5-6 ก.ย. 58 ที่ผ่านมา

ทริปสุดมั๊น!! แม้จะต้องบากบั่นขึ้นบนภูด้วยสวิฟน้อย บรรทุก 5 ชีวิตและของเต็มหลังรถอัดกันมาเพื่อจะไปพิชิตภูทับเบิกกับเขาซักที ครบทุกรส ทั้ง ร้อน ฝน หนาว พายุ เจอทุกอย่าง แต่ก็ไม่ทำให้ความสนุกในการเดินทางครั้งนี้ลดลง 

มันขึ้นมากันได้จะได....

ออกเดินทางจากศรีสะเกษมาถึงก็เช้าพอดี ทริปนี้ไม่ได้วางแผนกันไว้แค่ตกลงกันได้ ก็แพ็คกระเป๋ากันเลย (ใจง่ายมากกกก)  ทีแรกกะจะไปกันเดือนหน้า แต่ไปๆมาๆ ไปกันมันอาทิตย์นี้หล่ะ (วัยรุ่นใจร้อน 55) 

 

กว่าจะมาถึงภูก็ใช้เวลา มีหมอกตลอดทาง แต่คนขับก็สามารถพา 5 ชีวิตมาถึงอย่างปลอดภัย

แต่นับว่าเป็นโชคมากมาถึงก็เจอหมวกสวยคลอเคลียให้ชมเลยทีเดียว

พอไปถึงพวกเราก็ตกลงจะไปเช่าเต้นท์กันที่วิสาหกิจชุมชน  มีคนจับจองเป็นประปรายบ้างแล้ว เจอวิวด้านบนแล้วใจมันสั่นระรัว คือ แบบ ดีงาม เวอร์วังอลังการมว๊ากกกก สวยสุดๆ 

แต่ท้ายสุดแล้วเราไปกางเต้นท์กันที่ไร่ริมผา ขอบอกว่าวิวที่นี่ก็ไม่แพ้กันเลย จากนั้นก็จับจองที่กางกันเลยยยยย ตอนนั้นมีอยู่ไม่กี่เต้นท์

ไร่ริมผาคืออยู่ริมผาจริงๆ (วิวแบบสิบกะโหลกกกกแต่ตอนไปยังไม่เห็นเพราะหมอกคลุม)

บ้านหลังนี้คือดีงาม เสียดายที่พักเต็มหมด

มีน้องๆใจดีเต้นท์ข้างๆมาช่วยกาง จากนั้นก็กลายเป็นมิตรภาพตลอดทริป ร่วมเผชิญชะตากรรมไปด้วยกัน 55

พอกางเต้นท์เสร็จหมอกมาเลยค่ะ ซักพักฝนปรอยๆ คิดในใจว่าเดี๋ยวก็คงหยุด 10 นาทีแค่นั้นแหละมายังกะฟ้ารั่ว ต้องรีบเก็บข้าวของเข้าเต็นท์กันจ้าละหวั่น  แล้วมันก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆทั้งฝนทั้งลม ต้องหาผ้าใบมากางเพิ่มเพราะมันสาดเข้ามาเปียกหมด ทุลักทุเลมาก สรุปคือกว่าจะหยุดก็เปียกปอนไปตามๆกัน ได้เล่นน้ำฝนบนภูนี่ก็เย็นดีเหมือนกันเนอะ สนุกสนานมากเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง(แต่ถ้าตอนเด็กนี่คงโดนแม่ตีละ 55)

สภาพแบบเละเทะอะ เปียกหมด นั่งไม่ได้ต้องนั่งยองๆเอา

บรรยากาศดีๆแถมมีน้ำตก9 ชั้นให้ชมด้วย 555

ไหนๆก็ทำอะไรไม่ได้ละ เปียกก็เปียก หาอะไรรองท้องกันตายก่อนละกัน เอิ๊กๆ

แล้วฝนก็หยุด พอฟ้าเปิดแค่นั้นแหละ บร๊ะเจ้า!!!! วิวสวยมว๊ากกกกกกก แบบตะลึงพรึงเพริดกันเลยทีเดียว ให้สิบกะโหลกกกกกกกกกกก  หยิบกล้องมาถ่ายแทบไม่ทัน

