เดินทางคนเดียวครั้งแรกไม่เหงาอย่างที่คิดไว้ มีแต่รอยยิ้มและมิตรภาพน่ารักของคนน่านเป็นของแถม
ทริปนีต้องเดินทางคนเดียวครั้งแรก ตื่นแต้นมาก บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากเดินทางคนเดียวหรอกแต่ในเมื่อไม่มีใครไปได้แล้วจะให้เราหยุดเดินทาง หรือไม่ได้ไปน่ะ มันก็ไม่ไช่
แค่อยากเที่ยว อยากพักผ่อน แค่เบื่อสิ่งที่เป็น แค่อยากพักผ่อนช๊าร์ทแบทให้เต็มเท่านั้น
การเดินทางคนเดียวจึงเริ่มขึ้น
ก่อนอื่นโทรบอกฮีโร่ก่อน (พ่อ)
ฮีโร่....อัลโหลว่ายังไง
เรา.....บีขอไปน่านนะพ่อ
ฮีโร่.....ไปน่านเหรอไปกับใคร
เรา......เอ่อคนเดียวพ่อ
ฮีโร่.....เงียบ....และก็เงียบ....
เรา......พ่อบีอยากไปเที่ยวน่ะ ที่นั่นวัดเยอะ...อยากไปไหว้พระทำบุญนะพ่อนะ...
พ่อ.....เงียบ.....อืมโอแคร...(เฮ่อโล่ง.....แล้วก้หาเรื่องคุยนอกเรื่องเพื่อไม่ให้พ่อเป็นกังวล 555)
1-3 มีนาคม 2559 เที่ยวเมืองน่านนคร เมืองที่มีคนน่ารัก เมืองที่มีแต่วัด เมืองที่มีแต่ความเป็นพื้นเมืองและธรรมชาติที่วิเศษ
วันที่ 1 เดินทางไปปัว พักที่ตูปนา
วันที่ 2 เที่ยวที่ปัว แล้วเข้าตัวเมือง
วันที่ 3 เที่ยวไหว้พระ เที่ยวหอศิลป์ กลับกรุงเทพ
ตื่นเช้้ามา ชักไม่อยากไปละ แต่ไหนๆเราก็วางแผนไว้ทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน จองรถ ที่เที่ยวที่อยากไป เอาวะ...ไปโว้ยยังไงก็ต้องไป......
เราเลือบินไฟล์เช้า 7.30 น. กับหางแดง
8.50 น. ที่เมืองน่าน สายการบินแหลทไป 10 กว่านาที แต่ไม่เป็นไร พอลงมาจากเครื่องอากาศดีมากค่ะ เย็นสบายจนเกือบหนาว 

ก่อนอื่นเราออกไปนอกตัวเมืองก่อนนะไปพระธาตุแช่แห้งกัน
แต่ประเด็นคือในเมืองน่านเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าจะขับรถวันไปมาหลายรอบ ไฟเขียวไฟแดงก็แปลกๆ แอ๊ะ ยังไง วนอยู่หลายรอบ กว่าจะออกมาได้ (ป้ายมีบอกนะคะ แต่จะหายไปเป็นช่วงๆ คนนอกพื้นที่ร้อยทั้งร้อย ขับรถวน 55)
และก็วนไปมาจนมาถึงพระธาตุแช่แห้งสำเร็จ 555
จากนั้นก็ขอถ่ายรูปนิดนะคะ มาคนเดียวก็ต้องตั้งขากล้องโทรศัพท์ (ที่ซื้อมาสำหรับโทรศัพท์โดยเฉพาะ)ภ่ายตัวเอง อ่ะอ่า...คนมองมายายนี่ทำไรน่ะ...555
แต่ต้องบ้าเข้าไว้ไม่งั้นไม่ได้รูป ก็มาคนเดียวนี่นา...55
เมื่อเดินเล่นสักพักก็เดินทางต่อ ไปปัว
วิวระหว่างทางสวยมากมาย อ๊ะๆ เจอแล้วจอดๆๆๆๆ
ณ.ร้านกาแฟไทยลื้อและผ้าไทยลื้อ 

จากนั้นเราก็ไปเดินดูผ้าทอด้านหน้าร้านกาแฟที่อยู่ติดถนนเลย ไม่ได้ถ่ายร้านมาให้ดูกันอ่ะ (ขอโทษคร๊าบบบ)
เดินเลือกอยู่พักใหญ่ก็ได้มาหนึ่งชุด ที่ร้านชุดแต่ละชุดราคาไม่แพงนะคะ ถูกมากด้วยค่ะ
จากนั้นก็ล้อหมุนเดินทางต่อไปปัว
เจ้าของที่พักโทรมาหาเพราะบ่าย 3 กว่าละยังไม่ถึงที่พักเลย คือหนูหลงหาทางไม่ถูกอ่า....กว่าจะถึงที่พักได้ ป้าบอทางเราตลอดทางเลย 555 ขอบคุณนะคะ
ณ.ตูบนาโฮมสแตย์
สุดยอด.....อากาศดีมากค่ะ











ถ้าเป็นบ้านชมหมอก กับชมวิว จะมาด่านฟ้าขึ้นไปดูดาวสวยมากค่ะ แต่วันที่ไปพักเราเลือกชมนา 2 ค่ะ แต่ลุงกับป้าให้เราขึ้นไปดูที่ด้านฟ้า บ้านชมหมอก กับชมวิวได้ค่ะ 


