ทริปชิลๆ ครบรส | เดินเท้าเข้าป่า นอนโฮมสเตย์ กินหมูกระทะ! ล่องแพไม้ไผ่

 2 วัน 1 คืน | 12-13 พฤศจิกายน 2565

------------------------------------------------------

 

           "หมู่บ้านโป่งแง้น" หมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ที่ ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านในป่าใหญ่ที่รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าเข้าป่าข้ามเขา หรือจะล่องแพไม้ไผ่เข้าไปในหมู่บ้านได้เท่านั้น ที่นั้นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีบ้านอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน ชาวบ้านเป็นคนชนเผ่าลาหู่ ที่นั้นบรรยากาศดี เงียบสงบ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์​ หมู่บ้านตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขา มีลำธารไหลผ่าน อยู่ริมลำน้ำแม่แตง

**ช่วงเดือนการท่องเที่ยว
             เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่มีน้ำเหมาะสำหรับการล่องแพไม้ไผ่


ระยะทางโดยประมาณไม่เกิน 4 กิโลเมตร

 

          พวกเราไปเที่ยวแบบจอยทริป! ทางผู้จัดเป็นคนจัดการติดต่อทั้งหมด พวกเรามีหน้าที่เตรียมตัว เตรียมขา และเตรียมเงินไว้เท่านั้นพอ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ แบบกันเอง แนะนำให้ทำการติดต่อกับทางที่พักให้เรียบร้อย พร้อมนัดเวลาเพื่อมายังจุดรวมตัว เพราะการเดินทางเข้าหมู่บ้านต้องมีการเปลี่ยนรถเพื่อนั่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกเข้าหมู่บ้านด้วยวิธีไหน เดินเท้าเข้าป่าเดินข้าเขา หรือถ่อแพไม้ไผ่ สำหรับใครที่ขับรถมาเองสามารถขับรถมาจอดไว้ที่หมู่บ้านสบก๋าย ต.กื๊ดช้าง อ.แม่แตง ได้นะจ๊ะ

         พวกเรามาถึง อ.แม่แตง ประมาณ 05:00 น. ออกเดินทางต่อไปที่ บ้านสบก๋าย เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถกระบะตาม เวลา 10:00 -11:00 น. เพื่อไปยังจุดเริ่มเดินเท้า

จุดนัดรวมตัวที่ทุกกรุ๊ปจะมาเจอกันที่นี่

 

กรุ๊ปพวกเรารวมสต๊าฟ ออกไปใช้ชีวิตด้วยกัน 9 คน

 

*การเดินทางเข้าหมู่บ้านโป่งแง้น : การเดินทางเข้าหมู่บ้านมีให้เลือกทาง 2 เส้นทาง พวกเราเลือกเส้นที่ 1
             เส้นทางที่ 1 เดินเท้าเข้าป่า : นั่งรถไปลงที่หมู่บ้านทุ่งยั๊วะ มีระยะทางให้เลือก 2 เส้นทาง คือระยะทาง 4 กิโลเมตร และระยะทาง 6 กิโลเมตร แน่นอนพวกเราเลือก 4 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 2-3 ชั่วโมง (แล้วแต่กำลังขาของแต่ละคน) เส้นทางเดินเท้าถือว่าไม่โหดมากอาจโหดแค่ช่วงกิโลแรกเพราะต้องเดินขึ้นเขาอย่างเดียวเลย หลังจากนั้นคือเดินทางราบและเดินลงเขาอย่างเดียวเช่นกัน
              เส้นทางที่ 2 ล่องแพไม้ไผ่ : นั่งรถไปต่อประมาณ 18 กิโลเมตร ไปที่บ้านป่าข้าวหลามซึ่งเป็นต้นน้ำสำหรับการถ่อแพไม้ไผ่ บนเส้นทางของลำน้ำแม่แตง ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาในการถ่อแพประมาณ 2 ชั่วโมง ทำให้มีเวลาในการชมวิวธรรมชาติแถมไม่ต้องเสียเหงื่อด้วย ระหว่างเส้นทางน้ำมีทั้งช่วงน้ำไหลนิ่ง น้ำไหลเชี่ยว และบางช่วงมีเป็นแก่งเล็ก ๆ น้ำไหลแรงทำให้ได้ตื่นเต้นกันพอดู

