การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเที่ยวคนเดียวที่ใช้เวลานานที่สุดที่เคยเที่ยวมา 

เริ่มต้นจากการสอบวิชาสุดท้าย ในเทอมเรียนสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาตกค้างเสร็จ

ก็เก็บกระเป๋าซื้อตั๋วรถไฟไปกันเลย ... 

10 วัน ในสามจังหวัดชายแดนภาคเหนือ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่(ดอยหลวงเชียงดาว)

ที่จริงไม่ได้คิดจะเที่ยวนานขนาดนี้หรอก แต่รีบออกให้ทันงานอนุสรณ์สถานภูพยัคฆ์ในวันที่10 ธ.ค.59 (ออกเดินทางจากรุงเทพวันที่9 ธ.ค.59) แล้วต้องรอรุ่นพี่จะมาขึ้นดอยหลวงเชียงดาวในอาทิตย์หน้า ถ้าจะกลับ มันก็(บ้านเราเรียกว่า พอกะเทินค่ะ)555 เลยอยู่ยาวซะเลย ตังค์ก็น้อย ก็จะอยู่ให้ได้ เป็นไงเป็นกัน!! 

การไปน่านครั้งนี้ จุดหมายหลักๆคือ งานประจำปี ที่อนุสรณ์สถานภูพยัคฆ์

ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากไป

คงซึมซับมาจากรุ่นพี่มากตั้งแต่การฟังเพลงปฏิวัติตอนออกค่ายตั้งแต่ปี1
แต่ก็ไม่ได้เข้าใจถึงต้นตอของเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด

การแสดงของน้องๆ ชุด สาวม้งโสด น่ารักมากๆค่ะ

ขากลับก็โบก เหมือนเดิม ชอบทางไหนก็กลับทางนั้น...

*เรากลับทางอ.บ่อเกลือ เพราะอยากสัมผัสเส้นทางสายอ.สันติสุข แต่พี่ที่เราติดรถมาเขามีธุระ เลยต้องแยกที่อ.บ่อเกลือ เส้นทางอ.สันติสุขก็แป๊กไป 

* งั้นจะไปนอนที่ อช.นันทบุรี ที่อ.ท่าวังผา แต่กว่าจะมาถึงท่าวังผาก็4โมงเย็นแล้ว 
*โบกเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง เย็นไม่มีรถเข้าไปแล้ว ต้องโบกออก..กลับเข้าอ.เมืองน่าน รีบโทรหาที่นอน เพราะเป็นวันหยุดยาว โชคดีที่ได้ที่เดิม น่านเกสเฮาส์เจ้าเดิม สบายใจ..

เวทีที่จัดงานเมื่อวาน แบบเรียบง่าย

ชาวบ้านที่นี่จะมาเก็บแล้วก็ล้างน้ำในแม่น้ำนี่แหละแล้วก็เอาไปทุบใส่น้ำอีกทีเพื่อทำความสะอาดแล้วตากแห้งเพื่อส่งขาย แปรรูปเป็นสาหร่ายอบแห้ง เราก็เลยช่วยเก็บ

บรรยากาศดีมาก ส่วนของแม่น้ำน่านตรงนี้ก็เป็นส่วนต้นสายแม่น้ำเป็นลำธารตื้นๆ น้ำเย็นมากๆเลย สดชื่นจริงๆขอบอก

*เช้า ไปขนส่ง นั่งรถไปอ.เวียงสา

*ต่อรถไป นาน้อย บอกลงแยกไปดอยเสมอดาว

*มีรถมาถาม เหมา รีบเดินหนี โบกเถอะ 555

*โบก

*นอนที่ผาชู้1คืน ขากลับให้ จนท.อุทยานช่วยโบก ปรากฎ จะมีจนท.เข้าเมืองน่านพอดี เลยให้ติดรถ ขอบคุณค่ะ

ดอยเสมอดาว โบกรถได้รถแก๊งค์พี่ๆที่มาจากโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ พี่ใจดีไปส่งถึงผาชู้แล้วกางเต๊นท์เสร็จก็มาส่งที่ดอยเสมอดาว (พี่เขากางเตนท์ดอยเสมอดาว) 

