คักแท้แท้...แพรอีโป้ #for-F-ver

เข้าสู่ช่วงเดือนธันวา ฤดูหนาวอากาศเย็นๆเริ่มพัดผ่าน มองไปทางไหนก็มีแต่คนไปเที่ยวเหนือ ซึ่งแผนเราไปนู้นนนแน่ะ!!! กว่าจะได้เช็คอินอวดเพื่อนๆ ตั้งปลายเดือนธันวาเลย

แล้ววันหยุดยาวนี่เราจะไปไหนดีน้า เอาล้ะเลื่อนเฟสไปดูนี่ไงๆๆ ไร่จิมเปิดให้ท่องเที่ยวแล้วเราเลยได้ตั้งจุดหมายไปยังที่นี่ละกันนั่นคือ ไร่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม โดยปีนี้มีการจัดในแนวคิด "คักแท้แท้  แพรอีโป้ - มหัศจรรย์ผ้าขาวม้า

และอยู่ไม่ไกลมากจากกรุงเทพฯ โดยข้อมูลที่ควรรู้คือไร่จิมเปิดระหว่างวันที่ 3 ธันวา 59 - 8 ม.ค. 60  เวลา 9.00 น. - 17.00 น. เอาล่ะครับไปสนุกกันเลย

การเดินทางผมไปรถยนต์ส่วนตัว (เปิด GPS) ตลอดทาง วนไปวนมาบ้าง/หลงบ้าง เพราะไปไม่เป็นและไปครั้งแรกแต่สำหรับใครที่จะไปมีแผนที่มาฝากครับ

เย่ๆๆ มาถึงแล้ว เห็นป้ายแล้วอุ่นใจ 

จะบอกว่าที่นี่มีที่จอดรถรองรับนักท่องเที่ยวไว้บริการกว้างมาก ไม่ต้องกลัวนะครับว่าใครมีลูกเล็กหรือผู้สูงอายุ เพราะทางไร่จิมมีรถสำหรับบริการรับส่งตลอดเวลาแต่อาจต้องรอนิดหน่อย หรือใครโชคดีก็จะได้ที่จอดรถตรงข้ามกับบริเวณด้านหน้าทางเข้าเลย

จุดบริเวณจำหน่ายตั๋วและทางเข้า

ราคาบัตร บัตรจะเป็นแบบใบเสร็จ 7-11 พอได้มาก็จะถูกเก็บตอนเข้า ไม่ได้ถ่ายรูปมาค้าบ

เอาล่ะครับเข้ามาอันดับแรกเราก็รอรถบริการมารับเลยหรือใครมีแรงเหลือก็อาจจะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ก็ได้นะครับ อากาศเย็นสบาย มีพนักงานคอยดูและตลอดทุกจุด แต่สำหรับผมมีผู้ใหญ่มาด้วยจึงขอขึ้นรถบริการแล้วกัน

 

รถบริการ จะมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายประวัติและบริเวณรอบข้างเพื่อให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวด้วยค้าบ

เมื่อนั่งมาเรื่อยๆ ก็จะผ่านสวนลำใย (ไม่รู้เก็บกินได้หรือป่าว) ผ่านทุ่งดอกทานตะวัน และรถก็จะพาเราไปยัง 

 

จุดท่องเที่ยวที่ 2 ลานฟักทองยักษ์และทุ่งดอกไม้หลากสี 

จุดท่องเที่ยวลานฟักทองยักษ์และทุ่งดอกไม้หลากสี จะเป็นบริเวณเดียวกันสามารถเดินถ่ายรูปได้ มีหลายมุม เช่น เขาวงกตผ้าขาวม้า กังหันผ้าขาวม้าและทุ่งตารางดอกไม้ เรือนนางสาหร่าย ลานฟักทอง ลองดูได้ตามรูปครับ

 

ลานฟักทอง

 

กังหันผ้าขาวม้าและทุ่งตารางดอกไม้

ทุ่งดอกไม้

เรือนนางสาหร่าย (เห็นนักท่องเที่ยวคุยกันว่าบ้านของคำแก้วเรื่องนาคี แต่ผมไม่ทราบว่าจริงหรือไม่เพราะไม่ได้ติดตามละคร แต่สวยดีครับ ได้กลิ่นอายของวิถีชีวิตบ้านไม้ เย็นสบายมาก และสวยงามมากเช่นกัน

ภายในบริเวณบนบ้านเปิดให้สำหรับถ่ายรูปกัน คนเยอะมากครับ

ส่วนด้านล่างก็มีกิจกรรมระบายสีเครื่องปั้นดินเผาสำหรับเด็กด้วยครับ (ราคาไม่แพง)

 

ระหว่างทางมีการแสดงของชาวอีสาน ร้องรำทำเพลง ได้บรรยากาศมากเลยครับ (อยากอยู่ที่นี่เลย)

 

จุดท่องเที่ยวที่ 3 หมู่บ้านอีสาน

แล้วเราก็เดินมาเรื่อยๆ จะเป็นการจำลองบ้านไม้ แบบมีใต้ถุนบ้าน กังหันพัดน้ำจากภูมิปัญญาชาวบ้าน และการจำลองปลูดข้าวให้เราดู (วันที่ไปต้นข้าวกำลังเขียวเชียวครับ) ลองดูตามรูปด้านล่างครับ