              ทั้ง 2 เส้นทางต้องมีไกด์นำทางและมีคนถ่อแพไปด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเดินทางไปกันเองได้ ต้องมีไกด์นำทางไปด้วยทุกกรุ๊ป (ไกด์นำทางเป็นคนของหมู่บ้านที่มีความชำนาญ) ส่วนวันเดินทางกลับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้เส้นทางการล่องแพไม้ไผ่กลับ ระยะทางในการถ่อแพประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

             พวกเราเลือกเส้นทางที่ 1 เดินเท้าเข้าป่า เดินเท้าเข้าไปยังหมู่บ้านระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เดินชันแค่เนินแรกๆ เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเดินป่า ระยะทางความโหดประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นก็เดินชิวๆ ยาวๆ สบายๆ ไปจนถึงหมู่บ้านกันเลยจร้า


ทริปนี้ชิลๆ สำหรับเรานะ

 

            พร้อมกันยัง! แต่ไม่อยากจะบอกว่าเดินเท้าไปถึงก่อนกรุ๊ปที่ล่องแพไม้ไผ่เกือบชั่วโมงเลยนะ ถ้าเดินกันไหวขาไปอยากให้เดินเพราะไงขากลับได้ล่องแพไม้ไผ่กันอยู่แล้ว ก็จะได้ฟิลลิ่ง 2 แบบ 2 อารมณ์ ไปจ๊ะไปเหนื่อยกันเถอะ!


บรรยากาศในป่าก่อนถึงหมู่บ้านเหนื่อยแค่ช่วงแรก จริงๆ นะ

 


เส้นทางเดินเข้าหมู่บ้านจากป้ายหมู่บ้านไปที่พักประมาณ 600 เมตร

 

**ที่พัก
            โฮมสเตย์ของหมู่บ้านโป่งแง้น เป็นบ้านไม้หลังใหญ่ ซึ่งบางหลังเป็นห้องนอนรวม สามารถนอนได้ประมาณ 10 คน มีที่นอนหมอนมุ้งผ้าห่มให้ มีห้องน้ำแยกออกมาด้านนอกบ้าน 1 ห้อง มีห้องครัวและอุปกรณ์เครื่องครัว บ้านแต่ละหลังจะมีน้ำดื่มและเครื่องดื่มขายในจำนวนจำกัด และที่ระเบียงบ้านมีกองไฟสำหรับก่อไฟสามารถหาอะไรมาปิ้งย่างได้ ถ้าใครชอบอากาศเย็นๆ นอนฟังเสียงน้ำ นอนดู ก็ออกไปนอนที่ริมระเบียงบ้านได้เช่นกัน

**ข้อมูลเพิ่มเติม
       - ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือข่าย
       - ไม่มีไฟฟ้า เตรียมเพาเวอร์แบงค์ไปให้พร้อมนะจ๊ะ
       - มีเครื่องดื่มแอลขาย เบียร์ป๋อง กระป๋องละ 50 บาท / น้ำดื่ม 15 บาท / น้ำอัดลม 25 บาท


เดินมาถึงประมาณบ่าย 2 โมงกว่า พร้อมนั่งกินข้าวเที่ยงที่โฮมสเตย์

 

            ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไปพักใจหรือฮีลใจให้กับตัวเองในวันที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดไฟได้ หรือคนที่ต้องการไปสัมผัสกับธรรมชาติเพื่อหนีความวุ่นวายในเมืองไปอยู่กับตัวเอง ที่พักอยู่ติดริมน้ำแม่แตง สามารถลงไปเล่นน้ำได้ มื้อเย็นก็นั่งกินหมูกระทะ ฟิน!! นั่งพูดคุยทำความรู้จักเพื่อนๆ น้องๆ ในกรุ๊ป ทริปนี้ความสนุกครบรสจริงๆ

 

           ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่รู้สึกประทับใจ รู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนได้แบบเต็มอิ่มจริงๆ ด้วยความที่เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในป่าผู้คนไม่เยอะ ได้เห็นถึงวิถีความเป็นอยู่ ได้เห็นความสงบ ความสบายใจ ที่มันมีอยู่จริงๆ ใครตามหาความรู้สึกแบบนี้แนะนำให้มาลองเที่ยวกัน

 