แล้วฝนก็หยุด พอฟ้าเปิดแค่นั้นแหละ บร๊ะเจ้า!!!! วิวสวยมว๊ากกกกกกก แบบตะลึงพรึงเพริดกันเลยทีเดียว 

ให้สิบกะโหลกกกกกกกกกกก  หยิบกล้องมาถ่ายแทบไม่ทัน

มุมดินเนอร์แบบฟินมว๊ากกกกก จิบนิดๆ ชิมหน่อย พร้อมชมวิวพาโนรามา อร๊ายยยยยยย!!  ดี๊ดีๆ

ตอนกลางคืนชมแสงไฟไปด้วย  โหยยยยยสวยสุดๆ

ทำเสร็จก็แบ่งเต้นท์ข้างๆกันไป น้อง 2 คนที่มาช่วยตอนแรกตอนนี้ร่วมก๊วนดวลขวดกันละ 55

 

ช่วงเวลานั้นมันสุขมาก ทั้งอาหาร ทั้งมิตรภาพ เฮฮามากไม่เหมือนเพิ่งรู้จักกัน ซักพักพี่เต้นท์ข้างๆ ก็มาแจมอีก หัวเราะกันบ้านแตก (ต้องขออภัยเต้นท์ใกล้ๆด้วยนะคะ ที่เสียงดังมว๊ากกกกก เพราะเม้าท์มอยกัน หัวเราะลั่นเลย แต่ดีนะเราแอบบติดสินบนอาหารไปให้บ้างแล้ว ลดความขุ่นเคืองไปนิสนุง 55) ซักพักเต้ทน์ข้างๆก็เอามาแบ่งบ้าง แบ่งกันไปแบ่งกันมา น่ารักมาก เหมือนว่าทุกคนพร้อมจะแบ่งปัน พร้อมเป็นเพื่อนกัน มิตรภาพมันดีมากๆ รู้สึกดีสุดๆ เหมือนว่าลืมเวลาไปเลย  

      

รู้อีกทีก็หมด 2 กลมละ กำลังจะต่อ 3 เหมือนว่าจะมีฝนปรอยๆ ซักพักกระหน่ำเลยจ้ะ  มีเสียงตะโกนว่า "ฝนมา!!!!!!!!" เท่านั้นแหละวงแตก หนีใครหนีมัน เก็บของก็ไม่ทันแหกปากโวยวาย แต่ละคนเตรียมแผนสองกันดีมาก (ตกลงกันไว้ตั้งแต่บ่ายว่า ถ้าฝนมาแผนสองนะ เข้าเต้นท์ใครเต้นท์มัน 55) ดูสถานการณ์ซักพัก ลมแรงขึ้นเรื่อยๆตอนนี้เต้นท์โยกแล้วววว จะปลิวม๊ายยยยยย พยายามประคองกันสุดชีวิต อีกหลังก็ดูท่าจะไม่ไหว อะไรกันเนี่ย  กลางวันเจอฝน กลางคืนลมพายุฝนพัดเต้นท์ปลิว มันสุดๆไปเลยทริปนี้ แม้พวกเราจะพยายามฝืนประคองด้วยการรวมตัวไปอัดอยู่ในเต้นท์เดียวแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงพายุได้ ขณะที่เต้นท์อื่นๆเค้าได้สละกันหนีตายกันไปหมดแล้ว จวบจนเมื่อเต้นท์อีหลังได้ยุบตัวลงมา ลงความเห็นว่าไม่ไหวว่ะ สละเต้นท์โว้ยยยยย!!! 

