วันเด็กปีนี้อยากไปไหน??  เหอะเหอะ >> แก๊งปากหมาเริ่มหาแหล่งท่องเที่ยวแต่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวันเด็กเล้ย เพราะสมาชิกแต่ละคนเลยวัยเด็กมาหลายกิโล ^^ โจทย์ คือ 1.เดินป่าให้ลืมอาการปวดใจ 2.ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และ 3. สามารถนอนดูดาวปลดปล่อยอารมณ์ได้ สรุป สาวเท่ห์หาเป้าหมายของทริปนี้ คือ “เขาทุ่ง ภูกระดึงแห่งตะวันออก”

วางแผนเตรียมความพร้อมทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า อาหาร อุปกรณ์กางเต้นท์ที่น้ำหนักเบาที่สุดเพราะต้องเดินเท้าระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร สภาพจิตใจเดอะแก๊งฯพร้อมมากแต่สภาพร่างกายแต่ละคนยังไม่ได้ฟื้นฟูจากทริปก่อนเลย

หมูทอด ไก่ทอด ปลาแห้ง ไข่ต้มพร้อม เสบียงสำหรับเดินป่า 

ล้อหมุนตั้งแต่ 6.30 น. เส้นทางหลวง 3481 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา เส้นทางประมาณ 160 กิโลเมตร ตั้งเข็มทิศไป อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ดูจากระยะทางน่าจะไปถึงจุดหมายไม่เกิน 10 โมงเช้า แต่เราไปถึงหน่วยพิทักษฺ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.8 ว่านเหลือง) เกือบเที่ยง เพราะเถลไถลแวะถ่ายรูป เพราะเพียงแค่ออกจากกรุงเทพตลอดระยะทางมีนบุรี – หนองจอก หมอกลงมาหยอกเอินกับทุ่งนาเขียวขจีเพลิดเพลินกันไป แถมกินโน้นกินนี้เพิ่มพลังเพื่อให้มีแรงเดินต่อ 

ถึงอำเภอนาดี มีหรือที่การเดินทางจะสวยหรูและเดอะแก๊งฯ จะไปถูก ขนาดมีแผนที่นำทาง 5555 เลี้ยวผิดตลอดจนสาวคิกขุอินเตอร์เริ่มท้อกับการเป็นผู้บอกทาง เพราะ งง งง กับ GPS และเส้นทางความเป็นจริง ทะเลาะกับโปรแกรมสิริตลอด เราจึงขอยึดแผนที่ตามปากที่ถามเส้นทางจากคนในพื้นที่จะดีกว่า ตัดสินใจเลี้ยวเข้าสถานีตำรวจที่น่าจะพอช่วยได้ แต่ด้วยเพราะพี่ๆ ตำรวจนั่งกันหลายนาย ต่างคนต่างช่วยบอกกันไปคนละทิศ เอาแล้ว!!!! งานเข้า 5555 แต่ขอบพระคุณมากมายค่ะ

พอไปถึงเดอะแก๊งฯ ต้องผิดหวังเพราะพี่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องติดต่อล่วงหน้าประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากต้องแจ้งขออนุญาตจากหน่วยไปยังเขตและต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทาง ค่าใช้จ่ายวันละ 500 บาท ไม่รวมค่าลูกหาบที่แล้วแต่จะตกลงกัน แต่สำหรับวันนี้ไม่ใช่วันของเดอะแก๊งฯ แม้จะไม่ได้ไปเขาทุ่ง พวกเราก็มีจุดหมายใหม่ ก็บอกแล้วเดอะแก๊งฯ ตั้งหน้าแล้วไม่มีถอยหลัง แต่คืนนี้จะไปนอนที่ไหนหละ 5555

ขอรูปการเดินสำรวจเส้นทางไปเขาทุ่งเพื่อดูกระตุ้นความอยากจากพี่ ก.ปกปัก เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษฺ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.8 ว่านเหลือง) นามเรียกขานที่เท่ห์สุดสุด ก.คือตัวย่ออักษรแรกของชื่อและปกปักคือการปกปักรักษาป่าไม้และธรรมชาติ เป็นไงหราเท่ห์ไปเล้ย 5555