แล้วโบกรถจากดอยเสมอดาวไปผาชู้ (เลยขึ้นจากทางเข้าดอยเสมอดาวไป2กิโลเอง) ได้พี่เจ้าหน้าที่ขี่มอไซไปส่ง ขอบคุณมากค่าาาา

ที่นอนคืนนี้ เหงาไปนิด 

ตื่นเช้าถ่ายรูปทะเลหมอกเมื่อคืนหนาวมากๆๆๆ หลับๆตื่นๆ 

ถ่ายเสร็จก็นอนต่อ แล้วก็ตื่นมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นอีกที

แล้วก็นอนต่อ แต่ไม่ได้ละ แดดออกรีบเก็บค่าาา 555

ขากลับให้ จนท.อุทยานช่วยโบก

 ปรากฎ จะมีจนท.เข้าเมืองน่านพอดี เลยให้ติดรถ ขอบคุณค่ะ

หมอกหน้าเต๊นท์ก็เป็นเช่นนี้แล

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

วัดภูมินทร์

*จากน่านถึงเชียงใหม่เช้ามืด ขึ้นรถจากเชียงใหม่ (ขนส่งอาเขต) ไปแม่ฮ่องสอน 

___รถเมล์จะอ้อมไปทางแม่สะเรียง รอบ8โมง จะถึง มฮส 6 โมงเย็น(ราคาถูกกว่ารถตู้เกือบครึ่ง) 
___รถตู้เปรมประชาอันนี้เต็มง่ายมาก ต้องจองก่อนจะดีที่สุด 

*ถึงขนส่งแม่ฮ่องสอนมืดเลย ต่อวินมอไซหรือสามล้อไปถนนคนเดิน(ที่พักอยู่แถวนั้น) ช่วงหน้าหนาวนี้จะมีถนนคนเดินทุกวันจ้า

เดินถนนคนเดิน แล้วจะไปถ่ายรูปพระธาตุดอยกองมู แต่ร้านเช่ามอไซค์ปิดแล้ว ไม่มีรถขึ้นอีก  มืดแล้ว คนแถวนั้นบอกอันตรายอย่าเลยหนู งั้นพรุ่งนี้เช้ามืดก็ได้ 

ที่อยากถ่ายตอนกลางคืนเพราะอยากได้แสงไฟที่พระธาตุ อยากได้ไฟแบบแฉกๆ (เด็กหัดถ่ายรูปอิอิ)

ก็เลยกลับมาเดินถนนคนเดินต่อ ถนนคนเดินจะอยู่บริเวณหนองจองคำ มีวัจองคำ วัดจองกลาง เปิดไฟตอนกลางคืนสวยมาก

สรุปคือวันนี้ทั้งวันใช้เวลาบนรถหวานเย็นค่ะ5555 อ้อมโลกเลย เชียงใหม่ ฮอด แม่สะเรียง แม่ลาน้อย ขุนยวม แม่ฮ่องสอน ... ปวดตูดมาก อิอิ

*เช้าเดินขึ้นพระธาตุดอยกองมู หรือจะเช่ามอไซค์ก็ได้ ร้านจะอยู่ริมหนองจองคำฝั้งตรงข้ามวัด 

*แดดร่มลมตก โบกกลับไปปางอุ๋ง กินข้าว ถ่ายรูป เดินเล่น นอน (มีหมูกระทะแบบชุดขาย)

หงส์ที่ปางอุ๋ง เห็นเขาบอกว่ามี2คู่ คู่ขาวกับคู่ดำ แต่นี่เห็นแค่คู่สีดำ แต่ไม่ยักกะอยู่เป็นคู่

*เช้าต้องไปเชียงใหม่ รถตู้ทีจองไว้ต้องยืนยันตั๋วก่อน11โมง (ออกรอบเที่ยงตรง) 

*แต่รถที่ลงจากปางอุ๋ง เข้าตัวเมือง มี2 รอบ คือ 5.30 กับ 11 โมง เช้ามากก็ไม่ทันได้ถ่ายรูป 11 โมงก็ยืนยันตั๋วไม่ทัน (แนะนำให้รีบจองเลยเพราะเต็มทุกเที่ยวเราจองได้ที่นั่งสุดท้ายพอดี)

