วิถีป่าชุมชน บ้านพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี

ท่ อ ง เ ที่ ย ว วิ ถี ธ ร ร ม ช า ติ 

ใกล้ๆ “กรุง”

ท่องเที่ยว “วิถีธรรมชาติ”  ….  ท่องเที่ยว “วิถีไทย”  “สุพรรณบุรี” มีให้ “คุณ” เลือกสัมผัส  ท่องเที่ยววิถีไทย ท่ามกลางผืนป่าอันกว้างใหญ่ 

ณ บ้านพุน้ำร้อน  อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี

ต า ม . . . “โบว์” มาสัมผัสพร้อมๆ กันค่ะ

 

โบว์แพ็คกระเป๋าออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด  วันนี้ตั้งใจจะไปนอนตีพุง กางมุ้งนอน กลางแพยักษ์ ในอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง วิถีป่าชุมชนหมู่บ้านพุน้ำร้อน สถานที่ท่องเที่ยววิถีธรรมชาติ เหมาะกับการแคมป์ปิ้ง กางเต็นท์ หรือจะนอนบนแพ ก็มีให้บริการค่ะ 

- - - การเดินทาง … ก็ไม่ยากอย่างที่คิด - - -
ใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - บางใหญ่ - ถนนสาย 340 - ถนนเลี่ยงเมืองสุพรรณ - ดอนเจดีย์ - สระกระโจม – ทางแยกไป อ.หนองปรือ จากนั้นตรงดิ่งมา “วัดพุน้ำร้อน”  ก็จะเจอป้าย “อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง”

- - - ระยะทาง - - -
จากบางบัวทอง (แยกเข้าถนนเส้น 340) ถึง อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง  รวมระยะทางประมาณ 162 ก.ม. ค่ะ เป็นถนนลาดยางถึง วัดพุน้ำร้อน

จากวัดพุน้ำร้อน เข้าไปถึงตัวอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง เป็นถนนลูกรังอัดแน่น ระยะทาง 9 ก.ม.

ถึงแล้ววววว                                     

เดินทางมาเหนื่อยๆ นั่งพัก ฟังเรื่องราวที่น่ามหัศจรรย์ ของ “อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง” กันหน่อยเร๊วว!!

ว่ากันว่า กว่าจะมีผืนป่าอุดมสมบูรณ์ให้สัตว์น้อยใหญ่ได้อยู่อาศัย รวมทั้งเป็นแหล่งต้นน้ำให้ชาวบ้านทำการเกษตร แต่ก่อนนั้น บริเวณอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงเป็นพื้นที่ภูเขาหัวโล้น จนกระทั่งพระครูวิสิฐสุวรรณคุณ เจ้าอาวาสวัดพุน้ำร้อนได้ร่วมพูดคุยกับคณะกรรมการหมู่บ้านและชักชวนชาวบ้านให้ร่วมกันฟื้นฟูป่าไม้แห่งนี้ในรูปแบบของ

“ป่าชุมชน”  ให้ทุกคนร่วมกันปลูกป่า ดูแลป่า ช่วยกันเฝ้าระวัง รักษาและดูแล จนในที่สุดผืนป่าแห่งนี้ก็กลายมาเป็น  สถานที่ท่องเที่ยวให้ใครต่อใครได้มาพักผ่อน และอยู่กับธรรมชาติ 

อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ปิดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนของทุกปี เพื่อให้ธรรมชาติได้พักผ่อน และจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ในวันที่ 12 สิงหาคม ในวันนั้นจะมีพิธีบวชป่าของชาวบ้านพุน้ำร้อน ใครสนใจจะไปร่วมกันปลูกป่ากับชาวบ้านก็ได้นะคะ

ที่นี่มีที่พักหลากหลายรูปแบบให้เลือกกันค่ะ  อย่างที่บอก ใครถนัดแคมป์ปิ้ง ก็จัดได้ ใครอยากจะนอนแพ    
 พี่เจ้าหน้าที่เขาก็จัดให้ 

แพที่นี่ก็มีทั้งขนาดย่อม และขนาดใหญ่ค่ะ แบบโบว์ที่ยกทีมถ่ายทำรายการกันมาหลายคน 

ขอเลือกแบบแพขนาดหย่ายยยละกันค่ะ แต่บอกก่อนนะคะ ถ้าเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวเนี่ยะนะ เราต้องจองแพกันล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนเลยทีเดียว  วางแผนเดินทางและจองที่พักกันตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

อัตราค่าบริการ…  ก็ตามนี้เลยค่ะ

 

-  ค่าที่พักแพหลังใหญ่ สำหรับ 30 – 40 คน  หลังละ 2,000 บาท/คืน  

 

 

-  ค่าที่พักแพเล็ก  สำหรับ 4 – 5 คน   หลังละ 400 บาท/คืน 

 

-  ค่าบริการเช่าเต็นท์   สำหรับ 1-2 คน  หลังละ 150 บาท/คืน (ราคานี้ไม่รวมอาหารนะจ๊ะ)

 

ส่วนเรื่องอาหารการกิน  ของที่นี่เขาก็ดูแลกันน่ารักทีเดียวค่ะ  

อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ดำเนินการโดยกลุ่มสหกรณ์ชุมชน  ชาวบ้านในหมู่บ้านรวมกลุ่มกันค้าขายอาหาร สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดูแลกลุ่มของตัวเอง  เช่น  ร้านค้าสหกรณ์กลุ่มหมูอบโอ่ง กลุ่มส้มตำถาด กลุ่มไก่หมุน กลุ่มอาหารชุดขันโตก  น่ากินทั้งนั้น ฟังแค่ชื่อก็ชวนหิวใช่ไหมล่ะคะ 

มีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของแต่ละเดือน ทุกสิ้นเดือน ทุกคนก็จะได้รับเงินปันผล  ส่วนที่เหลือก็เป็นเงินออมทรัพย์เข้าสหกรณ์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงต่อไปค่ะ…  ( น่ารักไหมล่ะแบบนี้ )

หรือใครจะไปปรุงอาหารกินเองก็ทำได้นะ  แต่มีกฎว่าต้องช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดกันด้วยนะคะ

 

กิ น อิ่ มแล้ว  .. ก็ ไ ด้ เ ว ล า ห า กิ จ ก ร ร ม ทำ ซ ะ ห น่ อ ย ค่ ะ

. . ท่องเที่ยววิถีธรรมชาติ . .  ก็ต้องอยู่กับธรรมชาติ  . . แล้วธรรมชาติที่นี่เราสามารถทำอะไรบ้างน้า .. นี่เลยค่ะ

 

กิจกรรมที่ 1  :  จิบชาสมุนไพร  และเครื่องดื่มที่พร้อมให้บริการ ฟรี! ในทุกๆ เช้า

 

 

กิจกรรมที่ 2  :  ปั่นจักรยานน้ำ  ลดก๊าซคาร์บอนให้อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง

 

 

กิจกรรมที่ 3  :  หรือจะแบกจักรยานมาปั่นเล่น  ก็ไม่ว่ากันค่ะ  ปั่น ปั่น ปั่น .. มองธรรมชาติ คลอเคล้าเสียงนกร้อง  สุขใจอย่าบอกใคร

 

กิจกรรมสุดท้าย  :  เมื่อมาเยี่ยม “ป่า”  อาศัยอยู่กับ  “ธรรมชาติ”  ก็ต้องช่วยกัน  “ดูแล  ป่า” ..

                                              

                                            …  มาปลูกป่ากันเถอะ  …

อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง  ..  เขามีบริการ  แจกจ่าย  ต้นกล้า ให้กับนักท่องเที่ยวที่มา  ได้ร่วมกันปลูกป่าทดแทนกันด้วย

                                           …  มาเมื่อไหร่ … อย่าลืมปลูกป่ากันด้วยน้า …

หมู่บ้านนี้ ไม่ได้มีแค่ธรรมชาติ เท่านั้นนะจ๊ะ ขอแนะนำว่า ก่อนกลับ ให้ลองแวะเข้าไปอีก 2 จุด ในหมู่บ้านจ้า...

ไปสัมผัสบรรยากาศวิถีไทยค่ะ

 

จุดที่ 1  ชม “ พิพิธภัณฑ์บ้านพุน้ำร้อน ” ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี แหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดีแห่งใหม่  ของจังหวัดสุพรรณบุรี

 

 

“ พิพิธภัณฑ์บ้านพุน้ำร้อน ”  พบและจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงประเพณีวิถีการดำรงชีวิตของกลุ่มคนชาติพันธุ์ต่างๆ อย่างกะเหรี่ยง  ละว้า ลาวครั่ง และมรดกทางวัฒนธรรม ประเภทหลักฐานทางโบราณคดี อายุกว่า 4,000 ปี ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ทั้งภาชนะดินเผา เครื่องมือหินขัด เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ลูกปัดโบราณ ซึ่งสร้างคุณค่าแก่การเก็บรักษาต่อหมู่บ้านเป็นอย่างมากค่ะ

สามารถติดต่อขอเข้าชม “ พิพิธภัณฑ์บ้านพุน้ำร้อน ” 

ได้ที่  องค์การบริหารส่วนตำบลด่านช้าง  โทร. 086-168-7574

 

จุดที่  2  ช้อป  “พิพิธภัณฑ์ผ้าทอตีนจก” 

ผ้าทอตีนจก  หนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่มีแนวคิดจากการพลิกฟื้นวิถีผ้าทอท้องถิ่นให้กลับมาสู่คนรุ่นหลัง ได้สวมใส่และอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับหมู่บ้านพุน้ำร้อน  รวมถึงให้คนที่สนใจได้มาอุดหนุนอีกด้วยค่ะ 

สามารถติดต่อขอสั่งซื้อได้ที่  “พิพิธภัณฑ์ผ้าทอตีนจก”  โทร.085-254-7934

 

โบว์  ได้รับรู้เรื่องราวประทับใจมากมายจากการมาเที่ยว  อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงที่นี่

เริ่มต้นด้วยการสร้างคุณค่าให้กับชุมชนของตนเอง จนแข็งแรง แล้วจึงค่อยบอกกล่าว ชักชวนคนที่อื่นให้มาสัมผัสตัวตน ผ่านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืนของพวกเขา “ท่องเที่ยววิถีธรรมชาติ  วิถีป่าชุมชน บ้านพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี” ค่ะ

ชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค ตอน วิถีป่าชุมชน บ้านพุน้ำร้อน จังหวัดสุพรรณบุรี

ได้ที่นี่ค่ะ https://youtu.be/RCstwDwACNk

 

รายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค

ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 15.30 – 16.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส