สืบเนื่องมากจากคุณพี่ที่น่ารักผู้สนใจเรื่องดวงดาวบอกเราว่า

คุณพี่: ถ้ามีเวลาว่างไปไหว้พระนอนที่วัดโพธิ์นะ

เรา: พระนอนที่วัดอื่นได้ไหมพี่

คุณพี่: บอกว่าวัดโพธิ์ก็วัดโพธิ์สิ ทำไมต้องสงสัย

เรา: ค่ะ ค่ะ ได้ค่ะพี่

ไหนๆ มาเมืองกรุงทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม จากศรีราชามุ่งหน้าเข้าเมืองกรุง นัดทำสปาร้านคุณเพื่อนวันเสาร์ กินเที่ยวแถวราชประสงค์ นอนค้างกรุงเทพฯ 1 คืน ที่  วันอาทิตย์ 10 โมงเช้า นัดเพื่อนประถม เพื่อนมัธยม เพื่อนร่วมงาน รวม 3 เพื่อน บวกเราเป็น 4 เจอกันที่จุดศูนย์กลางกรุงเทพฯ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  

พวกเราทั้ง 4 รวมเงินกองกลางคนละ 300 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในวันนี้ เริ่มทริป กันเลย เนื่องจากมากันเยอะ การนั่งแท็กซี่ดูท่าจะคุ้มกว่า ไปที่จุดมุ่งหมายแรกเลย ทำภารกิจให้สำเร็จก่อน ไหว้พระนอนที่วัดโพธิ์ หรือชื่อเต็ม “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี ปกติเรามาวัดโพธิ์ ไหว้พระนอนเสร็จ เราก็ออกแล้ว แต่คราวนี้ เพื่อนเมืองกรุง พาเดินไหว้พระ ชมพระมหาเจดีย์ในวัดโพธิ์อยู่หลายจุด

จุดแรก พระพุทธไสยาส หรือที่เรียกกันว่า พระนอนวัดโพธิ์ เราไหว้โดยใช้ดอกไม้ธูปเทียนที่ทางวัดจัดให้ นั่งสวดมนต์อธิษฐานด้านนอกพระวิหาร ก่อนเข้าไปกราบสักการะด้านใน นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด ทั้งฝรั่งทั้งเอเซียเยอะมาก

พระพุทธไสยาส

พระพุทธไสยาส

พระพุทธไสยาส

ด้านหลังพระพุทธไสยาส

จุดที่สอง พระพุทธชินศรี หรือ พระนาคปรก พระประธานพระวิหารทิศตะวันตก ด้านหลังที่ประดิษฐานพระนาคปก มีส่วนจัดแสดงของที่พบในเจดีย์ เช่น เครื่องทอง พระพุทธรูป เป็นต้น ในส่วนนี้ห้ามถ่ายรูปค่ะ

พระพุทธชินศรี 

จุดที่สาม พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระประธานในพระอุโบสถ

 พระคุณเจ้า ที่วัดโพธิ์

พระพุทธเทวปฏิมากร 

พระพุทธเทวปฏิมากร 

อากาศวันนี้ร้อนถึงร้อนมาก แต่พอเข้าในระวิหาร หรือพระอุโบสถ ก็จะเย็นขึ้น สงบขึ้น แม้ข้างในวัดจะคนเยอะ แต่ว่าไม่มีใครส่งเสียงดัง   

ประตูสีแดง สีสันสดใส สถาปัตยกรรมของจีนผสมอย่างลงตัวภายในวัด

พระมหาเจดีย์ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี 

พระมหาเจดีย์ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี

พระมหาเจดีย์ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี

เราไหว้พระ ชมพระมหาเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี ภายในวัดพอสมควรได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เราหิวมาก เมื่อเช้ากินคุกกี้มาชิ้นเดียว  เราและเพื่อนๆ เดินไปท่าเตียน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ วัดโพธิ์ ไปหาข้าวกลางวันกิน ราคาอาหารตามสั่งหน้าร้าน จานละ 70-90 บาท พวกเราเลยบ่ายหน้ามากินก๋วยเตี๋ยวแทน คุณเพื่อนอีกคนเห็นฝรั่งจับกลุ่มกินของทอด เลยอยากกินมั่ง คุณเพื่อนพกเงินไป 50 บาท ซึ่งดูจากราคาที่ติด คงได้สักสองสามไม้ แต่แม่ค้าบอกว่า ราคาคนไทยอีกแบบ เพื่อนเราก็งง คุณพี่แม่ค้าบอกว่า ฝรั่งชอบต่อราคา เลยตั้งเกินไว้ 50 บาท ของทอดมาเต็มจานโฟม คุณเพื่อนบอกว่าถ้าฝรั่งซื้อ คงร้อยหนึงได้ นอกจากฝรั่งก็มีคนจีนเยอะ ด้วยอากาศร้อน เลยเห็นคนจีนยืนกินไอศกรีมกะทิกันอย่างเอร็ดอร่อย เราเดินผ่านนักท่องเที่ยวผู้ชายชาวจีน เห็นไอศครีมเลอะกระเด็นตามปากไปหมด สบตากันแว๊บหนึง เราเลยทำท่าว่าไอศกรีมเลอะนะ นางยิ้มเขิน เช็ดปากแทบไม่ทัน ตอนเดินผ่านบริเวณท่าเตียนนี่ เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวออกจากท่าเรือมาวัดโพธิ์ แล้วก็ยืนกินโน่นกินนี่บริเวณนั้น หน้าตาทุกคนที่กินดูอร่อยไปทุกอย่างเลย 

