ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    ธนัท •  มกราคม 12 , 2560

    ครั้งที่ 2 ของการเดินขึ้น "เขาข้างเผือก"

    สืบเนื่องมาจากทริป กาลครั้งหนึ่งที่ "เขาช้างเผือก"ที่ผมไปเมื่อวันที่ 16-17 ธันวาคม 2559 นั้นหมอกลงจัดทำให้ไม่สามารถมองเห็นบรรยากาศบนยอดเขาได้

    http://www.thetrippacker.com/th/review/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4KhaoChangPuakThongphaphumNationPark/10585

    เขาสูงอันดับ 12 ของประเทศไทย แต่จองยากอันดับต้นๆของประเทศไทย

    บรรยากาศบนยอดเขาช้างเผือกครั้งก่อน (16 ธันวาคม 2559)

    หมอกลงจัด  รู้สึกเซ็งมากๆ

     

     

    • โพสต์-2
    ธนัท •  มกราคม 12 , 2560

    การเตรียมตัว และ ค่าใช้จ่าย ของการเดินทางขึ้นเขาช้างเผือก

    การจอง

    การจองนั้นต้องโทรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิล่วงหน้า 7 วันก่อนขึ้นเขา 034-510-979 และ 098-252-0359 (เวลาราชการ) เรียนเจ้าหน้าที่ว่ามีความประสงค์จะเดินทางเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลเขาช้างเผือก ระบุวันที่ที่จะเดินทาง จำนวนสมาชิกในทีม พร้อมระบุชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน รวมถึงจำนวนลูกหาบ ณ ตอนที่คุยกับเจ้าหน้าที่เลย
     

    ค่าใช้จ่ายในการเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติเขาช้างเผือก ดังนี้

    1. ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติฯ คนละ 40 บาท
    2. ค่าใช้สถานที่ คนละ 30 บาท
    3. ค่าเบี้ยเลี้ยงคนนำทางคนละ 200 บาท/กลุ่ม กลุ่มนึงมี 10 คน
    4. ค่าลูกหาบ 1300 บาท/คน หาบได้ไม่เกิน 30 กก.

    การเดินทาง

    การเดินทางมาอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิสามารถมาได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถตู้ บขส.

    แต่ครั้งนี้ผมจะมาพูดถึงการเดินทางโดยนั่งรถตู้ บขส. จาก กรุงเทพ นะครับ

    1. ขึ้นรถตู้ที่ ขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพ - บขส.กาญจนบุรี ค่าโดยสาร120 บาท (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง)
    2. ต่อรถตู้จาก บขส.กาญจนบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ (ตอนซื้อตั๋วบอกเจ้าหน้าที่ว่าลง ตลาดสดทองผาภูมิ) ค่าโดยสาร 115 บาท (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง)
    3. เมื่อถึงตลาดสดทองผาภูมิ ให้ต่อรถถ 2 แถวเหลือง ที่ปลายทางเป็น อีต่อง รถ2แถว นี้ผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ค่าโดยสาร 70 บาท ซึ่งจะวิ่งแค่2รอบต่อวันเท่านั้น คือเวลา 10.30 และ 12.30 น.

    นี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมถึงต้องออกจากกรุงเทพเช้า(ในกรณีไม่มีรถส่วนตัวต้องนั่งรถตู้มา)เพราะต้องทำเวลาให้ทันรถ 2 แถวเหลือง

    การเตรียมตัว

    1. ต้องฟิตร่างการให้พร้อมก่อนขึ้นเขา เดิน 8 กิโล
    2. เตรียมยาสามัญติดตัวไว้ เผื่อใช้ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ และทิชชู่เปียก
    3. ซื้อปอกแขนไว้กันแดดและป้องกันกิ่งไม้ในระหว่างเดิน
    4. น้ำดื่มอย่างน้อย 3 ลิตร
    5. เสบียงอาหารแล้วแต่คนครับ แต่แนะนำเป็นพวกอาหารกึ่งสำเร็จรูป(ถ้วย)
    • โพสต์-3
    ธนัท •  มกราคม 12 , 2560

    ครั้งที่ 2 ของการเดินขึ้น "เขาข้างเผือก"

    ครั้งนี้พวกเเราตั้งใจจะไปในวันที่ 21-23 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยขึ้นเขาช้างเผือกในวันที่ 22 ธันวาคม 2559 โดยมีสมาชิกทั้งหมด 6 คน ดังนี้ เบ้น นัตตี้ ณช ตะวัน โยเกิร์ต และ ดาด้า

