• ดอยหนอกอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง กินพื้นที่ 3 จังหวัด พะเยา เชียงรายและลำปาง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 61 ของไทย ก่อนเดินทางครั้งนี้ผมเคยแชร์สถานที่แห่งนี้น่าจะเกิน 10 ครั้ง และเคยเดินทางมาที่นี่ครั้งนึงแล้ว ช่วงเดือนพฤศจิกายน ช่วงนั้นมรสุมเข้าพอดี เลยคว้าน้ำเหลวกันไป แต่คิดไว้ยังไงก็ต้องมาให้ที่ให้ได้ และวันแห่งฝันก็มาถึง
  • วันแรกเราเดินทางกันไปถึงช่วงเย็นต้องนอนค้างที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ดล.6(จำปาทอง) เป็นหน่วยย่อยของอุทยานแห่งชาติดอยหลวง การเดินทาง วิ่งเส้น พะเยา-เชียงราย ผ่านเมืองพะเยา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 1127 (น้ำตกจำปาทอง) วิ่งตามทางประมาน3กิโลจนสุดเส้น1127 จะเจอหน่วยตั้งอยู่
  • หลังจากหาที่นอนเสร็จก็เตรียมจัดเก็บกระเป๋า ต้องบอกเลยว่าอะไรที่ไม่จำเป็นแนะนำไม่ต้องเอาขึ้นจะดีที่สุดเพราะสุดท้ายของที่ไม่จำเป็นเราอยากจะทิ้งไว้กลางทาง และ แนะนำควรใช้ลูกหาบ เพราะเวลาเราถึงด้านบนจะได้มีคนค่อยหาน้ำให้
  • ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่จะมาส่ง ที่จุดรวมพล ออกจาหน่วยมาประมาน3-5กิโลเห็นจะได้ หรือใครมาเช้าก็สามารถมาจุดนี้ได้เลย จะอยู่ในถนนเส้น พะเยา-วังเหนือ หรือตั้งGpsว่า จุดชมวิวทิวทัศน์กว๊านพะเยาควรโทรนัดกับเช้าหน้าที่ด้วย ผมเริ่มเดินกันประมาน9โมงเช้า
  • จุดเริ่มต้นการเดิน ไม่มีเวลาให้วอร์มร่างกายกันเลย เพราะเริ่มเดินทางก็เป็นทางชันแล้ว
  • เดินมาประมาน1กิโล ถึงกับทิ้งสัมภาระนั่งพักกันเลย ร่างกายยังไม่เริ่มเข้าที่ การเดินทางมาที่แห่งนี้ควรออกกำลังกายกันมาบ้างก็ดีไม่งั้นเหนื่อยแน่!!!
  • หลังจากนั่งกันสักครู่ เราก็เริ่มเดือนกันต่อ และก็ยังเป็นทางชันอยู่ตลอด
  • ถ้าให้ดีควรใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ทางที่เดินตลอดทางเป็นหญ้าคาสูงท่วมหัวเกือบตลอดทาง
  • จุดแรกที่เราต้องผ่านกัน จะเรียกว่า "ป่าสน"บริเวณนี้จะมีทางราบสลับให้พอได้พักขาบ้าง
  • วิวของสองข้างทางจะเป็นป่าสนสลับหญ้าคา เรายังคงเดินกันต่อเนื่อง
  • เดินกันมาพักใหญ่ยังไม่ผ่านจุดแรกกันเลย
  • วิวสวยๆของสองข้างทางด้านนี้จะมองเห็นฝั่งลำปาง
  • ฝั่งลำปางจะเป็นที่ดินทำกินของชาวบ้าน
  • และอีกผั่งจะเป็นด้านเชียงราย จะมีหมอกค่อยข้างมาก แม้ขณะนี้จะเป็นเวลา 10โมงกว่าแล้วก็ตาม
  • สวยงามตามท้องเรื่อง
  • เดินกันต่อมาอีกสักพัก จะเห็นจุดที่2แล้ว บริเวณนี้เรียกกันว่า "สันแม่หมูด้อง"ทางชันเกือบจะ90 องศาเห็นจะได้
