25th Nov 2017



เป็นวันอาทิตย์ที่เราดำเนินชีวิตให้เหมือนปกติ ไปโบสถ์ (อย่างสาย) แล้วบ่ายหน้าไปหาพื้นที่สีเขียวอย่างเก๊าไม้ ล้านนา, สันป่าตอง ที่ ๆ ไม่ได้ไปย่ำเอาซะนานมาก ๆ เลย
กลับไปคราวนี้เปลี่ยนคนไปด้วย... เพราะคนที่บ้านไม่เคยไปเลยถ้าพูดถึงรัศมีนอกเมืองเชียงใหม่ แหง๋สิมัวไปอยู่ไหนมา พูด !!!    

ทุกอย่างยังเหมือนเดิมที่นี่แม้เวลาจะผ่านไปนาน มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นคือร้านกาแฟโรงบ่ม เข้าคอนเซปของพื้นที่ดีเนาะ ว่าไปแล้ว
   

เราวิ่งบนเส้นทาง เชียงใหม่ หางดง เลยไปสันป่าตองไม่นานก็ถึงพื้นที่ให้ฟอกปอดกันแล้ว แต่ท้องเราดันหิวก่อนนี่สิมันเลยได้เปลี่ยนจากร้านกาแฟเป็นร้านอาหารกัน เซป่ะ

     
. . .                      

 

 

 

 

 

       

ส่วนของร้านอาหารคงเป็นที่รู้จักของแขกที่พักในรีสอร์ทป่ะ ขาจรก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่แล้วเขาตรงไปร้านกาแฟกัน แต่ของเรานี่ออกแนวเพี้ยน ๆ กินข้าวกันก่อนเนาะ

 

            อิ่ม แน่น จุก มีทานไม่หมดได้เยอะค่ะอาหารแต่ละอย่าง  

 

  . . .            

 

 

 

อิ่มแล้วคิดหนักว่าคงไม่มีปัญญาล่ากาแฟที่ไหนได้อีกแล้ว เหลือแต่ล่าวิวละนะ กลับรถเพื่อหยิบเลนส์อีกตัวติดไปด้วยก่อนเราลากขาย่อยอาหารกันในบริเวณรีสอร์ทค่ะ  

 
   

  ลากขามาไม่กี่ก้าว เราหลงรักที่นี่ไม่มีคนดีแฮะจัดเลยไหม รากไม้ระเกะระกะ ใบไม้ร่วงที่พื้น อากาศมันเย็นใช้ได้นะ

   

    กับโมเม้นท์แบบนี้ที่รักที่สุด แม่ไม่ต้องพูด ภาพฟ้องได้ดีที่สุด  

      พอเข้าหนาวแล้ว คิดถึงฝนยังไงก็ไม่รู้ มันแห้ง ๆ อยากให้เขียว ๆ ตอนนี้ไม่กลัวฝนอีกต่อไป รู้แต่ว่าต้องการความเขียว จะดีกว่ามาก  

 

 

...............    

 

 

 

 

  หลายปีก่อนจุดนี้คือ คือจุดพีคของเรา แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ถึงว่าที่นี่แห้ง ๆ ยังไงไม่รู้ นทท.หลายคนเดินผ่านจุดนี้ไป ฉับ ๆ ๆ เหมือนจะรีบไปไหน      

ปล่อยเขาไป เพราะเรามีทางของเรา ทางนี้ต้องเงียบ แม้แต่โมเสสเองก็ต้องพลอยเล่นเกมกระซิบกันไป ไม่ได้ ไม่งั้นไม่ได้รูป เข้าใจนะ    

       

  เราเข้าชมบริเวณที่พักค่ะ ไม่รู้ว่าถือวิสาสะไหม แต่ไม่เห็นป้ายห้าม ด้วยความว่าเมื่อก่อนเคยเดินได้ และเคยได้เดิน เลยเดินเข้าไป แต่ไม่ได้ส่งเสียงดังรบกวนใครเลยนะ ชู่วววว์ ++  

