..........ขับมอไซค์ ไปเที่ยวน่าน.......
ทริปใหญ่ประจำปี 2558 มีเวลาเที่ยวแค่ปีละครั้ง
ถือว่าเป็นทริปแรกที่ขับมอไซค์เที่ยวฤดูหนาว ปกติไปแต่ฤดูร้อน
เราเลือกเที่ยว จ.น่าน ที่ใครหลายคนเคยไปแล้วบอกต่อว่า ต้องมาให้ได้
โดยเฉพาะท่องเที่ยวด้วย 2 ล้อ
เดินทาง 21-24 ธค.58 หนีเที่ยวก่อนเทศกาลปีใหม่ ไม่อยากเจอคนเยอะ แย่งที่กินที่นอนกัน
ทริปนี้เป็นทริปเก่าเมื่อปีที่แล้วนะคะ นำมารีวิวลงthe TripPacker บ้าง
ทริปนี้พิเศษตรงที่ เราเปลี่ยนเส้นทางขึ้นเหนือ เพิ่มความสนุกด้วยการขับรถไปลงแพที่ปากนาย แล้วข้ามจากอุตรดิตถ เข้า จ.น่าน
..............เส้นทางรังสิต-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-หมู่บ้านประมงปากนาย-ดอยเสมอดาว-อ.เมืองน่าน-บ่อเกลือ- ขากลับวิ่งกลับเส้นทางเดิม
มีเวลาแค่ 4 วัน 3 คืน เที่ยวน่าน บอกตรงๆว่าไม่พอ.............ที่เที่ยวเยอะ สวยทุกตารางกิโลเมตร
จ.น่าน นี่สวยจริงๆ
ทริปนี้อยากรีวิวขอบคุณ pantip แหล่งหาข้อมูลท่องเที่ยวหลัก พึ่งรู้ว่าไปน่านด้วยวิธีลงแพก็เพราะรีวิวเก่าๆในpantip
ขอรีวิวไว้เก็บเป็นคลังข้อมูลเผื่อใครจะตามรอยเส้นทางนี้กัน
ภาพเยอะนะ กดไป2000กว่ารูป คัดลงกระทู้ 100 ก่าๆเอง


พร้อมแล้ว.................มากระซิบรักที่น่านกัน
.....................................................................................ระยะทางไกลอยู่ เตรียมแผนที่ ปรินท์ออกมาติดรถไว้
ไว้ดูระยะทาง ที่สำคัญคือ เวลา ต้องวางแผนออกจากแต่ละที่กี่โมง
แต่ละสถานที่มีช่วงแสงที่สวยของเขาอยู่ เราต้องถึงอุทยานก่อนอาทิตย์ตก
เพื่อถ่ายภาพสวยๆเก็บไว้
จะว่าไป การเที่ยว มันสนุกตรงที่ ได้วางแผนก่อนมานี่ล่ะ