* โบก โบกได้รถพี่ๆที่มาเที่ยวพอดี พี่ๆเขาก็ขับไปเรื่อยๆเจอไหนก็แวะตรงนั้น เลยพาเราไปส่งถึง บขส.เลย ขอบคุณมากนะคะ

*ฝนตก พายุเข้า ฝนตกตลอดทาง

*ถึงเชียงใหม่ 6 โมงเย็น ค่ารถ 250 บาท

*ถึงหกโมงเย็นนิดๆ รถไปเชียงดาว หมด ทุ่มครึ่ง แล้ววันนั้นวันศุกร์รถติดมากถ้าไปรถแดงไม่ทันแน่ๆ (จากอาเขตไปขึ้นรถไปเชียงดาวที่ขนส่งช้างเผือก) ใช้บริการพี่วินมอไซค์เลย ทันรถไปเชียงดาว 

*ถึงเชียงดาวเวลา3ทุ่มกว่าๆ เวลานี้แก๊งค์กลุ่มรุ่นพี่เราที่จะมาเชียงดาวคงเพิ่งออกจากกรุงเทพ

พวกพี่ปล่อยให้น้องเล็กเผชิญอะไรคนเดียวอยู่เป็นอาทิตย์จะรู้บ้างไหมเนี่ย555 อยากเล่าๆๆ (เหล้า55)ให้ชาวแก๊งค์ฟังมาก

เจอกันพรุ่งนี้นะ...

เมื่อคืนฝนตกทั้งคืน...คือสิ่งที่คิดหนักอยู่เมื่อคืน..ทางจะลื่นขนาดไหนวะเนี่ย..

*เช้าๆ 9โมง ชาวแก๊งค์เรามากับรถตู้เหมา นัดเจอกันที่ตลาดสด เพื่อซื้อสเบียงขึ้นดอย

*ถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ก็แบ่งสเบียง แล้วเจ้าหน้าที่บอก ฝนตกแบบนี้มา 2 วันแล้ว ขึ้นทางเด่นหญ้าขัดเท่านั้น.. โอเค (ที่จริงในใจอยากขึ้นปางวัวเพราะเกลียดการลงเขาที่ชันๆ ทำให้ปวดเข่ามาก ส่วนตัวนะ555  ) 

คือทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาวจะมี 2 ทางคือ ทางปางวัว ระยะทาง6.5กิโลเมตร และ ทางเด่นหญ้าขัด 8.5 กิโลเมตร ซึ่งปางวัวจะใกล้กว่า และชันมาก เด่นหญ้าขัดจะไม่ชันแต่ระยะทางไกล ซึ่งสุดท้ายสองทางนี้ก็จะไปจรดกันที่สามแยกอยู่ดี 

หมอกหนา ฟ้าปิด เดินกันอย่างหงอยๆ ไม่มีวิวสวยๆ ฟ้าเน่า เห้อ.. เชียงดาวที่ตั้งใจมาตั้งแต่ต้นปี (ได้มาปลายปี) คงต้องมาซ้ำใหม่อีกรอบเพราะฟ้าไม่เปิด...

ขอบคุณภาพจากพี่ในทริปนะคะ สวยๆนี้ไม่ได้ถ่ายเอง555

2 ทุ่ม หนาวมากกกก ดาวเต็มฟ้า... อ้าว ฟ้าเปิด!! สวยยยยค่า แต่หนาวมาก ขอนอน ดาวเดิวไม่เอาแล้ว5555

เช้า..นี้...

จากที่เมื่อวานคิดว่าไม่มีแน่ๆ ทะเลหมอก ผิดหวังสุดๆทริปนี้

แต่...

จขกท.ฝากบอกว่าโสด 5555
 

หมอกอลังการมากค่ะท่านผู้ชม คุ้มค่าจริงๆ คนละความรู้สึกกับเมื่อวานเลย คิดถูกแล้วที่มาวันนี้ สุดๆๆ