ปกตินที่นี่จะ ปลูกข้าวแต่ชาวงนี้เปลี่ยนมาปลูก ผักตามฤดูการแทนค่ะ
แปลงปลูกยาสูบค่ะ
ต้านเสาวรสค่ะ ดกมากๆเลยค่ะ
ขอถ่ายตัวเองบ้าง 555 มีซุ้มเล็กๆไว้นั่งเล่น
ภาพนี้จะถ่ายดอกไม้ พร้อมที่ครัวทำอาหารด้านหลังค่ะ
ถ่ายรูปเล่นพร้อมบรรยากาศสวนๆ จากนั้นก็ถามทางป้าไปที่ วัดภูเก็ตค่ะ แค่ออกไปที่ตัวเมืองปัว ไม่ไกลค่ะ ที่วัดนี้มีที่พักให้ด้วยนะคะ จะเป็นแนวแทมเบิ้ลสเตย์ค่ะ สามารถติดต่อกับเจ้าอาวาสได้โดยตรงค่ะ
ในอุโบสถ
หน้่าลานของวัดค่ะ อากาศเย็นสบายมากค่ะ
ไหว้พระเสร็จ เดินเล่นสักพักก็กลับเข้าที่พัก ค่ะ
วันนี้เป็นขันโตกชุดใหญ่แต่เรามาคนเดียวอ่ะ ไม่หมด 555
ป้าเก็บเสาวสรมาให้ทาน โดยผสมน้ำผึ้งกับเกลือ อร่อยอย่าบอกใครเลย ขอบคุณคุณป้ามากๆนะคะ หนูไม่เคยกินเสาวรสสดๆแบบนี้เลย ปกติกินแต่เป็นกล่อง จากนั้นลุงกับป้าก็มานั่งคุย ด้วย พาไปบ่านชมวิว ขึ้นไปบนด่านฟ้าดูดาว สวยมากค่ะ แต่อยู่ไม่นานเพราะหนาวค่ะ สั่นเลย ลุงกับป้าอยู่ด้วยเกือบ สี่ทุ่ม ก็แยกกันไปพักค่ะ

ที่นี่มีสตอเบอรี่ด้วยนะคะ เก็บทานได้ไม่เสียเงินค่ะ



ไปดูป้าเก็บเมล็ดผักตากแห้ง แล้วก็กินอาหารเช้ามี ข้าวต้ม และก็พวกขนมปัง จะกินอันไหนก็ได้ค่ะ หรือจะกินสองอย่างก้ได้นะคะ สักพักนั่งคุยกับป้าระหว่างทานอาหารก็ขอตัวกลับ ขอบคุณนะคะสำหรับความใจดีอย่างลูกหลาน ขอบคุณความน่ารัก ขอบคุณตูปนาโฮมสเตย์ค่ะ

บรรยากาศระหว่างทางสวยงามมากค่ะ แต่ไม่กล้าจอดถ่ายรูปมาก......เราขับรถไม่เก่ง พอไปถึงเราก็คุยกับพี่ๆที่อุทยานสักพักก็กลับไม่ได้ขึ้นไปที่บ้านเกวียนเสียดายมาก แต่ ตอนนี้เราต้องรีบกลับค่ะ เพราะต้อง เข้าตัวเมืองไปเที่ยวต่อด้วย
เราสั่งอาหาร ระหว่างรออาหารเราก็ไปเดินเล่น ตอนนี้ที่นี่ปลูก ข้าวโพด และผักตามฤดูการต่างๆ 


ได้เวลาไปกินอาหารแล้ว เราสั่งทั้งหมด 4 อย่าง
ห้อง 104 ภายในห้องค่ะ





ได้เวลาไปเที่ยวละ เปลี่ยนชุดที่เราซื้อมาจากร้านผ้าทอ เช่าจักรยานที่พัก ราคา 50 บาท ไปปั่นชมเมืองกัน




เราปั่นไปวัดต่างๆ มาอยู่ที่วัดภูมินทร์นานมาก ดูภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยมากค่ะ แล้วก้ปั่นเที่ยวต่อไปเรื่อยๆ

แล้วก็ไปเก็บบรรยากาศ ที่อุโมงต้นลีลาวดีต่อ


หน้าร้านค่ะ ตอนแรกไม่กล้าเข้าแค่สวยมากค่ะ เอาวะ เข้าไปดีกว่า 





บรรยากาศภายในร้านค่ะ ขนมกับน้ำ ราคาไม่แพงนะคะ ชั้นบนจะเป็นฟิตเนตนะคะ นั่งเล่น คุณป้าก็มาชวนคุยเพราะเห็นเรามาคนเดียว 
ป้าอาสาถ่ายรูปให้ค่ะ นั่งเล่นนั่งคุยอีกสักพักก็ขอตัวกลับค่ะ
แวะร้านก๋วยเตี๋ยวไร้เทียมทาน อร่อยไม่ต้องปรุงเลยค่ะ แล้วก็เข้าที่พักนอนยาว












ชุดอาหารเข้า อร่อยมากขอบอก

แล้วก็ได้เวลา Check out ออกจากที่พัก



ฝีพระหัตถ์ของพระเทพ น่ารักมากเลยค่ะ 