ออกจากบ้านตี 4.30 ขับรถฝ่าอากาศหนาว สั่นกันเลยทีเดียว
มาเริ่มเช้าแถวชัยนาท
ระหว่างทางผ่านทุ่งนา มีไอหมอกบางให้ชื่นชม
พอเข้านครสวรรค์ เกิดง่วงจะหลับในขึ้นมา จอดพักในปั๊มแอบงีบไป 3 รอบก่อนเดินทางทำงานเลิกดึก นอนไปแค่ 2 ชม. จัดกระเป๋า ตื่นเต้นอีก
แต่เรากำหนดวันเดินทางแล้ว ก็ต้องมา ขับไป พักไปก้ได้ ดีกว่าไม่ได้มา
ถึงพิษณุโลก12.00 พักกินเตี๋ยวห้อยขา
หลักๆก็กด app google map ไปที่หมู่บ้านประมงปากนาย
ขับเข้าอุตรดิตถ์ ทางเส้นนี้ตรงยาว ระวังหลับในให้ดี
ก็ถึงทางแยก ที่จะเลี้ยวไปปากนาย
มากัน 2 คัน 2 คน Ninja250 CB500X ก๊วนถ่ายรูปท่องเที่ยว
ถนนเส้นนี้สวย ไม่มีเสาไฟฟ้ารก ถ่ายรูปง่าย
เจอตรงไหนสวย จอดถ่ายเลย มาเพื่อถ่ายภาพ ไม่เน้นความเร็ว กล้องต้องหยิบง่าย
ตามรายทางดอกไม้ ดอกปอเทือง
ถึงหมู่บ้านประมงปากนายบ่าย 4 ก่าถนนทางนี้โค้งเยอะ ผิวถนนพังบางช่วง สลับ ทางดี วิ่งสะดวก หายห่วง
ไม่เคยมาทางนี้ ถามชาวบ้านโลดดด
ปากทางลงแพเป็นทางดิน
ลงมารอที่ท่าแพแล้ว นี่ไง เรือที่จะลากเราข้ามไปน่าน ก็วิ่งมารับที่ฝั่ง น่าสนุกจังง (จะล่มมั้ยอ่ะ)
ป้าบอก แพแข็งแรงงงงงงรับ นน.รถได้ถึง 2 คัน
พวกเราลงแพกันแล้ว
นับถอยหลัง 3........2..........1 ป้าปล่อยยยยยละนะ
เรือเล็ก ลาก แพใหญ่สู่ความเวิ้งว้าง อันไกลโพ้นน
มีป้ายบอกราคาด้วย แสดงว่ามอไซค์ใหญ่มาทางนี้กันบ่อยมอไซคใหญ่ 150 บ.
ถ้ารถยนต์ คันละ 300 บ.
บรรยากาศชิวดีจริงงงงงงขับบนถนน แล้วลงมาทางเรือ เป็นการเดินทางที่ไม่น่าเบื่อเลย
เคยขึ้นเหนือขับแต่ทางถนน ทั้งง่วง ทั้งเบื่อ มะไหร่จะถึง
แต่ทริปนี้ ได้ลองทางใหม่ ตื่นตาตื่นใจดี
เพื่อนเดินทางที่เราขอปีนรถถ่ายรูป
นั่งรอไป 30 นาที พักรับลมเย็น
เมื่อถึงฝั่งแล้ว จะเจอทางขึ้นเขา แต่พอหันหลังกลับ เจอวิวแบนี้จอดสิ หยิบกล้อง
ถนนเส้นนี้สวยประทับใจมากกกกกกกกกผ่านพ้นจากแพ เราเข้า อ.นาหมื่น จ.น่าน แล้ว
เป็นเวลาแสงเย็นพอดี ไม่ร้อน
หลักกิโลเยอะไปหมด ถ่ายสักหลักละกัน ว่าถึงไหนละ
ขับไปเรื่อยๆ เจอวิวสวย ลงโค้ง จอดกันหัวทิ่ม เพื่อถ่ายภาพ
น่าเสียดายที่ริมทางมีแต่ภูเขาหัวโล้น
ถึงดอยเสมอดาว ก่อนอาทิตย์ตกพอดีขับมาแค่ 1 ชม.กว่า จากแพ ก็ถึงแล้ว แถมทางสวยด้วยอีก ชอบ
เสียค่าเข้า 40 บาท ค่ากางเต็นท์ 30 บาท จ่ายที่ด่านทีเดียว
แต่สิ่งที่ผิดหวังคือ มีแต่เต็นท์ มี่แต่คน มากมายอะไรขนาดนี้เลือกมาเที่ยววันจันทร์แล้วนะ

