เร่ิมออกเดินทางเย็นวันพระฤหัสบดี ทริปนนี้อย่างที่บอกเดินทางไกลกลางคืนด้วยมอไซด์ทริปแรกเลยแผนคืนนี้เลยจะออกแต่เย็น ไปหาที่นอนแถวอุตรดิตถ์ข้างทาง ทริปนนี้ถือเป็นทริปฉลอง 10000 โลเลยพอดี
หลังจากไปรับแฟนเลิกงานตอน5โมง ก็เลาะๆมาเรื่อยวันนี้รถติดมากเนื่องจากเป็นหยุดยาว 3 วัน แวะอัดน้ำมันถังแรกแถวๆบางใหญ่ วันนี้จะวิ่งเส้นสุพรรณไปออกชัยนาทครับ
มิตรภาพระหว่างทาง กับการเดินทางกลางคืนคันเดียวครั้งแรก ระหว่างทางตั้งแต่นครสวรรค์มาถึงอุตรดิตถ์ เราก็ขี่มาด้วยความเร็วทั่วไป ประมาณ120 สักพักก็เห็นแสงไฟกระบะค่อนข้างเร็วมาแถวท้ายๆ แล้วก็แซงหน้าไปได้สักพัก เขาก็ขับช้าลง ระยะทางก็แบบในรูป พอถึงไฟแดง เราก็แซงไปอยู่หน้าไฟแดง พอไฟเขียวได้สักพักไม่นาน พี่นาวาร่าคันนี้ก็แซงรถทุกคันมาเรื่อยๆ พอมาถึงเราก็แซงแล้วก็ทิ้งระยะแบบเดิม จนรถยนต์ที่เขาแซงมาแซงกลับไปเกือบหมด แล้วก็เป็นแบบนนี้ทุกครั้งที่ติดไฟแดงเสร็จเขาก็แซงมาอยู่ข้างหน้า จนมีช่วงที่ถึงพิษณุโลกแวะเติมน้ำมัน พอขับออกมาได้สักพักความเร็วเท่าเดิม เจอพี่แกอีกและเหมือนกะตั้งใจรอ เอะใจหรือจะมิจฉาชีพ555 แต่ไม่น่าใช่เห็นนั้งกันมาเต็มรถทะเบียนกทม. แล้วพี่เขาก็นำทางผมจนถึงอุตรดิตถ์ จนเราแวะหาที่พักข้างทางบีบแตรไปที ไม่รู้ว่าเรามโนเองหรือป่าวแต่ก็ช่างเถอะทำให้การเดินทางในคืนนั้นไม่น่ากลัวเลยเหมือนมีกระบะนำทางตลอดอุ่นใจจริงๆ ขอบคุณพี่นาวาร่าสีขาวอีกครั้ง
หลังจากบีบแตรทักพี่นาวาร่า เพราะเห็นป้ายจะถึงอุตรดิจถ์อีกไม่ถึง 10 โล เห็นซ้ายมือตึกใหญ่โตดูใหม่จอดทันที
อยู่ติดริมถนนเลยไฟสว่างชัดเจนเขาสอบถามราคาบอก 400บาท แต่ว่ามาถึงเที่ยงคืนกว่าแล้วแล้วจะขอออกตี5กว่าๆ เลยลดให้350 อยู่ในงบเลยจัดไปนอนนี้แหละคืนนี้
เสียดายรูปในห้องพักหายดันเผลอกดลบไป ที่ห้องพักใหม่มากน่าจะเปิดได้ไม่นาน ใหม่สอาดกว้างขวางแอร์เย็นเจี็ยบเตียงก็นุ่มมากมีอุปกรณ์ครบเลย ที่พักดีกว่าตามที่เที่ยวหลายๆที่เลยแหละ แต่อยู่ริมถนนไม่มีวิวเลยถูก แนะนำเลยใครจะมาแวะพักก่อนเดิมทางที่นนี้แจ่มมากครับ อยู่ก่อนถึงตัวเมืองอุตรดิตถ์ไม่เกิน10โล อ้อติดกับปั้มปตทอีกตะหากปั้มเลยไป200เมตร มี7-11ทั้งคืน
ตื่นตี5 กำลังหลับสบายมากๆ แอร์เย็นฉ่ำมันช่างนอนต่อจริงๆแต่ไม่ได้เป้าหมายของเรารออยู่ดีดตัวเอง อาบน้ำแต่งตัว ออกมาแวะปั้มหน้าที่พัก เติมน้ำมันอัดให้เต็มและมื้อเช้าเบาๆไปกินที่ภูพญาพ่อ
ขับมาตามแมบมีป้ายบอกภูพญาพ่อแต่สักพักป้ายก็หายหาไม่เจอเลยขับตาม gps ต่อ ภูพญาพ่อนี้เป็นจุดชมวิวอยู่ระหว่างรอยต่อกับจังหวัดแพร่ เวลาประมาณ 6โมงกว่าๆ ยามเช้าท้องฟ้าครึ้มๆ ขี่มาจนถึงห้วยน้ำรี ที่นี้เป็นจุดชมวิวระหว่างทาง ไม่รู้ว่าเป็นสถานที่อะไรหรือป่าวก็ไม่แน่ใจยังเช้าไม่พบเจอใคร แต่วิวสวยหมอกงามมากเลยแวะถ่ายรูปก่อน
ถือว่าเป็นรางวัลของการเปิดทริปนนี้ได้ดีเลยกับสายหมอกตามหุบเขาไม่ต้องเยอะแบบทะเลแบบนนี้แหละสวยดี ไม่รู้เลยว่าอุตรดิตถ์ก็มีหมอกด้วย
เส้นทางไปภูพญาพ่อนั้นไม่ยากเป็นทางดำราดยางแต่จะแคบหน่อยพอช่วงใกล้ถุงประมาณ 10โลได้จะเป็นดินแดงแต่กินแดงแข็งเหมือนพึ่งปรับหน้าดินถนน รถเก๋งไม่โหลดก็มาได้เหมือนว่ากำลังจะราดยางมั้ง
ระหว่างทางเจอสายหมอกหยอกเย้าทักทายตลอดทางทำให้การเดินทางของผมช้าลงอีกแล้ว
เพราะผมชอบเสพความงามกับสิ่งที่พบเจอต่อหน้าก่อนไม่จำเป็นต้องรีบไปให้ถึงจุดหมาย ค่อยๆไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผมเลยต้องมีความสุขกับสิ่งตรงหน้าก่อน
หมอกเยอะมาก
ทางไม่ยากชิลๆครับแต่คนแทบไม่มีเลย กลางคืนไม่ควรมาเส้นนี้
เจอน้ำตกระหว่างทาง
แล้วเราก็มาถึงภูพญาพ่อเกือบ8โมง ตรงนนี้หมอกขาวปิดไม่เห็นอะไรเลย
ไหว้พระขอพรให้ทริปนี้ผ่านไปได้ด้วยดี
อย่างที่บอกผมชอบมีความสุขกับสิ่งตรงหน้าก่อนเพราะไม่รู้ทางต่อไปจะพบเจออะไรอย่างที่นนี้ พามาถึงหมอกขาวโพลนเย็นจนเิ่มหนาวผมพักกินมื้อเช้าเบาๆที่ซื้อจากปั้มกันมา จน8โมงกว่ายังไม่มีทีท่าว่าฟ้าจะเปิด โชคดีที่ผมแวะถ่ายรุประหว่างทางไปแล้วไม่ได้รีบมาจนถึงไม่งั้นคงไม่ได้รูปเลย 555 ตอนนี้มองไม่เห็นวิวอะไรเลยแต่ไม่เสียใจ ที่ภูพญาพ่อเคยเห็นรูปมาตามเน็ตแล้วแต่วิวระหว่างทางนนี้สิที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ออกเดินทางกันต่อเส้นทางนนี้ไปทะลุกับพระธาตุช่อแฮครับ เส้นทางยังคงเป็นดินแดงอีกประมาณ 20กว่าโลกว่าจะเจอทางดำ
ระหว่างทางเจอบ้านหลังนึงอีกแล้ว บรรยากาศดีมาก ไม่มีคนอยู่
แวะถ่ายรูปหน่อย บรรยากาศดีจริงๆเป็นหุบเขาข้างหน้า
ถึงแล้วถนนดำ
ระหว่างทางมีน้ำตกเชิงทองแต่ก็ไม่ได้แวะ แล้วก็มีลำธารระหว่างทางครับสวยๆ
มีร้านกาแฟเยอะด้วยแต่ว่ายังเช้าไม่ค่อยมีร้านเปิด
เจอตรงไหนก็จอดไปเรื่อยครับ กว่าจะพ้นแพร่555
ถึงพระธาตุช่อแฮก็ต้องแวะกันก่อน
กว่าจะออกจากแพร่ได้ปาเข้าไป10โมงกว่า
พอเข้าเส้นหลักไม่มีวิวอะไรให้ชมก็บิดแหลกครับ ซัดยาวๆ มาถึงวัเพระธาตุเขาน้อยมาน่านกี่ครั้งยังไงก็ต้องแวะ
วิวสวยงามมากเห็นได้ทั้งเมือง