ตึกแถวสวยๆ บริเวณท่าเตียน

นักท่องเที่ยวกิน Street Food อร่อยกันมาก

ขายดี

คุณเพื่อที่ทำงาน แลคุณเพื่อนประถม จับมาร่วมทริปกัน ได้เพื่อนใหม่เพิ่มกันไป

ด้านหลังตึกแถวสวยๆ คือวิถีชีวิตดั้งเดิม

อิ่มท้องแล้วก็ไปต่อ จุดมุ่งหมายต่อไปมิวเซียมสยาม ที่ไปที่นี่เพราะอยู่ใกล้วัดโพธิ์ เนื่องจากอากาศร้อนมาก ตอนแรกกะกันไว้ว่าจะไปรถแท็กซี่ เราเลยใช้ Google Map ลอง Search บอกระยะทาง 7-8 ร้อยเมตร เดินลัดเลาะไปทางด้านหลังวัด เราเลยบอกเพื่อน เดินไปเหอะ แป๊บเดียวเอง ทางเดินก็สวยดี เดินไปเรื่อง เจอไอศกรีมก็ต้องแวะทักทายกันก่อนคนละถ้วย แก้ร้อน

ผ่านตึกแถวสวยๆ ด้านข้างวัดโพธิ์

ผ่านด่านแรก ไอศครีมคุณลุง อร่อยเข้มข้น

ด้านหลังวัดโพธิ์

ทางเดินไปมิวเซียมสยามช่วงนี้จำลำบากเล็กน้อย เพราะมีการก่อสร้างรถไฟใต้ดิน ไปถึงก็เสียค่าเข้าคนละ 100 บาท ได้สายรัดข้อมือมาคนละเส้น ทางเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์แจ้งว่าถ้ามา 5 คน ได้ลดครึ่งราคา แต่เรามา 4 คน ไม่ถึง เลยเสียคนละ 100 บาท 

ทางเดินไปมิวเซียมสยาม กำลังก่อสร้างรถไฟใต้ดิน

ทางเข้ามิวเซียมสยาม

สายรัดข้อมือ แสดงว่าซื้อตั๋วแล้ว

ข้างในพิพิธภัณฑ์ อากาศเย็นเนื่องจากติดแอร์ เรื่องราวในพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวผ่านยุคสมัยต่างๆ ความเชื่อ วัฒนธรรม เหตุการณ์สำคัญของชาติ ที่มีการจัดแสดงให้เราเข้าถึงเข้าใจได้ไม่ยาก การจัดแสดงในห้องต่างๆ น่าตื่นตาตื่นใจ สามารถถ่ายรูปได้ และที่สำคัญผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์สามารถมีส่วนร่วมตามที่ได้จัดแสดงไว้ให้ เป็นกิจกรรมที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเราชอบมาก ทำให้การชมพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ (ดูรูปประกอบได้เลยค่ะ) 

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์

สัญลักษณ์คนกบแดง

รูปคนทำท่าเป็นกบเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เพราะกบถือเป็น สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่เคารพบูชาทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เห็นได้จากลวดลาย บนกลองมโหระทึกที่เป็นเครื่องมือใช้ประโคมตีในพิธีกรรมขอฝน

ห้องสุวรรณภูมิ

ห้องพุทธิปัญญา

ห้องพุทธิปัญญา

ห้องสยามประเทศ

ห้องสยามประเทศ

ห้องสยามยุทธ์

ห้องสยามยุทธ์

ห้องสยามยุทธ์

ห้องสยามยุทธ์ มีให้ลองยิงปืนใหญ่ เป็นเกมส์สนุกๆ ด้วย

ทางเดินด้านนอก ออกมาเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำสะอาดมากๆ

ห้องแผนที่ความยอกย้อนบนแผ่นกระดาษ

ห้องกรุงเทพฯภายใต้ฉากอยุธยา

ห้องกรุงเทพฯภายใต้ฉากอยุธยา

ห้องกรุงเทพฯภายใต้ฉากอยุธยา

ห้องกำเนิดประเทศไทย

ห้องกำเนิดประเทศไทย

ห้องสีสันตะวันตก

ห้องสีสันตะวันตก

ห้องสีสันตะวันตก

ห้องเมืองไทยวันนี้

ที่จริงยังมีอีกหลายห้อง น่าสนใจทุกท้อง อยากให้ไปชมกันค่ะ รับรองเลยว่าค่าเข้าชม 100 บาท ไม่แพงเลยจริงๆ 

เราอยู่ในมิวเซียมสยามประมาณ 2 ชั่วโมงได้ ก็ออกมาหาแวะร้านอาหารในพิพิธภัณฑ์ ราคาสูงสักหน่อย แต่ก็เหมาะสมกับคุณภาพอาหารและการตกแต่งสถานที่ค่ะ เรากับเพื่อนกินไปพูดคุยกันไปด้วยความสนุกสนาน ได้เวลาจากลา คนศรีราชา 2 คน ต้องกลับบ้านแล้ว แล้วค่อยมาพบคนกรุงเทพฯ ใหม่ในทริปหน้าค่ะ

ร้านอาหารในมิวเซียม

ปล. เราชอบเที่ยวกรุงเทพฯ เพราะเราเป็นคนไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ที่กรุงเทพฯ เราอยากไปไหนก็ไปได้สบาย ที่กินที่นอนมีกระจายอยู่ทุกที่ แต่ถ้าให้อยู่คงต้องขอคิดอีกที เพราะย่างเท้าออกจากบ้านเมื่อไหร่ เสียทรัพย์เมื่อนั้น เรื่องรถติดนี่อึดอัดเกินจะทน ขอมาเที่ยวแบบกระปริบกระปรอยก็พอค่ะ