 

                     

 

      พ้นเขตที่พัก จขบ.จำอะไรได้บางอย่างว่า..  "เคย"    


 

  ซึ่งให้ไปนั่งตอนนี้ชิงช้าเขาคงพัง 555   ถามโมเสสว่านั่งไหม ตอบไม่นั่งเลยเดินอ้อมไปด้านหลังที่ ๆ จขบ.รู้ดีว่าจะเจออะไร  

    เหมือนย้อนวัยไป 5 ปี ป้าเคยมานั่งบ้า ๆ แถวนี้ว่าได้  

กับต้นชงโค หรือดอกเสี้ยว














  สระน้ำที่ แนทที้เพื่อนซี้ จขบ.บอกจะหาเจ้าบ่าวมาแต่งริมสระ จนป่านนี้นางยังหาไม่เจอ สระก็รอนาง ว่าไป    

 

   

    จากสระลากขามา 5 ก้าวเจอโรงบ่ม ร้านกาแฟที่ตามหาแล้ว จริง ๆ มันมีทางตรง แต่เป็นพวกเดินอ้อมไง... ถึงช้า  

 

           
    คนก็พอมี และเราก็ไม่เลือกที่จะนั่งเพราะอิ่มมาก  

            ก็ไปทางของเรา


          โมเสสเหลือที่ว่างให้ใคร... คับ     ................  

                                    บอกลาความเขียว... โดยไม่แวะร้านกาแฟ นี่มาหากาแฟแบบไม่ได้ชิมกาแฟ ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันนะ สักวันจะกลับมาชิม

..............              

 

 

 

      จากเก๊าไม้ ล้านนา เลี้ยวซ้ายอย่างตั้งใจไปแม่วาง เส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อน มันไม่ค่อยมีอะไรให้อ่านในเน็ต ในโพสต์ก็ไม่ค่อยมีข้อมูลแต่ใจก็อยากตามหาอะไรสักอย่าง มันได้เรื่องนะ ขับมาอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางจนเจอป้ายภาษาญี่ปุ่นว่าอะไรทหาร ๆ ขับตามป้ายไป ถามทางชาวบ้านไป จนเจอที่แห่งนี้  

ปล.อ่านได้แต่ไม่ต้องตามนะคะ  ความชอบส่วนตัวเลยเลือกที่จะแวะมา    

อนุสรณ์สถานทหารญี่ปุ่นสงครามโลกครั้งที่สอง รร.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ทหารญี่ปุ่น จำนวน 18,000 นาย นอนตายใต้อนุสรณ์สถานแห่งนี้ หลับไหลอย่างสงบ คงคิดถึงบ้านมาก - สงสาร  

                    สักพัก... เราก็ละที่นี่  

ตามทางที่มุ่งหน้าไปทางป่าเขา โดยเข้าใจว่าคงไม่ไกล แต่มันไกลนะ

 

แต่ระหว่างทางก็ใช่ว่าจะไม่เจออะไรอีกเลย    

เจอสวนหอมที่คนแถวนี้คงมองจนเบื่อ ทุกปีหลังเก็บเกี่ยวนาข้าวเขาคงปลูกกันอย่างนั้น ๆ  แต่สำหรับเรามันสวยนะ          

  เจองูตัดหน้ารถ เออ... ไปนั่น เจอถนนอย่างนี้แทบจะกลับรถหนี แต่ก็ผ่านไปได้แฮะ นี่ไม่ใช่หน้าน้ำนะ แต่น้ำมาจากไหน ?? ว่าละอยากขับ four wheels ละก็สงสารรถตัวเอง  

    ขุนวางไปไม่ถึง ถึงแต่แม่วาง...

และทางไปวัดน้ำออกฮูที่จำทางกลับไปไม่ได้แล้ว หรือจะเป็นปลาทองความจำสั้น "คงดี"

.................                  

ขอบคุณที่่แวะมา