  • แม่หมูด้อง ภาษาเหนือแปลว่า แม่หมูที่เลี้ยงลูกจนตัวเองผอมกระดูกสันหลังโผล่ ก็เลยเป็นสันอย่างที่เห็น
  • ณ.จุดนี้ ต้องใช้มือช่วยประคองตัวเองกันเลยเพราะทางชัน
  • มองกลับมา เป็นจุดที่พักทำใจก่อนจะเดินขึ้น สันแม่หมูด้อง
  • การเดินก็ยังเป็นทางชันอยู่เรื่อยๆ เจ้าหน้าที่บอกเราจะพักกินข้าวกลางวันกันที่จุดข้างหน้า
  • จุดที่เจ้าหน้าที่บอกที่เราจะพักกินข้าวกลางวัน คือจุดนี้ "เด่นสะแกง" ที่แปลว่าที่กว้างราบเอียง
  • เราพักกินข้าวกันที่เด่นสะแกง เวลาตอนนี้ก็ประมาณ11.30น. เจ้าหน้าบอกเราเดินค่อยข้างเร็ว มีเวลาพักที่จุดนี้ได้นานพอสมควร
  • กินข้าวกันอิ่มและพักเอาแรงกันประมานเกือยครึ่งชั่วโมง เราก็ออกเดินทางกันต่อ มองจากภาพคงจะไม่ชันเท่าไร
  • แต่ที่ไหนได้ ทางยังชันและดูเหมือนจะชันมากขึ้นเรื่อยๆ555
  • ก่อนจะถึงจุดต่อไป เราก็เห็นเป้าหมายของเราครั้งนี้กันแล้ว
  • ถึงจะมองเห็นจุดหมายข้างหน้า แต่ยังมีด่านตรงหน้าให้ฝ่ากันอีก "บันไดก่ายฟ้า" ทางสูงชันเปรียบเหมือนเอาบันไดขึ้นไปก่ายกับฟ้า
  • ต้องเป่าปากกันเลย ต้องปีนอีกแล้วเหรอ
  • ปีน เดิน และไต่
  • จุดที่เราจะพัก อยู่บนยอดนู้น ที่เห็ยไกลริบๆ
  • 14.30น.แล้วเราก็เดินมาถึง จุดกางเต้นท์คืนนี้ ยอดดอยหลวง(ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1694ม.)
  • จุดกางเต้นท์ยอดดอยหลวง เป็นลานกว้างพอสมควร
  • วันนี้น่าจะมีคนที่เดินทางมากางเต้นท์ไม่เกิน15 เต้น ตามที่เจ้าหน้าที่บอก Privateสุดๆ
  • คนเริ่มทะยอยขึ้นมากางเต้นท์กันแล้ว
  • หลังจากที่กางเต้นกันเสร็จ ก็ออกมาดูวิวและเก็บภาพที่สวยงามกันไว้
  • พระอาทิตย์เริ่มจะตกดิน สวยงาม
  • เลอค่ามากๆ
  • เก็บภาพที่ประทับใจ มาฝากสมาชิกที่ไม่ได้ร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วย
  • หลังจากที่พระอาทิตย์ตก คนก็เริ่มกลับมาเต้นมาทำกับข้าวเย็นกัน ส่วนผมอาหารค่ำคืนนี้ง่ายที่สุดคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติมน้ำร้อนแล้วกินได้เลย
  • คนแปลกหน้าเริ่มทำความรู้จักพร้อมแบ่งปัน อาหารการกินกัน นี่คือมนต์เสน่ของการเดินทาง
  • ลูกหาบนอกจากหาบของแล้ว พี่เขายังหาน้ำจากแหล่งน้ำด้านล่างและก่อไฟไว้ทำอาหารให้ด้วย
  • จุดพักบนดอยหลวงจะเห็นดาวบนดิน ซึ่งเป็นแสงไฟจากตัวเมืองพะเยา เจ้าหน้าที่บอกประมาน4ทุ่ม จะมีทางช้างเผือก ตั้งความหวังจะออกไปถ่ายให้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องหลับด้วยความเหนื่อยและฤทธิ์เหล้าืั้ดองกับสมุนไพรท้องถิ่นที่เรียกว่า"ห้อเลือดเหน่ย"
  • ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเริ่มมีบอกบางๆปลกคลุมบริเวณกว๊านพะเยา