    การจองของพวกเรา

    ก่อนหน้านี้พวกเราได้วางแผนจะจองขึ้นเขาช้างเผือกในวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ซึ่งจะต้องโทรไปจองก่อน 7 วันนั้นก็คือวันที่ 15 ธันวาคม 59 แต่เผอิญว่าสมาชิกในกลุ่มคนนึงโทรจองได้ก็เลยไป จึงทำให้ทริปนีเกิดขึ้น ^^

    การเดินทางของพวกเรา

    21 ธันวาคม 2559

    พวกเรานัดเจอกันที่ขนส่งกรุงเทพฯ ที่หมอชิต2 เวลา 10โมง แต่เพื่อนมากัน 11 โมง ก็คอยต่อไป เมื่อครบแล้ว

    รวมตัวกันครบแล้วก็ขึ้นรถได้ Let's go

    ก็ขึ้นรถตู้ บขส.เดินทางไป บขส.กาญจนบุรี (นั่งรถ3ชั่วโมง) แล้วต่อรถจาก บขส.กาญจนบุรีไปตลาดสดทองผาภูมิ (นั่งรถ2ชั่วโมง) เมื่อถึงที่ตลาดสดทองผาภุมิก็พบว่าไม่มีรถ2แถวที่ขึ้นไปอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิแล้วเพราะตอนนั้นมัน 5โมงเย็นแล้ว พวกเราเลยต้องขอความช่วยเหลือคนแถวนั้น จนมาพบรถกระบะที่มีตราสัญลักษณ์ของอุทยานอะไรสักอย่าง ก็เลยเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งคนที่พวกเราไปขอความช่วยเหลือนั้นเป็นถึงรองหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม น้าคนนั้นชื่อว่า "สุภาพ" น้าสุภาพได้ติดต่อประสานงานให้คนมารับ

    ตลาดสดทองผาภูมิ

    ท่านสุภาพ กำลังประสานงานติดต่อช่วยเหลือพวกผม

    สุนัขที่นี้ขนฟูมาก น่ารักมาก เชื่องอีกต่างหาก

     

    เมื่อรถที่จะมารับพวกเรามาถึง พวกเราก็ขึ้นรถกันไปอย่างรวดเร็ว รถพี่แกขับได้ซิ่งมาก5555 แวะร้านโน้นร้านนี้ เพื่อให้เราซื้อของขึ้นไปใช้กินบนเขาช้างเผือก ระหว่างที่นั่งรถไป พวกเราได้เห็นดาวมากมายบนท้องฟ้า สวยมากๆ      ถึงอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิตอนประมาณ 3 ทุ่ม มืดมากๆ ในตอนนั้นเองพวกเราก็ได้ไปชำระเงินค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานและทำการฝากชาร์จ Power Bank

     

    พวกเราเข้าไปที่พัก "บ้านชมดาว1"
    ระหว่างทางต้องใช้ไฟฉายช่วยเพราะมืดมาก (ทางอุทยานดับไฟตอน3ทุ่ม) เมื่อถึงที่พักก็อาบน้ำพักผ่อน (น้ำโคตรเย็น) และก็นอนเอาแรงไว้ขึ้นเขาช้างเผือกในวันรุ่งขึ้น

     

     

     

    • โพสต์-4
    ธนัท •  มกราคม 12 , 2560

    ออกเดินทางขึ้นเขาช้างเผือก

    วันที่ 22 ธันวาคม 2559

    ผมตื่นขึ้นมาตอนตี4 และสักพักเพื่อนอีกคนก็ตื่นตามมาส่วนเพื่อนที่เหลือๆตื่นกันตอนตี5 บางคน 6โมงเช้า ก็ตื่นขึ้นมาอาบน้ำ และก็ออกไปชมทะเลหมอกในอุทยานฯ บริเวณ "กูดดอย"

    ทะเลหมอกยามเช้า ณ กูดดอย@อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

    ในอุทยานฯจะไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์แต่จะมีบริเวณที่มีสัญญาณโทรศัพท์

     

    มาถ่ายรูปชมทะเลหมอกเสร็จแล้วก็กลับไปที่บ้านพักเก็บกระเป๋าปรากฏว่าเพื่อนๆตื่นนอนอาบน้ำกันหมดแล้ว ก็เก็บกระเป๋าพร้อมม่งหน้าไปที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เพื่อทำเรื่องขออนุญาติขึ้นเขาช้างเผือก ในเวลา 8 โมงเช้า