          บรรยากาศช่วงเย็นของที่นี่คือเงียบสงบ ทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลแบบชัดเจนมาก พวกเราไปเที่ยวกันเกือบกลางเดือน พย. อากาศแค่เย็นๆ และมื้อเย็นส่วนใหญ่ของโฮมสเตย์ทุกหลังคือ หมูกระทะ ฟินไปอีกถ้าได้กินไปจิบแอลไปด้วย ที่สุดอ่ะ! บอกเลยว่าวันนั้นจุกมาก แถมนั่งเมาส์กันดึกดื่น


ค่ำคืนนี้ขออำลาด้วยหมูกระทะ! และเจ้าถิ่น

 

สวัสดี! เช้าวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565

           เป็นทริปที่ไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปดูพระอาทิตย์ เพียงเปลี่ยนมาเป็นตื่นเช้าออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ นั่งมองวิวเพลินๆ ฟังเสียงน้ำไหล พร้อมกับกาแฟร้อนๆ สักแก้ว หรือเดินถ่ายรูปเล่นในหมู่บ้าน ภายในหมู่บ้านก็จะมีกันอยู่ ประมาณ 10 กว่าหลังคาเรือน ประชากรประมาณ 30 กว่าคน

           อาหารเช้าที่ทางโฮมสเตย์จัดเตรียมให้ก็จะเป็นพวกกาแฟ ข้าวต้ม และไข่ต้ม อย่าลืมหาขนมปังมาปิ้งกินกับกาแฟตอนเช้าด้วยนะ คือดี

 

            มุมถ่ายภาพอาจมีไม่มากเท่ากับบรรยากาศตรงหน้าที่ได้เห็น กินข้าวเช้าเสร็จก็ยังไม่เวลาเหลือให้ได้ถ่ายภาพเล่นกันก่อนเตรียมล่องแพกลับ

 

           ประมาณ 09:00 พวกเราเตรียมและเดินทางออกจากหมู่บ้าน โดยการถ่อแพไม้ไผ่กลับ ใช้เวลาถ่อแพกัน 2 ชม. โดยจะมีคนนำถ่ออยู่ด้านหน้า ที่เหลือทุกคนช่วยกันถ่อไปที่บ้านสบก๋าย


เชื่อมั้ยคนเนี้ยสต๊าฟกรุ๊ปพวกเรา คริๆ นึกว่าเพื่อนร่วมทริป

 


ซ้อมการเป็นหางเสือกันก่อนล่องแพจริง

 


ตำแหน่งคนคุมหัวเรือของพวกเรา เห็นตัวเล็กๆ แต่แรงดีไม่เบาเลยนะจ๊ะ

 


ตำแหน่งคนบอกทิศการเดินเรือ

 

 

           ปิดทริปด้วยด้วยอาหารอีสานโซนภาคเหนือ อร่อยฟุดๆ แถมทริปนี้น้องๆ ร่วมทริปน่ารักทุกคน

 

**สิ่งที่ต้องเตรียมไป
- เสื้อผ้าสำหรับวันเดินเท้า เสื้อผ้าลำลอง และเสื้อผ้าใส่เล่นน้ำ
- เสื้อผ้าใส่วันกลับ 1 ชุด (ฝากไว้ที่รถตู้)
- เสื้อกันหนาว และหมวกกันแดด
- รองเท้าลำลอง
- ถุงนอน ( สำหรับคนติดผ้าห่มส่วนตัว )
- ไฟฉายหรือไฟคาดหัว
- ขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม (ที่โฮมสเตย์มีขายราคาแรงนิดถือ แต่ถือว่าอุดหนุมชุมชน)

 

**ค่าใช่จ่าย 3,200 บาท [อัตราค่าบริการนี้รวม]
- ค่ารถตู้ปรับอากาศ VIP
- ค่าอาหาร 3 มื้อ
- ค่าที่พัก
- ค่ารถกระบะท้องถิ่น
- ค่าคนนำเข้าหมู่บ้าน
- ค่าแพและคนถ่อนำ
- ค่าประกันอุบัติเหตุ

เครติดภาพ : รวมมิตรกล้องแก๊งเดินป่า

By : Namee Be Bear
Fanpage : www.facebook.com/KanXengStudio
อยากออกทริปต้องไปกับเพจ : Platapien ปลาตะเพียร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Tel.:: 0991242002 แอดมินเพจ
ID line: wanattcha07