เมื่อเราเดิน้ข่ามาถึงย่านชุมชน (ผมเรียกตามที่ผมเข้าใจส่วนตัวนะครับ) เพราะเป็นแหล่งที่รวมอารยะธรรมของภาคอีสานให้เราได้เรียนรู้ และได้ลองปฏิบัติ มีการแสดง ลองตามไปดุครับ

ขอขั้นรายการนิดหน่อยครับ เดินเล่นมาสักพักแล้ว เผื่อใครหมดแรง หรือต้องการจะเข้าห้องน้ำลองศึกษาไว้ได้ครับ

น้ำ/ขนม/อาหาร  หากจะซื้อจะต้องทำการแลกบัตรสไลด์การ์ด โดยจะมีจุดแลกภายในไร่ มีไว้บริการหลายจุดอยู่ครับ การใช้ก็คล้ายๆกับที่เราแลกใช้ซื้ออาหารตามห้างสรรพสินค้าครับ

บัตรไสลด์การ์ด

ห้องน้ำ ห้องท่า ได้อารมณ์ถึงความ Classic มากครับ แต่จะบอกว่าสวยไปอีกแบบนะ และที่นี่ห้องน้ำสะอาดครับ ส้วมเหมาะแก่ผู้สูงอายุใช้ได้สบายเลยทีเดียว มีเจลล้างมือและทิชชู่ให้ใช้ สบายเลยครับ 

 

เอาล่ะครับพักผ่อนกันมาสักพัก เดินเที่ยวกันต่อแบบสบายๆ เพราะวันที่ผมไปแดดนี่ไม่มีเลยครับ แถมยังมีลมหนาวอ่อนๆ โชยมา นี่ถ้าไม่ใกล้เวลาปิด ผมก็ยังไม่รีบกลับแน่นอน และที่ประทับใจผมที่สุดคือการขี่ควายครั้งแรก (เจ้าบุญหลาย) ต้องขอบคุณลุงที่ดูแลด้วยครับที่สอนผมขี่ควาย จะบอกว่าเจ้าบุญหลายนี่สะอาดมาก ไม่มีกลิ่นด้วย ประทับใจอย่างแรง

และมีกิจกรรมขี่รถไม้ด้วยครับ พี่ชายผมบอกว่าอันนี้คือท่าเด็กแว๊นซ์ของจริง 555+

 

หลังจากนั้นก็รอขึ้นรถตรง ณ จุดที่เราขี่เจ้าบุยหลายเสร็จไปยังจุดต่อไป

 

จุดท่องเที่ยวที่ 4 หมู่บ้านจิม  จะมีอุโมงผ้าขาวม้า และหมู่บ้านจิม แต่ด้วยเวลาใกล้ปิดแล้วทางรถบริการจึงไม่ได้จอดให้เที่ยวชม จึงต้องไปสถาต่อไป (ไว้มีโอกาสหรือใครไปมาแวะบอกด้วยนะครับ) 

 

จุดท่องเที่ยวที่ 5 ตลาดจิม จะเป็นแหล่งขายของฝากสำหรับซื้อของผลิตภัณฑ์จากไร่จิม มีหลายโซนให้เดินเลือกซื้อ

หลังจากนั้นเราก็เดินเที่ยวถ่ายรูปบริเวณ จุดท่องเที่ยวที่ 1 ทุ่งคอสมอสและแปลงผักปลอดสารพิษ 

โซนนี้ต้องเดินถ่ายรูปหามุมครับ แต่ ณ เวลานั้นไร่จะผิดแล้วผมเลยได้รูปมาแค่นี้ และเตรียมตัวนั่งรถกลับบริการกลับไปยังทางออก 

หมดวันพอดีครับ สำหรับการเที่ยวในครั้งนี้ ผมออกจากบ้าน (สระบุรี) ประมาณ 11.00 น.  เปิด GPS หลงบ้าง/แวะพักบ้าง ถึงไร่จิมประมาณ 14.00 น. ซึ่งมีเวลาเดินเล่นประมาณ 3-4 ชั่วโมงในนั้น แต่ผมบอกเลยว่าที่จริงไม่พอนะ คือมีหลายมุม หลายจุดที่ผมไม่ได้เข้าไป ซึ่งยังเสียดายอยู่เลย 

 

ข้อแนะนำ 

1. ควรทานอาหารไปให้เรียบร้อยหรือพกขนมนิดหน่อยแค่พอกินนะครับ เพราะแบกเยอะจะเป็นภาระเรา เพราะไปในนั้นมีแต่วิวสวยๆ เราก็อยากจะถ่ายรูป และข้างในของกินราคาใช้ได้เลยครับ

2. ถ้าใครกลัวร้อนอย่าลืมพกร่ม หมวก ไปด้วยครับ

3. ที่นี่สามารถพาเด็กหรือผู้สูงอายุไปได้สบาย จุดขายอาหาร น้ำ ห้องสุขา ผมว่าเพียงพออยู่ครับ

4. ไปถึงให้ไวจะได้มีเวลาถ่ายรูป ท่องเที่ยวได้นานๆ และเข้าชมได้ทุกตรอก ซอกซอย

 

สุดท้ายขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ...บ๊ายบาย