    เมื่อถึงที่หมายแล้วก็มีนกเงือกมาต้อนรับ

     

    ก็เข้าไปทำเรื่องขออนุญาติขึ้น ปรากฏเจ้าหน้าที่จำชื่อเรา ได้ เราตกใจมาก 5555 เพราะครั้งก่อนเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง

    เจ้าหน้าที่ที่นี้น่ารักมาก เป็นกันเองมาก ต่อมาก็วางเงิน 200 บาท/คน เป็นค่าเจ้าหน้าที่นำทาง  ต่อมาพวกเราก็ต้องหาทางจึ้นไปปิล็อกให้ได้ พวกเีราเลยโบกรถที่สัญจรบริเวณหน้าอุทยานฯ ขอติดรถไปด้วย สุดท้ายก็ได้รถนั่งท้ายกระบะของนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปหาข้าวกินบนปิล็อก ระหว่างที่เดินทาง ลมก็ตีหน้าจนหน้าชากันเลยทีเดียว และสุดท้ายพวกเราก็ถึงปิล็อกจนได้

    *** ในอุทยานไม่ค่อยมีของกิน หากจะไปกินข้าวก็ต้องขับรถไปกินยนหมู่บ้านปิล็อก****

    นี้คือนักท่องเที่ยวทีพวกเราติดรถมาขึ้นมาด้วย ขอบคุณมากๆครับ

     

    จากนั้นพวกเราก็ไปกินข้าว ซื้อเสบียงเป็นข้าวเหนียวไก่ทอดขึ้นไปกินบนเขาและขนมโตเกียว

    เมื่อกินเสร็จก็ไปยืนยันตัวกับเจ้าหน้าที่นำทาง จากนั้นก็จ้างลูกหาบ และรวมกับสมาชิกอีก 4 คนที่จะเข้ามาในกลุ่ม

    นี้คือสมาชิกในกลุ่มของพวกเรา

    เริ่มออกเดินทาง

    เดินไปเรือยๆก็จะเจอจุด start ก่อนอื่นก็ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

    วันนี้เป็นวันที่ฟ้าเปิด (เราดีใจมาก เพาะจะได้เห็นวิวจริงสักที)

    สาวๆกำลังใจดีอยู่เดินไปสักพักเริ่มเหนื่อย  5555 เดินมาเรื่อยๆก็ถึงจุดพักได้พบกับเพื่อนๆร่วมทาง พวกเราก็พักเอาแรง กินน้ำให้ชื่นใจ

    แชะ!!

    ลูกหาบของกลุ่มพวกเราเจ้าหน้าที่นำทางของกลุ่มผม "พี่โยง"

    หลังจากนั้นพวกเราก็เดินต่อไปเรื่อยก็เริ่มมีวิวสวยๆให้เก็บรูปจนมาถึงจุดพักที่ 2 แต่เราเลือกที่จะเดินต่อ

     

    จนถึงจุดที่ต้องสาวเชือก

    พวกเราก็สาวเชือกขึ้นไป ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนเริ่มเหนื่อยกัน แต่ก็ยังฝืนเดินมาถึงจุดพักจุดที่ 3

    ขอลองเป็นลูกหาบหน่อย

    ชมวิวสักหน่อย อ้าวเห้ย! ข้างล่างว่าไง

    พอเริ่มมีแรงก็เดินต่อ

    จนถึงจุดที่มีทุ่งดอกหญ้าพวกเราก็ถ่ายรูปอย่างกับในหนัง นั่งรอเพื่อนๆแปป และแล้วข้างหน้าเราก็เป็นเขาช้างเผือกแต่พวกเราต้องลงไปข้างล่างเพื่อไปจุดกางเต้นท์โดยทางลงค่อนข้างยากต้องสาวเชือกลง  

     

    • โพสต์-5
    ธนัท •  มกราคม 12 , 2560

    ขึ้นวัดใจสันคมมีด

    จากนั้นพวกเราก็ถึงจุดกางเต้นท์ (ถึงสักที) ประมาณ บ่าย 2 โมง จากนั้นผมก็กางเต้นท์ที่ตัวเองถือขึ้นมา เพื่อนๆที่เหลือยังต้องรอลูกหาบ เพราะให้ลูกหาบแบก (รอต่อไป5555) เมื่อลูกหาบมาถึงก็หยิบสัมภาระต่างๆมาไว้ในเต้นท์ และก็กางเต้นท์ที่เหลือจากนั้นก็เพื่อนๆก็กินข้าว ส่วนตัวผมไม่กินเพราะอยากนอนมากกว่า 

    หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่า ตอน บ่าย 3 โมงครึ่งขึ้นสันคมมีด 

    ระหว่างนั้นก็นอนพักเอาแรง

    เมื่อถึงเวลาก็บ่าย 3โมงครึ่ง ก็เริ่มเดินขึ้นสันคมมีด

    ระหว่างทางเริ่มแคบเรื่อยๆต้องปีนก้อนหินขึ้นทางเริ่มชันมากขึ้น

    เดินไปเรื่อยๆ จนถึง สันคมมีดที่ต้องไต่เชือกและก็เหยียบก้อนหินขึ้นไป

    เดินไปตามทางเรื่อยๆ ทางก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ

     

    ชันแบบในรูปเลย ข้างบนเป็นยอดเขาช้างเผือก

    บรรยากาศยอดเขาช้างเผือก เห็นเขาช้างน้อยที่เราลงมาเห็นเขื่อนเขาแหลมแต่ไกลๆถึงแล้วโว้ยยยยยยยมาถึงยอดทั้งทีต้องถ่ายรูปคู่กับป้ายหน่อยในระหว่างที่เดินขึ้นสันคมมีดก็ได้เพื่อนใหม่เป็นนิสิตจุฬา น้องแจน cutex2และก็ไปถ่ายรูปให้กลุ่มน้องเปิ้ล อัง มุข กี้ แคท ไปๆมาๆ ถ่ายรูปด้วยกันเฉย 555 +

    ถ่ายรวมหมู่กับเจ้าหน้าที่นำทางทั้ง 4 ท่าน สักหน่อย

    หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ลงจากยอดเขาช้างเผือก เพราะเดี๋ยวจะมืดแล้วจะอันตราย

    หลังจากนั้นก็เริ่มเดินลง และชมพระอาทิตย์ตกดินเป็นวิวที่สวยงามจริงๆครับ

    ตอนที่พวกเราเดินลงมาท้องฟ้าก็เริ่มมืดเรื่อยๆ บวกกับอากาศเริ่มหนาว และก็บอกกับเพื่อนๆว่า พรุ่งนี้ตอนเช้าออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันและก็เลยชวนกลุ่มพวกน้องจุฬาไปด้วย  ทันทีที่พวกเราถึงจุดกางเต้นท์ก็ไปหยิบเสบียงอาหารเย็นออกมากิน พอกินเสร็จก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อมนเต้นท์และก็นอนพักผ่อนแปปนึง

    และตอนช่วงกลางคืนก็ออกมาดูดาวถ่ายดาว

    พอถ่ายดาวเสร็จก็กลับเต้นท์และมีเรื่องที่พีคมากตรงที่เพื่อนเอาเต้นท์มาแล้วป้ายระบุว่านอนได้ 3-4 คนเอาเข้าจริงนอกันได้ 2 คนแบบเบียดๆ อบอุ่นไปอีก ในขณะที่เพื่อนหลับไปแล้วเรานี้นอนไม่หลับเพราะนอนบ่ได้ อีกทั้ง ลมข้างนอกนี้อย่างแรงเลย หนาวอีกต่างหาก ก็เลยตาค้างจนถึงตี5

    • โพสต์-6
    ธนัท •  มกราคม 12 , 2560

    ชมพระอาทิตย์ขึ้น

    23 ธันวาคม 2559

    เนื่องจากตาค้างตั้งแต่ตอนเทียงคืน-ตี5 ผมก็เลยปลุกเพื่อนๆไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และไปปลุกน้องแจนตามที่คุยกันไว้

    โดยพวกเราจะไปชมบนฝั่งที่เราลงมาซึ่งทางมืดมากและอากาศหนาวมาก ระหว่างทางที่เดินก็ได้เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาวันเดียวกับเราเดินลงจากเขา ตอนนั้นรู้สึก 6 โมงเช้า ฟ้านี้ยังมืดอยู่เลย ส่วนพวกผมก็ไปจับจองที่นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น

    พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว

    จัดไปอย่าให้เสีย แสง Twilight บรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น

    พอถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จพวกเราก็รีบลงมาที่เต้นท์เพื่อเก็บสัมภาระและเก็บเต้นท์ เตรียมตัวเดินลงเขา พวกเราลงจากเขาตอน 8 โมงเช้า ส่วนผมรีบเดินเพราะปวดท้อง เลยเดินแบบไม่พัก ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ถึงตีนเขา 10 โมงเช้า เมื่อถึงตีนเขาแล้วก็เข้าไปขอใช้ห้องน้ำร้านอาหารที่อยู่ใกล้ทางลงเส้นทางเขาช้างเผือก มีให้บริการอาบน้ำด้วย หลังจากนั้นก็ไปสั่งข้าวเช้ามากินและน้ำดื่มๆ (หิวน้ำแบบบ้าคลั่ง) และก็ชาร์ขแบดโทรศัพท์&แบดกล้อง ระหว่างนั้นก็รอเพื่อนๆลงมา ซึ่งเพื่อนๆ ลงตอน 11 โมง เมื่อเพื่อนๆมาครบแล้วก็จ่ายเงินค่าลูกหาบ 1300 บาท จากนั้นก็เพื่อนๆก็ไปกินข้าว บางส่วนก็ไปอาบน้ำ พอกินข้าวเสร็จก็เริ่มหารถ 2 แถวเหลืองแบบเหมา เพื่อให้คนขับรถส่งพวกเราที่ตลาดสดทองผาภูมิ เหมา 900 บาท ตอนนั้นบังเอิญเจอกลุ่มน้องๆจุฬาก็เลยชวนไปด้วยเป็น 11 คน หารออกมาก็คนละประมาณ 82 บาท ระหว่างทางทางโค้งเยอะมาก ก็รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนไประยะๆ จนต้องอาเจียนในที่สุด และก็อดทนจนถึงตลาดสดทองผาภูมิ เมื่อถึงแล้วก็หของกินในนั้น และก็ต่อรถจาก ทองผาภูมิ-บขส.กาญจนบุรี ราคา 115 บาท ซึ่งรอนานมากๆ เพราะคิวเยอะ พอถึงคิวเราก็ขึ้นรถตู้เดินทางกลับเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี พวกเราถึงตัวเมืองกาญจนบุรีตอนประมาณ บ่าย 4 โมงครึ่ง พวกเราก็แยกกลับน้องๆจุฬา จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วกลับหมอชิต2 ราคา 120 บาท/คน เจ้าหน้าที่บอกว่ารถมาถึง 6 โมง เพราะรถติด พวกเราเลยไปหาข้าวเย็นกิน ระหว่างทางมีร้านน้ำเต้าหู้ในรูปแบบไอศกรีมด้วย เด็ดมาก 20 บาท หลังจากนั้นก็กลับมาที่ บขส. ปรากฏว่ามีเพื่อนคนนึงในกลุ่มเจอรถตู้ที่ไปทางพระราม 2 เราก็เลยแยกย้ายกับเพื่อนที่กลับหมอชิต และก็กลับบ้าน

     

     

     

     

    • โพสต์-7
    ธนัท •  มกราคม 12 , 2560

    ความประทับใจ

    ความประทับใจของผมต่อทริปครั้งนี้

    1. ผมรู้สึกว่าผมมาคุ้มมาก เพราะครั้งแรกที่ไปมีแต่หมอกก็ได้วิวหมอกไป พอมาครั้งที่ 2 ฟ้าเปิดก็เลยเห็นวิวต่างๆ และได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน พูดได้ว่าครบเครื่องสุดๆ
    2. เจ้าหน้าที่นำทางดูแลดีมากๆ และมีความเป็นระเบียบมากตอนขึ้นสันคมมีด
    3. พี่ๆลูกหาบก็ใจดีมาก อยู่ดีๆทำมาม่า ไส้กรอก มาให้ ;)
    4. เพื่อนๆร่วมทางมีความเป็นมิตร มีความเป็นกันเอง ถ้ามีโอกาสเราคงร่วมทางด้วยกัน
    5. ทริปนี้พวกเราได้โบกรถขึ้น ทำให้รู้ว่าคนไทยมีน้ำใจ พวกผมซึ่ในน้ำใจมากครับ
    6. ขอบคุณพี่โอ๋กับพี่ต๋องนะครับที่คอยช่วยเหลือพวกผมตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเขา
    7. สุดท้ายนี้ก็อยากขอบคุณเพื่อนๆในกลุ่ม 5 คน ที่ช่วยเหลทอซึ่งกันและกัน ที่ทำให้ทริปนี้ออกมาดีได้

     

    • โพสต์-8
    ธนัท •  มกราคม 12, 2560

    หากต้องการหาประสบการณ์ใหม่ต้องออกไปหาเอง

    ชีวิตคือการเดินทาง

    • โพสต์-9
    ธนัท •  มกราคม 13 , 2560

    สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

    สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิที่เป็น Highlights

    1. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

    น้ำตกจ๊อกกระดิ่น คือน้ำตกที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีเพียงชั้นเดียวผ่านหน้าผาอันสูงชั้นกว่า 30 เมตร  ความพิเศษของน้ำตก คือ มีแอ่งน้ำ ขนาดใหญ่ที่เป็นสีครามปนเขียว และที่สำคัญคือเป็นแอ่งน้ำพื้นทรายที่เหมาะแก่การเล่นน้ำไม่น้อยเลย  

    2. เขื่อนวชิราลงกรณ

    อยู่เหนืออำเภอทองผาภูมิ ประมาณ 6 กม. ห่างจากจังหวัดกาญจนบุรีตามเส้นทางหมายเลข 323 ไปทางเหนือประมาณ 147 กม. เป็นเขื่อนหินถม ดาดหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 1,019 เมตร เป็นเขื่อนขนาดใหญ่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ตัวเขื่อนจะกั้นแม่น้ำแควน้อย บนสันเขื่อนมองเห็นวิวสวย มีภูเขาล้อมล้อม และมีเกาะอยู่ในเขื่อนจำนวนมาก

    3. เหมืองปิล็อก

    ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อก ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิไปทางทิศตะวันตกประมาณ 70 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3272 ที่นี่เคยมีการทำเหมืองแร่ดีบุก วุลเฟรม กันมากบนเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า มีอากาศดีโดยเฉพาะฤดูหนาว สามารถชมทัศนียภาพทะเลอันดามันที่จุดชมวิวไทย-พม่า

    4.ช่องมิตรภาพชายแดน ไทย-พม่า

    ช่องมิตรภาพชายแดน ไทย-พม่า คือ แนวท่อก๊าซจากอ่าวมะตะมะในประเทศพม่า ผ่านมาทางบ้านอีต่อง อ.ทองผาภูมิ ประเทศไทย มีจุดพักท่อ ฝั่งไทย และฝั่งพม่า ผ่านมาตามแนวสันเขาผ่านช่องแคบ ช่องนี้ ปัจจุบันที่นี่ไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวข้ามไปยังฝั่งประเทศพม่า ด่านมิตรภาพจะมีทหารไทย และทหารพม่าคอยดูแลพื้นที่ในการเข้าออกอยู่ตลอดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปในพม่า แค่สุดเขตประเทศไทยไม่เกินป้อมที่ฝั่งพม่า นักท่องเที่ยวสามารถชมแนวเขา และพื้นที่บริเวณรอบๆ

    5.เนินช้างศึก

    เนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) บางคนก็เรียก ยอดดอยปิล๊อก หรือ ต่องปะแล เป็นฐาน ตชด ที่.ตั้งอยู่ในเส้นพรมแดนไทย-พม่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร มีบ้านพักเจ้าหน้าที่ ลาน ฮ. และจุดชมวิวในมุมสูง เห็นวิวทั้งฝั่งไทยและพม่า ฝั่งไทยจะเห็นจุดชมวิวเนินเสาธงและหมู่บ้านอีต่อง อยู่ในหุบเขาด้านล่าง ส่วนฝั่งพม่าจะเห็นเทือกเขาและแนวป่าที่เป็นแนวเขาสลับซับซ้อน และผืนป่าเดียวกันกับไทยไกลออกไปสุดสายตา มีสถานีส่งก๊าซในฝั่งพม่าอยู่ไม่ไกลจากเขตชายแดน
     

     

    • โพสต์-10
    ธนัท •  มกราคม 13 , 2560

    คำแนะนำเล็กๆน้อยๆ

    คำแนะนำสำหรับคนที่จะไปเขาช้างเผือก
    1.สัญญานโทรศัพท์บอดหมดยกเว้น AIS ก็ให้ไปซื้อที่ไหนก็ได้ ที่ขายซิมAISรายวันสำหรับเล่นเน็ต
    2.ไปฟิตร่างกายให้พร้อมเพราะทางมันหินจริงๆ
    3.เสื้อกันหนาวหนาๆ ปลอกแขนกันแดด หมวก ถุงมือ
    4.ตอนขึ้นก็เอาลูกอมหรือของหวานติดตัวขึ้นไปด้วย เพื่อช่วยเพิ่มพลังงาน

  1. โหลดเพิ่ม