Cr. ก.ปกปัก

การติดต่อเพื่อแจ้งความต้องการจะไปเขาทุ่งสามารถโทรหาคุณไพรรัชน์ ทองอุ้ม หัวหน้าหน่วยพิทักษฺ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.8 ว่านเหลือง) เบอร์โทร 09 2979 5011  และ 08 3884 6268 ในเวลาราชการนะคะ เกรงใจพี่เจ้าหน้าที่ อิอิ 

รอบนี้ได้รู้จัก "เจ้าฮีโร่" ที่ได้ชื่อนี้มา เพราะเป็นตัวหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการเดินสำรวจป่าหลายครั้งกับพี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และจับผู้ต้องสงสัยได้ พี่ ก.ปกปัก เล่าให้ฟังและบอกว่ามีรูปฮีโร่สะพายปืนเดินสำรวจด้วย แต่เสียดายที่หารูปนั้นไม่เจอ ขอบอก+++ น้องน่ารักมาก วิ่งมาคลอเคลียตั้งแต่เดอะแก๊งฯไปถึง แถมอยู่ใกล้ชิดและมาส่งถึงรถในขากลับ แล้วค่อยพบกันใหม่นะ เจ้าฮีโร่

เดินทางกันต่อ จาก ขญ.8 ไปต่อ ขญ.9 เราตั้งเข็มจะไปเดินเล่นที่แก่งหินเพิงซึ่งอยู่ไม่ไกล ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว ย้อนกลับมาตรงป้ายแยกไป ขญ.8 พี่ ก.ปกปัก น่ารักมากแนะนำเส้นทางและบอกว่าเข้าไปเลยนะไม่ต้องจ่ายตังค์ค่าเข้าอุทยานฯ แหมมม!!!! ก็วันนี้วันเด็กเขาเปิดให้เข้าฟรีป่ะค่ะคุณพี่ และขอสารภาพเส้นทางที่พี่บอกฟังไม่ทันแถม งง งง แต่ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ต้อนรับเดอะแก๊งฯ อย่างดี ^^ 5555

ระหว่างทางผ่านหมู่บ้าน แวะอีกแล้ว เห็นประตูวัดสวยงามเลยลงมาเก็บภาพ แต่ความจริงคือ หลงทางคร้า+++ เลี้ยวผิดเพราะเจอทางแยกไม่ได้ 55555 เลยแก้เก้อระหว่างหันหัวรถกลับก็แค่นั้น 5555 

เส้นทางมีลูกรังบ้างเล็กน้อย แต่โชคดีที่ไม่เจอฝน ไม่งั้นสงสารน้องมังคุดแย่ แค่นี้สภาพก็ไม่เหลือแล้ว เหอะเหอะ

แต่พอพ้นจากหน่วย ขญ.8 เส้นทางเป็นคอนกรีตตลอด ค่อยยังชั่ว !!!

ใช้เวลาไม่นานประมาณ 40 นาที รวมการหลง 5555 การเดินทางมาวันนี้ดีมากมาย นักท่องเที่ยวไม่เยอะอย่างที่คิด เพราะทุกคนต่างมุ่งมั่นพาเด็กไปนั่งรถถัง ดูเครื่องบินกัน เส้นทางที่เรามาเลยโล่ง โปร่ง สบาย

เดินแหกปากร้องเพลงกันไป ถ่ายรูปกันไป จนมาเจอจุดพัก ก็ยั่วยวนซะขนาดนั้น จะไม่แวะได้ไง

หายเหนื่อยแล้ว เดินทางกันต่อ Go Go Go 

มาถึงก็สดชื่น เพราะฝูงผีเสื้อรอต้อนรับอยู่ แต่เสียดาย!!! น้ำน้อยทำให้เห็นแก่งหินเพิงดูแห้งแล้งนิดหน่อย แต่โขดหินโดดเด่นจริงๆ ก็สวยไปอีกแบบ ^^ 

จากแก่งหินเพิง ชมนกชมไม้ผ่อนคลายกับสายลมและฝูงผีเสื้อ เดอแก๊งฯ รีบไปต่อ จุดหมายสุดท้ายของวัน คืออุทยานแห่งชาติปางสีดา เราเลือกไปเส้นทางหลวงหมายเลข 3290 ไปทางหลวงชนบทปราจีนบุรี 3004 เจอเส้นทางหลวงสระแก้ว 3039 และต่อด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 3462 รวมระยะทางประมาณเกือบ 70 กิโลเมตร แวะซื้อน้ำและขนมข้างทาง ไม่นานประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึง

อย่างที่บอกรอบนี้ไม่มีค่าเข้าอุทยานฯ เข้าฟรี แต่พวกเราปักหมุดค้างที่นี้เลยต้องแวะรายงานตัวแจ้งเจ้าหน้าที่จ่ายค่าธรรมเนียมที่พักไป คนละ 30 บาท ถูกและคุ้มที่สุด 

ระหว่างรอจ่ายค่าธรรมเนียม พี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้ามาจับกีตาร์แล้วร้องเพลง อึ้ง+++ กับน้ำเสียงของพี่เขาเพราะดังกังวาน แอบมองดูเข้าใจว่าพี่เขาร้องเพลงใส่ไมค์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาติดต่อ แต่เปล่าเลย ร้องกันสดๆ แถมน้ำเสียงก็ดีกว่าเดอะแก๊งหลายเท่า 5555 

ว่าแล้วจึงเข้าไปขอให้พี่ๆ เขาร้องให้ฟังแบบจัดเต็มอีกรอบ เพราะมากๆ รู้จากพี่ๆ ว่าเนื้อเพลงได้มาจากกลุ่มน้องๆ เยาวชนที่เขียนไว้ให้กับอุทยานฯเขาใหญ่ ชอบตรงท่อน "กอดฟ้า กอดน้ำ และกอดต้นไม้ ให้อบอุ่นใจ อุ่นรัก ทุกเวลา ส่งยิ้ม ลมหายใจให้เธอเสมอมา รอให้เธอมา>>>กอดฉัน...."  ขอบคุณนะคร้าที่จัดแสดงดนตรีสดให้ฟัง ^^

ฟังเพลงเสร็จจึงขอแสตมป์เพื่อเก็บเป็นความทรงจำอีกหน้าหนึ่งของพาสปอร์ต

ก่อนขึ้นไปจุดกางเต้นท์ เดอะแก๊งฯ แวะเก็บภาพฝูงผีเสื้อที่กำลังบินโฉบเฉียว อวดโฉมอยู่ แต่กว่าจะได้สักรูปเล่นเอาเหนื่อยเลย ขออวดแค่นี้นะ อาจไม่สวยเพราะไม่ได้เตรียมเลนส์มาโครมาด้วย และพอเข้าไปใกล้ๆ ผีเสื้อก็บินหนีซะงั้น เห้อ!!! อย่างที่บอกเป้าหมายของเราไม่ใช่จุดหมายที่นี้ 5555

เดินทางกันต่อเพื่อไปจุดกางเต้นท์ เส้นทางจะเป็นถนนลูกรังตลอดประมาณ 25 กิโลเมตร ตื่นเต้นและคอยลุ้นเส้นทาง ขับตามลายรถคันอื่น ลุ้นว่าน้องมังคุดจะไปรอดหรือเปล่า แต่ใจคนขับเต็มร้อย ถึงไหนถึงกัน 555

กว่าจะถึงจุดกางเต้นท์ ประมาณกิโลเมตรที่ 20 พระอาทิตย์ก็เริ่มตกขอบฟ้า ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ หาจุดเหมาะสำหรับเดอะแก๊งฯ ไม่น่าเชื่อจะมีนักท่องเที่ยวแค่ 3 กลุ่มใหญ่เท่านั้น เดอะแก๊งฯ จึงเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งไปถึง 

ได้จุดกางเต้นท์เรียบร้อย กว่าจะกางเสร็จพระจันทร์ก็โผล่มาให้เห็น คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ส่องแสงสีนวลอวดโฉมโดดเด่น