ประคองสุดชีวิต ไม่รอดจร้าาาาาาา 555

จึงสำนึกได้ว่าควรเก็บข้าวของไปหาที่นอนเอาดาบหน้า หอบผ้าหอบผ่อนออกมาพร้อมพายุฝนโหมกระหน่ำ เหมือนเกิดการจลาจลย่อมๆขึ้น ณ บนภูแห่งนั้น พร้อมเสียงโหวกเหวกโวยวาย ไม่ใช่จากที่ไหน เต้นท์เรานั่นเอง..... 55 โชคยังดีที่เจ้าของรีสอร์ทเค้าให้เข้าไปพักในบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ พวกเราได้นอนในห้องพักสุดหรูพร้อมเครื่องมือช่างที่กองอยู่อีกนับสิบ พร้อมกับสมาชิกอื่นๆอีกสองเต้นท์ รวมกันแล้วนับสิบกว่าชีวิต แต่ก็ดีกว่านอนตากฝนทั้งคืน ไม่รู้เต้นท์อื่นชะตากรรมเป็นอย่างไร นอนไปลมก็กระหน่ำทั้งคืน

 

นอนไปก็หนาวไปหลับไม่ลงได้ยินเสียงฝนพร้อมโรงสีข้าวที่มาพร้อมกัน 4 คน 55 ผล๊อยหลับไปตื่นอีกทีได้ยินเสียงว่า เฮ้ยๆตื่นๆทะเลหมอกสวยมาก เท่านั้นละเด้งตัวออกมาจากที่นอนคว้านหากล้องอิแก่คู่ใจวิ่งออกมาทันที พอเช้ามาเจอบรรยากาศทะเลหมอกเท่านั้นแหละ ลืมบรรยากาศสุดแสนทรหดหนีตายเมื่อคืนไปเลย ฟ้าหลังฝนมันดีอย่างนี้นี่เอง ทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา คือนี่เมืองไทยชั่ยป๊ะ ไม่ฝัน มันสวยสุดๆ...

ผู้คนเริ่มมากันแล้ว

อิจฉาพี่คนนี้หนักมาก ได้มุมถ่ายสวยสุดๆ แต่ต้องไต่หน้าผาลงไปนะ แต่หนูไม่กล้าาาาาา...55

ท้องฟ้าสวยฝุดๆ

ผู้คนหามุมถ่ายรูปกันใหญ่ เพื่อเก็บความทรงจำดีๆนี้ไว้

หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลหมอกอันสวยงามที่ธรรมชาติประทานมาให้จนอิ่มเอมเปรมปรีดิ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องมาสำรวจสภาพเต้นท์และข้าวของที่ทิ้งเกลื่อนกลาดเมื่อคืนซักที    

     

จากสภาพที่เห็นถ้าฝืนอยู่ทั้งคืนไม่น่ารอดดดดดด 55

เก็บเต้นท์ไปชมหมอกไป ฟินฝุดๆ

จากนั้นก็มาเก็บข้าวของ ล้างหน้าแปรงฟันกลับบ้านกัน

สภาพห้องนอนสุดหรู พร้อม open air ตลอดคืน(เพราะไม่มีประตู กร๊ากกกกก) และอุปกรณ์(ช่าง)อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน 55

เก็บของกลับบ้านกันคร้าบบบบบบ

สายแล้วแต่หมอกก็ยังหนาอยู่

ทริปนี้ แม้จะต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่คาดไม่ถึงแต่การเดินทางครั้งนี้ก็พบกับบรรยากาศสุดยอด ทะเลหมอกที่สวยจนตะลึง ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับมิตรภาพดีๆ ตลอดทริป การเดินทางอาจไม่สำคัญที่จุดหมาย แต่สำคัญที่คุณได้อะไรจากการเดินทาง ฉันจะไม่ลืมบรรยากาศและมิตรภาพดีๆในวันนั้น คิดถึงภูทับเบิก แล้วเราจะกลับมา....

 

มิตรภาพดีๆมีอยู่ทุกที่ แค่คุณออกเดินทาง.....

 

ลาจากด้วยภาพเดอะแก็งค์ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม  ไว้เจอกันทริปหน้า บาย จุ๊ฟ

***ฝากกระทู้ดีๆของไอ้น้อง ผู้ร่วมเผชิญชะตากรรมด้วยกัน http://pantip.com/topic/34164048

.....การเดินทางทำให้เรามาเจอกับมิตรภาพดีๆ ไว้คราวหน้าเจอกันอีกนะ