  • พระอาิตย์ดวงโตเริ่มเปร่งแสงวันใหม่
  • ไต่บันไดฟ้า...พิชิตฝัน
  • วิวจากในเต้นท์ เราเริ่มเก็บของเพื่อเดินทางต่อ ถ้าสายแดดจะร้อน
  • จากดอยหลวงไปดอยหนอก ระยะทางประมาน3กิโล และเป็นทางชันลงส่วนใหญ่
  • และยังปลกคลุมด้วยหญ้าสูงท่วมหัว
  • เป้าหมายของเราอยู่ข้างหน้าแล้ว
  • รูปถ่ายสักรูป
  • เราต้องเดินผ่านด้านข้างเพื่อไปขึ้นอีกฝั่งนึงของดอยหนอก
  • ทางต้องปีน มีลวดสลิงไว้คอยพยุงตัวขึ้น
  • ขึ้นไปถึงเราจะเจอพระพุทธรูปและธงงานประจำปี พระพุทธรูปส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านจะนำขึ้นมา
  • พระสังขจายและที่อยู่ด้านหลังจะนู้นเป็นดอยช้างหังจะเป็นรูปคล้ายๆหัวช้าง ไม่เปฺดให้ขึ้นเพราะไม่มีแหล่งน้ำ
  • ที่แขวนระฆัง จะมีระฆังอันใหญ่และเล็กแขวนอยู่ และครั้งนี้ผมได้นำไปแขวนไว้ด้วย3 อัน
  • พระพุทธรูปที่อยู่ด้านบนดอยหนอก
  • ด้านบนจะมีเจดีย์และในเจดีย์จะมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่
  • ความศรัทธาของชาวบ้านล้วนๆ
  • ซึ่งทำให้เห็นความสวยงามตระการตา
  • ไต่บันไดฟ้า...พิชิตฝัน
  • ไต่บันไดฟ้า...พิชิตฝัน
  • ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสนำจีวรขึ้นไปห่มพระพุทธที่อยู่ด้านบนทั้ง2 องค์
  • ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสนำจีวรขึ้นไปห่มพระพุทธที่อยู่ด้านบนทั้ง2 องค์
  • เสร็จจากด้านบน ก็ถึงเวลาลง อีกหนึ่งจุดที่มีพระพุทธรูปตั้งตระหง่านสวยงามอยู่ด้านล่างที่เราจะเดินลง
  • เดินลงถึงด้านล่าง จุดนี้มีพื้นที่สำหรับกางเต้นท์ด้วย
  • ถึงเวลาเดินลง ทางชันถึงชันมาก บางจุด90 องศาเลย
  • นั่งพักรอสมาชิกกันตลอดทาง
  • เจ้าหน้าที่ที่นำเราขึ้น โอ็ต อัทยาศัยดี เป็นเพื่อนเดินและชวนดื่มในเวลากลางคืน
  • ลงมาแบบสบักสบอม มาถึงจุดพัก เติมนำจากธรรมชาติ และ กินข้าว เสบียงหมด ลูกหาบใจดีแบ่งแค็ปหมูกับข้าวเหนียวให้กินจนอิ่มท้อง
  • นั่งพักเอาแรงกันแปป ก็เดินต่อตามน้ำตกทางค่อยข้างลำบากกว่าขาขึ้น
  • น้ำตกผาเกล็ดนาค ทำให้รู้ว่าเราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว จุดนี้ผมขอสลัดเสื้อผ้าลงแช่น้ำเพื่อความสดชื่น
  • ต้องขอบคุณรองเท้าคู่ใจคู้นี้ คุณภาพเกินราคา 55 บาท เกาะติดแน่นมาก"สตั๊ดดอย" สามารถบอกเจ้าหน้าที่ให้แวะซื้อก่อนขาขึ้นได้
  • ถึงสักที จากจุดพระพุทธดอยหนอกถึงตรงนี้ประมาณ5กิโล
  • รถเจ้าหน้าที่มารอรับกลับไปยังหน่วยที่เราจอดรถไว้
  • เป็นทริปที่ประทับใจมากๆ ทั้งลูกหาบและเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นกันเองและดูแลดีมาก ปล.หากมีข้อมูลผิดพลาดประการไดต้องขออภัยด้วยนะครับ