ห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่นี้ค่อนข้างสะอาด น้ำไม่เย็นมากนักเพราะอากาศกำลังสบายๆ ไม่หนาวยะเยือก ทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จ น้องๆ เต้นท์ข้างๆ บอกมาร่วมแจมทานมื้อเย็นกัน จัดสิค่ะ !!! หิวมากมาย แต่ไม่ลืมหยิบเสบียงที่เตรียมไว้ พอมาถึง โอ้โห้!!! กุ้ง เป็ด หมูเพียบ สาวเท่ห์ไม่ลดละ รีบเอา ไก่ทอด หมูทอด ไข่ต้มและน้ำพริกเข้าสู้ 5555 ถามว่าอายไหม??? คำว่า "อาย" เดอะแก๊งฯ สะกดไม่เป็นซะด้วย 5555 แต่ไปๆ มาๆ เมาท์กันเพลินๆ กุ้งย่างหายไปเกือบ 2 กิโล กินก่อนจะเริ่มทำความรู้จักกัน 5555

ยินดีที่ได้รู้จัก น้าอ๊อดพี่ใหญ่ ที่ใหญ่ทั้งตัวและอายุ (ล้อเล่นนะค่ะ แค่เอาเรื่องจริงมาพูด อิอิ) พี่ติ้งคนรับใช้ส่วนตัวของน้าอ๊อด (น้าอ๊อดแนะนำอย่างนั้น) ที่คอยยิ้มหัวเราะไม่เถียงเพื่อให้น้าอ๊อดสบายใจ 555 ออยและแบงค์เด็กวิศวะวัยกระเตาะที่หลงเสน่ห์และคารมฤทธิ์ปากของเดอะแก๊งฯ จะจำไม่ลืมเรื่อง "กีบเท้า กะ แง่งข่า" นะ 5555 ติดใจฝีมือการปรุงน้ำจิ้มของแบงค์ที่อาหร่อยมากมาย แต่ไม่รู้แบงค์ใส่อะไรไปน้ำจิ้ม เพราะกินกันไป เมาท์กันไป ขำกันไปจนเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เดินมากระซิบบอกหลัง 4 ทุ่มขอเสียงเบาๆ นะครับเพื่อไม่รบกวนเต้นท์อื่น อิอิ จัดไปคร้า กระซิบขำกันไป

"พี่คับ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน" หนุ่มออยเดินมาเขย่าเต้นท์ส่งเสียงปลุกตั้งแต่ฟ้ายังมืด สาวๆ งัวเงียตื่น แต่นึกขึ้นได้จึงรีบขอเวลา 10 นาที เดอะแก๊งฯ พร้อมกระโดดขึ้นรถปิกอัพของออย เพราะทางขึ้นไปจุดชมพระอาทิตย์นั้นทางจะแคบและชันนิดหน่อย เกรงว่าจะเอาน้องมังคุดไปคงมีเสียวเลยไม่เสี่ยงไปดีกว่า

ไปถึงจึงรู้ว่า จุดชมวิวนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก อ้าว!!! แล้วจะพามาทำไม??? แต่ท้องฟ้าเริ่มสว่าง มองเห็นทิวหมอกอยู่ริบๆ และดวงจันทร์กลมโต เราจึงขอมานั่งดูดวงจันทร์ตอนฟ้าสร่างแทนก็ได้ ก็สวยไปอีกแบบ ^^

สองหนุ่มกำลังจู้จี๋กัน เดอะแก๊งฯ ไม่กล้าเข้าไปกวนใจ แหม++หวานซ้าาาา 5555

ตื่นเต้นกับรอยเท้ากระทิง หนุ่มๆ บอกยังงั้น อยากลงไปถ่ายใกล้ๆ นะ แต่กลัวจะเข้าทาง 2 หนุ่มที่จะพามาปล่อยป่าที่พอเดอะแก๊งลงจากรถแล้วขับหนีไม่ยอมรอ ยิ่งหน้าตาทั้งสองหนุ่มไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ 5555

ถึงเวลาต้องกลับ "เก็บไปเพียงภาพถ่าย ฝากไว้เพียงรอยเท้า" ขอต่อจากคำพูดของอุทยานฯ อีกนิดนะ "เก็บไว้ในความทรงจำ พร้อมทั้งบันทึกเป็นร่องรอยให้คิดถึง" ภูมิใจสุดๆ กับงบประมาณทริปนี้ เฉลี่ยคนละ 720 บาท คุ้มสุดๆ 

แล้วเจอกันในทริปต่อไป แต่ "เขาทุ่ง" จะเป็นอีก 1 ทริปที่จะต้องกลับมาแก้ตัว แล้วเดอะแก๊งฯ จะไปพิชิตกัน ^^