสีชัง" "ใครจะชังเรื่องของเขา แต่เราไม่ชัง" ใครอยากฟินๆ แบบสงบๆ บนเกาะ ก็ต้อง ออกเรือไปติดเกาะ !!! สีชัง แบบผมนะครับ ขอบคุณที่ดูกันจนจบ

***หมายเหตุ
ค่าใช้จ่าย 2 คน
- ค่ารถตู้โดยสาร 460 บาท ไปกลับ กทม. - เกาะลอย
- ค่าเรือ 200 บาท ไปกลับ เกาะลอย - เกาะสีชัง
- ค่าที่พักพร้อมอาหารเช้า 1,000 บาท
- ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์รวมน้ำมันหนึ่งถัง 300 บาท
- ส่วนค่ากินต่างๆ นั้นแล้วแต่นะครับ ใครจะอร่อยกันแบบไหน

เพื่อนๆ สามารถติดตามเราได้ที่
#PareAekTrip นะครับ ขอบคุณครับ

บ้าย...บาย...สวัสดี...ครับ