ถึงแล้วท่าคู่มา
ต่อจากพระธาตุเขาน้อยเข้าเมืองไปอีกหน่อย ซุ้มลีลาวดี ในคลิปแอบใส่ชื่อผิดเป็นจามจุรี อิอิ
เข้าเมืองเหนือต้องนุ่งผ้าถุงเตรียมมาจากบ้าน555
หนุ่มเราก็ผ้าขาวม้าแล้วกันเข้ากับบรรยากาศอิอิ
เดินมาอีกฝั่ง
วัดภูมินทร์
ไหว้พระขอพร
แล้วอย่าลืมมากระซิบรักบันลือโลก กับปูม่าน ย่าม่านกันครับ
เที่ยงแก่ๆ ร้อนและหิวไม่ได้แวะวัดอื่นแล้วครับ
ขี่ออกมาอีกนิดแถวๆศาลหลักเมืองแวะกินข้าวซ้อนน้ำเงี้ยวห้องแอร์ด้วยราคาไม่แพง40บาท
ของคาวแล้วต้องต่อด้วยของหวาน ร้านขนมหวานป้านิ่มครับ ใกล้ๆกันนั้นแหละขี่มาอีกนิด อร่อยมากครับ อย่าลืมแวะมาลองกัน
จากนั้นก็ยิงยาวอีกครั้งเป้าหมายคืนนี้เราจะไปนอนที่ปัว มาถึงปัวประมาณ บ่าย3 จุดหมายที่แรก วังศิลาแลง
ทางเข้าเป็นทุ่งนาสวยงาม ที่จริงเขาทางถูกแล้วตามป้ายแต่นึกว่าผิดเลยวนออกขี่ขึ้นไปอีก
มาถึงฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำโฮมสเตย์เป็นทั้งร้านอาหารร้านกาแฟ ที่พัก มีฟาร์ม มีพิซซ่าด้วยแต่ไม่ได้กินครับ เขาบอกว่าข้างล่างถูกแล้วเลยขี่ลงมาอีกรอบ
มาถึงตรงที่เป็นเหมือนประตูน้ำ ไม่ใช่แพลทตินั่มนะ หมายถึงประตูปิดเปิดปล่อยน้ำครับ นั้นแหละแล้วเดินต่ออีกหน่อย ไม่ไกล300 เมตรได้
ถึงแล้ววังศิลาแลง แต่วันนี้น้ำแดงมาก ช่วงที่ไปพายุเข้าภาคเหนือครับ ลุ้นอยู่ตลอดทั้งทริปว่าจะโดนฝนไหม
น้ำเชี่ยวแรงมากครับลงไปถ่ายข้างล่างไม่ได้
ออกจากวังศิลาแลง ขี่ออกมาย้อนทางเดิมผ่านแต่แรกแล้วร้านกาแฟบ้านไทลื้อครับ คนเยอะเหมือนกันที่นี้
วิวสวยบรรยากาศดีแถมมี ไวไฟฟรี พักเสียหน่อย
บรรยากาศที่ร้าน
พักอยู่นานครับ ได้เวลาไปต่อ 5 โมงแล้ว
ปิดท้ายด้วยวัดภูเก็ตอยู่ใกล้ๆกันเลยแต่ละที่ขี่รถไม่นาน
วิวดีงามครับมีไวไฟฟรีเหมือนกันนะที่วัด
ออกมาแวะถ่ายรูปวิวถนนกับภูเขาสวยๆกันก่อน
จากนั้นก็เข้าที่พักคืนนี้เรานอนที่โรงแรมแสงอรุณ อยู่ในซอยตรงแถวๆ7-11ปัว เข้ามาไม่ลึกอยู่ขวามือคืนละ400 บาท เป็นห้องพักแบบสไตล์มีทั้งรายวันรายเดือน มีไวไฟ แอร์ ราคาถูกดีมาก แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกและ แต่หลักร้อยมีเยอะครับในปัวลองหาดูใครเน้นถูกก็ที่นี้เลยแนะนำ สอาดปลอดภัย ออกมานิดเดียวก็มี7-11แล้ว
หลังจากเข้าที่พักเอาของเก็บเปลี่ยนชุดออกมาหาข้าวเย็นกินที่ร้านในตัวเมืองนี้แหละคนเยอะเลย
หลังจากกินข้าวเสร็จฝูงนกมากมายเยอะมากก็บินอยุ่นานแล้ว แล้วก็เข้าที่พักพักผ่อนครับกับวันแรก12ชั่วโมงพอดีกับการเดินทาง