ถึงละ ดอยเสมอดาว ที่ใฝ่ฝัน สักครั้งต้องได้มาดูดาวที่นี่
แสงจะหมดละ รีบไปหาที่กางเต็นท์ก่อน
ผลจากการหาพื้นที่เหลือๆกางเต็นท์สิ่งที่คิด....... กางเต็นท์ท่ามกลางดวงดาวระยิบระยับ
ความเป็นจริง..............
อย่างน้อย ก็ไม่เหงา.................
เพื่อนดูดาวเพียบเบยยยย 555
ตกกลางคืน ดาวเริ่มมาให้เห็นวันนี้แสงจันทร์สว่าง ถ่ายดาวได้ไม่ชัดมาก
แต่ ดาว นี่ชัดแจ๋วเลยยยยยย ดาวเยอะๆ จะได้ไม่ต้องผ่อนนาน
เรา กับ ดาวถ่ายโดยขาตั้งกล้อง
ดูน้องๆฝั่งนั้นถ่ายรูป
น้องถามเทคนิคถ่ายดาวกัน เป็นเด็กมหาลัยโบกรถกันมาเอง เจ๋งดี
แถวนี้ คน กทม. ทั้งน้าน
นอนรอเวลา จน 24.00 น.คืนนี้น้ำค้างแรงมาก เป็นไอน้ำเกาะหน้าเลนสตลอด เช็ดไปถ่ายไป
นอนตากน้ำค้างอัพเฟสรอ
ทะเลหมอกมาแว้วววว ท้องฟ้าก็ใสเห็นดาว
ณ ลานดูดาว เวลา ตี 1.00
เจไดมาแว้ว
ประทับใจเหลือเกินนนนนได้เห็นทะเลหมอกกลางคืน พร้อมกับดาวคืนนี้
วิธีสังเกตุ ว่าวันไหนจะมีทะเลหมอก อากาศชื้นน้ำค้างแรง กลางคืนเห็นหมอกก่อตัวแบบนี้
รับรองตอนเช้า เจอทะเลหมอกสวยแน่
เต็นท์อื่นก็หลับใหล 
เต็นท์เราใต้ดวงดาววว
ก่อนออกทริปนี้ ตามหาเต็นท์ใหม่ อันเล็ก นน.เบา มัดท้ายรถง่าย นอนคนเดียว
ต้องสีเหลือง ถ่ายรุปออกมาแล้วสวยดี ตัดกับสีท้องฟ้า
ได้ภาพประทับใจไว้เล่าเรื่องอีกภาพ
คืนนี้ขอให้หลับฝันดี...
เช้าวันใหม่เวลา 6.00 เช้าผู้คนมากมาย รอชมทะเลหมอก
เดินขึ้นเนินไป..............ก็พบภาพนี้ตรงหน้า
เราทุกคนบนนี้ได้ชื่นชมทะเลหมอกกันอยู่นานวางกล้องแล้วชมด้วยตาเปล่าบ้าง
รอคอยแสงอาทิตย์แรกของวันใหม่
ขอให้มีร่างกายที่แข็งแรง และขาตั้งกล้อง "ทะเลหมอกตรงหน้าฉัน ที่ดอยเสมอดาว"
ตอนสาย แดดร้อน ตากเต็นท์ให้แห้ง เตรียมแพคของ เดินทางไปตัวเมืองน่าน
ด้วยความสงสัย ตอนทานโจ๊กตะกี๊เห็นภูเขาลูกใกล้กัน มีลานกางเต็นท์ได้ เป็นของชาวบ้าน
พวกเราก็ขับรถสำรวจพื้นที่กัน ถามชาวบ้านเจ้าของที่ให้กางได้
เก็บเป็นข้อมูลไว้ เผื่อกางเต็นท์ทริปหน้า
รู้สึกอึดอัดกับการกางเต็นท์ที่คนเยอะๆ เมื่อคืน ทั้งเสียงเพลงเสียงกรน นอนไม่หลับ
มุมนี้ได้รูปรถคู่กับทะเลหมอกด้วย
แล้วเราก็มุ่งหน้าเข้าอ.เมืองน่านรู้สึกตื่นเต้น อ่านรีวิวคนอื่นมาเยอะ ได้มาด้วยตัวเองแล้ว
แค่ 1.30 ชม. ถึงเมืองน่านแล้ว
เมืองสะอาดตา ดูสบายตา สบายใจ
ไหว้ศาลหลักเมืองก่อน
พักมื้อเที่ยงที่นี่ อร่อยดี
วัดภูมินทร์ ต้องมาให้ได้ไม่งั้นไม่ถึงน่าน
มาชมภาพ กระซิบรัก ปู่ม่าน-ย่าม่าน ของจริงถึงน่านแล้ววววววววว
มาน่านก็เพราะถูกภาพนี้ดึงดูดให้มา
ห้ามใช้แฟลชนะค้าบบ
ภาพอื่นๆมากมายในวัดภูมินทร์

เยี่ยมเลยยย ได้ความสงบ
ไปเดินเล่นวัดติดๆกัน ที่นี่เขาปั่นจักรยานกัน ขนาดตำรวจยังปั่นเลย น่ารักดี
เห็นแบบนี้รู้สึกว่ามาเที่ยวเหนือหน่อย
แมวฮิตเลอร์
เข้ามาในเมือง ให้เวลาตัวเองเดินชิวๆช้าๆ
กับซุ้มลีลาวดี ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
พักรถ พักคน จอดข้างวัดภูมินทร์ รอบๆนี้มีร้านกาแฟ ร้านอาหารนั่งพักอยู่
วัดศรีพันต้น สีทองสวยตัดสีท้องฟ้า
วันแดดจัดและท้องฟ้าสีเข้ม
เที่ยวตัวเมืองไม่นาน
โค้งสนุกอีกมากรออยู่
ถนนดีทั้งเส้น ขับไปเหมือนลอยได้ ขึ้นลงเนิน สนุกสนาน
ข้างทาง
เมฆประหลาด
คู่กับเมฆประหลาดหน่อย
ผ่านโค้งมากมายพอสนุกแล้ว
ได้รูปเปลี่ยน profile ละ ฮ่าๆๆ
เจอโค้งพี่เวียนหัว
ไปๆๆๆ ใส่หมวกกันน๊อค
ได้ภาพที่ต้องการแล้ว
น่าอร่อย
ขอตั้งชื่อบ่อเกลือว่า บ่อเกลือเมืองแมว
คืนนี้ยังไม่มีที่กางเต็นท์ กดดูในแผนที่จะไปกางที่ดอยภูคา ก็ไกลอยู่ถึงมืดแน่
คิดค่ากางเต็นท์คนละ 150 รวมอาหารเช้า ราคาน่ารัก
วันนี้นักท่องเที่ยวแค่ 3 คน
ที่นอนคืนนี้ พร้อมที่นั่งส่วนตัว
นอนกันเต็มอิ่ม เช้านี้สงบ สบายใจ มี3คน 3เต็นท 3 คัน
ป่วย น้ำมูกไหลเลย
น้ำค้างจากเมื่อคืน เต็นท์เอาอยู่
แมงมุมไปไหน สงสัยหนาว
สวนนี้มีลูก mulberry
เป็ดตัวสุดท้ายมันขี้เกียจจจ
เช้านี้ชื่นชมธรรมชาติริมธาร
2 อันวัดไม่เหมือนกัน หารค่าเฉลี่ยละกัน
สตาร์ทรถอุ่นเครื่องไว้ มืออังให้อุ่น
ริมทาง ยังมีน้ำค้างบนผิวดิน
ขับรถเล่น ชมหมู่บ้านบ่อเกลือกัน
เป็นดอกไม้ในสวนที่สวย สมบูรณ์มาก ด้วยอากาศที่ดี



บ่อเกลือเมืองแมว
รักกันดีเนอะ
ว่าไงเจ้ามนุษย์
ช่วงสายมาเที่ยวบ่อเกลือ จะได้ภาพสวยต้องมาตอนนี้
ไข่ต้มเกลือ ของชาวบ้าน ทานอุ่นๆ กับเกลือ อร่อยฟินนน
โอยยยยยยย แสบบบบบตาาาาา
สะพานนี้ เราซื้อน้ำเต้ามาแขวนอันละ 50 บาท ทำบุญให้ที่นี่สร้างสะพานต่อไป
ให้อาหารปลา
แพคของ เตรียมเดินทางกลับทางเดิม เข้าตัวเมืองน่าน
ขับกลับเส้นเดิม แต่ไม่รู้สึกเหมือนเดิม ขามา กับ ขาไป วิวที่เห็นคนละอย่าง
3 คัน 3 คน ต่างรักสัณโดษ มาเจอกันตามที่ท่องเที่ยว
เราขับกลับทานอาหารที่ตัวเมืองน่าน แล้วแยกย้ายกันไป ตามจุดหมายที่ตั้งไว้
เป็นวันกลับในเย็นวันสุดท้ายที่ดีเกินคาด
ตรงนี้เป็นที่ของชาวบ้าน ชื่อไร่ตะวันแลง อยู่ติดกับดอยเสมอดาว
คืนนี้พักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้เดินทางกลับ นอนเต็มที่ ได้ภาพที่อยากได้แล้ว วางกล้อง
หนาว ผิงไฟสิ นี่มาเข้าค่ายปะเนี่ย
เช้าวันใหม่ วันกลับบ้าน
ขับกลับเส้นเดิม ไปหมู่บ้านประมงปากนาย ชอบถนนทางนี้

แค่ 1.30 ชม. ถึงหมู่บ้านประมงปากนายแล้ว

รอแพมารับ ทานอาหาร เล่นกับแมว กับตัวตุ่ม ที่ร้านอาหารในแพนั่นล่ะ
นั่งนิ่งยังขำ555
ตัวตุ่มน่ารัก ขดเชียว
ผีบิน
เจอแกงค์ สว. มากันหลายคัน น่ารักมาก
นั่งแพกลับ
แพลากเรากลับละ
แล้วก็ยิงยาวกลับบ้าน
กลับมาดูภาพ รีวิวทริปนี้ ยิ่งคิดถึงตัวเองในเวลานั้น
แล้วพบกันใหม่ ธรรมชาติเมืองไทย สวยงามเสมอ........
